ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีวันหยุดยาวๆ ได้อย่างใจคิด ยิ่งถ้าเป็น “คนทำงานประจำ” อย่างเราๆ ด้วยแล้ว “วันหยุด” มีค่าดั่งทองคำเชียวล่ะ!! การบริหารวันหยุดให้ดี คือ สิ่งจำเป็นของคนทำงาน มาครับ!! นี่คือทริปเที่ยวสุดคุ้ม!! “ไปชุมพร กลับระนอง” แบบ 3 วัน 2 คืน ที่เต็มอิ่ม ทั้งกิน ทั้งเที่ยว ในทริปเดียว!!

 

ไปชุมพร – กลับระนอง

เราวางแผนทริปนี้ ให้เป็นทริปเที่ยวเพลินๆ ได้อิ่มอร่อย ได้พักผ่อน ได้ไหว้พระ และได้ชิลล์ ใช้เวลาสัก 3 วัน 2 คืน เสร็จแล้วกลับมาทำงานต่อได้ ไม่ปวดเมื่อยเนื้อตัว ดังนั้นอย่าคาดหวังกิจกรรมโหดๆ อย่าง ดำน้ำ หรือปีหน้าผาซะให้ยาก (เตือนไว้ก่อน) 5555

ทริปนี้เราเลือกบินกับทั้ง AirAsia และ Nok Air โดย…

  • ขาไปเลือกไฟลท์เช้า (AirAsia) FD3184 เวลา 07:25 ไปถึง จ.ชุมพร เวลา 08:35
  • ขากลับเลือกไฟลท์ค่ำ (Nok Air) DD7319 เวลา 19:00 กลับถึง ดอนเมือง เวลา 20:35

หมายเหตุ : ขากลับจากระนองแนะนำให้ใช้ Nok Air เพราะมีไฟลท์ดึก ซึ่งสะดวกกว่า AirAsia ครับผม

 

การเดินทาง

การเดินคือเรื่องสำคัญที่หลายคนกังวล โดยเฉพาะการบินไปลงจังหวัดนึง (ชุมพร) แล้วกลับจากอีกจังหวัดนึง (ระนอง) อย่างในทริปนี้ วิธีเดินทางที่เราแนะนำ มีดังนี้ครับ

  • ใช้บริการรถตู้นำเที่ยว ซึ่งมีให้บริการที่สนามบินชุมพร เดี๋ยวนี้รถตู้นำเที่ยวนั่งสบายกว่าเมื่อก่อนเยอะ เบาะกว้าง แอร์เย็น สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ยิ่งถ้าไปเที่ยวกันเยอะๆ ยิ่งช่วยหารค่ารถได้ดีเลยล่ะ
  • ใช้บริการรถเช่าแบบคืนรถต่างสถานที่ เป็นอีกตัวเลือกที่เหมาะสำหรับทริปนี้เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะถ้ามาเที่ยวกันไม่กี่คน ช่วยให้เราเที่ยวได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องอาศัยบริการขนส่งสาธารณะในท้องถิ่น

สามารถหารายชื่อผู้ให้บริการ การเดินทางทั้ง 2 แบบนี้ จาก Google ได้เลยครับผม

รถสองแถวดั้งเดิมของ จ.ระนอง ขนส่งสาธารณะที่เหมาะนั่งชมวิวในตัวเมือง

 

เที่ยวชุมพร ประตูสู่ภาคใต้

“ชุมพร” จังหวัดที่ใครๆ ก็มองข้าม มองว่าเป็นจังหวัดรอง เป็นทางผ่านสู่ภาคใต้ แต่ถ้างเปิดใจมอง เราจะเห็นว่า “ชุมพร” ก็มีดีไม่แพ้จังหวัดไหนๆ เหมือนกับคำขวัญที่ว่า “ประตูภาคใต้ ไหว้เสด็จในกรม ชมไร่กาแฟ แลหาดทรายรี ดีกล้วยเล็บมือ ขึ้นชื่อรังนก” แหม… ของดีเยอะขนาดนี้ คงต้องเที่ยวกันยาวเลยล่ะ 5555

แต่ทริปนี้เรามีเวลาแค่ 3 วัน 2 คืน งั้นไปดูกันครับ ว่าทริปนี้ เราจะพาคุณไปเที่ยวไหนได้บ้าง

 

1. ร้านหอเจี้ยะ

บินมาถึง จ.ชุมพร กันตั้งแต่เช้า หลายคนคงบ่นหิวแน่ๆ จะมัวหิ้วท้องหิวไปทำไม รีบมาร้านนี้ครับ “ร้านหอเจี้ยะ” ร้านติ่มซำเจ้าดังในตัวเมืองชุมพร แถวๆ สี่แยกโรงแรมจันทร์สม เป็นร้านชั้นเดียว ตกแต่งเรียบง่าย ดูสะอาดสะอ้าน แบ่งพื้นที่เป็น 2 โซน ถ้าขี้ร้อนเชิญนั่งห้องแอร์ แต่ถ้าอยากรับลม เชิญนั่งด้านนอกครับ

เมนูติ่มซำที่ร้านมีให้เลือกเยอะมากๆๆ!! จะฮะเก๋า, ซาลาเปา, จีบกุ้ง จีบหมู จีบปู หรือจีบเธอ ก็มีครบ หรือถ้าเบื่อติ่มซำ จะเปลี่ยนมาลองบะกุ๊ตเต๋, ไข่กระทะ, ข้าวต้มหมู-ปลา, ขนมปังชุบไข่, ฯลฯ ก็มีให้เลือกเพียบ!! ส่วนเครื่องดื่มก็มีทั้ง โอเลี้ยง, ชานม, กาแฟโบราณ, นมร้อน-เย็น, เก๊กฮวย ให้เลือกดื่ม

รสชาติและคุณภาพอาหารของร้าน “หอเจี้ยะ” นั้นจัดว่าอร่อย ถูกปาก ประทับใจมาก เช้าวันนั้นเรากับเพื่อนๆ จัดเต็มจนพุงกางเลยล่ะ ใครจะแวะมาร้านนี้ เตรียมพื้นที่กระเพาะไว้เยอะๆ นะครัส!!

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่ : ตำบล ท่าตะเภา อำเภอเมืองชุมพร ชุมพร 86000
โทร : 081 535 5355
เปิด : ทุกวันเวลา 6:30 น. -22.00 น.
Facebook page : หอเจี๊ยะ at ชุมพร
พิกัด : https://goo.gl/maps/uwduU5JaJ7D2

 

2. จุดชมวิวเขามัทรี กับวิวเมืองแบบ PANORAMA

มาเที่ยว จ.ชุมพร ทั้งที ไม่มา “จุดชมวิวเขามัทรี” ก็เหมือนมาไม่ถึง!! จุดชมวิวนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองเพียงแค่ 14 กม. เป็นเนินเขาขนาดเล็ก ที่มองเห็นวิวเมืองได้แบบ PANORAMA!! ทางทิศตะวันออก มองเห็น “หาดภราดรภาพ” ส่วนทางทิศตะวันตก มองเห็นวิว “ชุมชนปากน้ำชุมพร” เหมาะจะมาชมแสงเช้า-เย็น เป็นอย่งยิ่ง!!

ด้านบนเขาเขามัทรี ประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิม (พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางมหาราชลีลา) นั่งหันหน้าออกสู่ทะเลชุมพร ตามความเชื่อว่าจะช่วยปกปักรักษาให้ชาวเรือออกทำมาหากินได้โดยสวัสดิภาพ มาเที่ยวทั้งที แวะมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เสริมสิริมงคลให้ทำมาหากินราบรื่น ก็ดีกับชีวิตนะ

สำหรับมุมถ่ายรูป Portrait บนเขามัทรีนั้นไม่ค่อยจี๊ดจ๊าดเท่าไหร่ ที่พอจะน่าสนใจ ก็คือ มุมชิงช้า กับมุม “สองเรา ณ เขามัทรี” ที่พอจะถ่ายเก๋ๆ ไว้อวดเพื่อนๆ บท Facebook กับ Instagram ครับ

อ้อ!! ด้านบนมีร้านกาแฟบริการด้วยนะ (เรายังไม่ได้ลองชิม) ใครอยากลองจิบกาแฟชมวิวสวยๆ ก็แวะมาได้เลยจ้า!!

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่ : ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ชุมพร 86120
พิกัด : https://goo.gl/maps/D4XFmeZHavK2

 

3. สักการะศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

นอกจากจุดชมวิว “เขามัทรี” แล้ว อีกหนึ่งพิกัดที่ต้องไม่พลาด คือ การมาสักการะ “ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ “หาดทรายรี” ครับผม

กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือ นายพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (19 ธ.ค. 2423 – 19 พ.ค. 2466) มีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ ทรงเป็นต้นราชสกุล “อาภากร” เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

พระองค์ทรงเป็นผู้วางรากฐานการบริหารงานของกองทัพเรือไทย ทรงได้รับการยกย่องเชิดชูในหมู่ทหารเรือ และเรียกขานพระองค์ว่า “เสด็จเตี่ย” หรือ “องค์บิดาของทหารเรือไทย” ภายหลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ ได้มีการจัดสร้างศาลและอนุสาวรีย์เพื่อระลึกถึงพระองค์ไว้มากมาย รวมถึงที่ศาลแห่งนี้ด้วย

ในการมาสักการะศาลกรมหลวงชุมพรฯ นั้น นิยมยิงปืนขึ้นฟ้าหรือจุดประทัดเพื่อเป็นการแก้บน ผู้คนส่วนใหญ่เชื่อว่าการมาสักการะศาลกรมหลวงชุมพรฯ จะช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย ประสบความสำเร็จในเรื่องงาน รวมถึงผู้ที่ประกอบกิจการทางน้ำ เดินเรือหรือทำการประมง ต่างให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่ : ตำบล หาดทรายรี อำเภอเมืองชุมพร ชุมพร 86000
โทร : +668 7270 9609 , +66 7750 2775-6, +66 7750 1831-2
เปิด : ทุกวันตั้งแต่ 08:00 – 20:00 น.
พิกัด : https://goo.gl/maps/oh3Nv2RFAwu

 

4. ร้าน Cera Café & Garden

ขอยกให้ร้าน Cera Cafe’ & Garden เป็นหนึ่งใน “ร้านกาแฟน่าแวะ” ประจำ จ.ชุมพร ครับผม!! ชื่อร้านก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นร้านกาแฟในสวน แต่ที่ประทับใจคือ ความร่มรื่นของร้าน ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยสีเขียวหลากโทนของต้นไม้น้อยใหญ่ บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ในป่ามากกว่าจะเป็นแค่สวนเฉยๆ 55555

ชื่อร้าน Cera Cafe’ & Garden มาจากคำว่า “Cera” ย่อมาจาก เซรามิก ส่วน “Garden” ก็ตรงตัว คือเค้าตั้งใจทำเป็นร้านกาแฟในสวน เหมาะอย่างยิ่งที่จะหลบร้อนมาพึ่งความร่มรื่นเย็นสบายของร้านนี้ หรือจะแวะมาถ่ายรูป ก็มีมุมสวยเยอะเลย คอนเฟิร์ม!!

ภายในร้านแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างมีโต๊ะไม้ให้เลือกนั่งได้หลายจุด ทั้งในตัวอาคาร และศาลาในสวน แต่มุมที่เราชอบสุด คือ ตรงศาลาด้านนอก ที่ดูเป็นส่วนตัว และให้เราได้นั่งเหยียดขาชมวิวสบายๆ สำหรับชั้น 2 จะมีบันไดวนพาขึ้นสู่ด้านบน ซึ่งมีทั้งโซนนั่งพื้นและมีโต๊ะนั่งไว้บริการเช่นกัน

ที่ร้านมีเครื่องดื่มและเบเกอรี่ขาย รสชาติกาแฟและขนมนั้นถือว่าดีทีเดียว ราคาเป็นมิตรดีมาก ส่วนเมนูที่อยากแนะนำ คือ “ชาจี๊ด” ชาผสมส้มจี๊ดที่สุดจะเปรี้ยวปรี๊ส!! เข้มข้น ดื่มแล้วหายง่วง สดชื่นได้ในบัดดล!! 55555

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่ : ถ.เฉลิมพระเกียรติ ต.นาทุ่ง อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร 86000
โทร : 089 683 6927
เปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 20.00 น.
พิกัด: https://goo.gl/maps/ahZucHPXV7S2

 

5. สถานีรถไฟหลังสวน

ได้ยินชื่อ “สถานีรถไฟหลังสวน” มาตั้งแต่เด็กๆ เพิ่งจะได้มาจริงก็วันนี้!! เราว่านี่เป็นโลเคชั่นที่เหมาะจะเป็นฉากหนังย้อนยุค มีสาวสวยแต่งตัวจี๊ดจ๊าด หิ้วกระเป๋ามารอรถไฟ ไปตามหาฝันใน กทม. อะไรแบบนี้!! แต่นางแบบเรามีแค่ยัยหมวย หน้าตาอินเตอร์ มันก็จะได้ฟีลสาวฮ่องกงมาหลงอยู่ภาคใต้แบบนี้แหล่ะ 55555

“สถานีรถไฟหลังสวน” เป็นสถานีรถไฟที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาก เปิดใช้งานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2459 โดยเฉพาะช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะเป็นชุมทางให้รถไฟสายทหารของญี่ปุ่น ปัจจุบันได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด!! ของ จ.ชุมพร นี่ละครับ!!

ตัวสถานีเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวทาสีเหลืองมัสตาร์ด วางตัวขนานไปกับทางรถไฟ ประกอบด้วยส่วนสถานีและส่วนชานชาลา มีห้องจำหน่ายตั๋ว, ห้องปฏิบัติการ, ห้องรับรอง ฯลฯ หลังคาสถานีเป็นหลังคาจั่วผสมปั้นหยา ประตู-หน้าต่างเป็นบานลูกฟักไม้

บริเวณย่านสถานีประกอบด้วย อาคารสถานีรถไฟ, อาคารร้านค้า, บ้านพักพนักงานและหออาณัติสัญญาณ ทางด้านทิศเหนือของสถานีรถไฟ มีสะพานรถไฟเหล็กข้ามแม่น้ำหลังสวน ซึ่งทั้งหมดถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม ที่ควรได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างยิ่ง

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่ : ต.หลังสวน อ.หลังสวน ชุมพร 86110
โทร : 077 541 286
พิกัด : https://goo.gl/maps/iwxXuSuV6BN2

 

6. ร้านอาหารศิริวรรณ อ.สวี จ.ชุมพร

ร้านอาหารเก่าแก่ของ อ.สวี จ.ชุมพร ร้านตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม ภายในร้านตกแต่งแบบเรียบง่ายสไตล์ชาวบ้าน หลังคาสูงโปร่งเปิดโล่งรับลมเย็น ร้านแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ห้องแอร์และด้านนอก ทีเด็ดของร้านนี้อยู่ที่อาหารท้องถิ่นสไตล์ชุมพรแท้ๆ แต่ละจานปรุงได้ถึงรสมาก!! จัดจ้าน ถูกปากอย่างแรง!! 

เมนูที่สั่งมาทาน ได้แก่

  • เอ็นหอยผัดฉ่า  : เอ็นหอยใบยางเอามาผัดฉ่ากับขมิ้น กระชาย พริกไทยอ่อน รสจัดจ้า เอ็นหอย ไม่เหนียว ไม่แข็ง ทานเพลินเลย
  • ใบเลียงผัดไข่ : เมนูนี้ถือเป็นเมนูคู่โต๊ะอาหารทุกครัวเรือนชาวใต้เลยล่ะ รสชาติได้มาตรฐานดีครับ
  • ปลาอินทรีย์ทอด : เนื้อปลาอินทรีย์ชิ้นใหญ่ๆ หันตามขวาง เนื้อปลาสด ทอดได้กรอบนอกนุ่มในดีมากๆ เลย
  • กุ้งผัดสะตอกะปิ : ใครชอบผัดสะตอ จานนี้ต้องสั่งครับ ทางร้านใส่กะปิเพื่อรสชาติที่เข้มข้น นุ่มนวล จานนี้รสชาติจัดจ้าน ถูกใจเรา
  • ต้มยำกุ้งแม่น้ำ :  เมนูแนะนำของทางร้าน เมนูนี้อร่อย!! รสเข้มข้น จัดจ้าน เผ็ดจริงจนยัยหมวยทานไม่ได้เลยจ้า!!
ปลาอินทรีย์ทอด

ปลาอินทรีย์ทอด

เอ็นหอยผัดฉ่า

เอ็นหอยผัดฉ่า

กุ้งผัดสะตอกะปิ

กุ้งผัดสะตอกะปิ

ใบเหลียงผัดไข่

ใบเหลียงผัดไข่

ต้มยำกุ้งแม่น้ำ

ต้มยำกุ้งแม่น้ำ

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่ : ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 ต.สวี อ.สวี ชุมพร 86130
โทร : 077-531-010 และ 082-274-9030
เปิด : ทุกวัน เวลา 09:00 – 22:00 น.
พิกัด : https://goo.gl/maps/R43yH6XKCWt

 

7. ธูษิฏา (Tusita Wellness Resort) รีสอร์ทสปา แห่ง จ.ชุมพร

ทริปนี้เราเข้าพักที่ “ธูษิฏา เวลเนส รีสอร์ท (Tusita Wellness Resort)” ซึ่งเป็น “สปารีสอร์ท” ชื่อดังใน จ.ชุมพร ความน่าสนใจของ “ธูษิฏา” แห่งนี้อยู่ที่ตัวรีสอร์ทออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนอย่างจริงจัง เห็นได้จากการออกแบบตกแต่ง ที่ให้กลิ่นอายผสมผสานระหว่างความเป็น ไทย-อินเดีย-อังกฤษ มีความ Tropical รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ เน้นความโปร่งสบาย คล้ายๆ รีสอร์ทแบบบาหลี

ชื่อรีสอร์ท “ธูษิฏา (ทู-สิ-ตา)” อาจจะเรียกยากสักหน่อย แต่ความหมายนั้นดีงาม เพราะแปลว่า “สวรรค์ชั้น 4” เหมือนจะบอกให้ลูกค้าที่มาพักได้รู้ว่า ที่นี่สะดวกสบาย เหมือนอยู่บนสวรรค์เลยทีเดียว (อันนี้เรายังไม่เคยไปสวรรค์นะ เลยไม่กล้าเทียบ ว่าเหมือนกันจริงไหม)

เราพักที่ห้อง Deluxe Garden View Villa ซึ่งวิลล่าเนื้อที่กว้างขวาง มีระเบียงด้านหน้าไว้นั่งเล่นรับลม ภายในห้องพื้นที่ประมาณ 50 ตร.ม. พื้นที่เยอะถูกใจยัยหมวย การตกแต่งภายในห้องมีกลิ่นอายผสมผสานแบบไทย-อินเดีย เตียงใหญ่ มีโต๊ะทำงาน มีห้องน้ำกว้างๆ แบ่งส่วนเปียก-แห้งได้อย่างดี

สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องก็มีครบครัน ทั้ง TV, ตู้ย็น, เตียง King Size, โต๊ะทำงาน, ชุดเก้าอี้รับแขก, ตู้เสื้อผ้า, ตู้เซฟ, Amenities แต่ส่วนตัวเรารู้สึกว่าในห้องดูทึบๆ อึดอัดไปสักหน่อย อาจเป็นเพราะความหนาหนักของเฟอร์นิเจอร์ไม้ รวมการเลือกใช้โทนสีโดยรวม ก็เป็นได้

สำหรับห้อง Deluxe Villa นั้น ราคาเป็นดังนี้

  • Low Season (มิ.ย. – ต.ค.) : ราคา 3,700.-
  • High Season (พ.ย. – พ.ค.) : ราคา 4,200.-

สำหรับลูกค้าที่มาพักแบบครอบครัว เราแนะนำห้อง Family Suite เพราะนอนได้ตั้ง 8 คน กับวิลล่า 2 ชั้น พื้นที่ 150 ตร.ม. ภายในประกอบด้วย

  1. ห้องรับแขกขนาดใหญ่
  2. ห้องนอนขนาดใหญ่พร้อมเตียง King Size 1 ห้อง
  3. ห้องนอนพร้อมเตียง Twin Bed 1 ห้อง
  4. มีห้องใต้หลังคา (ชั้น 2) ที่นอนได้อีก 4 คน
  5. มีห้องน้ำรวม 3 ห้อง
  6. มี Pantry
  7. มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

สำหรับห้อง Family Suite นั้น ราคาเป็นดังนี้

  • Low Season (มิ.ย. – ต.ค.) : ราคา 11,400.-
  • High Season (พ.ย. – พ.ค.) : ราคา 13,000.-

ทางรีสอร์ทมีห้องอาหาร Murraya Restaurant ซึ่งเป็นห้องอาหารนานาชาติไว้ให้บริการ โดยมื้อเช้าจะเป็นบุฟเฟ่ต์ ส่วนมื้ออื่นๆ จะเลือกสั่งเป็นตามสั่งก็ได้ หรือถ้ามาเป็นหมู่คณะ จะสั่งเป็นบุฟเฟ่ต์รวมซีฟู๊ดก็อร่อยเกินราคาเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังมี Pari Spa เป็นอาคารแยกออกมาจากตัวรีสอร์ท ให้บริการดูแลผิวพรรณและสรีระแบบครบวงจร ทั้งนวดน้ำมัน, นวดไทย, สครับ, ซาวน่า, สตีม ฯลฯ โดยมีเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับการอบรมเฉพาะทางมาคอยดูแลให้เป็นอย่างดี เรา 2 คนทดลองใช้บริการแล้ว บอกเลยว่า… ฝีมือระดับโลก!! ประทับใจ สบายตัว!!

ตัวรีสอร์ทนั้นแบ่งส่วนที่พักออกเป็น Garden Villa และ Beach Front Villa ซึ่งอยู่ห่างกันนิดหน่อย มีบริการรถกอล์ฟรับ-ส่งตลอดเวลา ช่วงเช้าๆ ใครอยากชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ ละก็ รีบจองรถกอล์ฟล่วงหน้าไว้เลย เพราะแสงเช้าที่ “หาดอรุโณทัย” นั้นสวยมาก!!

ราคาที่พัก ที่ Tusita Wellness Resort ช่วง Low กับ High Season นั้นต่างกันพอสมควรเลย ส่วนตัวเราว่ามาพักสักช่วงเดือนตุลาคม น่าจะคุ้มสุดครับ

ราคา Low Season (มิ.ย. – ต.ค.)

  • Deluxe Villa – 3,700
  • Grand Deluxe Villa – 4,700
  • Garden Suite – 5,700
  • Family Suite – 11,400
  • Beachfront Jacuzzi Room – 5,700
  • Beachfront Jacuzzi Suite – 7,700
  • Beachfront Jacuzzi Pool Villa – 9,200

ราคา High Season (พ.ย.-พ.ค.)

  • Deluxe Villa – 4,200
  • Grand Deluxe Villa – 5,300
  • Garden Suite – 6,500
  • Family Suite – 13,000
  • Beachfront Jacuzzi Room – 6,500
  • Beachfront Jacuzzi Suite – 8,800
  • Beachfront Jacuzzi Pool Villa – 10,500

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่ : 259/9 หมู่ 1 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก ชุมพร 86220
โทร : +66 77 630 920 +66 77 510 452
ติดต่อ : reservation@tusitawellness.com
Email : info@tusitawellness.com
Facebook Page :  https://www.facebook.com/TusitaWellnessResort
Website : www.tusitawellness.com

 

 

เที่ยวระนอง เมืองธารน้ำแร่ ประตูสู่อันดามัน

ปีนี้นับเป็นโชคดีที่เราได้มีโอกาสมาเที่ยว จ.ระนอง หลายครั้ง ทำให้รู้ว่าจังหวัดนี้มีของดีมากมายเหลือเกิน ตอบโจทย์ทั้งคนชอบเที่ยวชมเมือง ชอบทะเล-ธรรมชาติ ชอบของอร่อย ที่สำคัญ จ.ระนอง ยังเป็นประตูสู่ทะเลอันดามันและเป็นเมืองแห่งธารน้ำแร่ ที่ขึ้นชื่อมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณย่าเลยทีเดียว

แม้จะได้ฉายาว่าเป็นเมือง “ฝนแปด แดดสี่” แต่ จ.ระนอง คืออีกหนึ่งจังหวัดที่การท่องเที่ยวกำลังบูม หน้าฝนก็มีที่เที่ยวบนเกาะให้ได้เที่ยวจนลืมฝน พอหมดหน้าฝน ก็ยังมีโปรแกรมล่องเรือเที่ยวหมู่เกาะทะเลพม่า ซึ่งมีทรัพยากรทางทะเลที่สวยงามและสมบูรณ์สุดๆ

วิวมุมสูง หมู่เกาะพม่า

แต่ในทริปนี้เรามีเวลาราวๆ 3 วัน 2 คืน ถ้าต้องออกเกาะ เห็นทีจะไม่ทัน แถมพอกลับไปทำงาน ก็อาจจะเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว ดังนั้นเราขอแนะนำที่เที่ยวแบบไม่ออกทะเลก่อนครับผม

 

8. แช่น้ำแร่น้ำนอง ฮอท สปา

แม้บ้านเราจะเป็นเมืองร้อน ไม่มีธรรมเนียมการแช่ออนเซ็นเหมือนอย่างญี่ปุ่น แต่ก็ไม่ได้ความว่าเราจะไม่มีธารน้ำแร่คุณภาพ จริงไหม? ระนอง คือ หนึ่งในจังหวัดที่มีสายแร่และมีบ่อน้ำแร่ที่ขึ้นชื่อลือชามาช้านาน คนเมืองระนองเองก็รู้และโปรโมทจังหวัดด้วยจุดแข็งนี้ได้เป็นอย่างดี

เมื่อมาถึง จ.ระนอง เราจะไม่ลองแช่น้ำแร่ได้อย่างไร? รอบนี้เราถือโอกาสมาลองใช้บริการของ “น้ำนอง ฮอท สปา (Namsong Hot Spa)” ซึ่งเป็นหนึ่งในบ่อน้ำแร่อันดับต้นๆ ของ จ.ระนอง เลยทีเดียว ตอนนี้เค้าปรับปรุงใหม่ สะอาด ได้มาตรฐานดีมากๆ ลองมาดูกันครับ ว่าบรรยากาศเป็นยังไง

“น้ำนอง ฮอท สปา (Namsong Hot Spa)” เป็นบ่อน้ำแร่ของเอกชน ตั้งอยู่ในเขตสวนสาธารณะรักษะวาริน ซึ่งเป็นแหล่งธารน้ำแร่ร้อนธรรมชาติที่ดีที่สุดในไทย ภายในสะอาด ได้มาตรฐาน เป็นส่วนตัว มีตู้ล็อคเกอร์ให้เก็บของ มีห้องอาบน้ำ ห้องสุขา เป็นสัดส่วน

วิธีการใช้บริการเป็นดังนี้

  1. เมื่อชำระเงินค่าใช้บริการแล้ว เราจะได้รับกุญแจตู้ล็อคเกอร์, ผ้าขนหนู และผ้านุ่ง
  2. ให้เราเก็บของมีค่าให้เรียบร้อย จากนั้นไปอาบน้ำล้างตัวให้สะอาด
  3. เปลี่ยใส่กางเกงขาสั้น หรือผ้าถุงที่ทางสปาเตรียมไว้ให้
  4. ค่อยๆ จุ่มเท้าลงไป เพื่อให้ร่างกายปรับตัวกับน้ำแร่ร้อน เมื่อร่างกายชินแล้วจึงค่อยๆ ย่อตัวลงไปแช่
  5. ควรอยู่ในน้ำร้อนครั้งละประมาณ 10-15 นาที จากนั้นเปลี่ยนไปลงบ่อน้ำเย็น เพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียน
  6. เมื่อใช้บริการเสร็จแล้ว ให้กลับมาอาบน้ำ เช็ดตัว เป่าผมให้แห้ง แล้วนำอุปกรณ์คืนให้ทางสปา

นอกจากบริการให้แช่น้ำแร่ร้อนแบบ “วารีบำบัด” แล้ว น้ำนอง ฮอท สปา ยังมีบริการ ซาวน่า นวดไทย นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดผ่อนคลาย ขัดตัวและพอกตัว เรียกว่ามาที่เดียวครบวงจร กลับบ้านไปแบบหายปวดเมื่อย พร้อมผิวสดใส สุขภาพดีกันเลยทีเดียว!!

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่ : ต.เขานิเวศน์ อ.เมืองระนอง ระนอง 85000
โทร : 0846253444
เปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.
Facebook page : https://www.facebook.com/NamNongHotSpa/
พิกัด : https://goo.gl/maps/pWnXPY79TKC2

 

9. บ้าน 100 ปี เทียนสือ

จ.ระนอง เป็นอีกจังหวัดนึงทางใต้ ที่มีชาวจีนอพยพมาตั้งรกรากอยู่นานนับร้อยปี เมื่อ 2 วัฒนธรรมที่แตกต่าง มาผสมกลมกลืนจนเกิดเป็นรูปแบบเฉพาะตัว ทำให้เรื่องของเมืองระนองน่าสนใจไม่แพ้ที่ไหนๆ การมาเที่ยว “บ้าน 100 ปี เทียนสือ” จึงเป็นทางลัดให้เราเข้าใจความเป็น “ระนอง” ได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง!!

ปัจจุบันบ้านนี้ยังมีทายาทตระกูล ณ ระนอง อาศัยอยู่ โดยเปิดบ้านให้เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ มีร้านอาหารด้วยนะ ในภาพนี้เจ้าของบ้าน (ปัจจุบัน)

“บ้าน 100 ปี เทียนสือ” มีอายุกว่า 150 ปี เป็นหนึ่งในบ้านเก่าแก่ที่สุดหลังนึงในเมืองระนอง แล้วยังเป็นบ้านของต้นตระกูล “ณ ระนอง” อีกด้วย ปัจจุบันตัวบ้านได้ถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมชุมชนที่สำคัญของระนอง

ตัวบ้านเทียนสือ เป็น อาคารโบราณ 2 ชั้นที่ได้รับการอนุรักษ์อย่างดี ชั้นบนเป็นไม้ ชั้นล่างเป็นตึก มีตัวบ้านด้านหน้าและด้านหลังลักษณะเหมือนบ้านแฝด มีสวนกลางบ้าน หน้าต่างทุกช่องเป็นไม้แผ่นหนา รูปทรงแบบหมวกทหารจีนโบราณ ภายในบ้านเต็มไปด้วยภาพถ่ายและเครื่องใช้โบราณที่ตกทอดมาหลายชั่วอายุคน

ความน่าสนใจของ “บ้าน 100 ปี เทียนสือ” นอกจากในแง่ของประวัติศาสตร์ (ซึ่งอาจดูน่าเบื่อสำหรับหลายคน) ที่นี่ยังเป็นที่เที่ยวที่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะ ไม่ว่าจะเป็นลานหน้าบ้านที่มีการนำโคมจีนและร่มหลากสีมาห้อยตกแต่งได้อย่างสวยงามแล้ว แต่ละมุมของบ้านก็ถูกจัดไว้ให้ถ่ายรูปเช่นกัน

และถ้าจะให้ได้ฟีลย้อนยุคเข้ากับบรรยากาศบ้านสุดๆ เราแนะนำให้เช่าชุด “บ้าบ๋า ย่าหยา” ใส่ด้วย รับรองว่าจะได้รูปสวยๆ ไว้โพสต์อวดเพื่อนแน่นอน!! ที่บ้าน “เทียนสือ” มีชุดให้เช่าใส่ ในราคา 300 บาท ใส่ชุดแล้วต้องใส่เกี๊ยะและถือเสี่ยหนา(ปิ่นโตไม้สไตล์ปีนัง) ด้วยนะ จะได้ครบเครื่อง ^_^

ทุกวันศุกร์อย่าพลาด ช้อป ชิม ชม ถนนคนเดินสายวัฒนธรรมบ้านร้อยปีเทียนสือ สินค้าพื้นเมือง มีของกินโบราณพื้นบ้านระนองหลายอย่าง แถมแม่ค้าแต่งตัวงามๆตามผ้าไทยพื้นถิ่นวิถี ผู้มาเดินไม่จำเป็นต้องแต่งตัวย้อนยุคก็ได้นะคะ แต่ถ้าอยากใส่ชุดให้เข้ากับบรรยากาศอย่างไม่ขัดเขิน งานเริ่ม 17.00 – 22.00 น.

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่ : ต.เขานิเวศน์ อ.เมืองระนอง ระนอง 85000
โทร : 081 088 2629
เปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 -17.00 น. ไม่เสียค่าเข้า แต่มีกล่องรับบริจาคเพื่อเป็นค่าบำรุงรักษา
Facebook page : https://goo.gl/q4mzn6
พิกัด : https://goo.gl/maps/wxmw5getiP72

 

10. จวนเจ้าเมืองระนอง

พิกัดนี้อาจไม่พีคมากมายนัก แต่ถ้านี่เป็นครั้งแรกที่มาเที่ยว จ.ระนอง เราอยากให้ลองแวะไปเรียนรู้เกร็ดประวัติศาสตร์ของเมือง ที่จวนเจ้าเมืองระนองกันสักนิดครับ “จวนเจ้าเมืองระนอง หรือ บ้านค่ายเจ้าเมืองระนอง” เป็นบ้านทรงจีนขนาดกระทัดรัด สร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 2420 ในสมัยพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง)

ภายในบ้านเป็นที่เก็บรวบรวมสิ่งของสำคัญรวมถึงศาลบรรพบุรุษของต้นตระกูล ณ ระนอง บริเวณหน้าบ้านมีป้ายอักษรจีนฮกเกี้ยนเขียนว่า “เกา-หยาง” แปลว่า “ดวงตะวันอันสูงส่ง” ซึ่งยกย่องว่า “บ้านนี้มากด้วยขุนนาง, บ้านนี้มากด้วยแก้วแหวนเงินทอง”

ซึ่งป้ายดังกล่าวพระราชทานโดยสมเด็จพระยาดำรงราชานุภาพโอรสของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 4 นอกจากนี้ยังมีศิลาจารึกที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 5 พระราชทานไว้เป็นเกียรติแก่ตระกูล ณ ระนอง ในฐานะเจ้าเมืองระนองอีกด้วย

ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนบ้านหลังนี้เป็นโบราณสถาน ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ต่อเมืองระนอง

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่ : ตำบลเขานิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง
โทร : 081 956 0008
เปิด : ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น
พิกัด : https://goo.gl/maps/W8osXLU1Gi42

 

11. พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง)

พระราชวังรัตนรังสรรค์ ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขารัตนรังสรรค์ ตำบลเขานิเวศน์ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2433 โดยพระยารัตนเศรษฐี (คอซิมก๊อง) เจ้าเมืองระนองในขณะนั้น เนื่องด้วยรัชกาลที่ 5 ได้เสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ฝ่ายตะวันตกเป็นครั้งแรก และเสด็จไปถึงเมืองระนองในวันที่ 23-25 เมษายน 2433 พระยารัตนเศรษฐีจึงได้สร้างพลับพลาที่ประทับรับเสด็จที่บนเนินควนอันอยู่ใจกลางเมืองทำด้วยไม้สักและไม้ตะเคียนทอง ประสงค์จะถวายเป็นราชพลีสนองพระเดชพระคุณซึ่งได้ทรงชุบเลี้ยงสกุลวงศ์มา

ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จไปทอดพระเนตรเห็นดำรัสว่า“…ทำงดงามมั่นคงสมควรจะเป็นวัง ยิ่งกว่าจะเป็นพลับพลา…” จึงพระราชทานนามว่า “พระราชวังรัตนรังสรรค์” ให้เป็นเกียรติยศแก่เมืองระนอง และสกุลของพระยารัตนเศรษฐีด้วย แต่ทรงพระราชดำริว่า ที่เมืองระนองนานๆ จะเสด็จประพาสครั้งหนึ่ง วังทิ้งไว้เปล่าก็จะชำรุดทรุดโทรมเสีย จึงพระราชทานพระบรมราชานุญาตว่า โดยปกติให้ใช้พระราชวังนั้นเป็นศาลารัฐบาล และทำพิธีสำหรับบ้านเมือง ต่อเมื่อมีการเสด็จประพาสเมื่อใดจึงให้จัดเป็นที่ประทับ

ปัจจุบันจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญยิ่ง สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์การเสด็จประทับแรมที่จังหวัดระนองของพระมหากษัตริย์ 3 พระองค์ ได้แก่

  1. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2433)
  2. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 (พ.ศ.2452) และ
  3. พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 (พ.ศ. 2471)

ภายในมีจัดแสดงห้องบรรทมพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ชั้น 3) ห้องพระราชินี (ชั้น 2) มีจำนวน 6 ห้อง อาคารทรงแปดเหลี่ยม อาคารท้องพระโรง สะพานเชื่อมอาคารที่ประทับกับอาคารแปดเหลี่ยม 

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่ : เชิงเขารัตนรังสรรค์ (ใกล้ศาลากลางจังหวัดระนอง) ต.เขานิเวศน์ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง 85000
โทร : 0-7781-1422
เปิด : ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 50 บาท, เด็ก 20 บาท, ชาวต่างชาติ 100 บาท

 

12. ร้านอาหารโรงกลวง (ถอดรองเท้า)

ร้านอาหารโรงกลวง (ถอดรองเท้า) เป็นร้านอาหารชื่อดังแห่ง จ.ระนอง ร้านอาหารเก่าแก่ที่เปิดมานานกว่า 50 ปี เน้นขายอาหารพื้นบ้านปักษ์ใต้รสชาติจัดจ้าน ดั้งเดิม เน้นใช้วัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นเป็นหลัก

ชื่อร้าน ”โรงกลวง” เพราะเป็นร้านที่อยู่ในชุมชมโรงกลวง ซึ่งในอดีตเป็นชุมชนที่ชาวบ้านที่ทำแร่ดีบุกจะต้องมาเสียอากรกันที่นี่ ส่วนคำว่า “ถอดรองเท้า” มาจากที่ แต่ก่อนใครจะมาใช้บริการนี้ ต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าร้านเสมอ เพื่อความสะอาดของร้านที่เป็นทั้งบ้านและร้านอาหารในที่เดียวกัน

ปัจจุบันเรามาอิ่มอร่อยที่ร้านนี้ได้โดย “ไม่ต้องถอดรองเท้า” แล้วครับผม!!

เมนูที่ทาน

  1. กุ้งแม่น้ำผัดกะปิสะตอ อร่อยเข้มข้นถึงเครื่องใช้กะปิดี เห็นใส่พริกเยอะๆ เต็มจานแต่ไม่ได้เผ็ดมากนะ ยัยหมวยทานได้สบาย
  2. ใบเหลียงผัดไข่ จานนี้เป็นเมนูมาตรฐานที่ต้องลอง ใบเหลียงเหนียวนุ่มผัดไข่ และมีใส่วุ้นเส้นเพิ่มเข้ามาด้วย
  3. ปลาทรายทอดขมิ้น ปลาทรายสดขนาดกำลังดี ทอดได้สีเหลืองสวย ทานกรุบกรอบได้ทั้งตัว โรยหน้ามาด้วยกระเทียม มีกลิ่นหอมของขมิ้นเล็กน้อย ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมาก
  4. กุ้งผัดน้ำมะขาม กุ้งสดตัวเต็มปากเต็มคำผัดกับซอสมะขามรสเปรี้ยวหวาน โรยหน้าด้วยกระเทียมทอดกรอบ
  5. แกงเลียงกุ้ง รสเผ็ดจัดจ้าน หอมสมุนไพร อาจจะไม่ได้อร่อยที่สุดแต่ได้ซดน้ำร้อนๆก็ชื่นใจจ้า
  6. ยำผักกูด เห็นหน้าตาแปลกตาแบบนี้ก็อร่อยใช้ได้เลยจ้า ผักกูดสีเขียวทอดกรอบวางไว้ด้านหลัง โปะหน้าด้วยปลาหมึกหั่นเป็นชิ้นพอดีคํา ปลาหมึกหวานเด้งดึ้งในปาก รสออกหวานมันปนเผ็ดนิดๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่ : 2/3 กิจผดุง เขานิเวศน์ อ.เมือง จ.ระนอง 85000
โทร : ควรโทรจองโต๊ะล่วงหน้าด้วยจ้า 077-822-964
เปิด : ทุกวันตั้งแต่ 11:00 น. – 19:00 น.
พิกัด : https://goo.gl/maps/Kg2NzXPj8k22

 

13. ภูเขาหญ้า

ภูเขาหญ้า ห่างจากตัวเมืองระนองประมาณ 11-12 กม.  เป็นภูเขาหัวโล้นตามธรรมชาติไม่ได้เกิดจากการไปตัดต้นไม้จนโล้น และมีแนวต้นหญ้าที่ขึ้นเสมอกัน เป็นอีกหนึ่งสถานที่ไฮไลต์ของเมืองระนอง ดั่งคำขวัญของเมืองระนอง “คอคอดกระ ภูเขาหญ้า กาหยูหวาน ธารน้ำแร่ มุกแท้เมืองระนอง” จะมีสัตว์มากินหญ้า เราสามารถเดินขึ้นไปบนเนินของภูเขาหญ้า แต่ละลูกจะเดินเชื่อมถึงกัน ไม่สูงมาก ในบางเดือนภูเขาหญ้าจะถูกใช้เป็นที่จัดงานเช่นงานคาวบอย งานบอนลูน  เที่ยวภูเขาหญ้าแต่ละช่วงก็จะได้บรรยากาศที่ต่างกัน

  • ฤดูฝน ตั้งแต่เดือน พค. – ตค. จะพบภูเขาหญ้าสีเขียว ทั่วทั้งภูเขาดูสวยงามสดชื่นคล้ายกับภาพ wallpaper
  • ฤดูแล้ง ตั้งแต่เดือน พย. – เม.ย. จะพบภูเขาหญ้าแห้งสีน้ำตาล

เป็นภูเขาที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้น ในฤดูฝนมีหญ้าสีเขียวขึ้นปกคลุมแนวเขาที่ทอดตัวจากทิศเหนือสู่ทิศใต้ บางครั้งจึงเรียกว่า ภูเขาหญ้า ที่ราบเชิงเขามีทางเดินเท้าสำหรับนักท่องเที่ยวขึ้นสู่บนสันเขาเพื่อชมวิวทิวทัศน์

 

เราชอบที่นี่แฮะ แอบอิจฉาคนระนองจัง ปากเกร็ดไม่มีอะไรแบบเน้!!! ใครว่าระนองเป็นเมืองรองเนี่ย!!?

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่ : หมู่ที่ 1 ตำบลหงาว อำเภอเมือง จังหวัดระนอง
เปิด : ทุกวัน ไม่เสียค่าเข้า
พิกัด : https://goo.gl/maps/1N86X5kXauQ2

 

14. Workshop ผ้ามัดย้อม & ลิปสติก ณ โตนเพชร กรีนเนอรี การ์เด้น

อีกหนึ่งความพิเศษในทริปนี้ คือการไปสนุกกับ Workshop การทำผ้ามัดย้อม & ลิปสติก จากส่วนผสมธรรมชาติ ที่ โตนเพชร กรีนเนอรี การ์เด้น ซึ่งตอนนี้จัดกิจกรรมเอาใจสาวๆ โดยเฉพาะดังนี้

  1. DIY ทำผ้ามัดย้อมด้วยขมิ้น ซึ่งออกมาเป็นสีเหลือง หรือสีส้มได้สวยงามและแปลกตามาก
  2. DIY Lipstick ผลิตจากเบสและผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ อ่อนโยนและบำรุงริมฝีปากเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย และสาวแพ้สารเคมี  เราจะสามารถผสมสีที่ชอบตามใจชอบ ราคา 350 บาทเอง จะได้ลิปสติก 3 ชิ้น แบบจุ่ม 2 แท่งและแบบตลับ 1 อัน จะนำกลับไปใช้เองหรือจะเป็นของฝากก็ได้จ้า

ทางรีสอร์ทมีกิจกรรม DIY ให้เราทำผ้ามัดย้อมเองด้วยนะ

กิจกรรม DIY ผ้ามัดย้อมด้วยขมิ้น จะให้สีเหลืองส้ม สวยแปลกตาดี

 

นอกจากนี้ที่ “โตนเพชร กรีนเนอรี การ์เด้น (Ton Phet Greenery Garden)” ยังให้บริการที่พักสไตล์แคมปิ้งท่ามกลางแมกไม้และธารน้ำ มีให้เลือกทั้งแบบบ้านพัก (จำนวน 11 หลัง) และเต๊นท์แบบแคมป์ปิ้ง (จำนวน 16 หลัง) เหมาะสำหรับคนรักความชิลล์ ชอบอยู่กลางธรรมชาติ เป็นอย่างยิ่ง

โปรโมชั่นพิเศษ “จ่ายทีเดียว… เที่ยวสบายใจ” เพื่อต้อนรับเทศกาลเที่ยวเกาะ ท่องทะเลอันดามัน ให้คุณหมดกังวลเรื่องการเดินทาง ด้วยที่พักแบบ Luxury Tent House (เต๊นท์บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว) พักได้ 2-4 คน พิเศษเพียง 1,690 บาท/คน/คืน แถมฟรี!!

  • อาหาร 2 มื้อ!!! มื้อเย็น (ชุดปิ้งย่างซีฟู๊ดและบาบีคิว) และมื้อเช้า
  • บริการรับ/ส่ง ฟรี!!! สนามบิน-ที่พัก-ท่าเรือ หรือ ท่าเรือ-ที่พัก-สนามบิน
  • เริ่มตั้งแต่ วันที่ 15 ต.ค. 2561 – 30 พ.ค. 2562

“โตนเพชร กรีนเนอรี การ์เด้น” ที่อยู่ห่างจากสนามบินแค่ 10 นาที และห่างจากตัวเมืองระนองแค่ 20-30 นาทีเท่านั้น (ระยะทางประมาณ 30 กม.)

ที่พักแบบกระโจมเต๊นท์ เตียงหนา นอนสบาย

ไม่ได้มานอน แต่มาขอถ่ายรูป 5555

ธารน้ำที่ไหลผ่านรีสอร์ทนี่บรรยากาศดีสุดๆ เหมาะแก่การนั่งแช่เป็นอย่างมาก

รายละเอียดเพิ่มเติม

ที่อยู่ : 9/4 หมู่ที่ 4 ตำบลราชกรูด อำเภอเมือง จังหวัดระนอง
โทร : 093-693-5423 และ 099-632-2451
Facebook page : https://www.facebook.com/pg/Tonphetgreenery/posts/
พิกัด : https://goo.gl/maps/gdT2BzvBKtj

 

15. Galla Cafe’ at the Galla Hotel Ranong

The Galla Hotel Ranong อีกหนึ่งโรงแรมที่อยากจะ Recommend ตกแต่งดี มีความฮิป ห้องนอนกว้าง สะอาด สบาย มื้อเช้าดี มีความเกาหลีนิดๆ ค่าห้องเบาๆ ห้องอาหารของโรงแรม สำหรับมื้อเช้าที่นี่ก็จัดเต็มนะ อาหารอร่อยใช้ได้ ที่สำคัญมีข้าวยำเกาหลีด้วย รสชาติโอเค

อ่านรีวิว The Galla Hotel Ranong โรงแรมฮิปๆ กับมื้อเช้าดี๊ดี อารมณ์เกาหลี!!

Galla Cafe’ ในโรงแรม The Galla Hotel Ranong

ตกแต่งด้วยกระเบื้องสีขาวสไตล์มินิมอล ดูฮิปๆ แวะมาถ่ายรูปเช็คอินก็คุ้มแล้ว มีเครื่องดื่ม เค้ก ขนมต่างๆ อร่อยหลายเมนู  เมนูที่เราชอบ เช่น Ice Latte The Galla Cafe มีเมนูกาแฟหลายตัวน่าสนใจ ในภาพนี้เค้าจะเอากาแฟมาแช่แข็งเป็นก้อนน้ำแข็งเลย เสร็จแล้วให้เราเทน้ำกาแฟ (ผสมนม) และใส่น้ำเชื่อมเอง  ชีสเค้ก บลูโอเชี่ยนโซดา ปังเย็นชาไทย Cream Ice Coffee น้ำอัญชันโซดามะนาว

ร้านกาแฟของโรงแรม The Galla นี่ก็ดังนะ ตกแต่งเก๋ เน้นใช้โทนสีขาวตัดน้ำตาล ชื่อร้าน Galla Cafe

เค้กร้านนี้รสชาติดี สอบผ่านทุกเมนู

มีเมนูกาแฟหลายตัวน่าสนใจ ในภาพนี้เค้าจะเอากาแฟมาแช่แข็งเป็นก้อนน้ำแข็งเลย เสร็จแล้วให้เราเทน้ำกาแฟ (ผสมนม) และใส่น้ำเชื่อมเอง

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่ :  The Galla Hotel Ranong 293/88 Pakdi Muang Ranong, Ranong, Thailand 85000
โทร : 077-880-898
เปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-19.00 น.
Facebook page : https://www.facebook.com/thegallahotel
พิกัด : https://goo.gl/maps/LnfCg2h3Yiy