ไป Re-charge ตัวเอง, ไปฟื้นพลัง, ไปทำตัวอ้อยอิ่ง ชิลล์ๆ สโลว์ๆ ไปแอ่ว “ຫລວງພະບາງ
(หลวงพระบาง)” กันเถอะพวกเรา!!!

คนทำงานส่วนใหญ่คงรู้สึกอยากพักผ่อน อยาก Re-charge ไม่ต่างกัน อยากนอนเฉยๆ ขี้เกียจๆ ไม่ต้องทำอะไร แต่… ทั้งเพื่อน ทั้งแฟน ทั้งครอบครัว ก็ร่ำร้องอยากให้พาไปเที่ยว ไปเที่ยว ไปเที่ยว ไปเที่ยว 5555 (โปรดทำเสียงเซ้าซี้ จะได้อารมณ์มาก)

ถ้าไหนๆ มันก็ต้องไปเที่ยว แต่เราก็โคตรอยากจะพักผ่อน ถ้างั้นก็เอาทั้ง 2 อย่างมารวมกันซะเลยสิ!! ที่นี่ครับ เมือง “ຫລວງພະບາງ (หลวงพระบาง)” เมืองเล็กๆ ในประเทศลาว เมืองแห่งวัฒนธรรมงดงาม เมืองที่ช่วยชะลอจังหวะชีวิตให้สโลว์ เมืองที่เราจะอ้อยอิ่ง ปล่อยใจชิลล์ๆ ได้ตั้งแต่ก้าวแรก ยาวไปจนถึงวันกลับ

ติดตามรีวิวนี้ไปพร้อมๆ กับครับ “LAZY DAY in ຫລວງພະບາງ” เนื้อหาในรีวิวนี้จะประกอบด้วย เดี่ยวเราจะเล่าให้กระชับ แต่ยังคงเนื้อหาให้ทุกคนไปเที่ยวตามเราได้ทันที สบายๆ ไม่ต้องวางแผนซ้ำ 55555

  1. คำแนะนำการเดินทาง
  2. ข้อควรรู้พื้นฐานในการเที่ยว ຫລວງພະບາງ
  3. แนะนำกิจกรรมที่ห้ามพลาด
  4. แนะนำที่พักเก๋ๆ
  5. แนะนำที่เที่ยวที่สุดแสนชิลล์
  6. รวมร้านกาแฟ ร้านอาหาร ที่อร่อยแซ่บหลาย

ไหนๆ ก็เป็น Lazy Trip ละ งั้นเราก็ใช้บริการ Full Service ให้เค้าดูให้หมดเลยละกัน 5555 เพราะทริปนี้น่าจะใช้เงินกันไม่เยอะหรอก (ก็จะชิลล์นี่) ถ้างั้นขอนั่งเหยียดขา เอนหลัง แล้วมองตานางฟ้ายิ้มสวยของ ThaiSmile Airways ก็แล้วกัน

บิน Full Service มันจะดีตรงที่
ฟรี!! เลือกที่นั่งโดนใจ (นั่งหน้าก็ใกล้แอร์นะ)
ฟรี!! อาหารว่างและเครื่องดื่มบนเครื่อง
ฟรี!! น้ำหนักกระเป๋า 20 กก. (สำหรับชั้นประหยัด)
แถมยังสะสมไมล์กับ Royal Orchid Plus ได้ด้วย

นี่เป็นสายการบินที่ได้ 3 รางวัลการันตีจาก TripAdvisor Travelers’ Choice Awards เลยนะ (ใครรักจะเที่ยว ควรเชื่อ TripAdvisor)
– รางวัลสายการบินยอดเยี่ยมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
– รางวัลสายการบินยอดเยี่ยมของประเทศไทย
– รางวัล 1 ใน 10 สายการบินยอดเยี่ยมระดับโลก
FLY SMART, FLY SABAI, FLY THAI SMILE

ขึ้นเครื่องตามกันมาค่า

เอกลักษณ์ของสายการบินไทยสมายล์ ก็คือ “รอยยิ้มและหัวใจบริการ” เป็นสายการบินที่อบรมพนักงานได้ดี ยิ้มแย้ม นอบน้อม หน้าตาน่ารักม๊ากกก!!! เรียกว่ายิ้มต้อนรับกันตั้งแต่ Counter Check-in ที่สนามบินสุวรรณภูมิกันเลย สมกับที่ได้รับ 3 รางวัลจาก TripAdvisor Travelers’ Choice Awards จริงๆ 

เจอ 4 นางฟ้านี้ยืนต้อนรับอยู่ เรานี่เลือกไม่ถูกเลยว่าจะถ่ายใครก่อนดี 5555

ทุกที่นั่งกว้างมากก!!! เหยียดขาสบายเลย

หลังเครื่อง Take Off ได้สักครู่ ก็ได้เวลาเสิร์ฟอาหาร มื้อนี้เค้าเสิร์ฟ ยำทูน่า, Troitilla Wrap Tomyum Vegetarian และผลไม้

Tortilla Wrap นี้เป็นไส้ผักรสต้มยำ มังสวิรัติทานได้ครับ

หลังมื้ออาหาร ก็จะเสิร์ฟเครื่องดื่ม จะชา กาแฟ น้ำผลไม้ หรือน้ำอัดลมก็ตามใจชอบเลย

ผ่านไปชั่วโมงครึ่ง เครื่องก็ลดระดับ เริ่มมองเห็นทิวเขาของประเทศลาวแล้ว ป่าอุดมสมบูรณ์มาก

ใกล้ถึงหลวงพระบางแล้วค่า!!

ถึงหลวงพระบางแล้วค่า!!

TripAdvisor Review : https://goo.gl/aj2fGB
ข้อมูลเพิ่มเติม :             www.thaismileair.com/th
Facebook page :         Thai Smile Airways
Smile Call Centre :    1181 หรือ 02-118-8888

แม้จะเป็น Lazy Trip แต่เราอาจจะอยากโพสต์รูปอวดเพื่อนบ้าง จะมี Counter จำหน่าย Sim Card ตั้งเรียงรายอยู่ หลังจากรับกระเป๋าเราก็มาซื้อ Sim Card

รีวิวที่เกี่ยวข้อง

รับกระเป๋าเสร็จ ไปซื้อซิมต่อได้เลยจ้า

เราเลือกใช้บริการ Lao Telecom ครับ

ใครสะดวกจะซื้อ Sim เปิด Roaming จากไทยมาก็ได้ แต่ซื้อซิมการด์ของ Lao Telecom ซื้อ Package 4-6 วัน ใช้ Data ได้ 4GB ราคา 200 บาทเอง สัญญาณของ Lao Telecom นั้นเร็ว แรง ใช้ได้ดีในหลวงพระบางเลยครับ แทบจะ 4G ทุกที่เลย

Sim Card รองรับโทรศัพท์มือถือทุกรุ่นครับ

พนักงานจะใส่ Sim Card และ Activate เบอร์ให้

หากแลกเงินที่เมืองไทยไม่ทัน ที่สนามบินหลวงพระบาง ก็มีบริการรับแลกเงินครับ เรทปกตินะ ไม่ได้แพงขูดรีดแต่อย่างใด ช่วงที่เราไป 1 กีบ = 0.0039 บาท

ร้านแลกเงินที่สนามบินหลวงพระบางก็มีนะ

โปรดตรวจสอบเงินให้ดีก่อนนะ

การเดินทางไป และกลับจากท่าอากาศยานนานาชาติหลวงพระบางเข้าตัวเมืองหลวงพระบางจะมีทางเลือกค่อนข้างน้อยค่ะ  ปูเป้แนะนำให้ใช้ บริการรถรับส่งส่วนตัวที่สนามบินพร้อมคนขับ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ถือป้ายชื่อรอรับที่สนามบินแล้วพาไปส่งโรงแรม วิธีนี้จะทำให้เดินทางเข้าตัวเมืองหลวงพระบางอย่างสะดวกสบาย และปลอดภัย ไม่ต้องกลัวโดนโก่งราคาด้วยค่ะ สนใจซื้อ บริการรถรับส่งส่วนตัวที่สนามบินพร้อมคนขับ ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่


Welcome Drink เป็นชามะนาวเย็นๆ

ตัวโรงแรม The Bellow Rive นี้จึงเป็น Boutique Hote ที่ใช้การ Renovate อาคารเก่าเพื่อมาทำเป็นโรงแรม โดยยังคงรักษาสไตล์ Colonial ดั้งเดิมไว้ได้อย่างครบครัน  แต่ก็ไม่ลืมเติมดีไซน์บางอย่างที่ร่วมสมัยเข้าไป ทำให้โรงแรมไม่ดูเก่าและเชย วัสดุส่วนใหญ่เป็นปูนและไม้ โดยตัวอาคารจะทาสีขาวแล้วตัดขอบด้วยบานหน้าต่างหรือบานประตูสีน้ำเงิน แล้วแซมสีน้ำตาลของไม้หรือสีทองเหลืองเข้าไปเพื่อให้เกิดจุดสนใจ

ห้องนี้เป็นห้อง Deluxe Suite ขนาด 32 ตร.ม. ตกแต่งแบบเรียบง่าย เน้นประโยชน์ใช้สอยได้จริง เพดานสูงยิ่งทำให้ห้องดูโปร่ง

โรงแรมนี้มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปเยอะแยะเลยจ้า

มื้อเช้าของ The Belle Rive Boutique Hotel จะเป็นแบบ A LA Carte โดยจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้ทานกันบริเวณ Terrace ริมแม่น้ำโขง บรรยากาศร่มรื่นดีมากๆ แต่ที่พิเศษไปกว่านั้น “อาหารเช้าที่นี่เค้าเสิร์ฟทั้งวัน” นั่นแปลว่าคุณจะตื่นมากินมื้อแรกกี่โมงก็ได้ จะสาย จะเที่ยง จะบ่าย ก็ตามสบายเลย 55555

แม้มื้อเช้าจะเป็นแบบ A La Carte แต่เค้าก็จะเสิร์ฟให้คุณทานจนอิ่ม อยากทานอะไรก็สั่ง สั่งๆๆๆๆ จนกว่าจะอิ่ม ทั้งข้าวต้ม, ไข่ดาว, ออมเล็ท, ไส้กรอก, เบคอน ฯลฯ แต่ที่เด็ดสุดก็คือ ครัวซองค์ครับ ส่งตรงจากร้าน Le Benetton Cafe ทำสดใหม่ทุกวัน อร่อยมากกก!!

เรามาดู 7 กิจกรรมยอดนิยมที่หลวงพระบาง

1. ปั่นจักรยานชมเมืองหลวงพระบางกัน 

“ปั่นจักรยานเที่ยวชมเมืองหลวงพระบางกันเถอะเรา” เชื่อเถอะว่านี่คือภาพในหัวของทุกคน… แต่เราอยากบอกว่า “ถ้าอยากเที่ยวเมืองทั่วๆ โปรดเช่ามอเตอร์ไซต์!!!”  เราได้ลองปั่นจักรยานชมเมืองแล้ว พบว่า…โคตรเหนื่อย ก็เมืองหลวงพระบางเนี่ยมีเนินเขาขึ้นๆ ลงๆ อยู่เป็นระยะ ถ้าขี่จักรยานระยะใกล้ก็ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าจะไปไกลๆ เช่ามอเตอร์ไซต์ครับ แพงหน่อยแต่สบายขาสุดๆ

ค่าเช่ามอเตอร์ไซต์ : 500-700 บาท/วัน หรือให้ทางโรงแรมติดต่อให้ หรือจะเดินไปเช่าแถวตลาดก็ได้ครับ มีหลายร้าน มีให้เลือกทั้งมอเตอร์ไซต์และจักรยานเลย

เราสามารถยืมจักรยานของโรงแรมไปปั่นเล่นกันได้เลยจ้า ฟรีๆๆ

บรรยากาศเมืองหลวงพระบาง

บรรยากาศเมืองหลวงพระบาง

==========================

2. นั่งตุ๊กตุ๊ก สกายแล็ป 

ถ้าเบื่อจะปั่น ลองเปลี่ยนมานั่งตุ๊กตุ๊ก สกายแล็ป ดูก็ได้นะ หน้าตาจะต่างจากตุ๊กๆ บ้านเรา เพราะที่นั่งโดยสารจะเป็นแบบรถสองแถว

การเดินทางในตัวเมืองหลวงพระบาง ถ้าใช้รถ “สกายแล็ป” ก็สะดวกดี

ทำไมพี่ต้องทำหน้าจริงจังด้วยครับ

==========================

3. การนอนเอกเขนก

คือ กิจกรรมที่ควรทำเมื่อมาหลวงพระบาง อ่านไม่ผิดหรอก เราบอกว่า “นอนเอกเขนก” จริงๆ เพราะนี่คือ Lazy Trip เราจึงจะชวนคุณไปเที่ยว Utopia Restaurant and Bar (จริงๆ ควรจะมีคำว่า Cozy เข้าไปด้วย)

ถ้า “ความรื่นรมย์ เอื่อยเฉื่อย และอ้อยอิ่ง” คือ สิ่งที่คุณฝันหา ร้านนี่คือปลายทางของคุณ นี่คือร้าน “นั่งกิน-นอนกิน” ขนาดแท้ แค่ก้าวแรกที่มาถึงเราก็เจอนักท่องเที่ยวนอนสลบไสล ทอดฮุย มองวิวอยู่ตามมุมต่างๆ ในร้าน ทำเลร้านอยู่ติดแม่น้ำคาน พอตกบ่ายลมเย็นๆ ก็พัดมา แถมทางร้านก็จัดเบาะนั่ง-นอน ไว้ตามมุมต่างๆ แค่เราสั่งอาหาร สั่งน้ำมาทาน เค้าก็จะปล่อยให้เรานั่งชิลล์ได้นานเท่านานตามสบาย

แค่เดินเข้ามาในร้าน เราก็เจอภาพนี้!!

แล้วก็เจอภาพนี้ โอ๊ว!! ทำไมมันถึงได้ชิลล์ขนาดนี้เนี่ย!!

ทางร้านเค้าปูเบาะให้นั่ง ให้นอน ก็ตามสบาย มุมระเบียงตรงนี้ ก็จะมองเห็นวิวแม่น้ำคาน

มาถึงแล้วก็สั่งเครื่องดื่มหรืออาหารมาทาน เสร็จแล้วพนักงานก็จะปล่อยให้เรานอนเล่นยาวๆ เลย

ฟินมาก

ถ้ามากับเพื่อนๆ อาจจะมานั่งรวมกันแถวนี้ก็ได้

วิวแม่น้ำคาน ฟินจริงๆ

4. ล่องเรือชมวิวพระอาทิตย์ตกดินแม่น้ำโขง

กิจกรรมยอดนิยมที่หลวงพระบาง แค่เดินไปตามท่าเรือริมน้ำ ก็จะเจอผู้ให้บริการเยอะแยะไปหมด มีทั้งล่องเรือชมวิวแม่น้ำอู ชมวิวแม่น้ำโขง ชมวิถึชีวิตชาวบ้าน ฯลฯ เราเองก็ล่องเรือชมวิวมาหลายที่ละ แต่ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดินในแม่น้ำโขงนี่คือความชิลล์ขั้นสุด!! จนถึงตอนนั่งเขียนรีวิวนี้ก็ยังงงๆ นะ ว่าทำไมชอบ เพราะมันไม่มีอะไรอภินิหารเลย!!?

บริเวณท่าเรือหน้าวัดเชียงของ จะมีเรือชมวิวของเอกชนให้บริการเช่นกัน

บรรยากาศในเรือ

มันเป็นแค่การล่องเรือลำยาวๆ (นั่งได้ราว 20 คน) แล่นเอื่อยๆ ทวนกระแสน้ำ คนเรือจะเสิร์ฟเครื่องดื่มและกับแกล้มให้เราขณะชมวิว ระหว่างทางจะเห็นวัด เห็นบ้านเรือน เห็นวิถีชีวิตยามเย็นของคนหลวงพระบาง เสร็จแล้วก็จะดับเครื่อง ปล่อยให้เรือค่อยๆ ไหลกลับไปตามกระแสน้ำ ทิ้งให้เรานั่งมองวิวพระอาทิตย์ลับแม่น้ำโขงไปจนมืด

บรรยากาศยามเย็นในแม่น้ำโขง

พอเรือออกสักครู่ กัปตันก็จะนำเครื่องดื่มและกับแกล้มมาเสิร์ฟ

พระอาทิตย์ลับไปแล้ว ฟ้าสวยมากเลย

พิกัดร้าน :      https://goo.gl/maps/Cf1yqA8ZSrS2
เวลาทำการ : 08:00 – 23:00 น.
Facebook :   Utopia

5. ไปแช่น้ำตกชิลล์ๆ กันที่น้ำตก “ตาดกวางสี” กันบ้าง

นี่คือน้ำตกหินปูนที่สวยมหัศจรรย์แห่งหลวงพระบาง ยิ่งช่วงเวลาปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ น้ำจะเยอะและใสมาก น้ำตกนี้มี 4 ชั้น ความสูงโดยรวมประมาณ 75 เมตร เพราะเป็นน้ำตกหินปูน น้ำในน้ำตกจึงมีสีเขียวมรกต

ยิ่งเมื่อเดินขึ้นไปถึงด้านบนสุด เรายิ่งตะลึงกับความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้ นี่คือ “ที่เที่ยวห้ามพลาด” แห่งหลวงพระบางจ้า!! น้ำตกตาดกวางสี อยู่ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบาง 32 กม. เป็นน้ำตกใหญ่ที่มีน้ำไหลเย็นตลอดปี บริเวณน้ำตกมีการบริหารจัดการได้ดีมาก พื้นที่ได้รับการดูแลดี สะอาด มีจุดนั่งพักผ่อน มีห้องน้ำสะอาด มีถังขยะวางตามจุดต่างๆ

จากประตูทางเข้าอุทยาน เราต้องเดินเท้าเข้าไปที่น้ำตกนะ

น้ำตกชั้นที่ 2 จุดนี้เล่นน้ำได้

สีน้ำเป็นฟ้าเทอคว๊อยซ์ สวยมาก

น้ำตกตาดกวางสี ชั้นที่ 4 สวยงาม อลังการมาก

เจาะให้ดูใกล้ๆ

แนวตั้ง

บริเวณน้ำตกชั้น 4 จะมีสะพานให้ไปเดินชมวิวและถ่ายภาพ

เป็นวันที่ยัยหมวยฟินกับการเดินเที่ยวน้ำตกอย่างไม่น่าเชื่อ

ด้านหน้าบริเวณลานจอดรถจะมีร้านค้า ขายอาหาร ขนม เครื่องดื่ม

ถ้าไม่ได้เตรียมชุดมาเปียก ไม่เป็นไร ตรงนี้มีจำหน่าย

ทางอุทยานฯ อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเล่นน้ำตกได้ตามจุดที่กำหนดไว้ (มีป้ายบอก) เราควรเตรียมชุดที่เหมาะสมไปเปลี่ยนเพื่อเล่นน้ำนะครับ (อย่าโป๊มากล่ะ)

การเดินทางมาน้ำตกตาดกวางสี

การเดินทางจากตัวเมืองหลวงพระบางมาน้ำตกตาดกวางสีใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที ระยะทาง 30 กิโลเมตร จะไม่มีรถบัส หรือรถประจำทาง แนะนำให้เหมารถรับจ้างแทนค่ะ กรณีที่คนไปไม่เยอะไม่อยากเหมารถไปเอง ปูเป้แนะนำการเดินทาง บัตรโดยสารรถมินิบัสไปยังน้ำตกตาดกวางสี (ไปกลับ) จะมีคนขับรถมารับจากหน้าประตูโรงแรมในหลวงพระบางแล้วไปส่งที่น้ำตกตาดกวางสี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เดินทางสะดวกสบายค่ะ

  • สนใจซื้อ บัตรโดยสารรถมินิบัสไปยังน้ำตกตาดกวางสี (ไปกลับ) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาทำการ : 06:00-17:00 น. (ห้ามเข้าหลัง 15:00)
ค่าเข้า : 20,000 กีบ (80 บาท)

6. ตักบาตรข้าวเหนียว

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ห้ามพลาด (สุดๆ) ก็คือการตื่นเช้ามาไปร่วมประเพณีน่ารักๆ ของชาวหลวงพระบางที่ทำกันมาช้านานแล้ว เริ่มจากการที่พระภิกษุตามวัดต่างๆ ในหลวงพระบางราว 200 รูป จะเริ่มออกบิณฑบาตกันตั้งแต่เช้ามืด (ราว ตี 4 ครึ่ง) โดยพระทุกรูปจะเดินบิณฑบาตเป็นแถวยาววววว…ววว ไปตามถนนสายหลัก 3 สายของหลวงพระบาง

ความสนุกมันอยู่ตรงที่ “พระท่านเดินเร็วมาก!!!” 5555 ใครมัวชักช้าพระท่านก็จะเดินผ่านไปโดยที่เราใส่บาตรไม่ทัน!!
การตื่นไปใส่บาตรข้าวเหนียว เราจึงต้องเตรียมตัวและมีสติในการถวายของใส่บาตรครับ เริ่มจาก
– ตื่นแต่เช้าไปรอพระ (ประมาณตี 5 – ตี 5 ครึ่ง)
– หาทำเลนั่งรอใส่บาตร (ถ้านั่งหน้าวัดจะได้รูปสวย)
– เตรียมของถวายพระ (ซื้อจากแม่ค้าได้เลย)
– หยิบของใส่บาตรให้ทันพระแต่ละรูป

ไม่ต้องกังวลเรื่องของใส่บาตร เพราะเค้ามีแม่เค้านำของมาตั้งวางขายไว้แล้ว แถมเรียงเก้าอี้ไว้ให้เรานั่งรอใส่บาตรด้วย ของขายใส่บาตรประกอบด้วย “กระติ๊บข้าวเหนียว (ร้อนๆ) พร้อมขนมปังซองๆ ราคา 30,000 กีบ หรือ 120 บาท”  นี่เป็นกิจกรรมที่ควรค่าแก่การตื่นเช้าจริงๆ ครับผม!!

ก่อนฟ้าสาง ผู้คนก็มานั่งรอใส่บาตรกันหนาแน่นเลย

มุมหน้าวัดจะคนเยอะมาก พระสงฆ์เดินบิณฑบาตเร็วมากๆ ด้วย

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ห้ามพลาด (สุดๆ) ก็คือการตื่นเช้ามา “ตักบาตรข้าวเหนียว” กันครับ

แม่ค้าเอาข้าวหลามมาขาย ใช้ใส่บาตรก็ได้นะ

จะให้เข้ากับบรรยากาศ เราต้องนุ่งผ้าซิ่นแบบสาวชาวลาว

ก่อนฟ้าสาง ผู้คนก็มานั่งรอใส่บาตรกันหนาแน่นเลย

เสร็จจากเดินบิณฑบาตถนนสายกลาง พระสงฆ์ก็มาเดินถนนสายอื่นด้วย

7. แอ่ววัดเชียงทอง

หลวงพระบาง” เป็นเมืองมรดกโลก ที่ยังคงรักษาความงามของวัฒนธรรมท้องถิ่นไว้ได้อย่างน่ารัก ผู้คนที่นี่นับถือศาสนาพุทธ เราจึงเห็นวัดสวยๆ ขนาดย่อมๆ ตั้งอยู่ทั่วไปในตัวเมือง  จะมาเที่ยวพักผ่อน ชาร์จพลัง เราก็ควรแวะมา “แอ่ววัด” กันสักหน่อย ไหว้พระขอพร เสริมสิริมงคล เผลอๆ กลับได้ อาจจะได้โบนัสเพิ่มสักเดือนสองเดือน โฮะๆ

ในเมืองหลวงพระบางมีวัดเยอะมากครับ แต่วัดที่นี่ไม่ได้มีพื้นที่เยอะเหมือนเมืองไทยนะ ดังนั้นโบสถ์หรือศาลาก็จะมีขนาดย่อมๆ ลงมาด้วย

ในเมืองหลวงพระบางมีวัดเยอะมากครับ แต่วัดที่นี่ไม่ได้มีพื้นที่เยอะเหมือนเมืองไทยนะ ดังนั้นโบสถ์หรือศาลาก็จะมีขนาดย่อมๆ ลงมาด้วย

งั้นเราไปต่อเรื่องกิน ดื่มนั้นเรื่องใหญ่เสมอ!! :

ชี้เป้า 4 ร้านเด็ดสุดอร่อยที่หลวงพระบาง

ไม่ว่าจะทริปไหนๆ เรื่องกินนั้นเรื่องใหญ่เสมอ!! แต่ทริปหลวงพระบางนี่สบายเลย เพราะอาหารร้อยละ 99 ถูกใจคนไทยแน่นอน!! 555555 ทริปนี้เราไปเยือนร้านอร่อยหลายร้าน ทั้งร้านแนะนำจาก TripAdvisor และร้านแนะนำจากฝรั่งที่เราพบเจอระหว่างทาง

ชี้เป้า 3 ร้านคาเฟ่เก๋ๆ ที่หลวงพระบาง

ทริปนี้จะยิ่งหอมกรุ่น น่าหลงใหล ถ้าคุณจะยอมตื่นแต่เช้าแล้วไปนั่งชิลล์ในร้านกาแฟ (ดื่มเสร็จแล้วก็กลับไปนอนต่อ ถ้ายังนอนหลับนะ)