Site icon ibreak2travel (หนีงานไปเที่ยว)

ข้อควรรู้ก่อนไปเที่ยวเมืองจีน ฉบับคนพูดจีนไม่ได้ (อัพเดตปี 2024)

หลังจากปิดประเทศไป 3 ปีกว่าๆ เนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 วันนี้ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดพรมแดนให้คนต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวได้อย่างอิสระแล้ว!! ใครที่วางแผนจะไปท่องเที่ยวชมความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและวัฒนธรรมฉบับต้นตำรับจีน เราแนะนำให้แวะมาอัพเดตข้อมูลกันตรงนี้ก่อนค่ะ

รวมรีวิวจีน (อัพเดทปี 2024)

ประเทศจีนในปี 2023 ที่ปูเป้กับพี่ต้นไปมาเจริญก้าวหน้าและพัฒนาไปไกลมากๆ ทั้งด้านเทคโนโลยีที่ล้ำสุดๆ มีระบบจดจำใบหน้าในกล้อง CCTV, ระบบการจับจ่ายแบบ “ไร้เงินสด (Cashless)” 100%, สัญญาณมือถือ 5G เกือบทั่วประเทศ, มีแอปฯ Social ของตัวเอง, มีแอปฯ เรียกรถแบบอูเบอร์, มีแอปฯ สั่งอาหาร, มีแอปฯ แผนที่นำทางของตัวเอง ฯลฯ แค่คิดจะไปเที่ยวจีนก็สนุกแล้วค่ะ

ข้อมูลเที่ยวจีนค่อนข้างน้อยมากหลังจากจีนปิดประเทศไปเกือบ 3 ปีจากโรคระบาดโควิด-19 เพราะทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะ พอเปิดจีนประเทศแล้วก็อยากทำเองทั้งยื่นวีซ่าจีน, หาที่เที่ยว, เดินทางข้ามเมืองด้วยรถไฟความเร็วสูง และจองที่พักด้วยฉบับคนพูดจีนไม่ได้ แต่พอจบทริปจีนแล้วอยากบอกทุกคนว่า “เที่ยวจีนเองครั้งแรกไม่ยากแบบที่คิด” เป็นประสบการณ์ที่สนุก ประทับใจ เดินเยอะ เมื่อยขาแต่ธรรมชาติอลังการ สวยแบบแกรนด์คุ้มค่าทุกวินาทีค่ะ

ปูเป้ และพี่ต้นเลยตั้งใจสรุป “ข้อควรรู้ก่อนไปเที่ยวเมืองจีน ฉบับคนพูดจีนไม่ได้” มาฝาก อะไรที่คุณเคยคิดว่ารู้เกี่ยวกับประเทศจีน ผ่านไป 3 ปี ตอนนี้อาจจะเอาต์ไปแล้วก็ได้!!! หวังว่าจะช่วยทำให้การเที่ยวจีนของทุกคนสนุก และง่ายขึ้นนะคะ ^^

1. คนไทยเที่ยวจีนไม่ต้องมีวีซ่า เริ่มตั้งเเต่ 1 มีนาคม 2567

เที่ยวจีน NO VISA คนไทยเที่ยวจีนไม่ต้องขอวีซ่าแล้ว เที่ยวจีนได้แต่ละครั้งไม่เกิน 30 วัน และรวมระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน ภายในช่วงเวลา 180 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 ทำให้การมาเที่ยวประเทศจีนง่ายขึ้นกว่าเดิม (การขอวีซ่าจีน ไม่ง่ายหรอกนะคุณ 5555) ใครที่เคยแพลนว่าอยากไปเมืองนั้น อยากเที่ยวเมืองนี้ ทั้ง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ฉางซา ซีอาน ซัวเถา ฉงชิ่ง ฯลฯ ต่อจากนี้ แค่คุณจองตั๋ว จองที่พัก เตรียมเงิน แล้วพกพาสปอร์ต ก็ไปเที่ยวจีนได้แล้ว

เราสองคนเที่ยวจีนด้วยตัวเองมาหลายทริป ทุกครั้งก็เดินทางกับสายการบิน  “แอร์เอเชีย (AirAsia)” ตัวจริงเรื่องบินจีนต้องยกให้สายการบินนี้ เพราะมีบินตรงสู่จีนมากที่สุด 12 ปลายทาง!! ทั้ง ซีอาน เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว เซินเจิน เฉิงตู ฉางซา คุนหมิง ฉงชิ่ง หางโจว อู่ฮั่น ซัวเถา และปลายทางใหม่ล่าสุด คือ มหานครปักกิ่ง!! รวมถึงยังเป็นสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลก 14 ปี ซ้อน ตารางบินดี เซฟเวลาเที่ยวได้มาก ที่สำคัญคือ “ตรงเวลา” ดีสุด ๆ

เปิดใจไปพบล้านประสบการณ์ที่จีน เที่ยวจีนกับแอร์เอเชียคุ้มค่าบัตเจ็ท เที่ยวจีนไม่แพงยิ่งถ้าเทียบกับความตื่นตาตื่นใจ มีครบทั้งเมืองมรดกโลกอย่างซีอาน (Xi’an), เมืองธรรมชาติอลังการที่เมืองฉางซา (Changsha) เมืองชิคๆ เก๋อย่างเซี่ยงไฮ้ (Shanghai) หรือไปกินหมาล่าที่ฉงชิ่ง (Chongqing) คุ้มสุด ๆ ครับ จะบินใกล้หรือไกลเราสองคนก็ยังรัก “แอร์เอเชีย (AirAsia)” เสมอครับ

เวลาจองตั๋ว แนะนำให้เลือก “Value pack (แพ็คสุดคุ้ม)” ให้ครบ ถูกกว่าซื้อแยกอีก คุณจะได้ทั้ง

จะเที่ยวจีนให้สนุก แนะนำให้โหลดแอปฯ ไว้เลย

2. ต้องรู้ก่อนบินเข้าจีน

พอไปถึงสนามบินที่จีน จะต้องกรอก Arrival Card ใบขาเข้าประเทศจีนเป็นใบสีฟ้า-ขาว จะมีข้อมูลที่ต้องกรอก เช่น ชื่อ-นามสกุล, สัญชาติ , เพศ, วันเดือนปีเกิด, หมายเลขพาสปอร์ต, ที่พักในจีน, เบอร์โทรศัพท์, ไฟล์ทเดินทางไป-กลับ, ประวัติการเดินทางย้อนหลัง 2 ปี และเซ็นต์ชื่อให้ตรงกับพาสปอร์ตด้วยค่ะ แล้วให้ยื่น Arrival Card พร้อมพาสปอร์ตให้กับ ตม. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อาจมีการพูดคุยขอเอกสารการจองโรงแรม หรือตั๋วเครื่องบินไฟล์ทกลับ หลังจากเราเดินทางไปจีน 4 ทริปที่ผ่านมา ถือว่า เจ้าหน้าที่ ตม. ของจีนทำงานรวดเร็ว พอผ่านการตรวจคนเข้าเมืองก็ไปรับกระเป๋า ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาทีก็เรียบร้อยแล้วครับ ถือว่าสะดวกรวดเร็วมากๆ

ทำประกันภัยการเดินทาง เพิ่มความอุ่นใจให้ทุกทริป

เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ยิ่งถ้าอยู่ต่างบ้านต่างถิ่น ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้นมา เรื่องที่ควรจัดการได้ อาจไม่ง่ายอย่างที่คิด ทั้งเครื่องบินดีเลย์ กระเป๋าหาย (หรือล่าช้า) ประสบอุบัติเหตุ ป่วยไข้ ทรัพย์สินสูญหาย และปัญหาจุกจิกอีกมากมาย ที่จะพาลทำให้ทริปนั้นกลายเป็นฝันร้ายเอาง่ายๆ

เพื่อความอุ่นใจ ต้นกับปูเป้เลยเลือกทำประกันภัยการเดินทางเอาไว้ล่วงหน้าเสมอ สมัยเป็น Blogger ใหม่ๆ เราก็ซื้อประกันภัยการเดินทางเป็นรายเที่ยวครับ แต่หลังๆ นี่เดินทางปีนึง หลายทริปมากๆ เราเลยเลือกทำประกันภัยการเดินทางกันเป็นรายปี 5555 (ใครที่เดินทางปีนึงเกิน 3-4 ทริป ซื้อ ประกันการเดินทางชับบ์ Chubb Travel Buddy แบบรายปี ปีคุ้มสุดครับ)

สำหรับ Road Trip (ขับรถเที่ยว) เกาะคิวชู รอบนี้เราทำประกันภัยการเดินทางกับ Chubb Travel Buddy (คู่หูนักเดินทาง)” เค้าดูแลครอบคลุมทั้ง…

ที่สำคัญสามารถ ซื้อออนไลน์ได้ง่าย เลือกแผนได้ตามที่เราต้องการ ซื้อปุ๊ปได้กรมธรรม์ประกันภัยการเดินทางเลย เคลมไวไม่งอแง เบี้ยเริ่มต้นหลักร้อย ความคุ้มครองหลักล้าน ถูกใจเราสองคนสุดๆ!!

สนใจซื้อ ประกันการเดินทางชับบ์ Chubb Travel Buddy พร้อมได้รับส่วนลดพิเศษ คลิกที่นี่
อย่าลืมกรอกโค้ด  NENGAN18  เพื่อรับส่วนลดน๊า!

จะเที่ยวจีนให้สนุก แนะนำให้โหลดแอปฯ ไว้เลยก่อนบินไปเที่ยวจีนครับ

3. เรื่องแลกเงินเรื่องใหญ่… ตั้งใจฟังนะ

ประเทศจีนก้าวสู่ “สังคมไร้เงินสดแบบเต็มตัวหรือ Cashless Society” การซื้อของไม่ต้องใช้เงินสดกันแล้ว ใช้แค่มือถือเครื่องเดียวจับจ่ายซื้อของได้สะดวกมากไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม ขนม หนังสือ บุหรี่ การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ค่านวดเก้าอี้นวดไฟฟ้าในสถานีรถไฟความเร็วสูง ร้านอาหาร ค่าแท็กซี่ หรือค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

มาเที่ยวจีนแนะนำให้โหลด App ชื่อว่า Alipay (อาลีเพย์ : 支付宝) หน้าตา QR Code สีฟ้า คนจีนไม่ได้เรียกอาลีเพย์ แต่เรียกว่า “จือฟูเป่า” พอโหลด App แล้วให้ผูกกับบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต Travel card มาจากไทย พอถึงจีนสามารถใช้สแกน QR Code ปุ๊บ จ่ายปั๊บ ชำระเงินสะดวกมาก และมีระบบความปลอดภัยที่ดี ทุกครั้งที่มีการชำระเงินจะให้กรอกเลขบัตร CVC 3 ตัวท้าย แต่ยังไง “เงินสด” ก็ยังต้องพกมาด้วย เพราะบางครั้งโอนเงินผ่าน Alipay ไม่ได้ หรือบางที่รับแต่ WeChat ก็มีนะ

4. มาตรการรักษาความปลอดภัยของจีน

ประเทศจีนให้ความสำคัญกับความมั่นคง และความปลอดภัยของประชาชนในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ขึ้นสุดทั้ง ในสนามบิน, สถานีรถไฟใต้ดิน, สถานีรถไฟ  และทุกสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเคร่งครัด ทุกครั้งที่เข้าสถานที่ต่างๆ เจ้าหน้าที่จะตรวจสแกนร่างกาย, กระเป๋าสะพายทุกใบ และกระเป๋าเดินทางแทบทุกจุดอย่างเคร่งครัดมากๆ ดังนั้นไม่ควรพกของมีคม หรืออาวุธติดตัวไปด้วยนะคะ (เจ้าหน้าที่เข้มงวดจริงๆ นะ)

5. การจองที่พักและโรงแรม

ไปจีนแนะนำให้จองที่พักและโรงแรมผ่านทาง trip.com เว็บไซต์การท่องเที่ยวออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของจีน และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกจะให้บริการจองโรงแรมทั่วโลก จองตั๋วเครื่องบิน และตั๋วรถไฟออนไลน์ นี่เป็นทริปแรกที่ปูเป้จองโรงแรมผ่าน trip.com ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว มีที่พักให้เลือกเยอะหลายแบบ เช่น โรงแรม อพาร์เมนต์ คอนโด และบ้านที่เจ้าของให้เช่าเอง มีรีวิวคนเข้าพักจริงให้อ่านก่อนตัดสินใจ และมีห้องพักหลาย Type มากกว่า Agoda, Booking.com ราคาที่พักดี หลังจากจองที่พักแล้ว แนะนำให้โหลดแอฟฯ WeChat เพื่อคอนเฟิร์มการเข้าพักกับโรงแรมค่ะ

แนะนำที่พักใน Xi’an (ซีอาน)

เราเลือกพักโรงแรม Ibis Styles Hotel (Xi’an Bell and Drum Tower Huimin Street) 宜必思尚品酒店(西安钟鼓楼回民街店) ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือ Accor (จุดสังเกตคือโลโก้ Ibis Styles Hotel จะเป็นสีเขียว ต่างจากโลโก้ Ibis ซึ่งเป็นสีแดง) ความต่างระหว่าง Ibis กับ Ibis Styles จะอยู่ที่การตกแต่งที่มีสไตล์มากขึ้น มีสีสันมากขึ้น พื้นที่ห้องพักเริ่มต้นจะกว้างกว่า พร้อมออพชั่นครบในราคาที่น่าคบหา(ราคาประมาณพันกลางๆ ต่อคืนรวม 2 คน)

ทำไมต้องมาพักที่ Ibis Styles Hotel (Xi’an Bell and Drum Tower Huimin Street)
1. ที่ตั้งโรงแรม คือ The Best!!! ด้านหน้าโรงแรมเป็นหอกลอง (Drum Tower), ด้านข้างโรงแรมเป็นตลาดมุสลิม Xi’an Muslim Quarter บนถนน Huimin Street ถ้าเดินไปทางหลังโรงแรมเป็นหอระฆัง (Bell Tower) เป็นศูนย์กลางของซีอาน (Xi’an) เลยเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นที่สุดครับ
2. การเดินทางสะดวกมาก เดินประมาณ 3 นาที ถึงสถานีรถไฟใต้ดิน Zhonglou (ระยะทาง 220 เมตร) ระหว่างทางเดินสองข้างทางก็เป็นย่านการค้า มีร้านอาหารอร่อย คาเฟ่ ขนม ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ร้านชา Chagee เราได้ทานของอร่อย ๆ ตลอด 5 คืนที่มาพัก และเดินประมาณ 7 นาทีถึงสถานีรถไฟใต้ดิน GUANGJIJIE (ระยะทาง 470เมตร)

เราเลือกห้อง Atrium-View (2 beds) เตียงเดี่ยว 2 เตียง ภายในห้องพักใหม่มาก การตกแต่งมีความโมเดิร์น ใช้โทนไม้สีอ่อนตัดกับหมอนสีเขียวอ่อนสดทำให้ห้องดูสดใส ดูมีความสนุกสนาน มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางขนาด 22-27 ตร.ม. ออกแบบใช้งานได้จริง กางกระเป๋าเดินทาง 2 ใบแล้วยังมีพื้นที่เหลืออีกเยอะ ๆ ส่วนตัวเราสองคนชอบห้องกว้างมาก ๆ

สนใจจอง Ibis Styles Hotel (Xi’an Bell & Drum Tower Huimin Street) คลิกที่นี่

แนะนำที่พักใน Changsha (ฉางซา)

Liufang Mansion (Changsha Wuyi Square Railway Station Subway Station) (ได้ 9.8/10 คะแนน) ที่ตั้งทำเลดีใกล้รถไฟใต้ดินสถานี Railway Station Metro Station ห่าง 500 เมตรจาก Changsha Railway Station สถานีรถไฟใหญ่ของฉางซามีครบทั้งรถไฟธรรมดา และรถไฟความเร็วสูงสะดวกในการเดินทางข้ามเมือง ราคาที่พักน่ารักพันต้นๆ ห้องดี อาหารขายเยอะ เดินทางสะดวกมากค่ะ

สนใจจองที่พัก Liufang Mansion คลิกที่นี่

แนะนำที่พักในจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie)

May’s Home (ได้ 9.8/10 คะแนน) ที่ตั้งห่างจากอุทยานแห่งชาติเทียนเหมินซานประมาณ 8 นาทีเดินทางโดยแท็กซี่ ห้องพักอยู่บนตึก Office Building ด้านล่างมีร้านสะดวกซื้อ ด้านหลังมีร้านอาหาร เครื่องดื่ม เบเกอรี่ KFC ร้านขายของชำ และร้านขายเสื้อผ้าเยอะมาก

สนใจจองที่พัก May’s Home คลิกที่นี่

แนะนำที่พักใน Fenghuang (เฟิ่งหวง)

Phoenix Youran Qingsu Hotel (ได้ 9.8/10 คะแนน) โรงแรมใหม่ย่านใจกลางเมืองเก่าเลียบแม่น้ำถัวเจียง (Tuojiang River) ของเมืองโบราณเฟิ่งหวง ตกแต่งแบบจีนหรูหราผสมกับสมัยใหม่ให้ฟีลแบบอบอุ่น สะอาดสะอ้าน มีระเบียงติดแม่น้ำจะมานั่งชิลล์ หรือเลือกห้องติดแม่น้ำก็ดีงาม เจ้าของให้ความช่วยเหลือดี อธิบายสถานที่ท่องเที่ยว และช่วยเรียกแท็กซี่ไปส่งที่สถานีรถไฟเฟิ่งหวง ประทับใจมากค่ะ!!

สนใจจองที่พัก Phoenix Youran Qingsu Hotel คลิกที่นี่

แนะนำที่พักใน Furong (ฟู่หรง)

Xiangyun Moshe B&B : Furong Town Scenic Area Branch (ได้ 9.6/10 คะแนน) โรงแรมใหม่สะอาด พื้นที่ส่วนกลางตกแต่งสไตล์โรงน้ำชาจีนอย่างสวยงาม ภายในห้องควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าทั้งการเปิด-ปิดผ้าม่าน, แอร์ และไฟตามจุดต่างๆ เดินทางไปไหนสะดวก มีร้านขายอาหาร เครื่องดื่ม และของที่ระลึก ที่ประทับใจยกให้เจ้าของดูแลดีมากช่วยเหลือพาไปส่งสถานีรถไฟวันกลับด้วยค่ะ

สนใจจองที่พัก Xiangyun Moshe B&B : Furong Town คลิกที่นี่

6. เวลาและอากาศเป็นอย่างไร ?

พอเครื่อง Landing ปุ๊ป ปรับนาฬิกาให้ “เร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมง” ประเทศจีนจะมี 4 ฤดูกาล

ปูเป้เดินทางไปมณฑลหูหนาน (เมืองฉางซา, เมืองจางเจียเจี้ย, เมืองเฟิ่งหวง และเมืองฟู่หรง) ช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2023 เริ่มต้นฤดูร้อน อุณหภูมิเริ่มสูงขึ้นระหว่าง 18-30 °C อากาศมีความชื้น บางพื้นที่ฝนตก แต่ละเมืองอุณหภูมิมีความแตกต่างกันบ้าง เช่น ถ้าไปเที่ยวบนภูเขาสูงก็มีหมอก อากาศเย็นนิดๆ ได้ใส่เสื้อกันหนาว บางวันฝนตกเป็นช่วงๆ บางที่ฝนตกตลอดอากาศชื้นทำให้อากาศเย็นสบายแต่ลำบากในการเที่ยว บางที่แดดร้อนมากช่วงกลางวัน

แนะนำให้เตรียมอุปกรณ์กันแดด และกันฝน :
ปูเป้ชอบพก ร่มขนาดเล็ก BGG Umbrella ติดกระเป๋าไปด้วยค่ะ แบรนด์นี้พกพาสะดวก กันฝน, กันแดด, กัน UV 100% น้ำหนักเบา มีแบบให้เลือกเยอะ เช่น บางรุ่นขนาดเล็กหนาเพียง 2 ซม. หรือมีน้ำหนักเบาพิเศษ 99 กรัม เองค่ะ เป็นแบรนด์ไต้หวัน สินค้ามีคุณภาพดี และมีชื่อเสียงในการผลิตร่มแบบ OEM ให้กับแบรนด์ร่มของญี่ปุ่น, เกาหลี, ยุโรป และอื่นๆ

7. กลัวหลงทางในจีนต้องใช้ App นี้

มาเที่ยวจีนใช้ Google map ไม่ได้นะคะ!!! ประเทศจีนมี App แผนที่ของตัวเอง ชื่อว่า Baidu Map(百度地图:ไป่ตู้ ) App แอปพลิเคชั่นนำทางในประเทศจีน วิธีการเดินทางโดยบอกข้อมูลการเดินทางแบบละเอียดครบทั้งการขนส่งสาธารณะ เครื่องบิน รถไฟ เดิน บอกกระทั่งว่ารถติดไฟแดงเหลืออีกกี่วินาที เสียอย่างเดียวคือไม่รองรับภาษาอื่นใดทั้งสิ้น 5555

Metro China Subway แอปพลิเคชั่นสำหรับผู้ใช้บริการรถไฟใต้ดินของประเทศจีนครับ ครอบคลุมเส้นทางในหลายๆ เมืองของจีน ไม่ว่าจะเป็น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว เสินเจิ้น ฯลฯ ในแอปจะบอกถึงข้อมูล เส้นทาง ตารางเวลา และค่าโดยสารของแต่ละสถานี

Didi(滴滴出行 “ตี้ตี้”) การเดินทางในเมืองจะง่ายขึ้นด้วยการเรียกแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชั่นเรียกแท๊กซี่ แนวๆ Grab หรือ Uber ที่เราคุ้นเคยนั่นละครับ ข้อดีคือรองรับภาษาอังกฤษ เราสามารถระบุจุดหมายปลายทางเป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาจีนก็ได้ มีผู้ขับขี่ในระบบมากกว่า 31 ล้านคน จ่ายเงินผ่าน Alipay การใช้งานแอฟฯ ดีมาก สถานที่แม่นมากโดยจะเก็บประวัติการเดินทาง คูปองส่วนลด หมดปัญหาคนพูดจีนไม่ได้ ไม่ถูกโกง ถึงจุดหมายปลายทางแน่นอนแบบไม่ต้องกลัวหลงทางค่ะ

สำหรับการเดินทางไป-กลับสนามบิน เราชอบใช้ บริการรถรับส่งพร้อมคนขับ หลังจากรับกระเป๋าออกมาแล้วจะมีคนขับรถถือป้ายชื่อรอรับที่สนามบินแล้วพาไปส่งโรงแรมที่พักต่อเดียวถึงเลย ไม่ต้องขนกระเป๋า หรือรถไฟฟ้าให้วุ่นวาย กรณีที่มากัน 2-3 คน, มีเด็ก-ผู้สูงอายุมาด้วย, ถึงไฟล์ทดึกไม่ต้องกลัวหลงทาง คุ้มกว่านั่งรอที่สนามบินจนเช้าค่ะ เอาเวลาไปพักผ่อนที่โรงแรม ประหยัดแรงขาไว้เดินเที่ยวอีกหลายวันดีกว่าจ้า 5555 ส่วนขากลับถ้ามีของเยอะ เหนื่อยล้าแล้วก็จะใช้ บริการรถรับส่งจากโรงแรมไปส่งที่สนามบิน ต่อเดียวถึงสนามบินเลย ไม่ต้องกลัวตกเครื่อง หรือโดนโก่งราคาด้วยจ้า

สนใจ บริการรถรับส่งส่วนตัวที่สนามบินพร้อมคนขับผ่าน Klook ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

8. การเดินทางระหว่างเมืองในจีนเอาไงดี ?

ตลอดทริปจีนนี้ปูเป้กับพี่ต้นเดินทางข้ามเมืองด้วย รถไฟความเร็วสูง เป็นการเดินทางที่สะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลา ซื้อตั๋วรถไฟได้ง่ายผ่าน trip.com โดยเราจะสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 15 วัน มีรอบรถไฟมีให้เลือกหลายรอบต่อวัน รถไฟออกและถึงตรงเวลาทำให้กำหนดเวลาการเดินทางได้ดีมาก

ภายในสถานีรถไฟความเร็วสูงมีขนาดใหญ่โอ่โถง สะอาดสะอ้าน มีห้องน้ำ มีคนดูแลรักษาความสะอาดตามจุดต่างๆ ที่ชอบที่สุด คือ มีเก้าอี้นวดไฟฟ้าให้ได้นวดผ่อนคลายความเมื่อยล้าก่อนขึ้นรถไฟด้วย พี่ต้นติดใจมากเก้าอี้นวดไฟฟ้ามากๆ เก้าอี้คุณภาพดี นั่งสบาย นวดได้ทั้งตัว ทำให้การรอขึ้นรถไฟเพลิดเพลินขึ้น สำหรับการชำระเงินจะจ่ายผ่าน Alipay ค่ะ

  • จอง ตั๋วรถไฟความเร็วสูงล่วงหน้า ผ่าน Trip.com สะดวกสุดๆ! จองปุ๊ปได้ E-Ticket
  • จอง โรงแรมในจีน ผ่าน Trip.com ได้ที่พักชัวร์! ที่พักเยอะ หลายสไตล์ เลือกได้ตามใจ

9. โปรแกรมแปลภาษาสำคัญเสมอ

ถ้าพูดจีนไม่เป็นแต่รักจะเที่ยวจีนต้องโหลด App แปลภาษาไว้เลยค่ะ ก่อนหน้านี้ปูเป้โหลดแอฟฯ แปลภาษามาหลายตัว แต่สุดท้ายก็กลับมาใช้ Google Translate สะดวกใช้ในการแปลเมนู, ตั๋วรถไฟ, การเดินทาง, การสื่อสารพูดคุย, การสั่งอาหาร แม้ว่าตัวแอฟฯ อาจจะแปลภาษาจีนไม่ได้ถูกต้อง 100% แต่เราพอเข้าใจได้ และสื่อสารกับคนจีนได้ดีเป็นอีกหนึ่งแอฟฯ ที่ช่วยทำให้เราเดินทางสะดวกในทุกประเทศ ต้องโหลดติดโทรศัพท์ไว้เลยค่ะ

10. เที่ยวจีนเดินเยอะนะ

เที่ยวจีนเดินเยอะมากกกกกกก!! เพราะต้องใช้กำลังขาทั้งเดินขึ้นเขา ลงเขา เข้าห้องน้ำจะเป็นแบบนั่งยองๆ ดังนั้นแนะนำให้รีบมาเที่ยวจีนก่อนข้อเข่าเสื่อม และเดินไม่ไหวค่ะ ปกติเทริปไปเที่ยวญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน ปูเป้จะเดินไม่น้อยกว่าวันละ 10,000 ก้าว แต่วันที่ปูเป้กับพี่ต้นไปจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie) และเขาเทียนเหมินซาน (Tianmen Mountain) เดินมากกว่า 20,000 ก้าว ดังนั้นมาเที่ยวจีนแนะนำต้องจัดรองเท้าผ้าใบน้ำหนักเบา คุณภาพเยี่ยม กันลื่นได้ดี ถ้ามาช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวแดดร้อน ฝนตก ขึ้นเขาก็อากาศหนาว แนะนำให้เตรียมหมวกกันแดด ร่ม เสื้อกันฝนมาพร้อมไว้เลย

แนะนำรองเท้าที่เดินสบาย และกันลื่น ยี่ห้อ Skechers พื้นรองเท้านุ่ม น้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี ใส่แล้วสบายเท้า จะเดินวันละหมื่นกว่าก้าวก็สบายๆ ไม่ค่อยเมื่อยเท้า และราคาไม่แพง คุ้มค่าค่ะ ซึ่งแบรนด์นี้มีรองเท้าเยอะหลายรุ่น มีทั้งของผู้หญิง ผู้ชาย และเด็ก แนะนำสำหรับผู้หญิง : GOwalk 6 Shoes สำหรับผู้ชาย : GOwalk Max และรุ่น Flection Sport

11. ที่เที่ยวของจีนจัดอันดับยังไง?

สถานที่ท่องเที่ยวจีนจะถูกแบ่งเกรดตามเกณฑ์ระดับเริ่มต้นจาก A (1A) ถึงระดับสูงสุด AAAAA (หรือ 5A) โดยกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีนจะแบ่งตามเงื่อนไข 12 มาตรฐาน คือ ความสะดวกในการคมนาคมขนส่ง, การจัดการการเที่ยวชมสถานที่, ความปลอดภัยของสถานที่, ความสะอาด, สุขภาพและสุขอนามัยในการท่องเที่ยว, บริการไปรษณีย์และโทรคมนาคม, การซื้อของเพื่อการท่องเที่ยว, การจัดการและการปกป้องทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม, ความน่าดึงดูดใจของทรัพยากรการท่องเที่ยว, ความน่าดึงดูดจากการตลาด, จำนวนนักท่องเที่ยวประจำปี และอัตราความพึงพอใจจากการสุ่มตัวอย่างนักท่องเที่ยว

ซึ่งไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวจีนที่ได้รับการจัดอันดับแล้วให้เข้าชมฟรีๆ จำเป็นต้องซื้อตั๋วก่อนเข้าเสมอ ซึ่งถ้าเน้นสะดวกสามารถซื้อตั๋วเข้าชมสถานที่ล่วงหน้ากับเจ้าของที่พักได้เลย สะดวกมากกว่าไปซื้อเอง หรือจะสามารถจองผ่าน Klook ล่วงหน้าก็ได้ การเข้าสถานที่ท่องเที่ยวก็ทันสมัยมากให้เราแสดง Passport และถ่ายรูปหน้าเราตั้งแต่หน้าทางเข้า จากนั้นพอผ่านประตูอื่นๆ ก็ใช้การสแกนหน้าแทนการใช้ตั๋ว OMG!! ทันสมัยสุดๆ

ข้อมูลอ้างอิงจาก : สถานที่ท่องเที่ยวระดับ AAAAA ในประเทศจีน

12.  คนจีนเป็นไงบ้าง?

13. ห้องน้ำจีนแย่ไหม?

90% ห้องน้ำส่วนใหญ่ที่เราไป 4 เมืองเป็นส้วมแบบคอห่าน ห้องน้ำสาธารณะเป็นแบบนั่งยองๆ ขอพูดตรงๆ สภาพห้องน้ำที่จีนก็มีดีบ้าง และยังคงมีภาพติดตาบ้าง 555 ถือว่าเป็นการทำให้เราปลงไปในตัว ลองคิดอีกทีวันๆ หนึ่งเราจะเข้าห้องน้ำนอกโรงแรมกี่ครั้ง ส่วนห้องน้ำในโรงแรมที่พักคือดีมากเลย มีการแบ่งเป็นโซนแห้งและเปียกได้ดี ชักโครกนั่งสบาย สะอาดดีด้วยค่ะ อ้อ!! เวลาเข้าห้องน้ำสาธารณะที่จีนต้องเตรียมทิชชู่ไปด้วยนะ เชื่อว่าทุกคนกลับจากจีนจะมีกำลังขาที่แข็งแรง ได้ทำ squat กันวันละหลายครั้ง 555

14. เที่ยวจีน…ค่าครองชีพแพงไหม?

ค่าครองชีพและอาหารในจีนถือว่าไม่แพงค่ะ ปูเป้ว่าราคาค่าครองชีพพอๆ กับไทย ถูกกว่าประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีอีก พอดีปูเป้เพิ่งกลับจากญี่ปุ่นแล้วต่อไปจีนเลยก็ยกตัวอย่าง เช่น ราเมน 1 ชามที่โอซาก้า ญี่ปุ่นราคาประมาณ 300 บาท, ก๋วยเตี๋ยวที่ฉางซา ประเทศจีนราคาประมาณ 18-20 CNY, เฟิ่งหวง 28 CNY (ราคาเริ่มต้นที่ 90-140 บาท) ขึ้นอยู่กับสถานที่ท่องเที่ยว สำหรับราคาข้าวของอื่นๆ เช่น น้ำเปล่าขวดเล็ก 2-3 CNY, น้ำอัดลมกระป๋อง 3.5 CNY, เครื่องดื่มเป็นขวดๆ ในร้านมินิมาร์ทราคาตั้งแต่ 6-10 CNY, กาแฟสตาร์บัคส์แบบขวดราคา 12 CNY สรุปแล้วค่าครองชีพที่จีน ไม่แพง สบายกระเป๋าค่ะ

15. จิบกาแฟดีๆ ที่ไหนดี

คนจีนนิยมจิบชามากกว่า ดังนั้นอย่าคาดหวังว่ากับกาแฟดีข้างทางเลย แต่ถ้าอยากจิบกาแฟดีๆ สักแก้วแนะนำให้เข้าร้านสตาร์บัคส์ (Starbucks) เลยจ้า รสชาติกาแฟดีไม่ผิดหวัง เก้าอี้นั่งสบาย บรรยากาศดี สะอาด ดีไซน์แต่ละร้านสวย แต่เท่าที่ลองจะรู้สึกว่ารสชาติของนมจะมีความเข้มข้นกว่าไทยหน่อยๆ ราคาคาปูชิโน่ไซส์ใหญ่ 44 CNY ( ประมาณ 211 บาท)

16. อาหารและเครื่องดื่มที่ต้องลอง

Fast Food

เที่ยวจีนหลายวันเริ่มเบื่ออาหารจีนแล้ว แนะนำมาลอง KFC และ McDonald บ้างก็ดีค่ะ !! ทุกสาขาเป็นแบบ Self-Service ไม่ต้องเดินไปสั่งอาหารหน้าเคาน์เตอร์ บางสาขาจะมีจอให้เรากดสั่งอาหารเอง แต่ส่วนใหญ่จะให้แสกน QR Code แล้วกดสั่งอาหารทางออนไลน์เองแล้วชำระเงินผ่าน Alipay จากนั้นจะได้หมายเลขสั่งซื้อ ซึ่งพนักงานจะเรียกเบอร์แล้วไปรับที่หน้าเคาน์เตอร์ ครั้งแรกเข้าไปคืองงตาแตกมากกกกก!! แต่พอเข้าไปครั้งที่ 2-3 ก็สบาย รสชาติอาหารทั้ง KFC และ McDonald อร่อยไม่ผิดหวังค่ะ ราคา 1 อิ่มสำหรับ 2 คนเริ่มต้นประมาณ 500-600 บาท

น้ำผลไม้ ชาผลไม้อร่อยนัมเบอร์วัน

“เครื่องดื่มน้ำผลไม้นานาชนิด” ยกให้เป็นประเทศที่มีเครื่องดิ่มสดชื่นอร่อยเยอะแบบไม่เคยติดใจที่ไหนเท่าที่จีนมาก่อนเลยค่ะ บางร้านใส่เนื้อผลไม้แน่นๆ ในเครื่องดื่ม, บางร้านเป็นชาผลไม้อ่อนๆ รสไม่ได้เข้มมากแต่หอมกลิ่นผลไม้ ราคาอยู่ที่ 15-20 CNY รสหวานน้อยกำลังดี หอมอร่อย ดื่มแล้วสดชื่นสุดๆ อร่อยติดใจมากกกกกกก!! อีกหนึ่งร้านชาดังยอดนิยมของฉางซา ชื่อว่า “Sexy Tea (茶颜悦色)” โลโก้ร้านเป็นผู้หญิงสาวงามจีนโบราณถือพัด มีคนต่อคิวยาวๆ ชารสชาติหอมหวาน มีหลายรสชาติ มีท็อปปิ้งด้านบน

หม่าล่าจีน

มาจีนต้องมาลองหมาล่าแบบออริจินอล!!! หมาล่าที่ฉางซารสชาติดีกลมกล่อมมาก  กลิ่นหอมเตะจมูก มีความเผ็ดนิดหน่อย ปลายลิ้น เพิ่มรสชาติให้อาหารอร่อยเข้มข้นขึ้น แต่ไม่ได้ชาลิ้นแบบหนักหน่วงเหมือนทานที่ไทยเลย คนเลิฟหมาล่ามาจัดรัวๆ เลยค่ะ

Exit mobile version