



รีวิวที่เกี่ยวข้อง :
- จัดไปแบบจุกๆ 40 พิกัดเที่ยวคิวชูเหนือ!! (Japan Travel Guide, North Kyushu) (อัพเดต 2022)
- พาเที่ยวยูฟุอิน (Yufuin) เมืองสุดคิ้วท์แห่งเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น (อัพเดท 2022)
รู้จักเมือง Kumamoto (คุมะโมะโตะ)
คุมะโมะโตะ (Kumamoto) เป็นเมืองใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางของภูมิภาคคิวชูในประเทศญี่ปุ่น ทิศเหนือติดกับเมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) ห่างประมาณ 100 กิโลเมตร เหมาะมากที่จะจัดทริปเที่ยวแบบ One Day Trip จากฟุกุโอกะ (Fukuoka) การเดินทางก็สะดวกมากนั่งรถไฟชินคันเซ็นจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที หรือถ้าขับรถยนต์ หรือนั่งรถบัสจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง ส่วนทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดกับจังหวัดโออิตะ (Oita) ที่ขึ้นชื่อเมืองออนเซ็นทั้งยูฟุอิน (Yufuin) และเบปปุ (Beppu) หรือสำหรับคนชอบชิลล์ๆ แนะนำให้มานอนค้างคืนที่คุมะโมะโตะ (Kumamoto) มองวิวภูเขา วิวธรรมชาติก็ดีงามค่ะ

เมืองคุมะโมะโตะ (Kumamoto) เป็นเมืองใหญ่ของเกาะคิวชูทีพวกเราตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นจริงๆ วิวภูเขาอะโซะ (Aso) คือที่สุดของความว๊าววว!! เป็นภูมิประเทศที่แวดล้อมไปด้วยขุนเขาและธรรมชาติอันงดงาม วิวสวยปังอลังการกว่าที่คิดมากๆ สวยกว่าในรูปทุกใบที่เคยเห็นเลยค่ะ!! นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวสวยๆ ให้ลงไปแวะไปถ่ายรูปท่ามกลางธรรมชาติเยอะ เช่น อุทยานแห่งชาติอะโสะ – คุจุ (Aso-Kuju National park), สะเซ็นริกะฮามะ (Kusasenri Ga Hama), ถนน Milk Road เป็นอีกเส้นทางขับรถชมวิวที่ถูกยกย่องว่าเป็นถนนเส้นที่สวยที่สุดของเมืองจนได้กลายมาเป็นหนึ่งในฉากของหนังเรื่องดังอย่าง Castle in the sky ค่ะ
พอขับรถไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นว่าเมืองคุมะโมะโตะ (Kumamoto) ก็เป็นสกีรีสอร์ทในฤดูหนาวด้วย, สำหรับคนชอบความ adventure ก็มาเดินเทรลปากปล่องภูเขาไฟ และเขตรอบพื้นที่อะโซะ (Aso) บริเวณรอบๆ ภูเขาไฟอะโซะจะเห็นวิวเมืองชนบท บ้านเรือนชาวบ้าน นาข้าว วิวสวยจริงไม่จกตา งามมากๆ ค่ะ

ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle) นับว่าเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองคุมาโมโตะ (Kumamoto) เลยค่ะ ปราสาทที่สร้างด้วยเทคนิคทางสถาปัตยกรรมอันล้ำเลิศมีความใหญ่เป็นอันดับ 3 และยังเป็นปราสาทที่สวยขึ้นชื่อติดอันดับ 1 ใน 3ของปราสาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่นด้วย ปูเป้ไปช่วงพฤศจิกายน 2022 ปราสาทคุมาโมโตะบูรณะเสร็จแล้ว สามารถเดินชมความงามภายใน และขึ้นไปจุดชมวิวเมืองชั้น 6 บนปราสาทได้เลยค่ะ



คุมะโมะโตะ (Kumamoto) เมืองน้องหมีดำคุมะมงแก้มแดง (Kumamon) ความน่ารักของเจ้าหมีมาสคอตโด่งดังไปทั่วโลกที่เราคนไทยรู้จักกันดี เราจะเห็นน้องหมีตัวนี้แฝงตัวตามจุดต่างๆ ของเมือง Kumamoto (คุมะโมะโตะ)




คุมะโมะโตะ (Kumamoto) ยังเป็นเมืองเกษตรกรรมได้รับการยกย่องว่า “อาณาจักรแห่งผลไม้ของภูมิภาคคิวชู” เนื่องจากดินดีผลผลิตทางการเกษตร มีผลไม้อร่อยเด็ดในแต่ละฤดูกาล ช่วงที่ปูเป้ และพี่ต้นไปปลายเดือนพฤศจิกายน 2022 ไปแวะคาเฟ่ผลไม้ที่เก็บสดๆ จากในสวนผลไม้ที่ปลูกแบบปลอดสารพิษมาเสิร์ฟพร้อมไอศกรีม อร่อยถูกใจมากค่ะ และยังมี
- ส้มไร้เมล็ดรสหวานฉ่ำเฉพาะตัว แม้เปลือกจะหนาหน่อย แต่รสชาติอร่อยประทับใจแบบไม่เคยทานรสนี้ที่ไหนเลย
- ลูกพลับหวาน กรอบ หอม อร่อย กัดลงไปทุกคำ และแอปเปิ้ลหวานอร่อย
- สตรอว์เบอร์รีแม้จะยังไม่ตรงฤดูกาล ลูกอาจจะยังไม่ค่อยโตแต่รสหวานฉ่ำ ชอบที่หยิบออกจากแพ็คแล้วทานได้เลย เพราะชาวสวนของที่นี่ปลูกแบบปลอดสารพิษ และยาฆ่าแมลง
แถมมีอาหารท้องถิ่นสุดอร่อย และหน้าตาแปลกๆ เยอะ เช่น ซูชิเนื้อม้า, ซาชิมิเนื้อม้า, ชิคูวะ, Croquettes, รากบัววาซาบิ และราเมนสไตล์ของเมืองคุมะโมะโตะ (Kumamoto)








เดินทางเที่ยวคิวชูด้วยรถไฟ JR
กรณีบางคนอาจไม่สะดวกในการเช่ารถขับเที่ยวในแถบคิวชู (Kyushu) เราก็สามารถเดินทางด้วยรถไฟ JR ได้ ซึ่งถือว่าเป็นการเดินทางอีกวิธีที่สะดวกมากๆ เพราะรถไฟญี่ปุ่นมีตารางเวลาที่หนาแน่นและตรงเวลา รู้เวลาถึงจุดหมายได้ดี นั่งสบาย และยังสะอาดด้วย หลังจากซื้อ JR Pass จาก Klook แล้วเราจะได้ Exchange Order ให้นำไปแลกรับบัตร JR Pass ฉบับจริงที่สถานีรถไฟที่ญี่ปุ่นได้เลยค่ะ!!
1. กรณีเที่ยวเฉพาะในภูมิภาคคิวชู
แนะนำ JR Kyushu Rail Pass ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งเหนือ/ฝั่งใต้/ทั้งหมดในคิวชู มีแบบ 3, 5 หรือ 7 วันใช้ได้ไม่จำกัดครั้ง เป็นตั๋วใช้สำหรับโดยสารรถไฟแบบไม่จำกัดเที่ยวในภูมิภาคคิวชู จะขึ้นรถไฟท้องถิ่น รถไฟด่วนพิเศษ หรือรถไฟชินคันเซ็น ขึ้นเหนือ ล่องใต้หรือทั่วทั้งภูมิภาคคิวชู สะดวกสบายมากๆค่ะ โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ North Kyushu Pass (คิวชูเหนือ), Kyushu Southern Pass (คิวชูใต้) และ All Kyushu Pass (คิวชูทั้งหมด)



สนใจซื้อ บัตร JR Kyushu Rail Pass ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งเหนือ/ฝั่งใต้/ทั้งหมดในคิวชู ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
1.1 กรณีอยากนั่งรถไฟแบบตื่นตาตื่นใจมีความหรูหราไฮโซพร้อมเชฟเสริ์ฟอาหารสุดอร่อยของภูมิภาคคิวชู
ขอแนะนำ บัตรโดยสารรถไฟ ARU RESSHA โดย JR Kyushu (รถไฟรับประทานอาหารสุดหรู) รถไฟขบวนนี้จะมีความลักชูหรูหรา ระหว่างการเดินทางจาก Hakata ไป Yufuin หรือ Yufuin ไป Hakata จะมีเชฟ Narisawa ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เสิร์ฟอาหารสไตล์ Fine Dining แต่ละจานตกแต่งได้สวยเว่อร์วัง ยิ่งวัตถุดิบนั้นก็ได้คัดสรรมาตามฤดูกาลอย่างพิถีพิถันจากภูมิภาคคิวชูเพื่อนำมาเสิร์ฟเป็นอาหารจานเด็ด สำหรับคนที่งบถึงการนั่งรถไฟหรูพร้อมทานอาหารดีๆ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น และน่าลองสักครั้งในการเดินทางมากๆ ค่ะ




สนใจซื้อ บัตรโดยสารรถไฟ ARU RESSHA โดย JR Kyushu (รถไฟรับประทานอาหารสุดหรู) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
2. กรณีเที่ยวแถบคิวชูเหนือ และภูมิภาคอื่นๆ ด้วย
แนะนำ JR Sanyo-San‘in Northern Kyushu Pass : พาส JR สำหรับซันโย, ซันอิน และคิวชูตอนเหนือ (7 วัน) จะขึ้นรถไฟ JR ได้ไม่จำกัดเดินทางได้จากชินโอซาก้า (Shin Osaka), ทตโตริ (Tottori), ฮิโรชิม่า (Hiroshima), ยาวถึงภูมิภาคคิวชูตอนเหนือ เช่น นั่งรถไฟ Yufuin No Mori ไปเที่ยวยูฟุอิน (Yufuin), เบบปุ (Beppu), โออิตะ (Oita), คุมาโมโต้ (Kumamoto), นางาซากิ (Nagasaki), ซากะ (Saga), Mojiko (โมจิโกะ) และที่อื่นๆ


สนใจซื้อ บัตร JR Sanyo-San‘in Northern Kyushu Pass : พาส JR สำหรับซันโย, ซันอิน และคิวชูตอนเหนือ (7 วัน) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
3. กรณีบินลงที่เมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) แต่ไม่เน้นเที่ยวในคิวชู อยากไปเที่ยวภูมิภาคใกล้ๆ แทน
ด้วยเส้นทางบินลงฟุกุโอกะ (Fukuoka) กำลังฮิตมากกกก เพราะราคาตั๋วเครื่องบินถูกกว่าภูมิภาคอื่นๆ!! จากฟุกุโอกะ (Fukuoka) เราอยากไปเที่ยว สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studios Japan) หรือไปเดินเล่นเมืองเก่าที่เกียวโต (Kyoto) ก็ทำได้ง่ายมากค่ะ
แนะนำ บัตร JR Pass Sanyo-San’in Area Pass สำหรับซันโย และซันอิน (7 วัน) พาสนี้จะสามารถนั่งรถไฟ JR และชินคังเซ็นได้ 7 วัน จากฟุกุโอกะ (Fukuoka) ขึ้นรถไฟที่สถานีฮากาตะ Hakata) เดินทางไปเมืองดังนี้ ฮิโรชิม่า (Hiroshima), โอกายามะ (Okayama), โกเบ (Kobe), โอซาก้า (Osaka), เกียวโต (Kyoto), นารา (Nara), วากายามะ (Wakayama), ทตโตริ (Tottori), มัตสึเอะ (Matsue) และอื่นๆ (พาสนี้จะไม่สามารถใช้กับรถไฟ JR ในคิวชูตอนเหนือได้)

สนใจซื้อ บัตร JR Pass Sanyo-San’in Area Pass สำหรับซันโยและซันอิน (7 วัน) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
เตรียมความพร้อมก่อนไปสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ญี่ปุ่น (Universal Studios Japan)
Universal Studios Japan คือสถานที่เที่ยวสุดฮิตของโอซาก้า (Osaka) แม้เที่ยววันธรรมดาคนก็แน่นมากกกกกก!! ถ้าได้วันที่เดินทางไปแล้ว แนะนำให้ซื้อ บัตรเข้าสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ญี่ปุ่น (Universal Studios Japan) เตรียมไว้ล่วงหน้าก่อนจะยิ่งทำให้การสะดวก รวดเร็ว มีเวลาเที่ยวมากขึ้น ไม่เสียเวลาต่อคิว หรือต่อแถวซื้อบัตรด้านหน้าทางเข้า
- สนใจซื้อ บัตรเข้าสวนสนุกแบบสตูดิโอพาส ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
- สนใจซื้อ บัตรเอ็กซ์เพรสพาส 7 (Express Pass 7) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
- สนใจซื้อ บัตรเอ็กซ์เพรสพาส 4 (Express Pass 4) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
4. กรณีเที่ยวแบบครอบคลุมทุกภูมิภาคของญี่ปุ่น
กรณีอยากเที่ยวเมืองต่างๆ ที่ตั้งอยู่คนละภูมิภาคกันเลย เช่น จากฮอกไกโด (Hokkaido) อยากไปเที่ยวแถบคันโต (Kanto), คันไซ (Kansai) หรือคิวชู (Kyushu) ขอแนะนำ JR Pass สำหรับทุกภูมิภาคในญี่ปุ่น (7, 14 หรือ 21 วัน) : JR All Area Pass พาสนี้คุ้มมากๆ จ่ายครั้งเดียวสามารถเดินทางเที่ยวได้ทั่วประเทศญี่ปุ่น เที่ยวได้ครอบคลุมทุกภูมิภาคของญี่ปุ่นสำหรับ 7, 14 หรือ 21 วัน ใช้รถไฟสาย JR แบบไม่อั้นรวมทั้งรถบัส, เรือเฟอร์รี่มิยาจิม่า, รถไฟชินคันเซ็นทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับเมืองใหญ่ทั้งสาย Tokaido Shinkansen, สาย Akita Shinkansen, สาย Kyushu Shinkansen, สาย Hokkaido Shinkansen, สาย Joetsu Shinkansen, สาย Yamagata Shinkansen และ Hokuriku Shinkansen เป็นต้น (พาสนี้ไม่ครอบคลุมการเดินทางโดยขบวนรถไฟโนโซมิและมิซูโฮะ)
ซื้อ JR Pass สำหรับทุกภูมิภาคในญี่ปุ่น (7, 14 หรือ 21 วัน) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
One Day Trip จากฟุกุโอกะ (Fukuoka) ไปเที่ยวคุมาโมโตะ (Kumamoto) แบบไปเช้า-เย็นกลับ
กรณีเที่ยวในฟุกุโอกะ (Fukuoka) จนเต็มอิ่มแล้ว อยากไปเที่ยวหลายๆ ที่ในคุมาโมโตะ (Kumamoto) แบบไปเช้าและกลับเย็น แต่ไม่อยากเช่ารถ หรือไม่อยากนั่งรถไฟหลายต่อก็สามารถทำได้ค่ะ ปูเป้ขอแนะนำ ทัวร์ปราสาทคุมาโมโตะ, ภูเขาไฟอะโสะซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังปะทุอยู่ใจกลางเกาะคิวชู และคุโรคาวะออนเซ็น ออกเดินทางจากฟุกุโอกะ : ทัวร์แบบ 1 วัน (One Day Trip) เที่ยวหลายสถานที่ในคุมาโมโตะ (Kumamoto) ทั้งพาชมปราสาทประวัติศาสตร์ทั้งสามแห่งของคุมาโมโตะที่ตั้งอยู่บนยอดเขา, แช่น้ำพุร้อนที่ผ่อนคลายของคุโรคาวะออนเซ็น (Kurokawa Onsen) และเยี่ยมชมภูเขาไฟอะโสะที่ยังปะทุอยู่ใจกลางเกาะคิวชู




ซื้อ ทัวร์ปราสาทคุมาโมโตะ, ภูเขาไฟอะโสะซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังปะทุอยู่ใจกลางเกาะคิวชู และคุโรคาวะออนเซ็น ออกเดินทางจากฟุกุโอกะ ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
11 พิกัดเที่ยว Kumamoto (คุมะโมะโตะ) : เมืองแห่งภูเขาไฟ วิวสวยปังอลังการแห่งเกาะคิวชู
1. Daikanbo (จุดชมวิวไดคันโบะ)
จุดชมวิวบนยอดเขาไดคันโบะเป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงของภูเขาไฟอะโซะ (Aso) จากมุมของจุดชมวิว เราจะสามารถมองเห็นเบื้องล่างที่เป็นทิวทัศน์ของเมือง Aso ที่รายล้อมไปด้วยดอกหญ้าสีฟาง และมีพื้นหลังเป็นภูเขาไฟอะโซะ (Aso) ที่ตั้งตระหง่านอยู่ จากจุดนี้จะสามารถชมวิวได้ทุกทิศทางจนหนำใจเลยค่ะ






ที่นี่ก็มีร้านค้า ร้านอาหารคอยอำนวยความสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยวด้วย พวกเราก็ได้ทดลองชิมของขึ้นชื่ออย่าง “ลูกชิ้นปลาชิกูวะ” และ “รากบัววาซาบิ” ที่แปลว่ารากบัววาซาบิของจริงไม่มีหยอก ทุกช่องของรากบัวอัดแน่นไปด้วยวาซาบิเน้นๆ ขอบอกเลยว่า อื้อหื้ออออออ!!! ลองซื้อมาลองกัดสักหนึ่งคำแล้วคุณจะพบกับคำว่า อื้อหื้ออออออออ!!! กัดคำเดียว หายง่วงเลยค่าา 555




ข้อมูลเพิ่มเติม
ค่าเข้า : ฟรี
พิกัด : https://goo.gl/maps/tJas7AnfS5z97qNK7
2. คุสะเซ็นริกะฮามะ (Kusasenri Ga Hama)
คุสะเซ็นริกะฮามะ (Kusasenri Ga Hama) เป็นที่ราบทุ่งหญ้ากว้างงงงงงงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมืองอาโสะ (Aso) ตั้งอยู่สูงจากระดับทะเลถึง 1,140 เมตร เป็นอีกหนึ่งจุดชมทัศนียภาพของภูเขาและทุ่งหญ้าที่สวยงามจับใจมากค่ะ ภาพของผืนฟ้าใสสะอาดตัดกับภูเขาใหญ่สีน้ำตาลตามด้วยทุ่งหญ้ากว้างที่เบื้องล่างให้ความรู้สึกเหมือนกำลังมองภาพวาดจากจิตรกรมือเอก การได้ออกไปเดินชมวิวพร้อมกับสูดอากาศและกลิ่นอายของธรรมชาติที่นี่ช่วยให้หัวใจรู้สึกอิ่มเอมสุด ๆ เลยค่ะ



ข้อมูลเพิ่มเติม
ค่าเข้า : ฟรี
พิกัด : https://goo.gl/maps/moYvYeXMe8r5jwzs9
3. Kumamoto castle (ปราสาทคุมาโมโตะ)
Kumamoto castle (ปราสาทคุมาโมโตะ) นับว่าเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองคุมาโมโตะเลยค่ะ เป็นปราสาทที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 3 ของปราสาทในญี่ปุ่นที่ต้องมาชมให้ได้สักครั้งในชีวิตรองลงมาจากฮิเมจิ (Himeji Castle) และปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle) ปราสาทคุมาโมโตะสร้างขึ้นตั้งแต่ในปีค.ศ. 1607 มีการบูรณะซ่อมแซมเรื่อยมาจนเกิดความเสียหายครั้งใหญ่เมื่อปี ค.ศ. 2016 จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรง แต่ปัจจุบันได้ทำการซ่อมแซมฟื้นฟูจนสวยงามและยิ่งใหญ่เหมือนเคยจนสามารถกลับมาเปิดให้เยี่ยมชมได้อีกครั้ง






Kumamoto castle (ปราสาทคุมาโมโตะ) นับเป็นสถาปัตยกรรมที่สมบูรณ์แบบ เรียบง่ายแต่ยิ่งใหญ่ เต็มไปด้วยเรื่องราวของประวัติศาสตร์ของเมืองที่แน่นตลอดตัวปราสาททั้ง 6 ชั้น มีการแบ่งสัดส่วนการเล่าเรื่องราวเป็นอย่างดี







อีกหนึ่งไฮไลต์ของ Kumamoto castle (ปราสาทคุมาโมโตะ) คือ ที่ชั้น 6 จะมีความพิเศษตรงที่เราสามารถเห็นวิวเมืองรอบนอกตัวปราสาทได้รอบด้านเลยค่ะ

เนื่องจากตัวปราสาทเป็นแลนด์มาร์กยอดฮิต นักท่องเที่ยวหรือคนในท้องที่จะมาเที่ยวกันเยอะมากกก เราแนะนำให้ไปเดินชมปราสาทในช่วงเช้าค่ะ นอกจากคนน้อยแล้วอากาศยังดี เหมาะกับการเดินรับลมชมรอบตัวปราสาทสุด ๆ เลย




ข้อมูลเพิ่มเติม
พิกัด : https://goo.gl/maps/2AUoqjjsTVeYZbJc7
ซื้อ ทัวร์ปราสาทคุมาโมโตะ, ภูเขาไฟอาโสะ และคุมะมงสแควร์แบบส่วนตัว ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
One Day Trip จากฟุกุโอกะ (Fukuoka) ไป คุมาโมโตะ (Kumamoto) แบบไปเช้าเย็นกลับ
กรณีคนที่เที่ยวในฟุกุโอกะ (Fukuoka) เต็มอิ่มแล้ว อยากไปเที่ยวหลายๆ ที่ในคุมาโมโตะ (Kumamoto) แบบไปเช้าเย็นกลับ แต่ไม่อยากเช่ารถ หรือไม่อยากนั่งรถไฟหลายต่อก็สามารถทำได้ค่ะ มีทัวร์แบบ 1 วัน พร้อมไกด์และรถรับส่ง แนะนำ ทัวร์ปราสาทคุมาโมโตะ, ภูเขาไฟอะโสะ และคุโรคาวะออนเซ็น ออกเดินทางจากฟุกุโอกะ ในโปรแกรมจะพาไปชมปราสาทประวัติศาสตร์ทั้งสามแห่งของคุมาโมโตะ, เยี่ยมชมภูเขาไฟอะโสะซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังปะทุอยู่ใจกลางเกาะคิวชู และปิดท้ายวันผจญภัยด้วยการแช่น้ำพุร้อนที่ผ่อนคลายของคุโรคาวะออนเซ็น (Kurokawa Onsen)



สนใจซื้อ ทัวร์ปราสาทคุมาโมโตะ, ภูเขาไฟอะโสะ และคุโรคาวะออนเซ็น ออกเดินทางจากฟุกุโอกะ ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
4. ย่านตรอกโบราณ Sakurano baba josaien (ซะกุระโนะบะบะโจไซเอง)
ย่านตรอกโบราณ Sakurano Baba Josaien (ซะกุระโนะบะบะโจไซเอง) ตั้งอยู่บริเวณด้านล่างของปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto castle) เป็นย่านการค้าที่จำลองเมืองโบราณของเมืองคุมาโมโตะในอดีต ให้กลิ่นอายของวันวานและสร้างบรรยากาศให้กลมกลืนไปกับปราสาทคุมาโมโตะที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลัง มีพวกร้านของที่ระลึกให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน ร้านขนมญี่ปุ่นโบราณให้ลองชิมก็ดี หรือจะเป็นจุดพักฝากท้องสักมื้อก็ดีไม่หยอก

บริเวณด้านหน้าใกล้กับปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto castle) จะมีโชว์การแสดงศิลปะการต่อสู้โบราณของเหล่าบรรดาซามูไร ทั้งฟันดาบ และควงดาบ


ย่านตรอกโบราณ Sakurano baba josaien (ซะกุระโนะบะบะโจไซเอง) แห่งนี้เต็มไปด้วยร้านรวงที่ตกแต่งแบบย้อนยุคโบราณเหมาะแต่งชุดกิโมโนเดินสวยๆ ถ่ายรูปกับย่านนี้มากๆ ปูเป้ขอแนะนำอีกหนึ่งกิจกรรมที่ชอบมากคือ บริการเช่าชุดกิโมโนและยูกาตะที่ย่านการค้าโจไซเอนในคุมาโมโตะ ทางร้านจะมีชุดให้เลือกจากมากกว่า 150 แบบ ตั้งแต่ลายพิมพ์แบบญี่ปุ่นดั้งเดิมไปจนถึงแบบร่วมสมัย รวมถึงพร็อบต่างๆ เช่น รองเท้าแตะ ถุงเท้า และกระเป๋าให้เดินถือสวยๆ ค่ะ





ซื้อ บริการเช่าชุดกิโมโนและยูกาตะที่ย่านการค้าโจไซเอนในคุมาโมโตะ ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
อาหารท้องถิ่นที่พวกเราลองทานอยากให้ทุกคนได้ลิ้มรสกันที่นี่ก็ได้แก่ ลูกชิ้นปลาชิกูวะ อาหารคู่บ้านคู่เมืองคุมาโมโตะ, ครอแก็ตร้อนๆ (croquettes) ในวันที่อากาศเย็นๆ ทาโกะยากิไส้แน่นๆ, ไอศกรีมส้มเพิ่มความสดชื่นนน (บอกเลยว่าห้ามพลาดจริง ๆ ค่ะ เป็นไอศกรีมส้มที่สดชื๊นสดชื่น เปรี้ยวกำลังดี งับหนึ่งคำ พลังงานก็กลับมาเต็มหลอดทันที) และที่พลาดไม่ได้เลยคือ “ซูชิเนื้อม้า” นั่นเอง อย่า ๆ อย่าเพิ่งทำหน้าอี๋น้า ซูชิเนื้อม้าเนี่ยเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในอาหารจานเด็ด Signature ของที่นี่เลย เราลองครั้งแรกแล้วว้าวมาก เป็นรสชาติมัน ๆ ที่ละลายในปาก มีความเค็มติดปลายลิ้น ไร้ความคาว ทานคู่ข้าวปั้นซูชิแล้วอร่อยยกนิ้วเลย ห้ามพลาดเด็ดขาดด้วยประการทั้งปวงค่ะ !









ข้อมูลเพิ่มเติม
บริการ : เช่าชุดกิโมโนและยูกาตะที่ย่านการค้าโจไซเอนในคุมาโมโตะ ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
เปิดทำการ : 09:00 – 17:30 น.
โทร : +81 96-322-5060
พิกัด : https://goo.gl/maps/2yT73Gttr669ZBvG7
5. Katō Shrine (ศาลเจ้าคาโต้)
Katō Shrine (ศาลเจ้าคาโต้) ศาลเจ้าเก่าแก่ก่อนถึงปราสาทคุมาโมโตะ เป็นศาลเจ้าที่มีความสงบ ร่มรื่น และเรียบง่าย เราสังเกตว่ามีคนญี่ปุ่นเข้ามาสักการะไม่ขาดสาย อีกทั้งยังมีกลุ่มเด็กนักเรียนเข้ามาทัศนศึกษาอีกแสดงว่าต้องเป็นอีกที่ที่คนในพื้นที่ต่างให้ความเคารพอย่างมากแน่นอน

ใครที่ตามหาเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ ที่นี่เป็นอีกที่ที่ตอบโจทย์สายมูแน่นอน มีทั้งเซียมซีให้ลองเสี่ยง (มีภาษาอังกฤษด้วยนะ!) แผ่นไผ้สำหรับเขียนอธิษฐาน และเครื่องรางมากมายให้เลือกตามเรื่องที่ต้องการขอพรเลย เราก็ซื้อมาเพี๊ยบบบบ คาดหวังเลยว่าปีหน้าชีวิตต้องปังแน่นอน



ข้อมูลเพิ่มเติม
ค่าเข้า : ฟรี
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/X457p9yMcJu84vCC7
6. Suizenji Jojuen Garden (สวนซุยเซ็นจิ)
สวนซุยเซ็นจิ (Suizenji Jojuen) สวนเก่าแก่สไตล์ญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงของเมืองคุมาโมโตะ เดินเข้าไปเราจะได้สัมผัสถึงความเขียวขจีที่ใสสะอาดจากหญ้าที่ถูกตัดแต่งอย่างเนียนกริ๊บล้อมเป็นวงกลมรอบบ่อน้ำขนาดใหญ่ตรงกลางที่เต็มไปด้วยสัตว์นานาชนิดอย่างหงส์, นกกระเรียน, และเหล่าปลาคาร์ฟให้เราได้นั่งมองเพลินๆ




จุดเด่นของสวนซุยเซ็นจิ (Suizenji Jojuen) คือ การตัดแต่งหญ้าให้เป็นแบบจำลองย่อส่วนของสถานที่ที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น ภูเขาไฟฟูจิ ศาลาไม้ ทะเลสาบบิวะ และสะพานหิน เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะสำหรับการยืนชมความงามของแลนด์สเคปสวย ๆ สบายตา ยืนฟังเสียงธรรมชาติใสแจ๋ว นอกจากนี้ที่นี่ยังมีศาลเจ้าให้เราเข้าไปกราบไหว้อีกด้วย ดูขลังไม่ใช่เล่นเลย!

อีกหนี่งกิจกรรมที่ปูเป้อยากจะแนะนำสำหรับคนที่อยากมีรูปสวยๆ ใส่เดินเล่นในสวนซุยเซ็นจิ (Suizenji Jojuen) นั่นคือ แปลงร่างใส่ชุดกิโมโนหรือยูกาโตะมาเดินเล่นถ่ายรูปในสวนเก่าแก่สไตล์ญี่ปุ่น บริเวณนี้จะมี แพ็กเกจชุดกิโมโนและยูกาตะในคุมาโมโตะ รอบๆ สวนซุยเซนจิถ่ายภาพทิวทัศน์ที่สวยงาม ร้านเช่าชุดมีดีไซน์กว่า 150 แบบ ตั้งแต่ชุดลายญี่ปุ่นดั้งเดิมไปจนถึงลายที่ร่วมสมัยขึ้นมาหน่อย ซึ่งในแพ็กเกจนี้มีรองเท้าแตะ ถุงเท้า และกระเป๋าให้เสร็จสรรพเลยค่ะ



ซื้อ แพ็กเกจชุดกิโมโนและยูกาตะในคุมาโมโตะ รอบๆ สวนซุยเซนจิ ถ่ายภาพทิวทัศน์ที่สวยงาม ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

ข้อมูลเพิ่มเติม
ค่าเข้า : 400 เยน
โทร : +81-96-383-0074
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/f53VeE8PZa7y7jhv6
ซื้อ แพ็กเกจชุดกิโมโนและยูกาตะในคุมาโมโตะ รอบๆ สวนซุยเซนจิ ถ่ายภาพทิวทัศน์ที่สวยงาม ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
7. ย่านช้อปปิ้งใจกลางเมืองคุมาโมโตะ (Kamitori, Shimotori, Sun Shin-shigai)
ย่านการค้าใจกลางเมืองคุมาโมโตะที่เป็นการรวมตัวกันของถนนถึง 3 สาย ได้แก่ ถนนคามิโทริ (Kamitori), ถนนชิโมโตริ (Shimotori) และถนนซันชินซึไก (Sun Shin-shigai) ย่านการค้าแห่งนี้เนี่ยเรียกได้ว่าเป็นย่านการค้าที่ใหญ่ที่สุดและคึกคักที่สุดของเมืองคุมาโมโตะ (Kumamoto) เลยค่ะ


จุดสังเกต คือ มีโดมหลังคาตลอดเส้นทางระยะทางรวมยาวประมาณ 2 กิโลเมตร คับคั่งไปด้วยร้านค้าชั้นนำตลอดสองข้างทางไม่ว่าจะเป็นร้านเสื้อผ้าหลากหลายสไตล์ ร้านเครื่องสำอาง ร้านกิ๊ฟช็อป ร้านอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิม ไปจนถึงร้านขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ปาจิงโกะ ผับบาร์ เรียกได้ว่าเป็นย่านที่มีครบทุกอย่างจริง ๆ ค่ะ


เราได้ไปลองข้าวทะเลหน้าล้นๆ คนเลิฟซุปกิมจิมาร้านนี้ไม่ผิดหวังค่ะ อร่อยเด็ดมากกก!!





และปิดท้ายด้วยร้านโดรายากิร้านโบราณมีไส้เป็นถั่วอยู่ตรงกลางมี 2 ไส้ให้เลือก แป้งนุ่มทานร้อนๆ อร่อยฟินมากก ถั่วกวนหวานน้อย อร่อยแบบไม่ติดฟัน ราคาชิ้นละ 110 เยน



ข้อมูลเพิ่มเติม
ค่าเข้า : ฟรี
โทร : +81-96-352-3377
พิกัด : https://goo.gl/maps/rhzMM5Bqzn9b2bWU8
8. Kumamoto Christmas market (ตลาดคริสต์มาสคุมาโมโตะ)
ใครไปคุมาโมโตะ (Kumamoto) ช่วงเทศกาลคริสต์มาส!! ต้องห้ามพลาดไฮไลท์อย่างตลาดคริสต์มาสคุมาโมโตะ (Kumamoto) ตลาดคริสต์มาสจัดขึ้นที่ใจกลางเมืองคุมาโมโตะ (Kumamoto) หรือที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า AMU PLAZA KUMAMOTO นั่นเอง ภายในตลาดจะประดับประดาไปด้วยแสงไฟหลากสี ช่อมิสเซิลโทและต้นฮอลลี่ โดยมีเสียงดนตรีเพราะ ๆ ช่วยสร้างบรรยากาศของงานเทศกาล

อีกทั้งยังเต็มไปด้วยซุ้มร้านค้าทรงกระท่อมน่ารักจุ๊บจิ๊บสไตล์ยุโรปมากมาย ทั้งร้านอาหาร ขนมทานเล่น ของตกแต่งบ้านสไตล์คริสต์มาส เครื่องประดับต่าง ๆ ของฝากสิ้นปี และที่ห้ามพลาดเลยคือ เครื่องดื่มร้อน ๆ ในวันอากาศหนาว ๆ อย่าง “ไวน์แดงร้อน” นั่นเองค่ะ เราแนะนำสุดใจขาดดิ้นเลยแหละ ลองไปลิ้มรสชาติของความเป็นไวน์องุ่นร้อน ๆ ละลายแผ่ความหอมไปทั่วปาก ขอบอกเลยว่าได้จิบหนึ่งอึกแล้วจะไม่สามารถหยุดได้เลย และอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจของตลาดคริสต์มาสของที่นี่คือผู้คนค่ะ



ไม่น่าเชื่อว่าทุกคนให้อารมณ์ร่วมและอินไปกับงานเทศกาลมากกกกกกกกกกกกจนทำให้เราที่เป็นนักท่องเที่ยวรู้สึกผ่อนคลายและอบอุ่นไปกับมวลบรรยากาศน่ารัก ๆ ที่ทุกคนสร้างมันขึ้นมาจากใจ ใครที่ไปเดินแล้วเจอกับคุณลุงซานต้า อย่าลืมแชะรูปมาอวดด้วยนะ !



ข้อมูลเพิ่มเติม
ค่าเข้า : ฟรี
เปิดทำการ : วันที่ 25 พย -25 ธค. 2022 (วันธรรมดาเวลา 17:00-22:00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์เวลา 11:00-22:00 น.)
พิกัด : https://goo.gl/maps/EGuP9YyFCyBkhSNf9
9. KICHIJIEN cafe (คาเฟ่สวนผลไม้เพื่อการท่องเที่ยวคิชิจิเอน)
KICHIJIEN cafe (สวนผลไม้เพื่อการท่องเที่ยวคิชิจิเอน) : คิจิเอ็นคาเฟ่ สวนผลไม้เพื่อการท่องเที่ยวคิชิจิเอน เป็นคาเฟ่ผลไม้ที่รวบรวมผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดในแต่ละฤดูกาลเอาไว้ 6 ชนิด ซึ่งผลไม้ของเขาเนี่ยมีแต่สดๆ ทั้งนั้นเลย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปีโดยในแต่ละช่วงจะมีผลไม้ประจำฤดูที่ต่างกันไปดังนี้ค่ะ (ขอกระซิบว่าราคานี้ทานได้แบบไม่อั้นด้วยเน้อ!)

- สตรอว์เบอร์รี่ : เดือนธันวาคม ถึง พฤษภาคม (1,400-1,800 เยน)
- องุ่น : เดือนกรกฎาคม ถึง กันยายน (1,080-1,670 เยน)
- แอปเปิ้ล : เดือนสิงหาคม ถึง พฤศจิกายน (800 เยน)
- สาลี่ : เดือนสิงหาคม ถึง ตุลาคม (800 เยน)
- พลับ : เดือนตุลาคม ถึง พฤศจิกายน (ต้องจอง และมีแต่แบบชั่งน้ำหนัก)
- ส้ม : เดือนกันยายน ถึง พฤศจิกายน (500เยน)
นอกจากผลไม้ที่กล่าวไป ทางสวนยังนำผลไม้มาประยุกต์ทำไอศครีมผลไม้หอม ๆ สดชื่นให้เราทานสมชื่อความเป็นคาเฟ่ด้วยค่ะ เราได้ลองทานไอศครีมลูกพลับ (470 เยน) ไอศครีมส้ม (470 เยน) ไอศครีมเกาลัด (880 เยน) บอกจากใจเลยว่า ฟิน ลูกพลับก็กร๊อบกรอบ ส้มเขาก็สดชื๊นสดชื่น เกาลัดก็หวานมันอร่อยลงตัว ว่าแล้วอย่างทานอีกเลยค่ะ T-T



ที่นี่เขาจำหน่ายผลไม้กลับบ้านด้วยแหละ ทั้งส้ม, แอปเปิ้ล, สตรอว์เบอร์รี่ปลอดสารพิษ ซื้อแล้วทานได้เลยไม่ต้องล้างให้เสียเวลาเลยค่ะ




เดินไปอีกนิด ข้าง ๆ ร้านคิจิเอ็นคาเฟ่จะมีพุดดิ้งผลไม้หลากหลายรสชาติอร่อยไม่แพ้กันด้วยค่ะ




ข้อมูลเพิ่มเติม
เปิดทำการ : 10:30 – 17:00 น.
โทร : +81962732544
พิกัด : https://goo.gl/maps/nrmZsqCY2L472fr3A
10. Kirara 雲母 (ร้านคิราระ)
Kirara 雲母 (ร้านคิราระ) เป็นร้านชาบูที่เรายกให้เป็น The Best ของเราในทริปนี้ ได้คะแนนจากเว็บไซด์ Tabelog ในหมวดชาบูชาบู 3.21/5 เป็นการทานชาบูที่คลีนและเฮลตี้ที่สุดในชีวิตเลยค่ะ เนื้อวัวอร่อยละลายในปาก น้ำซุปชาบูใสแจ๋วที่มีรสชาติเข้มข้นในตัวตัดกับสีสันของผักใบเขียวและชิ้นเนื้อแดง ๆ เด้ง ๆ โอ้โห ฟินระเบิด


ราคาจะตกอยู่ที่ 4,158 เยนต่อคน รวมเครื่องดื่มไม่อั้น ! (เข้าทางเลยค่ะงานนี้ ทั้งเบียร์เอย สาเกเอย น้ำอัดลมเต็มที่ !)


ร้านจะอยู่ในย่านการค้าชิโมโตริ (Shitomori Shopping Arcade) ค่ะ แต่ขอกระซิบว่าที่นี่เราจะสั่งเนื้อได้ครั้งละ 2 จานเท่านั้นเน้อ ป้องกันการทานเหลือนั่นเอง !


ข้อมูลเพิ่มเติม
โทร : +81 96-355-4326
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Fi2WUFmQxmoSbKPU6
11. Keika Ramen Kurokami

ปูเป้และพี่ต้นเจอราเมนร้านนี้โดยบังเอิญจากเรดาร์หาขออร่อยของพี่ต้นค่ะ พอทานแล้ว โอ๊วๆๆ อร่อยยยยยยยยยยยมาก!! เพิ่งมารู้ว่าเป็นร้านราเมงเก่าแก่โบราณที่เปิดมานานกว่า 67 ปี (ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1955) ขายดีจนโด่งดังจึงมีการขยายสาขาขยายที่โตเกียวเลยค่ะ

จุดเด่นราเมนร้าน Keika Ramen Kurokami คือ ราเมนชามโตผสมผสานน้ำซุปกระดูกไก่ทงคตสึสีขาวและน้ำมันกระเทียม น้ำซุปจะให้ความรู้สึกเหมือนราเมนน้ำนมข้นๆ มีความมันนิดๆ ของน้ำมันกระเทียม รสเข้มข้นแต่มีความกลมกล่อม อร่อยมากก!! น้ำซุปเป็นคนละแบบกับราเมนสไตล์ฮากะตะเลยค่ะ ส่วนเส้นราเมนจะมีความแข็งกลางๆ คนที่ไม่ชอบเส้นราเมนแข็งๆ ก็สามารถเลือกความนุ่มของเส้นได้นะคะ ส่วนหมูชาชูชิ้นโตๆ นุ่มละมุนลิ้นแทบจะละลายในปาก





ข้อมูลเพิ่มเติม
โทร : +81 96-247-6973
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/4sTHH8YeaR1dtyLw8
แนะนำที่พักเมือง Kumamoto (คุมะโมะโตะ)
ทริปนี้เราพักที่ Kumamoto Apartment/ Vacation STAY 76516 จำนวน 2 คืน ห้องพักเป็นสไตล์อพาร์ทเม้นท์ การตกแต่งสไตล์โคซี่ และยังมีกลิ่นอายความโฮมมี่แบบญี่ปุ่นพร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกมีครบครันมากๆ ภายในห้องมีพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 39 ตร.ม. อยู่แบบสบายๆ สำหรับ 3-5 คน และยังสามารถกางกระเป๋าเดินทางขนาด 30″ ได้ 3 ใบพร้อมสัมภาระต่างๆ ได้แบบไม่เกะกะพื้นที่ทางเดินด้วย ถือว่าห้องที่ Kumamoto Apartment/ Vacation STAY 76516 มีพื้นที่กว้างกว่าห้องพักตามมาตรฐานโรงแรมของญี่ปุ่น ภายในห้องพักมีการแบ่งโซนนิ่งได้ดีมาก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่พักที่ตอบโจทย์ และทุกคนในทริปชอบมาก
- ห้องนั่งเล่น มีขนาดกว้าง พร้อมด้วยโซฟาเบตสำหรับนอนเล่นเหยียดขายาวๆ ได้เลย
- ห้องครัว มีพื้นที่แบบใช้งานได้จริง ครบทั้งกาแฟดริฟ ตู้เย็น ไมโครเวฟ กาต้มน้ำ ฮู๊ดดูนควัน อุปกรณ์เครื่องครัวต่างๆ ทั้งจาน ชาม ถ้วย ช้อน ทัพพี และอื่นๆ มีโต๊ะเอนกประสงค์ยาวๆ สำหรับวางของสัมภาระ แต่งหน้า หรือนั่งทานอาหารก็สะดวกดีเลย
- ห้องนอน เป็นเตียง 2 ชั้น ปูพื้นด้วยเสื่อทาทามิมีความญี่ปุ่นมากๆ แล้วยังมีฟูกปูนอนพร้อมอุปกรณ์เครื่องนอนต่างๆ สะอาดไม่มีกลิ่น
- ห้องน้ำ มีขนาดกว้างขวางแบ่งเป็นโซนเปียก และโซนแห้งได้ดี พร้อม “อ่างอาบน้ำ” ให้แช่ตัว แช่เท้าให้ได้ผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าจากการเดินมาทั้งวัน และยั’งมีสบู่ แชมพู ผ้าขนตัว เครื่องซักผ้า ราวแขวนผ้า ไม้แขวนเสื้อและอื่นๆ
- มีที่จอดฟรี สะดวกสำหรับการขับรถเที่ยวมากกกกก !!!
- ใกล้ๆ ที่พักมีร้านสะดวกซื้อ 7-11 ที่สามารถจอดรถได้เลย สะดวกดีจัง











จองที่พักออนไลน์
จองออนไลน์ผ่าน Booking.com คุณจะได้ดีลราคาพิเศษในทุกการจอง ได้สิทธิประโยชน์ในฐานะสมาชิก Booking.com
สนใจจองห้องพักที่ Kumamoto – Apartment / Vacation STAY 76516 คลิกที่นี่
2 Comments