Site icon ibreak2travel (หนีงานไปเที่ยว)

เคยไปยัง? ตะลุยฮ่องกง 3 วัน 2 คืน เที่ยวแบบนี้ไม่มีซ้ำ!

ฮ่องกงอีกแล้วจ้า!! ฮ่องกง ฮ่องกง แล้วก็ฮ่องกง เบื่อกันหรือยังเนี่ย!? อีพริ้งเชื่อว่าใครๆ ก็คงเคยไปฮ่องกง ก็ฮ่องกงไปง๊ายง่าย นั่งเครื่องบินแป๊บเดียว ตั๋วก็ไม่แพง จะบินไปกินของอร่อยๆ จะบินไปอัพเดทเทรนด์ชอปปิ้ง หรือจะบินไปทัวร์ไหว้พระ โอ้ว… !! ใครๆ ก็บินมาได้   

บางคนแอบเบ่ะปากมองบน บอกว่า “เบื่อละ!” แต่ถามใจคุณดู ว่าเที่ยวฮ่องกงครบทุกสไตล์แล้วจริงอ่ะ!?

รู้ไหมว่าหมู่เกาะชื่อดังแห่งทะเลจีนใต้แห่งนี้ ยังมีสีสันใหม่ๆ อีกหลายเฉด ที่คุณอาจยังไม่ได้มาสัมผัส รีวิวท่องเที่ยวฮ่องกงรอบนี้ ผมจะหยิบโปรแกรมเที่ยวใหม่ๆ มาฝากเพื่อนๆ ผมไปมาแล้ว และอยากบอกว่า “อ้าวเฮ้ย!! ไม่เหมือนที่เคยมาเที่ยวนี่หว่า!!” อยากรู้แล้วสิ มามะ ตามผมมา

ทริปนี้เดินทางแต่เช้า ด้วยสายการบิน AirAsia คนเยอะเลย

เนื่องจากทริปนี้เราเดินทางไฟล์ทเช้ามาก อาหารที่ดอนเมืองก็แพงเหลือเกิน ผมเลยเลือก Pre Order อาหารบนเครื่องบิน ขอเติมพลังก่อนไม่งั้นเที่ยวไม่ไหว ดังนั้นก่อนไปถึงฮ่องกง เราก็มารีวิวอาหารบนเครื่องบินของ AirAsia กันหน่อยครับ

เมนูที่สั่งมาทานจะเป็นเซ็ทแซลมอนย่างพริกเกลือครับ (ประกอบด้วยข้าวญี่ปุ่น, แซลมอนย่างพริกเกลือ, ซุปมิโซะ และเยลลี่สตรอว์เบอร์รี่) แล้วก็มีพุดดิ้งมะพร้าวอ่อนกับเฉาก๊วยเป็นของหวานตบท้ายครับ

รสชาติเป็นดังนี้ ^_^

ข้าวญี่ปุ่นกับแซลมอนย่างพริกเกลือ : ข้าวนุ่มดีแต่ยังแฉะอยู่นิดๆ ส่วนตัวแซลมอนนั้นย่างมากำลังดีครับ ไม่แข็งไปหรือร่วนเกินไป รสชาติโอเค เมนูนี้ผมให้ 3.5/5 นะ

ส่วนเยลลี่สตรอว์เบอร์รี่และพุดดิ้งมะพร้าวอ่อนกับเฉาก๊วยนั้น ส่วนตัวผมว่ารสชาติยังเฉยๆ นะครับ ตัวเยลลี่จะมีสตรอว์เบอร์รี่เชื่อมใส่มาให้ด้วย รสชาติหวานนำเปรี้ยวครับ ส่วนตัวพุดดิ้งมะพร้าวอ่อนกับเฉาก๊วยผมยังไม่ได้ประทับใจมาก แต่รวมๆ แล้วโอเคครับ ผมให้ 3/5 คะแนน

ด้วยการบริการของแอร์คนสวย ด้วยรสชาติอาหาร ด้วยความรวดเร็วในการบริการ ผมให้คะแนนรีวิว 3.5/5 ครับผม

โปรแกรมเที่ยวจุใจ 3 วัน 2 คืน

วันที่ 1 เต็มอิ่มกับ ดิสนีย์แลนด์ในธีมฮาโลวีน แล้วไปกินดาร์ธเวเดอร์เบอร์เกอร์กัน

“สวนสนุกคือโอเอซิสแห่งวัยเยาว์” จำไม่ได้ว่าใครกล่าวไว้ แต่เชื่อผมเถอะ แค่เพียงก้าวเท้าเข้ามาในดิสนีย์แลนด์ ก็เหมือนคุณนั่งไทม์แมชชีนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง โดยไม่ต้องพึ่งโดราเอมอน!? 

ไม่รู้สินะ พอรู้ว่าจะได้ไปเที่ยวสวนสนุกทีไร แหม.. ใจมันกระดี้กระด้า เพื่อนๆ ที่มาร่วมทริปกับผมหลายคนก็รู้สึกไม่ต่างกัน

แนะนำให้ซื้อ บัตรเข้าสวนสนุกฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) ได้ราคาดีกว่าซื้อจาก Agent อื่นๆ และเว็บไซต์ของดิสนี่ย์แลนด์โดยตรง แถมจะรวดเร็ว สะดวกกว่า แค่สแกนคิวอาร์โค้ดแล้วก็เข้าได้เลย

สนใจซื้อ บัตรเข้าสวนสนุกฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

ดิสนีย์แลนด์ฮ่องกงช่วงนี้อยู่ในธีมฮาโลวีน แต่หาได้มีความน่ากลัวไม่ ทั้งมิกกี้ มินนี่ โดนัลดั๊ก แต่งฮาโลวีน แหม… มันน่าเข้าไปกอดเสียจริงๆ ขึ้นชื่อว่าดิสนีย์แลนด์ เค้าต้องจัดใหญ่กันอยู่แล้ว ทั้งการตกแต่ง ทั้งพาเหรด ของเล่น-ของที่ระลึก แม้กระทั่งเมนูอาหาร คุณพี่เค้าก็ยังจัดมาเต็มๆ

เมนูพิเศษ ที่มีเฉพาะร้าน Crystal Lotus Disneyland Resort
เมนูพิเศษ ที่มีเฉพาะร้าน Crystal Lotus Disneyland Resort

เมนูพิเศษ ที่มีเฉพาะร้าน Crystal Lotus Disneyland Resort
เมนูพิเศษ ที่มีเฉพาะร้าน Crystal Lotus Disneyland Resort
ตุ๊กตามิกกี้กับมินนี่เวอร์ชั่นฮาโลวีน
มีแต่ความน่ารัก หาความหลอนไม่เจอเล้ย
เย่ๆๆๆ มิกกี้มาแล้ว!!!

กุ๊ฟฟี่ก็มา

ช่วงนี้เค้ามีโชว์พิเศษครบรอบ 10 ปีดิสนีย์แลนด์ฮ่องกง ที่บริเวณ Mickey and the Wondrous Book ด้วยการทำมิวสิคคัลโชว์พิเศษชื่อ Happily Ever After โดยรวมเหล่าตัวการ์ตูนจากภาพยนตร์แอนนิเมชั่นเรื่องดังๆ อย่าง Tangled, Aladdin, Frozen, The Jungle Book, The Little Mermaid, Brave, The Princess and the Frog และอีกหลายเรื่อง อยากบอกว่าอย่าพลาดครับ ทำโชว์ดี ตระการตา เทคนิค แสง สี เสียง ดีมาก

จุดสังเกตบริเวณหน้าโซน Mickey & the Wondrous Book

อุ๊ย!! ดูสิใครมา
ผมอ่ะชอบกุ๊ฟฟี่กับมิกกี้มาตั้งแต่เด็กๆ เลย

เจ้าหญิงก๋ากั่น 3 สไตล์ของดิสนีย์
The Princess and the Frog ผมชอบโชว์นี้มาก มีความ Jazz
ตอนที่เริ่มเปิดโชว์ Frozen นี่ แอบขนลุก

โชว์ Frozen นี่คือความพีค!!

ตลอด 28 นาทีของโชว์ มีแต่ความสนุก เพลิดเพลินมากๆ เลยจริงๆ ใครที่ชอบดูมิวสิคคัล ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงจ้า

นอกเหนือจากได้เล่นเครื่องเล่นสนุกๆ ในหลากหลายโซนแล้ว อีกโซนนึงที่ไม่อยากให้คุณพลาด คือ โซน Star Wars : Tomorrow Land Take Over ที่ตอนนี้มีเครื่องเล่นใหม่จากหนัง Star Wars มาประจำการแล้วจ้า

การได้กระทบไหล่ดาร์ธเวเดอร์ ได้ถ่ายภาพคู่กับชิวเบคก้าและเจ้าหุ่น R2D2 ที่โซน Command Post แล้วก็ได้เล่น Star Wars Hyperspace Mountain ที่เหมือนว่าเราได้นั่งจรวดเข้าร่วมสงครามในหนัง Star Wars นี่มันคือฝันที่เป็นจริงชัดๆ เลย!!!

โอ้โห.. !! ตัวเกือบเท่ากันเลยอ่า!!

I AM YOUR FATHER!!! กรี๊ด!! ดาร์ธเวเดอร์

ร้านขายของที่ระลึกจากหนัง Star Wars รวมของเจ๋งๆ เพียบ
ถ้าอยากมี Light Saber ของตัวเอง เชิญทางนี้

X-Wings ครับทุกท่าน

มาเที่ยวโซนนี้แล้ว ไม่ควรพลาดที่จะไปลิ้มลอง “ดาร์ธเวเดอร์เบอร์เกอร์” กันที่บริเวณร้านอาหารนะครับ แฮมเบอร์เกอร์อร่อยๆ (เลือกได้ทั้งหมูและเนื้อ) ประกบด้วยขนมปังที่ทำจากแป้งซาลาเปาสีขาวที่สกรีนลายเป็นรูปหน้าดาร์ธเวเดอร์ กัดเข้าไปแต่ละค่ำ ช่างสะใจอัศวินเจไดอย่างผมจริงๆ

รสชาติเบอร์เกอร์นั้นผมรู้สึกว่ามันยังไม่ลงตัวกับแป้งแบบซาลาเปานะครับ แต่ด้วยเนื้อเบอร์เกอร์ที่รสชาติเข้มข้นชุ่มฉ่ำ มันเลยเข้ากับตัวแป้งไปโดยปริยาย ผมให้คะแนนเบอร์เกอร์ 3.7/5 คะแนน (ราคาก็สูงนะ แต่การได้เขมือบดาร์ธเวเดอร์มันสะใจ!! คุ้มๆๆ)

Dark Wader Burger
พุดดิ้งมะม่วง อร่อย หอม ชื่นใจ ไม่หวานมาก

ความพิเศษของ Disneyland Hong Kong นั้นยังไม่หมด เพราะในช่วงค่ำคืนยังมีโชว์ดอกไม้ไฟที่สวยตระการตามากครับ ใครที่อยากจะนั่งดูให้เต็มอิ่ม เต็มตา ผมแนะนำให้มาจองที่กันแต่เนิ่นๆ นะ มุมดีที่สุดก็คือบริเวณกลางวงเวียนตรงถนน Main Street USA ครับ

แล้วถ้าหากคุณมีงบพอจะเข้าพักที่ดิสนีย์แลนด์รีสอร์ทละก็ คุณจะได้พบเมนูพิเศษต้อนรับฮาโลวีน พร้อมกับ Nightmare Goodnight น่ารักๆ แบบที่ผมเจอด้วยนะ

คะแนนรีวิว : สำหรับการตกแต่ง ความสบายของห้องพัก และการบริการ รวมถึงราคา ผมให้ที่นี่ 3.8/5 ดาวครับ (ราคาแอบสูงไปหน่อย แต่การได้นอนในสถานที่ที่ฝันไว้สักครั้ง ผมยอมนะ ^_^)

อีกหนึ่งความพิเศษที่ดิสนีย์แลนด์รีสอร์ทที่ผมปลื้มปริ่มสุดๆ ก็คือการได้ทานมื้อเช้าอร่อยๆ พร้อมกระทบไหล่ตัวละครดังจากดิสนีย์แลนด์ ทั้งมิกกี้เมาส์ มินนี่ พลูโต กุ๊ฟฟี่ ฯลฯ ที่จะแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนเราถึงโต๊ะอาหารเลย ทีนี้จะถ่ายรูป จะกอด จะนั่งมองให้ฟินแค่ไหนก็ตามอัธยาศัยเลยจ้า!!!

ร้านขายของที่ระลึกบริเวณโรงแรม Disneyland Resort
โดนัลด์ดั๊กก็มานะ
เจอแบบนี้ กระเป๋าแฟ่บแน่นอน
ห้องอาหาร Enchanted Garden สำหรับทานอาหารเช้า

อาหารอร่อยนะครับ
ได้ถ่ายภาพกับมิกกี้เมาส์ ดีใจมากกกกก
Minnie น่ารัก

อ้อ… ก่อนกลับออกจากดิสนีย์แลนด์ ผมแนะนำให้แวะหม่ำมื้ออร่อยที่ร้าน Corner Cafe ครับ เป็นร้านอาหารสไตล์ Coca-Cola Vintage เก๋ๆ อยู่บริเวณ Main Street USA หรือถนนสายหลักเวลาออกจากสวนสนุกครับ มีเมนูใหม่ๆ หน้าตาดี๊ดี หลายรายการเลย

ตอนแรกนึกว่ากาแฟ ที่ไหนได้ ซุปเห็ดครับผม
สปาเก็ตตี้ซีฟู๊ด อร่อยกว่าที่คิดเยอะเลย
มิลค์เชคฟักทอง อร่อยมาก ตัวรูปหมีนั่นทานได้นะครับ

แต่ที่ผมแอบชอบใจเป็นพิเศษก็เห็นจะเป็น มิลค์เชคฟักทอง (Pumpkin Milkshake) กับสปาเก็ตตี้ซีฟู๊ด และไอศครีมเซ็ตหลากรสครับผม สำหรับร้าน  Corner Cafe นั้นผมให้คะแนนรสชาติอาหาร การตกแต่ง การบริการ และราคา อยู่ที่ 4/5 ครับ ชอบเป็นการส่วนตัวเลย ^_^

ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับตารางกิจกรรม และโปรโมชั่นต่างๆ ของ Disneyland Hong Kong ได้ที่นี่เลยครับ : https://www.hongkongdisneyland.com/th/

เที่ยวกันเต็มอิ่ม 1 วันเต็มๆ กับ Disneyland Hongkong แต่โปรแกรมความสนุกยังไม่จบนะ

วันที่ 2 : ขึ้นกระเช้านองปิง 360 ไปไหว้พระ ไปเที่ยว 2 หมู่บ้านดังกับ 2 สไตล์ที่แตกต่าง แล้วอิ่มอร่อยกับซีฟู๊ดสไตล์ฮ่องกงที่ภัตตาคารชื่อดัง

พระใหญ่เทียนถาน ตั้งอยู่บนยอดเขาของเกาะลันตา

หลังจากตะลุยดิสนีย์แลนด์จนต่อมเด็กของเราได้ลั๊นลาเต็มที่แล้ว วันที่ 2 ของโปรแกรมตะลุยฮ่องกง ผมขอพาเพื่อนๆ ไปสัมผัสกับ 2 สถานที่น่าสนใจ ที่จะช่วยให้เราเห็นฮ่องกงในอีกมุมที่เราไม่เคยสัมผัสกัน

โดยแผนเที่ยววันนี้เราจะเริ่มจากการขึ้นกระเช้านองปิง 360 องศา (Ngong Ping 360) ที่จะพาเรานั่งกระเช้าข้ามทะเลไปยังเกาะลันตา เพื่อไปเที่ยวหมู่บ้านนองปิง ไปเที่ยววัดโป๋หลิน แล้วไปนมัสการพระใหญ่เทียนถานกันครับ

สนใจซื้อ Ngong Ping 360 Tai O Pass (Include Bus and snack coupon) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

ปกติการจะไปนมัสการพระใหญ่ วัดโป๋หลินนั้น สามารถทำได้ 2 แบบนะครับ 

แบบแรก คือการนั่งรถบัสสาย 23 จากสถานี Tung Chung ซึ่งจะพาเรานั่งรถบัสลัดเลาะไปตามขอบเขื่อน ขอบภูเขาไปเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ซึ่งวิธีการนี้ประหยัดเงินครับ แต่จะไม่ได้ชมวิวอลังการจากบนฟ้าเหมือนการนั่งกระเช้า

แบบที่สอง คือการนั่งกระเช้านองปิง 360 ซึ่งเป็นวิธีการเดินทางด้วยกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปเที่ยวยังด้านบนของเกาะลันตา พร้อมกับการชมวิวอลังการจากบนฟ้า ซึ่งวิธีนี้ใช้เวลาน้อยกว่า เพียง 25 นาที แต่ก็มาพร้อมมูลค่าสมความ Exclusive ล่ะครับ

วิวอลังการ

ไหนๆ ก็หนีงานมาเที่ยวกันแล้วทั้งที การเดินทางวันนี้เราก็จัดเต็มด้วยการนั่งกระเช้านองปิง 360 แบบ Crystal (พื้นใส) ขึ้นไปกันเลยครับ

มองลงไปที่พื้น… ใสมาก เสียวมากๆ

หมายเหตุ : กระเช้านองปิง 360 มีให้เลือกทั้งแบบธรรมดาและแบบพื้นใสนะครับ เราสามารถซื้อบัตรได้ทั้งแบบไป-กลับ หรือแบบขาเดียวก็ได้ตามอัธยาศัย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.np360.com.hk/en/

เมื่อออกจากบริเวณจุดลงกระเช้ามาแล้ว เราก็จะมาถึงหมู่บ้านนองปิง หรือ Ngong Ping Village หมู่บ้านที่ได้รับการออกแบบโดยผสมสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณ (เหมือนในหนังกำลังภายใน) เข้ากับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ดูสวยงามมีเอกลักษณ์ดีครับ

พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกแบ่งเป็นโซนร้านอาหาร โซนบันเทิง และโซนชอปปิ้ง ส่วนตัวผมว่ามันมีสีสัน มีความเป็นจีนสมัยใหม่ เดินแล้วเพลินมากเลยนะ แต่… เฮ้ย!! เรามาไหว้พระนี่หว่า งั้นอย่ามัวแต่เพลินเกินเหตุ ไปไหว้พระกัน

หมู่บ้านนองปิง น่าจะเรียกว่าหมู่บ้านชอปปิ้งมากกว่า

หลังจากตัดใจจากโซนชอปปิ้งได้ ให้เราเดินตรงเข้าไปด้านในครับ จะพบกับซุ้มประตูหินแบบจีนโบราณ ซึ่งเมื่อถึงบริเวณนี้เราก็จะเห็นทางเดินบันไดขึ้นไปนมัสการพระใหญ่กันแล้วครับ

พระใหญ่หรือพระเทียนถานนั้นเป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์กลางแจ้งองค์ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นราวปี 1924 หนัก 250 ตัน สูง 34 เมตร สร้างจากการเชื่อมแผ่นสัมฤทธิ์ถึง 200 แผ่น ใช้เวลาสร้างถึง 12 ปีเลยล่ะครับ

ทีนี้ถ้าอยากขึ้นไปนมัสการองค์พระแบบใกล้ๆ เราก็ต้องออกกำลังกายกันสักนิดนะ เพราะต้องเดินขึ้นบันได 268 ขั้น ซึ่งไม่ใช่ปัญหาของผมแต่อย่างใด มาถึงแล้วทั้งทีต้องไปครับ เดินไปแวะพักไป แวะถ่ายรูปไป เดี๋ยวก็ถึงแหล่ะน่า ซึ่งวิวด้านบนนั้นก็สวยครับ ลมเย็นสบาย

มาถึงจนได้

ตัวองค์พระพุทธรูปนั้นเมื่อได้มองดูระยะใกล้แล้ว ต้องบอกว่าสวยมาก เป็นองค์พระที่ดูอ่อนโยน สง่างาม ดูลุ่มลึก ถ้ามีกำลังขาเพียงพอและยังไม่ชราเกินไป แนะนำให้เดินขึ้นมานะ

เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ที่สวยมากจริงๆ ครับ

เสร็จจากนมัสการพระใหญ่แล้ว ก็ลงบันไดมาด้านล่าง แล้วเดินต่อไปยังด้านในเพื่อไปไหว้พระที่พระอารามโป๋หลินกันครับ ซึ่งพระอารามโป๋หลิน (Polin Monastery) แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนฮ่องกง ถูกเรียกว่าเป็น “โลกของพุทธศาสนิกชนตอนใต้” เป็นพระอารามที่มีพระสงฆ์จำวัดและมีความเคร่งครัดสูง

พระอารามออกแบบได้สวยเลยครับ บริเวณโดยรอบก็ร่มรื่น มีต้นไม้ใหญ่ มีสวนดอกไม้ ให้ความรู้สึกสงบมากๆ เลย

ชาวฮ่องกงเชื่อว่าถ้าเราได้มาไหว้พระขอพรที่วัดนี้แล้วชีวิตจะมีแต่ความสุข ความสำเร็จครับผม

เสร็จจากไหว้พระที่วัดโป๋หลินแล้ว เราก็ไปเที่ยวกันต่อที่หมู่บ้านไท่โอ (Tai O) หมู่บ้านชาวประมงโบราณแห่งเกาะลันตากันครับ เราสามารถนั่งรถบัสจากบริเวณหมู่บ้างนองปิงเพื่อมาเที่ยวที่นี่ได้เลย

รถบัสมาจอดถึงทางเข้าหมู่บ้านเลยครับ

ไท่โอ บ้านบนไม้ค้ำ “มหาชัยแห่งฮ่องกง”

ผมอยากขอขนานนามที่นี่ว่าเป็น “มหาชัยแห่งฮ่องกง” ครับ เพราะไม่ว่าจะมองไปมุมไหน ผมก็แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีชุมชนแบบนี้อยู่ในฮ่องกง ดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการเงิน เศรษฐกิจ และแฟชั่นแห่งเอเชีย

เพราะถ้าดูแค่ภาพ เพื่อนๆ คงนึกว่าผมถ่ายมาจากมหาชัยแน่นอน แต่เปล่าเลย ที่นี่คือหมู่บ้านชาวประมงดั้งเดิมขนานแท้แห่งเกาะฮ่องกง หมู่บ้านไท่โอเป็นที่อยู่ของชาวตังกา ซึ่งเป็นชุมชนชาวประมงที่สร้างบ้านบนไม้ค้ำเหนือที่ราบลุ่มริมทะเลของเกาะลันตา พวกเค้าอาศัยอยู่ที่นี่มาหลายชั่วอายุคนแล้ว

ลักษณะชุมชนที่นี่นั้นจะคล้ายกับชุมชนสองฝั่งคลอง ที่มีสะพานเป็นตัวเชื่อมชุมชนทั้งสองฝั่งเข้าหากัน ภายในชุมชนจะมีร้านขายผลิตภัณฑ์จากทะเล ทั้งแบบตากแห้ง แบบแปรรูปแล้ว หรือจะเป็นแบบทำให้กินสดๆ เลยก็มีครับ

นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบริการเรือนำเที่ยว ที่จะพาเราล่องเรือชมทัศนียภาพของทะเลรอบเกาะลันตา และหากโชคดีเราจะมีโอกาสได้เห็นโลมาสีชมพูด้วยนะ (แต่ผมไม่ได้โชคดีแบบนั้น)

อยากนั่งเรือชมวิว เชิญทางนี้จ้า

หลังจากเดินเล่นถ่ายภาพในหมู่บ้านไท่โอมาสักพักนึง ผมพบว่าวิถีชีวิตของพวกเค้าน่าสนใจ แม้ความเป็นอยู่ที่นี่จะไม่เร่งรีบเหมือนในเมือง แต่ผู้คนก็กระฉับกระเฉงกันดี อาหารทะเลที่ขายนั้นรสชาติดีครับ ส่วนตัวผมโปรดน้ำสมุนไพรสีแดง ที่ชื่ออะไรก็ไม่รู้ 15 เหรียญฮ่องกง รสชาติเปรี้ยวหวาน ฝาดนิดๆ แต่ชุ่มคอชื่นใจเชียวล่ะ

ผู้คนที่ไท่โอนั้นไม่ใช่คนชอบถ่ายภาพนะครับ หากเราอยากถ่ายภาพวิถีชีวิตพวกเค้า ลองเข้าไปพูดคุยทำความรู้จักกันสักหน่อย แล้วค่อยขอถ่ายภาพ แค่นี้เราก็จะได้รอยยิ้มจากผู้คนกลับมาแล้ว (แถมได้ภาพสวยๆ ด้วย)

เท่าที่ทราบข้อมูลจากไกด์นำเที่ยวนั้น พบว่าปัจจุบันนี้ผู้คนในหมู่บ้านส่วนใหญ่จะเป็นวัยกลางคนและผู้สูงอายุ ส่วนวัยรุ่นในหมู่บ้านเลือกจะเข้าไปทำงานในตัวเมืองฮ่องกง เพื่อโอกาสการทำงานที่ดีกว่าครับ

ผมกับเพื่อนๆ ร่วมทริปเดินเล่นอยู่ในหมู่บ้านจนกระทั่งเย็น ก็ได้เวลากลับครับ พวกเราเลือกใช้บริการเรือโดยสาร ซึ่งจะแล่นจากท่าเรือของหมู่บ้านไปลงใกล้กับสถานี Tung Chung เลยครับ ได้ชมวิวยามเย็นบนเรือ ได้บรรยากาศดีเลยทีเดียว เสียแต่ว่า… ลุงคนขับเรือแกห่วงความปลอดภัยของพวกเรา จนไม่ยอมให้ออกไปถ่ายภาพนอกเรือเลย ฮือๆๆๆ

มุมนี้กับแสงเย็นสวยมาก
ท่าเรือที่หมู่บ้านไท่โอยามเย็น

หลังจากที่วันนี้ได้ไปเที่ยวหมู่บ้านชาวประมงสไตล์ฮ่องกงคลาสสิคมาแล้ว มื้อเย็นก็สมควรแก่การไปหาซีฟู๊ดอร่อยๆ ทานกันให้อิ่มเห็นจะดี ดังนั้นมื้อเย็นวันนี้เราจะไปอิ่มอร่อยกันที่ร้าน Lung Tang Restaurant กันครับผม

Lung Tang Restauran ซีฟู๊ดร้านเด็ดแห่งอ่าววิคตอเรีย

หมู่บ้าน “เล่ยหยูมิน (Lei Yue Mun)” เป็นหมู่บ้านที่ขึ้นชื่ออาหารทะเลสดๆ คนในฮ่องกงนิยมมาทานอาหารกัน เนื่องจากแต่ละร้านในหมู่บ้านจะเน้นปรุงอาหารทะเลกันแบบสดใหม่ เรียกว่าหยิบมาจากบ่อกุ้งบ่อปูที่เลี้ยงไว้เลยทีเดียว!!! เพราะคนฮ่องกงมีความเชื่อว่าถ้าทานอาหารทะเลให้สดจริง วัตถุดิบที่นำมาปรุงนั้นต้องยัง “มีชีวิตอยู่” ครับ

แล้วเมนูอะไรที่จะอร่อยเลิศควรค่าให้ลิ้มลองละครับ ถ้าไม่ใช่… กุ้งมังกร หอยงวงช้าง หอยเป๋าฮื้อ ปลาหมึก กั้งทะเล หอยเชลล์ กุ้งมังกร ปู ฯลฯ ซึ่งร้านที่จะพาไปทานนั้น ชื่อร้าน Lung Tang Restaurant ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านอาหารจีนซีฟู๊ดชื่อดังที่อยู่ในหมู่บ้าน เล่ยหยูมิน ครับ

เนื้อหาต่อจากนี้ไป ไม่แนะนำให้ดูช่วงก่อนนอนนะครับ ทำใจดีๆ นะ ผมเตือนคุณแล้ว 55555 ไปดูกันดีกว่า ว่ามีอะไรอร่อยๆ ให้ทานกันบ้าง

เจ๊เจ้าของร้าน เอาปูมาโชว์ ยืนยันความสด
ตัวใหญ่จริงๆ นะ
วันนี้คนแน่นร้านเลยล่ะ

จานแรก : ซาชิมิหอยงวงช้าง ผมเชื่อว่าทางร้านคงต้องการให้เราทานด้วยความสะดวกใจครับ เพราะหอยงวงช้างตอนยังเป็นๆ ช่างดูแล้วเหมือนกับ…. งวงช้างเสียจริงๆ (ดูภาพประกอบเอานะ)

สำหรับเมนูนี้นั้นทางร้านจะสไลด์บางๆ มาให้ทานกันสดๆ กับน้ำจิ้มพร้อมวาซาบิครับ ขอบอกว่าสดจริงๆ กรอบ อร่อย ไม่คาว รสชาติดีทีเดียว

หากใครไม่ชอบทานสด ทางร้านมีหม้อต้มพร้อมน้ำซุบมาให้นะครับ ทานได้สะดวก ไม่ต้องห่วง

หอยงวงช้างฉบับเต็ม ดูงวงสิครับ 555
มาพร้อมน้ำจิ้มและวาซาบิ

จานสอง : ปลาหมึกชุบแป้งทอด ที่อร่อยและทานเพลินมากๆ เนื้อปลาหมึกนุ่มหนึบในขณะที่แป้งก็กรอบกำลังดีไม่อมน้ำมัน ส่วนตัวผมชอบจานนี้มากเลย จะทานกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดหรือทานกับซอสมะเชือเทศก็รสเลิศครับ

จานสาม : กุ้งสดลวก รายการนี้มันพิเศษตรงที่เน้นความอร่อยสดของวัตถุดิบจริงๆ เลย เพราะทางร้านนำกุ้งสดๆ ลงไปลวกในน้ำร้อน (ฟังดูโหดจริงๆ ครับ แต่ที่นี่เค้าทานกันแบบนี้จริงๆ) กุ้งขนาดกำลังดี สีสวย แกะง่าย ผมจำใจทานไปหลายตัวเลย ฮือๆ

จานสี่ : หอยเชลล์อบเนยกระเทียมโรยด้วยวุ้นเส้น หอยเชลล์สดอร่อยที่อบเนยกับกระเทียมมาหอมๆ ครับ เมนูนี้อร่อย แต่จัดว่ายังเฉยๆ สำหรับผมนะ เคยทานที่หัวหินอร่อยกว่านี้ อาจเพราะในไทยเค้าปรุงได้จัดจ้านกว่า

จานห้า : หอยเป๋าฮื้อนึ่งซีอิ๊ว เมนูนี้คือหนึ่งในรายการที่ผมเฝ้ารอ บ้านเรานี่ตัวละแพ๊งแพง แต่มาที่นี่เค้าจัดให้ทานกันคนละตัวเลยครับ (ผมได้ทาน 2 ตัว เพราะมีน้องคนนึงสละสิทธิ์เพราะแพ้อาหารทะเล ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้นะครับ)

ถามว่าอร่อยไหม ตอบเลยว่ามากกกก…กกก หอยเป๋าฮื้อตัวใหญ่ สดเด้งสู้ลิ้น หอม อร่อย เอาสเต็กมาแลกก็ไม่ยอม

ตัวใหญ่มากครับ
ตักให้ดูเทียบกับช้อนเลย
โปรดดูแววตาของน้องนิเสียก่อน

จานหก : ปลาเก๋านึ่งซีอิ๊ว (ไซส์ยักษ์) เมนูนี้ตอนที่พนักงานเสิร์ฟยกมา ผมนี่แอบอุทานเลยว่า “เฮ้ย! ปลาเก๋ายักษ์” เพราะปลาตัวใหญ่มาก นึ่งมาสดๆ เนื้อหวานไม่คาวเลย แค่เอาช้อนหรือส้อมไปกดเบาๆ เนื้อก็หลุดติดช้อนมาเลยครับ

ส่วนตัวนั้นไม่บ่อยที่จะได้ทานปลาเก๋านึ่งซีอิ๊วที่รสชาติดีแบบนี้ ต้องยอมรับในฝีมือพ่อครัว และความสดของวัตถุดิบจริงๆ

จานเจ็ด : ข้าวผัดปลาเค็ม ผมก็ไม่รู้ว่าเค้าส่งเมนูนี้มาตัดเลี่ยนหรือมาตัดกำลัง แต่พูดเลยว่าเป็นข้าวผัดปลาเค็มที่อร่อย ผัดแห้งแต่ไม่ร่วนจนแข็ง ศาสตร์การผัดข้าวผัดของคนจีนนั้นเหนือชั้นอยู่แล้ว

ยิ่งมาเป็นร้านอาหารในฮ่องกงซึ่งขึ้นชื่อเรื่องของอร่อย ข้าวผัดปลาเค็มจานนี้ผมถึงกับต้องทานเบิ้ลครับ แฮะๆ

จานแปด : กุ้งมังกรผัดเนย อีกหนึ่งเมนูที่ผมนั่งทานไม่หยุด เพราะทางร้านผัดกุ้งมังกรกับเนยและผักได้หอมมาก ไม่รู้สึกเลี่ยนเลย ที่สำคัญคือกุ้งมังกรนั้นเนื้อแน่นมาก บางคนที่ทานร่วมโต๊ะกันถึงกับบ่นว่าอิ่มทีเดียวตอนเจอเมนูนี้

ส่วนผมนั้นยอมอ้วนครับ จัดเต็มเลย ส่วนตัวผมแนะนำให้รีบทานนะครับ เพราะหากเย็นแล้วอาจรู้สึกไม่อร่อยเหมือนตอนร้อนๆ

ที่ร้านจะให้คีมหนีบมาด้วย เผื่อกระเทาะเปลือก

จานเก้า : คะน้าน้ำมันหอย ตอนแรกที่เสิร์ฟเมนูนี้ผมคิดว่าคงจะตบท้ายรายการอาหารด้วยผัดผักแหงๆ (แต่ผมคิดผิดนะ เมนูเด็ดรออยู่หลังจากนี้) สำหรับคะน้าน้ำมันหอยจานนี้อร่อยครับ แต่ไม่ได้พิเศษกว่าที่เคยทานไปสักเท่าไหร่

จานสิบ : กั้งทะเลผัดพริกกระเทียม ตอนที่ไปถึงร้านนี้นั้นพี่ที่ไปด้วยกันบอกว่าเมนูกั้งร้านนี้เด็ดมาก ผมก็นั่งรอๆ ไม่เห็นมาสักที ตอนแรกแอบคิดว่าคงจะไม่มีมาเสิร์ฟ ที่ไหนได้ มาตอนที่เกือบจะอิ่มแล้ว แต่… พอผมได้ทานคำแรกไปเท่านั้นล่ะ อาการอิ่มดูเหมือนจะหายไปในทันที!!

กั้งทะเลเนื้อแน๊นแน่น ผัดพริกกับกระเทียมจนหอม เนื้อกั้งหวานตัดกับรสเค็มและเผ็ดได้อย่างดี จานนี้เรียกว่าพระเอกสำหรับผมเลย ทานไม่หยุดจนคำสุดท้ายเลย

ชอบเมนูนี้ที่สุด

จานสิบเอ็ด : ปูทะเลทอดกระเทียม ผมสารภาพเลยครับว่าไม่คิดว่าจะมีถึง 11 จาน ก่อนจะมาถึงจานนี้ผมทานกุ้งมังกร ทานกั้ง และเมนูอื่นๆ มาจนแน่นท้องซะแล้ว สปีดของเพื่อนคนอื่นๆ ก็ตกลงแล้วเช่นกัน

แต่เพื่อจะนำรสชาติกลับมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังได้ ผมเลยฮึดครับ และผลของความฮึดก็ทำให้ผมได้รู้ว่าจานสุดท้ายนี่ก็อร่อยจริง รสเผ็ดนิดๆ เค็มหน่อยๆ รวมถึงความหอมของกระเทียมที่ทอดมาจนกรอบ ทำให้ความอิ่มของผมหายไปอีกรอบเลยทีเดียว

เนื้อปูนั้นสดหวาน เด้งสู้ลิ้นเลยทีเดียว ทางร้านทอดเนื้อปูมาจนกรอบมาก กรอบขนาดที่ว่าทานเปลือกได้เลยล่ะครับ

คืนนั้นผมและเพื่อนๆ ทานอาหารกันอย่างอิ่มหนำ เรากลับจากร้านมาขึ้นรถด้วยความอิ่มและง่วง (เพราะหนังท้องตึง หนังตาเลยหย่อน) แต่โปรแกรมเรายังไม่จบ เพราะในวันที่ 3 เราจะพาเพื่อนๆ ไปไหว้พระที่วัดกังหันหรือวัดแชกงหมิว เสร็จแล้วจะพาไปปิดท้ายให้สนุกสุดใจ ที่ Ocean Park Hong Kong กันครับ

วันที่ 3 ไหว้พระวัดกังหันแล้วไปตะลุย Ocean Park พาไปกินมื้อกลางวันกับนกเพนกวิน

กิจกรรมสามัญประจำทริปฮ่องกงที่ไม่ควรละเลย ก็คือการมาไหว้พระขอพรเพื่อเสริมสิริมงคลให้ชีวิต เกาะฮ่องกงนั้นมีวัดจีนและศาสนสถานสำคัญอยู่หลายแห่งที่คนจีน คนฮ่องกงและคนไทยเชื้อสายจีนนิยมมากราบไหว้ หนึ่งในนั้นคือวัดกังหันหรือวัดแชกงหมิวนี่ล่ะครับ

วัดกังหัน หรือ วัดแชกงหมิว (Che Kung Temple) สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงท่านแชกง นักรบผู้ปกป้องจักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งวงค์ซ่ง ให้หนีมายัง Sai Kung หรือ New Territories ในปัจจุบันได้อย่างปลอดภัย

รวมถึงเมื่อ 300 ปีก่อน มีเรื่องเล่ากันว่า มีโจรสลัดกลุ่มใหญ่ต้องการจะมาปล้นหมู่บ้าน Sha Tin ทำให้ประชาชนต้องอพยพหนี

ภาพบริเวณภายในวัด
ภายในวัดจะมีกังหันลมประดับอยู่ตามทางเดิน
มีขายของที่ระลึกและเครื่องรางไว้ให้เช่าบูชา

แต่ระหว่างทางสตรีนางหนึ่งได้พบกับชายชราผู้มีเครายาวสีขาว ลักษณะน่าเกรงขาม ชายชราบอกให้สตรีนางนั้นไปบอกชาวบ้านให้กลับไปยังหมู่บ้าน แล้วพับกังหันกระดาษให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้นำมาเสียบไว้หน้าหมู่บ้าน ปรากฏว่าโจรสลัดกลุ่มนั้นกลับเดินผ่านหมู่บ้านนี้ไปโดยไม่ได้เข้ามาปล้นสะดมแต่อย่างใด นับเป็นความอัศจรรย์ใจต่อชาวบ้านเป็นอย่างมาก ชาวบ้านเชื่อว่าชายชราเคราขาวผู้นั้นก็คือท่านแชกงนี่เอง

รูปปั้นสีทองขนาดใหญ่ของท่านแชกง

ต่อมาชาวบ้านจึงร่วมกันสร้างวัดกังหันขึ้นเพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของท่านแชกงสืบมาจนถึงปัจจุบัน ต่อมาในปี ค.ศ. 1993 ได้มีการบูรณะวัดแห่งนี้ขึ้นใหม่บนเนื้อที่กว่า 50,000 ตารางฟุต ภายในมีรูปปั้นขนาดใหญ่ของท่านแชกงเป็นสีทองเหลืองอร่าม ข้างซ้าย และ ขวา จะมีกังหันสีทอง

มีความเชื่อกันว่า ใครได้หมุนกังหันตามเข็มนาฬิกา 3 รอบ จะได้นำพาสิ่งที่ดี โชคลาภเข้าหาตัว และ ช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีทั้งหลายออกไป

เนื่องจากมีคนมาสักการะจำนวนมาก จึงให้จุดธูปด้านนอก
หมุนกังหัน 3 รอบ เพื่อนำสิ่งดีๆ เข้าสู่ตัว
กังหันสีทองที่ต้องหมุนตามเข็มนาฬิกา 3 รอบ
ประชาชนผู้ศรัทธาต่างหลั่งไหลกันมาอย่างต่อเนื่อง

วัดกังหันเปิดให้สักการะขอพร ได้ตั้งแต่ 7.00 – 18.00 น. ครับ สำหรับการเดินทางมายังวัดกังหันนั้นผมขออนุญาตเอาลิงค์ของลุงไก่กับป้าเด้งมาลงไว้ให้เพื่อนๆ ใช้อ้างอิงการเดินทางกันครับ อ่านได้ที่นี่เลย วิธีการเดินทางไปยังวัดกังหัน

เสร็จจากไว้พระขอพรแล้ว ก็ได้เวลาแห่งความสนุกส่งท้ายทริปกันแล้วครับ ถึงตรงนี้ถ้าถามว่าคนไทยมักจะมาทำอะไรที่ฮ่องกง เรามักได้คำตอบว่ามากิน มาชอปปิ้ง และมาไหว้พระ แน่นอนครับเพราะนี่คือสิ่งที่รัฐบาลฮ่องกงโปรโมทสู่นักท่องเที่ยวมานานแล้ว

แต่อันที่จริงแล้วฮ่องกงยังมีกิจกรรมอีกหลายรูปแบบที่เราอาจยังไม่เคยสัมผัส หนึ่งในนั้นคือการเที่ยวสวนสนุกครับ ตอนเริ่มทริปเราได้เที่ยว Disneyland Hong Kong ซึ่งเป็นสวนสนุกระดับโลกกันไปแล้ว

ต่อไปนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยว Ocean Park Hong Kong สวนสนุกชื่อดัง ดั้งเดิม (แต่ไม่โบราณ) ของฮ่องกงกันครับ (ชอบจริงๆ เที่ยวสวนสนุก) ไปดูกันว่าจะสู้ Disneyland ได้หรือไม่!?

Welcome to Ocean Park

โอเชี่ยนพาร์คเป็นสวนสนุกของเกาะฮ่องกง ตั้งอยู่บริเวณทางตอนใต้ของเกาะ มีพื้นที่ประมาณ 91.5 แฮคเตอร์ แบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆ ได้แก่ Waterfront (อยู่ด้านล่างเนินเขา) และ Summit (อยู่ด้านบนเนินเขา) ทั้ง 2 โซนเชื่อมต่อกันด้วยกระเช้าลอยฟ้าและอุโมงค์รถไฟ

ที่นี่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1977 ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้ว่าการเกาะฮ่องกงในสมัยนั้น (Sir Murray MacLehose) โดยได้งบประมาณการลงทุน 150 ล้านเหรียญฮ่องกงจาก Hong Kong Jockey Club และได้รับการที่ดินโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายจากรัฐบาลฮ่องกง

ต่อมาปี 2005 โอเชี่ยนพาร์คได้เพิ่มเงินลงทุนอีก 5,000 ล้านเหรียญฮ่องกง เพื่อพัฒนาสวนสนุกเก่าแก่แห่งนี้ให้กลายเป็น “สวนสัตว์ทะเลและสวนสนุกระดับโลก”

จากที่ได้กล่าวมาข้างต้นแสดงให้เห็นชัดเจนครับ ว่าโอเชี่ยนพาร์คตอนนี้กำลังลุกขึ้นท้าชนกับดิสนีย์แลนด์อย่างเต็มตัว เมื่อเกิดการแข่งขันระหว่าง 2 สวนสนุกใหญ่ ประโยชน์ก็จะตกอยู่กับนักท่องเที่ยวนี่ล่ะครับ ดีแค่ไหนลองมาดูกัน

สนใจซื้อ บัตรเข้าสวนสนุกโอเชี่ยนปาร์ค ฮ่องกง (Ocean Park Hong Kong) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

เมื่อเริ่มเข้ามายังโอเชี่ยนพาร์ค สิ่งที่ผมพบคือสวนสนุกแห่งนี้มีตัวตนที่ชัดเจนมาก และผมดันชอบมันซะด้วย เนื่องจากโอเชี่ยนพาร์คได้มีการออกแบบตัวละครต่างๆ ในแนวทางของตัวเอง

บรรยากาศภายในก็ร่มรื่น มีร้านขายของที่ระลึก มีลานน้ำพุ มีส่วนจัดแสดงสัตว์น้ำขนาดใหญ่มากๆๆๆ มีสวนสนุก มีร้านอาหาร ซึ่งแต่ละอย่างถูกออกแบบ จัดทำด้วยความจริงจังจนรู้สึกประทับใจมากทีเดียว

ออกแบบตัวการ์ตูนได้เก๋จริงๆ
บริเวณช่องจำหน่ายตั๋ว

โซนแรกที่ได้เดินเข้ามาสัมผัสจะเป็นโซนที่เรียกว่า Aqua City ซึ่งอยู่บริเวณ Waterfront ครับ ในโซนนี้จะเป็นโดมจัดแสดงสัตว์น้ำสายพันธุ์ต่างๆ จำนวนกว่า 5,000 ตัว จาก 400 สปีชีส์ พร้อมทางเดินในอุโมงค์ใต้น้ำให้เราได้เห็นฝูงปลาแหวกว่ายอยู่เหนือศีรษะเรา เป็นภาพที่สงบ สวยงาม ตื่นตาตื่นใจมากๆๆ

ได้เห็นฝูงปลาแหวกว่ายเหนือหัวเราแบบนี้ ดีจังเลย
อุโมงค์ทางเดินใต้ Aqua City
อันนี้คือแทงค์รวมสัตว์น้ำขนาดใหญ่

เสร็จจากโซน Aqua City แล้ว เราก็มาดูหมีแพนด้ากันที่ Giant Panda Adventure ครับ ภายในโซนนี้จัดเป็นโดมปรับอากาศสำหรับจัดแสดงแดนด้าและแพนด้าแดง ใครชื่นชอบในความน่าเอ็นดูของแพนด้าแล้วละก็ ไม่ควรพลาดโซนนี้ครับ

ผมเข้าไปยืนดูอยู่นาน พบว่ามันกินกับนอนแค่นั้นจริงๆ 55555

แพนด้านเป็นสัตว์ที่ชอบกิน
และแพนด้านเป็นสัตว์ที่ชอบนอน
อันนี้แพนด้าแดงครับ

ต่อไปเราจะขึ้นไปเที่ยวโซนด้านบนเนินเขา ซึ่งเรียกว่าโซน Summit ครับ การจะขึ้นไปยังโซน Summit ทำได้สองทางคือกระเช้าลอยฟ้าและทางอุโมงค์รถไฟความเร็วสูง ซึ่งวันที่ไปนั้นกระเช้าลอยฟ้าปิดซ่อมบำรุงครับ (อดเห็นวิวสวยๆ เลย) เราเลยใช้บริการอุโมงค์รถไฟความเร็วสูง Ocean Express แทน

ด้านหน้าทางขึ้น Ocean Express จากด้าน Waterfront
ภายในจำลองบรรยากาศเหมือนในเรือดำน้ำ ด้านบนเป็นจอ LED ฉายภาพใต้น้ำ
ตัวรถไฟ Ocean Express

เมื่อรถไฟขึ้นมาถึงด้านบนของโซน Summit เราก็จะพบกับสวนสนุกอีกโซนที่ต่างจากด้านล่าง เพราะทางด้านบนนี้จะเหมือนเป็นโซนไฮไลท์ของโอเชี่ยนพาร์คเลย ที่นี่มีเครื่องเล่นสวนสนุกแบบหวาดเสียวๆ หลายอย่างเลย

ผมว่ามันสนุกกว่าดิสนีย์แลนด์ด้วยซ้ำไป มีทั้งรถไฟเหาะ ชิงช้าสวรรค์ ทั้ง Tower Drop ฯลฯ ใครอยากเล่นให้ครบๆ แนะนำให้มาตั้งแต่เช้าเลยนะ เยอะจริงๆ

ด้านบนเป็นโซนรวมเครื่องเล่น
รถไฟเหาะก็มีนะ
อันนี้มันมาก Abyss
เครื่องเล่นเยอะมาก ดูภาพมุมสูงเอาเลย

ก่อนจะไปสนุกกับเครื่องเล่นอื่นๆ ตอนนี้ขอพาไปทานมื้อกลางวันกันที่ร้านอาหาร Tuxedos Restaurant ก่อนครับ ที่นี่เค้ามีเพนกวินเป็นจุดขายนะ ป่ะไปหม่ำมื้อกลางวันกับเพนกวินกัน

ตามชื่อเลยครับ นกเพนกวินนั้นมีสีดำขาว ลวดลายบนตัวดูแล้วคล้ายคนใส่ Tuxedo (ใส่สูท) ก็ไม่ปาน ทางสวนสนุกจึงทำห้องอาหารนี้โดยใช้คอนเซ็ปท์ Enjoy eating, enjoy Penguin คือจำลองห้องอาหารให้เหมือนอยู่ในถ้ำน้ำแข็งไปพร้อมกับดูเจ้าฝูงนกเพนกวินดำผุดดำว่ายอยู่ในตู้กระจก จากอาหารมื้อปกติ ก็เลยทวีความพิเศษขึ้นมาอีกเยอะเลย

เด็กๆ คึกคักมาก
ดูแล้วเหมือนคนใส่สูท
มื้อง่ายๆ แต่อิ่มจนจุก
ถาดนี้ Tuxedo Pizza

รีวิวความพึงพอใจสำหรับรสชาติอาหาร 3.5/5 (รสชาติดีแต่ไม่ได้พิเศษ) การบริการ 3.5/5 การตกแต่งและการนำเสนอ 5/5 (ให้คะแนนเพนกวินและการตกแต่งร้านเป็นถ้ำน้ำแข็งได้หนาวมาก)

เสร็จจากมื้อกลางวันของเรา ก็ได้เวลาไปให้อาหารปลาฉลามกันแล้วครับผม ทางสวนสนุกจัดโซนนี้ไว้เป็นไฮไลท์เลย เพราะโซน Shark Mystique นั้นเป็นโซนที่ผมถือว่าให้ความรู้เกี่ยวกับฉลามได้ดีมาก

ช่วงนี้ทางโอเชี่ยนพาร์คกำลังรณรงค์ให้คนลดการฆ่าฉลาม ไม่ว่าจะเพื่อมาเป็นอาหาร (หูฉลาม) หรือเพื่อนำอวัยวะมาเป็นของที่ระลึก เค้าแนะนำว่าถ้าจะสะสมของเกี่ยวกับฉลาม ให้สะสมฟันฉลามแทนจ้า เพราะฉลามมีฟันเยอะ และจะผลัดฟันใหม่ทุกๆ 2 สัปดาห์

ตกแต่งคล้ายหนังเรื่อง Jaws แต่ดูไปดูมาคล้ายหมู่บ้านไท่โอ
ทีมนี้เค้าแอ๊คติ้งระดับมิวสิคคัล

นอกจากนี้หากเราต้องการเข้าไปให้อาหารปลาฉลาม ปลากระเบน ที่อยู่ภายในบ่อ ก็สามารถทำได้นะครับ (ต้องจ่ายเงินเพิ่มหน่อยนะ) ผมเองได้ไปทดลองให้อาหารปลาฉลามมาแล้วครับ น่าเสียดายที่เค้าห้ามถ่ายภาพด้านใน รวมถึงห้ามนำกล้องเข้าไปถ่ายภาพตอนให้อาหารปลา เลยขอเอามาเล่าให้ฟังแบบคร่าวๆ ดังนี้

  1. ทุกคนจะต้องเก็บอุปกรณ์ที่อาจเกิดอันตรายต่อสัตว์ไว้ในล็อคเกอร์ที่เตรียมไว้ให้ นาฬิกา มือถือ แหวน ต่างหู กล้อง เก็บหมด
  2. ล้างมือและแขนให้สะอาดด้วยสบู่ฆ่าเชื้อ
  3. ฟังเจ้าหน้าที่อธิบายวิธีการให้อาหาร
  4. เจ้าหน้าที่พาเข้าไปบริเวณระเบียงที่เตรียมไว้ โดยจะมีกระป๋องใส่ปลาหมึกกล้วยเตรียมไว้รอแล้ว (ปลาหมึกตายแล้วนะ)
  5. อุปกรณ์ให้อาหารคือก้านอลูมิเนียมขนาดยาว ตรงปลายจะมีแท่งพลาสติกอย่างอ่อนเอาไว้เสียบทะลุตัวปลาหมึก
  6. เจ้าหน้าที่สาธิตวิธีการเสียบแท่งพลาสติกเข้ากับปลาหมึกกล้วย และสาธิตการป้อนอาหาร
  7. เชิญสนุกกับการป้อนอาหารฉลามได้เลยจ้า

หลังจากให้อาหารปลาจนอิ่มแล้ว (ดีนะที่ผมไม่ตกลงไป ไม่งั้นฉลามคงอิ่มไปเป็นเดือน) ก็ได้เวลาเดินทัวร์ Shark Mystique แล้วครับ อย่างที่บอกว่าเค้าทำระบบจัดแสดงฉลามไว้ดีมากๆ ดูอย่างในภาพด้านล่างครับ จะเป็นการใช้จอ LED Touch Screen แบบโปร่งแสง มาซ้อนทับโมเดลฉลาม จากนั้นก็ให้เราศึกษาระบบต่างๆ ในตัวฉลามได้ เก๋กู๊ดจริงๆ

เสร็จจากดูฉลาม ก็เป็นเวลาแห่งการดูโชว์โลมาที่ Ocean Park Theater อยากให้ได้ชมกันเพราะน่ารักมาก เสร็จแล้วก็ไปเที่ยวชมส่วนต่างๆ ของสวนสนุกครับ มีทั้งไปดูวิวมุมสูง 360 องศาที่ Ocean Park Tower ผมลงภาพรวมๆ ให้ชมเลยนะครับ

ก่อนเริ่มโชว์โลมา มีโชว์แมวน้ำก่อน น่ารักๆ
ทำโชว์สนุกดี โลมาจะน่ารักไปไหนเนี่ย
มาชมวิวมุมสูง 360 องศาที่ Ocean Park Tower
ที่นั่งด้านในเป็นแบบวงกลม กระจกใสมากๆ
วิวโอเชี่ยนปาร์คจากมุมบน ด้านล่างเป็นที่แสดงโชว์โลมา
มองเห็นวิวอ่าว ส่วนที่ก่อสร้างอยู่คือนั่นคือสวนน้ำ Ocean Park ที่จะเปิดในอนาคต

ตอนนี้ที่โอเชี่ยนปาร์คเค้าเปิดโซนใหม่ Adventures in Australia โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลออสเตรเลีย ส่งสัตว์น่ารักๆ จากเมืองออสซี่มาให้ได้ดูกันใกล้ๆ ไม่ต้องบินไปไกลถึงออสเตรเลียจ้า

ส่วนจัดแสดงนั้นทำได้ดี เราจะต้องดู VTR นำเสนอประเทศออสเตรเลียก่อน แล้วจึงเข้ามาชมในส่วนนี้นะ

หมี Koala กินกับนอน แหม… หมีนี่เหมือนกันหมด
ตัว Wallaby เผือก
ตัว Wallaby

อย่างที่บอกว่าโอเชี่ยนปาร์คนั้นกว้างมาก มีส่วนจัดแสดงสัตว์ทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำ มีสวนสนุก มีมุมถ่ายภาพ มีร้านอาหาร ฯลฯ การจะมาเที่ยวที่โอเชี่ยนปาร์ค ผมว่าวันเดียวก็เที่ยวไม่ครบ ถ้าชอบสวนสนุก ผมว่ามีเวลาสัก 2 วันเก็บได้หมดแน่นอน

โซนฮ่องกงยุคคลาสสิค
มาถ่ายภาพก็เก๋นะ
จับน้องๆ ร่วมทริปมาเป็นแบบ
แค่โซนฮ่องกงคลาสสิค ผมก็ถ่ายไปหลายสิบรูปละ

สนใจซื้อ บัตรเข้าสวนน้ำวอเตอร์เวิลด์ โอเชี่ยนปาร์ค (Water World Ocean Park) ในฮ่องกง ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

ผมใช้เวลาเกือบ 1 วันเต็มๆ ที่โอเชี่ยนพาร์ค ทั้งเดิน กิน ถ่ายภาพ วิ่งเล่น สนุกสนานมาก คำถามที่ถามตัวเองไปตอนต้น ว่าโอเชี่ยนพาร์คจะสู้ดิสนีย์แลนด์ได้ไหม

ผมตอบ ณ ตอนนี้เลยครับว่าเป็นมวยที่ชกกันมันแน่นอน ต่างฝ่ายต่างมีอาวุธของตัวเองที่ไม่ด้อยกว่ากัน แต่ถ้าถามผมว่าผมให้ใจกับอะไร ณ ตอนนี้ผมอยากกลับไปโอเชี่ยนพาร์คอีกรอบ แล้วเที่ยวให้ทั่วๆ เลย

ใครใจดีอยากเป็นสปอนเซอร์ให้ติดต่อได้หลังไมค์เลยนะ รอบนี้จะรีวิวให้ละเอียดยิบเลย 5555555

ผ่านไปแล้วครับทริป 3 วัน 2 คืน เต็มๆ กับฮ่องกงในมุมมองใหม่ๆ ที่ผมพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวกัน บางคนอาจบอกว่าเฮ้ย! เคยไปมาแล้ว บางคนอาจจะบอกว่าถูกใจ หลากหลายความเห็นผมน้อมรับครับ

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “ทุกครั้งที่ออกเดินทาง คุณต้องได้อะไรกลับไปเต็มเติมชีวิต” ผมมาเที่ยวฮ่องกงหลายครั้ง และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ทำให้ผมมองเห็นฮ่องกงในมุมใหม่ โดยไม่ต้องใช้เวลาไปกับการชอปปิ้งและตระเวนหาของกินเหมือนครั้งก่อนๆ ที่เคยมา

แนะนำโรงแรมในฮ่องกง 

Harbour Plaza 8 Degree Hotel, Hong Kong เป็นโรงแรมหรูระดับ 4 ดาว ในเครือ Harbour Plaza Hotels & Resorts หนึ่งในเครือโรงแรมดังระดับแถวหน้าของฮ่องกง ขึ้นชื่อเรื่องความหรูหราอยู่สบาย พร้อมการบริการอย่างใส่ใจ เพื่อให้ผู้เข้าพักรู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่จ่าย ห้องพักกว้างขวาง บริการอย่างใส่ใจ ในราคาจับต้องได้ แถมได้รางวัลการันตีเพียบ

อ่านรีวิว : Harbour Plaza 8 Degree Hotel, Hong Kong ที่นี่มีทั้งดีกรีและความใส่ใจ

จองที่พักออนไลน์เพื่อสนับสนุน “หนีงานไปเที่ยว”

จองออนไลน์ผ่าน Booking.com ได้ประโยชน์ 2 ต่อ

  • คุณจะได้ดีลราคาพิเศษในทุกการจอง ได้สิทธิประโยชน์ในฐานะสมาชิก Booking.com
  • “หนีงานไปเที่ยว” จะได้ % ส่วนแบ่งจากทุกการจอง เพื่อให้เราสองได้พัฒนา Blog ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

สนใจจองห้องพักที่ Harbour Plaza 8 Degree Hotel คลิกที่นี่

แนะนำกิจกรรมที่น่าสนใจในฮ่องกง (Hong Kong)

สนใจซื้อ บัตรเข้าสวนสนุกฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

สนใจซื้อ บัตรโดยสารกระเช้าลอยฟ้านองปิง 360 (Ngong Ping 360) ในฮ่องกง [ช่องทางที่กำหนดโดย Klook] ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

สนใจซื้อ Ngong Ping 360 Tai O Pass (Include Bus and snack coupon) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

สนใจซื้อ บัตรเข้าสวนสนุกโอเชี่ยนปาร์ค ฮ่องกง (Ocean Park Hong Kong) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

สนใจซื้อ บัตรเข้าสวนน้ำวอเตอร์เวิลด์ โอเชี่ยนปาร์ค (Water World Ocean Park) ในฮ่องกง ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

สนใจซื้อ บัตร Octopus พร้อมเงินในบัตร 50 ดอลลาร์ฮ่องกง (รับบัตรที่สนามบินฮ่องกง (HKG)) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

สนใจซื้อ บัตรชมวิวที่หอชมวิวสกาย100 (Sky100) ในฮ่องกง พร้อมชมนิทรรศการ “5G แล็บ” ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

สนใจซื้อ บัตรโดยสารรถรางพีคแทรม และบัตรเข้าจุดชมวิวสกายเทอร์เรซ 428 ในฮ่องกง ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

“เพราะการเดินทางทำให้โลกใบเดิมของเรากว้างขึ้น” ประโยคนี้ทำให้ผมและแฟนจับมือกันออกเดินทางไปเรียนรู้โลกกว้าง จนเป็นที่มาของเพจ “หนีงานไปเที่ยว” และ Blog ที่ชื่อ www.ibreak2travel.com อ่านมาถึงบรรทัดนี้เราอยากบอกว่า… 

ย้อนกลับไปหลายปีก่อนตอนรู้จักกันใหม่ๆ “อีพริ้ง คือ นักท่องเที่ยวที่ต้องทำงานประจำ ส่วนยัยหมวยติ๊ดตี่ คือ คนทำงานประจำที่อยากเที่ยวบ้าง” เราต่างกันเหลือเกิน แต่เมื่อมาคบกัน 2 ความต่างก็หาจุดลงตัวจนทำให้เรามาถึงจุดที่อยากทำเพจพาเพื่อนๆ คนทำงานไปเที่ยวกับพวกเราบ้าง ถ้าเราไปได้ ใครๆ ก็ไปแบบเราได้แน่นอน

Exit mobile version