Site icon ibreak2travel (หนีงานไปเที่ยว)

10 ข้อควรรู้ จะไปเที่ยวโคเปนเฮเกน ต้องทำยังไง!?

จุดหมายปลายทางของเราสองคนในทริปนี้ คือ ไปล่าแสงเหนือที่ไอซ์แลนด์ แต่ไม่มีสายการบินตรงไปลงที่ไอซ์แลนด์เลย เราจึงเลือกแวะเที่ยวเมืองเสน่ห์น่ารักๆ อย่าง “Copenhagen (โคเปนเฮเกน) ประเทศเดนมาร์ก” รวม 3 วัน 2 คืน ก่อนบินไปประเทศไอซ์แลนด์ เมืองนี้ใครๆ ก็สมญานามว่าเป็น “เมืองที่มีความสุขที่สุดในโลก” และ “เมืองแห่งรถจักรยานอยู่ในทุกที่” ตามเราไปเดินเล่นใน “โคเปนเฮเกน” เมืองแห่งความสุขว่าจะจริงแบบที่เค้าพูดๆ กันไหมคะ

Superkilen Park สวนสาธารณะโคตรพีค!!
ผู้คนมีความสุขกับการเล่นดนตรี ยิ่งเพิ่มอรรถรสในการเดินชมเมืองให้นักท่องเที่ยวแบบเราๆ ให้ยิ่งมีความสุขจัง

รีวิวที่เกี่ยวข้อง

งั้นเรามาเตรียมตัวก่อนไปเที่ยวโคเปนเฮเกน… เมืองนี่แหละที่ทำให้เรา 2 คนตกหลุมรักเข้าอย่างจัง

1. เดินทางไปโคเปนเฮเกนยังไง ?

ทริปนี้เราจองตั๋วโปรฯ TG (Thai Airways) และ FI (Icelandair) บินสบาย ตรงเวลา นั่ง “การบินไทย” ไปต่อ “IcelandAir” นั่งสบายๆ กับประสบการณ์ที่ Smooth as Silk ดีจริงๆ เราใช้บริการจองตั๋วเครื่องบินทั้ง 2 สายการบินจาก BuyNow ไม่ผิดหวัง!! คุ้มและดีค่ะ!! คิดถึง Iceland, ยุโรป, เกาหลีใต้ ✈️ จะนั่งเครื่องบิน ต่อรถไฟ ล่องเรือสำราญ

ตารางเที่ยวขาไป :
00:50 Bangkok (BKK) – 06:35 Copenhagen (CPH) โดย (TG950)
– บินตรงใช้เวลา 11.20 ชม. เสิร์ฟอาหาร 2 มื้อ
– เวลาสวย ออกกลางคืนถึงโคเปนเฮเกนเช้าตรู่ ลงเครื่องแล้วเที่ยวได้เลย
– แวะเที่ยว Copenhagen 3 วัน 2 คืน ก่อนบินไปไอซ์แลนด์
12:55 Copenhagen (CPH) – 15:13 Reykjavik (KEF) โดย (FI205)
– บินตรงใช้เวลา 3.15 ชม.

ตารางเที่ยวขากลับ :
16:11 Reykjavik (KEF) – 21:12 Copenhagen (CPH) โดย FI216)
– บินตรงใช้เวลา 3.10 ชม.
14:14 Copenhagen (CPH) – 07:03 (+1) Bangkok (BKK) โดย (TG951)
– บินตรงใช้เวลา 10.35 ชม ถึงเช้าไปทำงานต่อได้เลย

มี Media Library พร้อมจอส่วนตัวระบบสัมผัสส่วนตัวในแต่ละที่นั่ง ซึ่งมีภาพยนตร์ และเพลงมากมายให้ได้เพลิดเพลินในระหว่างการเดินทาง
สายการบินไอซ์แลนด์ให้บริการด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 757-200 ที่ใหม่ทันสมัย
ภายในที่นั่งแบบ 3-3 สะดวกสบาย

2. เที่ยวเดนมาร์ก… ต้องขอวีซ่าก่อนนะ

3. ใช้เงินสกุลอะไรดี ?

4. เวลาแตกต่างกันเยอะไหม ?

5. ไฟฟ้า

เดนมาร์กใช้ไฟฟ้า 220 โวลต์เช่นเดียวกับไทย และใช้ปลั๊กไฟฟ้าแบบสองขา หรือสามขากลม ดังนั้นหมวยแนะนำให้พกปลั๊ก universal plug พกอันเดียวเที่ยวได้ทั่วโลกจะสะดวกกว่าค่ะ

6. อากาศเป็นยังไง?

7. เดินทางเข้าเมือง… เอาไงดี ?

โครงข่ายการคมนาคมในโคเปนเฮเกนมีหลากหลายให้เลือกทำให้การเดินทางไปไหนก็สะดวกมากๆ ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยาน รถแท็กซี่ รถไฟ รถเมล์ และรถไฟใต้ดิน

แท็กซี่
รถแท็กซี่จากสนามบินโคเปนเฮเกนไปยังใจกลางเมืองราคาประมาณ 200 DKK (กลางวัน) 250 DKK (กลางคืนและในวันหยุดสุดสัปดาห์) ราคานี้จะรวมภาษีและทิปแล้ว

รถไฟ
การเดินทางโดยรถไฟที่เชื่อมต่อภายในสนามบิน Terminal 3 เข้าสู่ใจกลางกรุงโคเปนเฮเกน (Copenhagen Central Station) แค่ 13 นาทีเท่านั้น ถือว่าสะดวกและรวดเร็วมากๆ โดยสถานีนี้ถือว่าเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่รู้จัก, เป็นสถานีรถไฟหลักทั้งหมดของโคเปนเฮเกน และเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในเดนมาร์ก ซึ่งใช้ในการเชื่อมต่อไปเมืองทั่ว Denmark, Sweden และประเทศยุโรป และยังเป็นจุดรวมของรถเมล์สายต่างๆ ด้วย

ภายในสถานี Copenhagen Central Station
รถไฟฟ้าก็มีที่นั่งกว้างขวาง นั่งสบาย

8. ค่าครองชีพแพงไหม?

ตอบเลยว่า แพง แพงจริงๆ!!! ยกตัวอย่างราคาของที่ซื้อง่ายๆ นะคะ (คิดเรทอัตราแลกเปลี่ยน 1DKK = 4.82 บาท)

The Twisted Churros ชูโรสร้อนๆ หอมๆ กรอบๆ
ร้าน NOHO เป็นร้านสุดแนว ตกแต่งร้านด้วยการโชว์โครงสร้างและพื้นผิววัสดุ สไตล์ Industrial Art
ร้าน NOHO เป็นร้านสุดแนว ตกแต่งร้านด้วยการโชว์โครงสร้างและพื้นผิววัสดุ สไตล์ Industrial Art

9. พักย่านที่ไหนดี ?

ถ้าต้องการมาเที่ยว Copenhagen แล้วบินต่อไป Iceland หรือจุดหมายปลายทางที่อื่นๆ
หมวยแนะนำให้พักโรงแรมแถวๆ København H หรือเรียกว่า Copenhagen Central Station (พูดง่ายๆ ก็เหมือนชุมทางรถไฟ)

Copenhagen Central Station

ข้อดีของการพักใกล้ Central Station
– เดินทางสะดวกมาก นั่งรถไฟจากสนามบินไปลงยังสถานี København H ใช้เวลาประมาณ 13 นาที ออกปุ๊ปถึงโรงแรมเลย และสะดวกขากลับเวลาเดินทางไปสนามบิน
– หาของทานง่าย ภายในสถานีมี supermarket ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ 7-11 สถานีตำรวจ และร้านขายยา
– ด้านหลังสถานีก็ติดกับสวนสนุก Tivoli มีเป็นจุดขึ้นลงรถบัสหลายสาย ซึ่งไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้น

ห้องนอนพร้อมห้องน้ำส่วนตัว ตกแต่งแบบง่ายๆ
ห้องน้ำสไตล์แบบเรียบๆ กระเบื้องปูด้วยสีขาว

10. Tax Refund ขอคืนที่ไหน?

Copenhagen Airport Kastrup (CPH) เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในสแกนดิเนเวีย และเป็นหนึ่งในสนามบินที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองโคเปนเฮเกน ในปี 2013 สนามบินแห่งนี้ได้รับรางวัล World’s Best Airport Security Award by Skytrax

ระหว่าง Terminal 2 และ 3 เดินเชื่อมถึงกันใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที จะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ บาร์ดื่ม ร้านค้าแบรนด์เยอะมาก เช่น Hermes, Mulberry, Gucci, Max Mara, Saint Laurent, Burberry, Paul Smith, Massimo Dutti, Pandora, H&M, Marimekko และแบรนด์ท้องถิ่นด้วย มีบริการ Self Service Check-in Kiosks ตู้เช็คอินด้วยตนเองกระจายอยู่ทั่วสนามบิน ซึ่งแนะนำให้ทำ Web Check-in แล้วรับ Boarding Pass ทางอีเมลล์จะสะดวกกว่า

พอหมวยมา Copenhagen ก็มีเพื่อนๆ หลายคนเชียร์ให้ชอปปิง เพราะได้ Tax Refund ค่อนข้างสูง แล้วหมวยก็เป็นคนเชื่อคนง่ายซะด้วย… เลยจัดซะหน่อยค่ะ
– กระเป๋า Rimowa รุ่น E-tag ขนาด 30″ ในราคา 4,395 DKK
– ผ้าคลุมกระเป๋า TUMI ในราคา 500 DKK
– ยอดรวม 4,895 DKK ได้ Tax Refund มา 636.35 DKK ถือว่าคุ้มมากกกกค่ะ!!

กระเป๋าล้อลื่นปรู๊ดปร๊าด ลากเบาๆ ก็วิ่งแล้วสมเป็นกระเป๋านักวิ่งจริงๆ ค่ะ

ก่อนบินไปไอซ์แลนด์พร้อมกระเป๋าใบใหม่เลยต้องมาทำ Tax Refund ที่สนามบิน CPH

Terminal 2 :
– การทำ Tax Refund จำเป็นต้องมียอดใบเสร็จขั้นต่ำ 300 DKK ที่ซื้อของภายใน 1 วันและร้านเดียวกัน
– กรอกฟอร์มให้เรียบร้อย จะมีอยู่ 2 เคาน์เตอร์ คือ Planet Tax Free และ Global Blue ซึ่งการได้ Tax Refund จะเป็นไปตามขั้นบันไดตามราคาของสินค้าที่ซื้อ
– 300 – 1,000 DKK ได้ Vat Refund 12%
– 1,001 – 5,000 DKK ได้ Vat Refund 13%
– 5,001 – 10,000 DKK ได้ Vat Refund 14%
– 10,001 – 25,000 DKK ได้ Vat Refund 15%
– 25,001 – 50,000 DKK ได้ vat refund 17%
– 50,001 ได้ vat refund 18%

Terminal 3 :
เราก็มาแวะรอต่อเครื่องบินก่อนกลับไทย ในสนามบินมี Airport Lounges หลายแห่งให้บริการ ซึ่งเรา 2 คนเลือก “SAS Lounge” จะมีบริการอาหาร, เครื่องดื่ม, กาแฟ, Wi-Fi, หนังสือพิมพ์, นิตยสาร, คอมพิวเตอร์, ปริ้นส์เตอร์, พื้นที่โซฟา, ห้องประชุม และห้องอาบน้ำพร้อมผ้าขนหนู
– ราคาค่าเข้า : 219 DKK.
– เปิดเวลา : ทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์เปิด 05:00-23:00 น. วันเสาร์-อาทิตย์เปิด 06:00-21:00 น.

Exit mobile version