ทริปเที่ยว เลห์, ลาดักห์ (Leh, Ladakh) 9 วัน 8 คืน

ปีที่ 4 แล้วจ้า!!! ต้นกับปูเป้มาชวนทุกคน ไปท่องเที่ยวถ่ายภาพเปิดประสบการณ์แบบจัดเต็ม แบบเจาะลึกสไตล์ Blogger ณ เมืองเลห์ (Leh) แคว้นลาดักห์ (Ladakh) ดินแดนแห่งขุนเขาและศรัทธากับฉายา Little Tibet ซึ่งตั้งอยู่ตอนเหนือของประเทศ India ณ ความสูง 3,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

ทริปนี้เราจะเดินทางท่องเที่ยวกันอย่างจุใจ 9 วัน 8 คืน เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตผู้คน วัฒนธรรมท้องถิ่น และความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวเมืองเลห์ (Leh) นอกจากนี้เรายังพาคุณออกไปสัมผัสความงามของภูมิประเทศอันเป็นเอกลักษณ์ของแคว้นลาดักห์ (Ladakh) กับหลายพิกัดเลื่องชื่อ ทั้ง Nubra Valley, Alchi – Lamayuru รวมถึงทะเลสาบ Pangong Lake

ทริปนี้ดียังไง?

✅ เก็บครบทุกพิกัดสำคัญในเมืองเลห์และแคว้นลาดักห์ ทั้ง ตลาดท้องถิ่น ร้านชา วัด พระราชวัง ทะเลสาบ ฯลฯ
✅ นำทริปโดยไกด์ชาวเลห์ ที่มีประสบการณ์สูง สามารถให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติของสถานที่ วัฒนธรรม ความเชื่อ ของชาวลาดักห์ได้แบบแน่นปึ้ก และสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี มีน้ำใจบริการ
✅ เดินทางด้วย Toyota Innova หรือเทียบเท่าเพื่อสะดวกในการถ่ายภาพ (แบบไม่ปรับอากาศ) นั่งคันละ 3-4 ท่าน เพื่อให้แต่ละท่านมีหน้าต่างไว้ชมวิวและถ่ายภาพโดยไม่บังกัน
✅ พักโรงแรมระดับ 4 ดาว (หรือเทียบเท่า) ทั้งในตัวเมือง Leh, Nubra และ Alchi – Lamayuru ส่วนที่พักที่ทะเลสาบปันกองจะเป็น Camp ริมทะเลสาบ ซึ่งอาจจะสะดวกสบายน้อยกว่าโรงแรม แต่ก็ถือเป็นที่พักพรีเมียมในพื้นที่
✅ มีช่างภาพมืออาชีพถ่ายรูปสวยๆ ให้ตลอดทริป
✅ ไม่รีบเร่ง ชะโงกทัวร์ ปรับเวลาได้อิสระ ชิลล์ๆ เลย
✅ ทริปนี้จำกัดแค่ 10-14 คน จะได้ดูแลแบบใกล้ชิด

เนื่องจากเลห์ เป็นเมืองที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 3,500 เมตร อากาศจึงเบาบางกว่าปกติ ซึ่งจะมีผลกับผู้เดินทางทำให้เหนื่อยง่ายและหายใจลำบาก เสี่ยงต่อการเกิดโรคแพ้ความสูงหรือ AMS ดังนั้นการปล่อยให้ร่างกายได้ปรับตัวจึงเป็นเรื่องสำคัญ

โรคแพ้ความสูง AMS คืออะไร ?

  • Altitude Sickness #1 โรคที่ต้องระวังในพื้นที่สูง > http://goo.gl/t7jOsU
  • Altitude Sickness #2 อาการและการป้องกัน > http://goo.gl/FlkQAA

อาหารการกิน

เรารู้ดีว่าอาหารอินเดียอาจไม่ค่อยเป็นมิตรกับคนหมู่มาก ดังนั้นเราจึงเตรียมเสบียงไว้เสริมทัพ ทั้ง อาหารแห้ง อาหารไทยสำเร็จรูป บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำพริก น้ำปลา กาแฟ ฯลฯ ดูแลโดยหมวยปูเป้ เพื่อให้ลูกทริปเราเจริญอาหารมากที่สุด แม้จะอยู่ไกลบ้าน

ทริปท่องเที่ยวสไตล์ Blogger เป็นยังไง?

ทริปนี้เป็นทริปท่องเที่ยวถ่ายภาพและเจาะลึกวิถีชีวิตผู้คนของเมืองเลห์ หรือ Exploring & Photo Shooting Trip ดังนั้นเราจะให้ความสำคัญกับการหามุมถ่ายภาพ การใช้เวลาเพื่อเข้าไปสัมผัสกับผู้คนในสถานที่ต่างๆ

บางวันเราจะตื่นเช้าเพื่อไปรอถ่ายภาพแสงเช้า บางวันเราอาจนอนดึกเพราะต้องการรอแสงเพื่อถ่ายดาว ดังนั้นทริปนี้จึงเหมาะกับคนที่อยากสัมผัสประสบการณ์ที่มากกว่าการไปท่องเที่ยวกับทัวร์ทั่วๆ ไปนะครับ

รายละเอียดการเดินทาง

Day 1 (14 มิ.ย. 67) รวมตัวเพื่อเดินทาง

17:00 น. คณะเดินทางนัดรวมพลกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางด้วยสายการบิน Thai Airways สู่ท่าอากาศยาน New Delhi ประเทศอินเดีย จากนั้นรอต่อเครื่องประมาณ 6 ชั่วโมง เพื่อเดินทางสู่เมือง Leh (เครื่องบินออก 05:40 น.)

Day 2 (15 มิ.ย. 67) เดินทางถึงเมือง Leh พักผ่อนและปรับตัว

หลังจากตื่นตาตื่นใจกับความงามของทัศนียภาพจากเครื่องบินของทิวเขาสูงกับแสงเช้าแล้ว พวกเราก็เดินทางมาถึงเมืองเลห์ แคว้นลาดักห์ ประเทศอินเดีย ประมาณ 07:00 น. จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่จากทางโรงแรมมาต้อนรับและพาพวกเราไปยังโรงแรมที่พัก

วันนี้จะเป็นวันแห่งการพักผ่อนและปรับสภาพร่างกายให้รับกับระดับความสูง 3,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล (ที่ระดับความสูงขนาดนี้อ๊อกซิเจนจะน้อยลง อากาศจะเบาบาง ทำให้เหนื่อยง่าย) หลังจากพักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว ช่วงบ่ายแก่ๆ เราจะออกมาเดินเล่นถ่ายภาพบริเวณใกล้ๆ โรงแรม หรืออาจจะไปชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ Shanti Stupa จากนั้นก็ทานข้าวเย็นและพักผ่อนให้เต็มที่เพื่อท่องเที่ยวเมืองเลห์กันในวันรุ่งขึ้น

  • อาหารกลางวันที่โรงแรม (มื้อที่ 1)
  • อาหารเย็นที่โรงแรม (มื้อที่ 2)

Day 3 (16 มิ.ย. 67) เที่ยวชมความงามของทัศนียภาพเมือง Leh

หลังจากตื่นนอน ทำภารกิจส่วนตัวและทานอาหารเช้าแล้ว พวกเราจะเดินทางไปชมความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวต้องห้ามพลาดในเมืองเลห์ อาทิ Shey Palace, Thiksey Monastery, Hemis Monastery กันจนเต็มวัน รวมระยะทางราวๆ 90 กม. โดยเราจะหามุมถ่ายภาพแสงเย็นสวยๆ กันก่อนจะกลับไปทานอาหารเย็นที่โรงแรมและพักผ่อน

SHEY PALACE: พระราชวังเชย์ อดีตวังหลวงของลาดักห์ตั้งแต่โบราณ พระราชวังสร้างขึ้นช่วงศตวรรษที่ 16 โดยเป็นของนิกาย Drukpa ของพุทธศาสนาในทิเบต

THIKSEY MONASTERY: วัด Thiksey สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 เป็นวัดในนิกาย Gelugpa ของพุทธศาสนาในทิเบต ถือเป็นวัดที่สวยที่สุดในลาดักห์ โดยมีพื้นฐานสถาปัตยกรรมคล้ายคลึงกับวัดลาซาในทิเบต

HEMIS MONASTERY: วัด Hemis สร้างขึ้นโดยลามะ สตักซัง รัสปา ในศตวรรษที่ 17 ซึ่งเป็นอารามที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในลาดักห์ ซึ่งอยู่ในนิกาย Drukpa แห่งพุทธศาสนาในทิเบต

  • อาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 3)
  • อาหารกลางวัน (มื้อที่ 4)
  • อาหารเย็นที่โรงแรม (มื้อที่ 5)

Day 4 (17 มิ.ย. 67) Leh – Hanle (Lamayuru, Alchi)

เช้านี้หลังจากทานอาหารเช้ากันแล้ว เราจะนั่งรถล่องไปตามแม่น้ำสินธุ จุดหมายปลายทางคือ “วัดลามายูรู (Lamayuru Monastery)” ระหว่างทางเราจะแวะชม “Sangam Point” ซึ่งเป็นจุดบรรจบระหว่างแม่น้ำสินธุและแม่น้ำซันสการ์ นอกจากนี้ระหว่างทางยังมีพิกัดน่าสนใจอย่าง Magnetic Hill และ Basgo Monastery ให้เราแวะเยี่ยมชมและถ่ายภาพเป็นระยะ

ที่ปลายทางเราจะเจอกับภูมิประเทศที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “พื้นผิวดวงจันทร์ (Moonland)” สำหรับคนชอบถ่ายภาพ สถานที่แห่งนี้งดงามจนไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เราจะปีนขึ้น Meditation Hill หรือเนินเขาสมาธิ เพื่อถ่ายภาพ Lamayuru Monastery จากมุมสูงกัน จากนั้นเราจะเข้าเช็คอินที่โรงแรม ทานมื้อเย็นและพักผ่อน

รวมระยะทางประมาณ 118 กม.

  • อาหารเช้า (มื้อที่ 6)
  • อาหารกลางวัน (มื้อที่ 7)
  • อาหารเย็น (มื้อที่ 8)

Day 5 (18 มิ.ย. 67) Uleytoko – Leh

หลังจากอิ่มมื้อเช้ากันแล้ว เราจะไปเที่ยวชม Alchi Monastery วัดเก่าแก่ที่สุดของลาดักห์ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 และยังได้รับการบันทึกเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังจากศตวรรษที่ 11 ซึ่งหาชมได้ยากมาก หลังจากนั้นเราจะเดินทางกลับเข้าที่พักในตัวเมือง Leh

รวมระยะทางประมาณ 118 กม.

  • อาหารเช้า (มื้อที่ 9)
  • อาหารกลางวัน (มื้อที่ 10)
  • อาหารเย็น (มื้อที่ 11)

Day 6 (19 มิ.ย. 67) Leh – Nubra Valley

เช้านี้หลังจากทานอาหารเช้าแล้ว ก็ได้เวลาแห่งการผจญภัยกับทะเลทรายแห่ง Nubra Valley กันแล้ว!!! วันนี้เราจะนั่งรถผ่าน Khardong-la Pass ถนนที่รถสามารถสัญจรได้ที่สูงเป็นอันดับหนึ่งของโลก (18,380 ft. เหนือระดับน้ำทะเล) พร้อมทัศนียภาพอันสวยงามของเทือกเขา “Karakorum (การาโกรัม)”  เมื่อถึง Nubra Valley แล้วเราจะเข้าเช็คอินเข้าที่พัก แล้วออกมาชมความงามของทะเลทราย แห่ง Nubra Valley พร้อมนั่งอูฐหนอกคู่ชมทะเลทราย (ค่านั่งอูฐไม่รวมในค่าทริป)

รวมระยะทางประมาณ 128 กม.

  • อาหารเช้า (มื้อที่ 12)
  • อาหารกลางวัน (มื้อที่ 13)
  • อาหารเย็น (มื้อที่ 14)

Day 7 (20 มิ.ย. 67) Leh – Pangong Lake

วันนี้หลังจากทานมื้อเช้า เราจะมุ่งหน้าสู่ “ปันกอง (Pangong)” ทะเลสาบน้ำเค็มที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของทริปลาดักห์ครั้งนี้!! ระหว่างทางเราจะนั่งรถเลียบไปตามแม่น้ำ Shayok ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของหุบเขา Nubra จากนั้นเราจะแวะเที่ยว Diskit Monastery วัดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดของหุบเขา Nubra ที่วัดนี้คุณจะได้เห็นรูปปั้น “พระศรีอริยเมตไตรย” ความสูง 33 เมตร ซึ่งเป็นประติมากรรมที่สูงที่สุดในลาดักห์

ระหว่างทางเราจะแวะถ่ายภาพตัว “ลามะ (Yak)”, ฝูงม้าป่า และหนูภูเขา “มามอธ (Marmot)” รวมถึงถ่ายภาพวิวสวยแปลกสองข้างทางที่จะเปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลา จากนั้นเราจะเข้าพักค้างคืนที่แคมป์ใกล้ทะเลสาบ เพื่อถ่ายภาพแสงเย็น-แสงเช้ากันให้หนำใจ ช่วงเวลากลางคืนหากใครอยากถ่ายทางช้างเผือก ดาวหมุน หรือถ่าย Time-lapse ดวงดาว ที่นี่ก็เหมาะเป็นอย่างยิ่งครับผม

รวมระยะทางประมาณ 150 กม.

  • อาหารเช้า (มื้อที่ 15)
  • อาหารกลางวัน (มื้อที่ 16)
  • อาหารเย็น (มื้อที่ 17)

Day 8 (21 มิ.ย. 67) Leh – Shanti Stupa 

หลังจากมื้อเช้า เราจะมุ่งหน้ากลับสู่เมืองเลห์ เราจะผ่าน Chang-la Pass ถนนที่รถสามารถสัญจรได้ที่สูงเป็นอันดับสามของโลก (17,370 ft. เหนือระดับน้ำทะเล) ระหว่างทางเราจะแวะเที่ยว Sankar Gompa เที่ยว Leh Palace แล้วก็ไปถ่ายภาพแนวสตรีทกันใน Leh Market ทุกคนจะสนุกกับวัฒนธรรมอันมีสีสันแปลกตาของผู้คนที่นี่ หลังจากนั้นช่วงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตก เราจะไปถ่ายภาพแสงเย็นกันที่ Shanti Stupa อันเลื่องชื่อกันครับ

คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายของทริปแล้ว ในคืนนี้หากใครอยากเอารูปมานั่งทำ หรือแลกเปลี่ยนไอเดียด้านการถ่ายภาพ หรืออยากดื่มผ่อนคลายก็เต็มที่เลยครับ จากนั้นเราจะแยกย้ายกันไปพักผ่อนเอาแรง ก่อนที่จะต้องตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อเดินทางไปยังสนามบิน

  • อาหารเช้า (มื้อที่ 18)
  • อาหารกลางวัน (มื้อที่ 19)
  • อาหารเย็น (มื้อที่ 20)

Day 9 (22 มิ.ย. 67) ลาแล้วเมือง Leh

วันนี้เราต้องตื่นกันแต่เช้าเพื่อเดินทางไปยังสนามบิน Leh เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปต่อเครื่องที่ New Delhi และกลับสู่ประเทศไทยครับ เราจะมาถึงประเทศไทยเวลาประมาณ 19:40 น.

  • อาหารเช้า (มื้อที่ 21) หากมื้อนี้ไม่สามารถทานได้ทัน เราจะไปชดเชยให้ที่สนามบิน New Delhi

ค่าใช้จ่าย 52,500 บาท/ท่าน
พิเศษ!! 51,900 บาท หากจองและชำระเงินมัดจำภายใน 10 เม.ย. 67

เงื่อนไขการสำรองที่

  1. มัดจำงวดแรก 20,000 บาท เราจะทำการจองที่ผ่านลำดับการมัดจำเท่านั้น
  2. ชำระส่วนที่เหลือภายในวันที่ 1 พ.ค. 2567
  3. กรณีโอนเงินมัดจำเรียบร้อยแล้ว กรุณาส่งสลิปการโอนพร้อมระบุ ชื่อ – นามสกุล / เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน / หน้า Passport / email / เบอร์ติดต่อ เพื่อทำประกันการเดินทาง
  4. Passport ต้องมีอายุเหลือเกิน 6 เดือน นับจากวันออกเดินทาง

ช่องทางการติดต่อ

คุณต้น เบอร์มือถือ 081 439 9609
LINE ID : ton_kanisorn

บริษัท หนีงานไปเที่ยว จำกัด
ทริปถ่ายภาพและท่องเที่ยวสไตล์ Blogger
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวเลขที่ 11/09714

อัตราค่าบริการนี้รวม

  1. ค่าโรงแรมและที่พัก รวม 7 คืน พักห้องละ 2 ท่าน (อาจมีบางท่านนอนเตียงเสริม หากรวมสมาชิกเดินทางเป็นเลขคี่ เช่น 11, 13, 15 คน)
  2. ค่าอาหารรวม 21 มื้อตามที่ระบุไว้ 
  3. ค่าประกันภัยการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท เงื่อนไขตามกรมธรรม์ระบุ
  4. ค่าไกด์ท้องถิ่นดูแลตลอดการเดินทาง
  5. ค่าเข้าเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ
  6. ค่ารถที่ใช้ในการเดินทางด้วย Toyota Innova หรือเทียบเท่าเพื่อสะดวกในการถ่ายภาพ (แบบไม่ปรับอากาศ) นั่งคันละ 3-4 ท่าน เพื่อให้แต่ละท่านมีหน้าต่างไว้ชมวิวและถ่ายภาพโดยไม่บังกัน
  7. ต้นกับปูเป้จะจัดเตรียมเสบียง อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, น้ำพริก, น้ำปลา และอาหารไทยสำเร็จรูปไว้ให้สมาชิกได้ทานกัน ในกรณีที่ไม่คุ้นกับอาหารท้องถิ่นที่เลห์

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  1. ค่าตั๋วเครื่องไป-กลับระหว่างประเทศและภายในประเทศอินเดีย (กรุงเทพฯ-เดลี-เลห์ และ เลห์-เดลี-กรุงเทพฯ)
  2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าบริการซักรีด ค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ค่ามินิบาร์ หรือค่าเครื่องดื่มนอกเหนือ
  3. ค่าธรรมเนียมในการขอ e-Visa ประเทศอินเดีย (27.5 USD, ประมาณ 1,000 บาท)
  4. ค่าทิปไกด์ท้องถิ่นและพนักงานขับรถ (5 USD / คน / วัน)
  5. ค่าน้ำหนักเกินจากที่สายการบินกำหนด
  6. ค่ากิจกรรมต่างที่นอกเหนือจากโปรแกรมระบุ เช่น ขี่อูฐ ฯลฯ

หมายเหตุ : ทางเรายินดีช่วยลูกทริปในการจองตั๋วเครื่องบิน และยื่นขอ e-Visa โดยคิดค่าใช้จ่ายตามจริง ไม่บวกเพิ่ม

เงื่อนไขการเดินทาง

  • เราจะออกเดินทางเมื่อรวบรวมสมาชิกได้ตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กรณีที่มีผู้ร่วมเดินทางไม่ครบ 10 คน ภายในวันที่ 1 พ.ค. 67 ทางเราจำเป็นต้องขอยกเลิกทริป โดยจะคืนเงินมัดจำทั้งหมดให้กับสมาชิกทุกท่านเต็มจำนวนครับ
  • เนื่องจากทริปนี้เป็นทริปที่ชวนเพื่อนๆ ไปท่องเที่ยวเปิดประสบการณ์ร่วมกัน ดังนั้นเราจะจับคู่ให้เพื่อนๆ พักร่วมกันห้องละ 2 คนตามความเหมาะสม และอาจจะมีบางท่านนอนเตียงเสริม เพื่อคุมไม่ให้ราคาที่พักสูงเกินไปจนเป็นภาระของสมาชิกในทริปครับ ซึ่งค่าใช้จ่ายของทริปเป็นการเฉลี่ยค่าใช้จ่ายเผื่อในกรณีที่ต้องนอนเตียงเสริมไว้แล้ว
  • กรณีต้องการพักคนเดียว ต้องชำระเงินเพิ่ม 16,000 บาท

เที่ยวบินแนะนำ

ขาไป สายการบิน การบินไทย วันที่ 14 มิถุนายน 2567
TG331 BKK – DEL เวลา 23.15 – 02.15 (+1)

ขากลับ สายการบิน การบินไทย วันที่ 22 มิถุนายน 2567
TG324 DEL – BKK เวลา 11.40 – 17.35

ขาไป สายการบิน IndiGo วันที่ 15 มิถุนายน 25676
E2536 DEL – IXL เวลา 05.40 – 07.00

ขากลับ สายการบิน IndiGo วันที่ 22 มิถุนายน 25676
E2537 DEL – IXL เวลา 07.40 – 09.00

การยกเลิก

  • หลังจากจ่ายเงินมัดจำแล้ว ลูกทริปสามารถยกเลิกทริปได้โดยทางเราจะคืนเงินมัดจำให้ 50% หากแจ้งยกเลิกก่อนวันที่ 15 เม.ย. 67
  • หลังจากวันที่ 15 เม.ย. 67 กรณีลูกทริปยกเลิกการเดินทางไม่ว่ากรณีใดๆ หรือไม่ชำระเงินส่วนที่เหลือเมื่อถึงกำหนดนัดหมาย ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกและจะไม่คืนเงินมัดจำในทุกกรณี

หมายเหตุ

  1. โปรแกรมการเดินทางอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์และความปลอดภัยของทุกคน
  2. โรงแรมบางสถานที่นอกตัวเมืองเลห์ อาจจะไม่สะดวกสบายมากนัก
  3. ขอสงวนสิทธิในการยกเลิกการการเดินทางในกรณีที่มีผู้ร่วมเดินทางไม่ถึง 10 ท่านโดยที่จะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้าก่อน
  4. ขอไม่รับผิดชอบในกรณีเกิดเหตุสุดวิสัย อาทิการยกเลิกหรือการล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน โรคระบาด การประท้วงจลาจล ภัยธรรมชาติทุกชนิด อาทิ แผ่นดินไหว, ฝนตกหนัก, น้ำท่วม, ภูเขาไฟระเบิด ฯลฯ

ขอไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น และจะไม่คืนเงินค่ามัดจำที่ท่านชำระมาแล้วหากถูกปฏิเสธวีซ่าหรือการเข้าออก-เมือง อันเนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง ฯลฯ

Close