ขอนิยาม “หลวงพระบาง” เมืองมรดกโลก
ว่าเป็น  “เมืองแห่งความเอื่อยๆ ดื่มด่ำกับวิวริมน้ำโขง ซึบซัมวัฒนธรรมแบบคนลาว”
เหมาะมาใช้ชีวิตชิลล์ นั่งเอนหลัง ปล่อยใจให้พักผ่อน

รีวิวที่เกี่ยวข้อง

งั้นเรามาเริ่มรู้จัก “หลวงพระบาง” ประเทศลาวกันดีกว่าค่ะ

ทริปนี้เราบินตรงไปหลวงพระบางกับ Thai Smile Airways สายการบินรอยยิ้มคู่ฟ้า บินสบายแบบฟูลเซอร์วิส คุ้มค่า ราคาไม่แพงอย่างที่คิด…อ้อ!! แค่ 1.35 ชม. นั่งแป๊ปเดียวก็ถึงแล้วค่ะ

1. NO VISA

เดินทางง่ายอีหลี คนไทยสามารถเข้าประเทศลาวอยู่ได้ 30 วันโดยไม่ต้องใช้วีซ่า แค่มีตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และหนังสือเดินทางที่มีวันหมดอายุมากกว่า 6 เดือนก็ไปเที่ยวได้แล้ว ก่อนลงเครื่องบินต้องกรอก Arrival Card  เข้าประเทศด้วยนะจ๊ะ

2.  SIM card สำหรับสายโซเชี่ยล

หลังจากรับกระเป๋าแล้ว บริเวณนั้นมีบู๊ธขาย SIM card  ประมาณ 4  เครือข่ายให้เลือก หมวยขอแนะนำให้ใช้ SIM card ของ “ Lao telecom”  ซื้อแล้วจ่ายเงินไทยได้เลย   ราคาจะต่างกันตามจำนวน GB ที่เลือก เช่น ขนาด 3GB ราคา 150 บาท และ ขนาด 4GB ราคา 200 บาท

ผลการใช้อินเตอร์เน็ต 4G  ถือว่าแรงทุกที่ ส่วนเส้นทางไปน้ำตกตาดกวางสีสัญญาณจะมีแค่ Edge เท่านั้น

3. เรื่องแลกเงินเรื่องใหญ่

หลวงพระบาง ประเทศลาวใช้เงินกีบ (LAK)  อัตราแลกเปลี่ยนเงินไทย 1 บาท = 252 กีบ (เรท ณ.วันที่ 8 ตค.60) สามารถแลกเงินด้วยเงินบาทที่สนามบินได้เลย (ไม่ต้องเอาเงินดอลล่าร์มาแลกเงินกับนะจ๊ะ)  หรือถ้าไม่อยากแลกเงินกีบก็ได้นะ เพราะ ที่นี่สามารถจ่ายเงินสกุลไรก็ได้ ทั้งสกุลเงินบาท หรือดอลล่าร์ สะดวกสบายเลยเชียวหล่ะ!!  แต่หมวยแนะนำให้แลกเป็นเงินกีบเถอะ… ได้เรทดีกว่าจ้า

4. มารู้เรื่องเวลาและอากาศกันหน่อย

เวลาของลาวเท่าเป๊ะกับที่เมืองไทยเลย ไม่ต้องปรับเวลาจ้า สำหรับสภาพภูมิประเทศจะมีภูเขาสีเขียวแบบเต็มๆ โอบล้อมรอบด้าน มีแม่น้ำ 3 สายหลัก คือ แม่น้ำโขง, แม่น้ำคาน และแม่น้ำอู และมี 3 ฤดูกาลเหมือนเราเลย

ฤดูร้อน:     เริ่มปลาย ก.พ. – ต้น พค.   (เดือน เม.ย. จะเป็นช่วงร้อนสุดๆ สลับฝนประปราย)
ฤดูฝน:       เริ่มกลางเดือน พ.ค. – ก.ย. (เดือน ส.ค. จะเป็นช่วงฝนตกหนักมาก)
ฤดูหนาว:  เริ่มกลางเดือน ต.ค. – ต้น ก.พ. (เดือน ธ.ค. ถึงต้น ม.ค. จะเป็นช่วงที่หนาวที่สุด) แต่หมวยไปต้น ต.ค. ฝนก็ยังมีตกบ้างนะคะ

ดังนั้น ถ้าจะมาเที่ยวหลวงพระบางที่ดีที่สุด น่าจะเป็นช่วงต้นฤดูหนาว อากาศกำลังดี เย็นสบาย ฝนไม่ตก และนักท่องเที่ยวยังไม่เยอะมากค่ะ

5. แล้วจะเที่ยวหลวงพระบางยังไงหล่ะ 

เช่ารถจักรยานชมเมือง  :    เมืองหลวงพระบางมีถนนเส้นหลักเพียงไม่กี่เส้น เดินทางง่าย เหมาะกับปั่นจักรยานชม  บรรยากาศบ้านเมืองเก่า ผู้คน วัดวาอาราม ร้านค้าขายของในระยะทางใกล้ๆ  เนื่องด้วยสภาพถนนจะมีช่วงขึ้นเนิน ลงเนินสลับกัน ดังนั้นไม่เหมาะกับการปั่นไปเที่ยวไกลๆ จ้า

เช่ารถจักรยานยนต์ :   ถ้าจะไปเที่ยวที่ไกลหน่อย ขอแนะนำให้เช่ารถจักรยานยนต์ แทนจะทำให้การเดินทางสะดวกขึ้น ชีวิตก็จะดีขึ้นด้วย ไม่ต้องออกแรงถีบจักรยานจนขาแข็ง เหงื่อออก ราคาเช่ารถมอเตอร์ไซด์ 22 usd/วัน ติดต่อได้ที่เคาน์เตอร์โรงแรมเลย อ้อ!! จำเป็นต้องสวมหมวกกันน็อคด้วยนะคะ

เหมารถ :   แนะนำให้เหมารถวันที่ไปเที่ยวน้ำตกตาดกวางสี ที่นี่สวยสตั๊นมากกก ข้อดีมีมากมาย เช่น สะดวกสบายให้คนขับรถมารับ-ส่งที่หน้าโรงแรม ค่ารถก็ยิ่งถูกลงถ้าไปหลายคน หยืดหยุ่นเรื่องเวลาได้ อยากไปช่วงเช้า กลับมาบ่ายแล้วไปเที่ยวต่อที่อื่นก็ได้  ถ้าง่วงก็หลับต่อในรถได้อีก 1 ชั่วโมง นับข้อดีเกิน 5 ข้อแล้ว หมวยเลยเหมารถตู้ขนาด 6 ที่นั่ง ในราคา 270,000 กีบ (1,070 บาท)

6.  คนลาวเป็นจั๋งใด ?

  • พูดภาษาไทยสื่อสารได้เลย เข้าใจตรงกันเป๊ะ ไม่ต้องมานั่งคิดศัพท์ภาษาอื่นเลยๆๆ ชอบ!!
  • ผู้คนน่ารัก ยิ้มแย้ม ร่าเริง สดใส
  • ชอบดูหนังไทย ฟังเพลงไทย และร้องเพลงไทยได้ด้วยนะจ๊ะ
  • คำทักทายใช้ว่า “สบายดี” แปลว่า “สวัสดี” / คำตอบรับใช้ว่า “โด้ย” แปลว่า “ใช่” / “ขอบใจ” แปลว่า “ขอบคุณ”
  • ร้านกาแฟเปิดขายเวลาเช้า เวลา 06.00 เป็นต้นไป มีทั้งอาหารเช้า กาแฟ ขนมปังและเบเกอรี่
  • คนที่ทำงานในส่วนต้อนรับและบริการ ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี
  • คนจะทำอะไรเรื่อยๆ ชิลล์ ไม่เร่งรีบ
  • ข้อนี้สำคัญมาก!!!  ลองจินตนาการ ภาพของเจ้าหน้าที่ที่สนามบินทำงานแบบตัวสล็อต เอื่อยๆ  เราเลยต้องรอ check-in ที่สนามบินหลวงพระบางเกือบ 1 ชั่วโมงจ้า  555 ยืนจนเมื่อยขาเลย ^^

7. ที่พักมีแบบไหนบ้าง

โรงแรมและที่พักที่หลวงพระบางมีตั้งแต่โฮมสเตย์ โรงแรม 1-5 ดาว และวิลล่าหรูๆแบบเจ้านายอยู่เป็นหลังใหญ่ก็มี ราคาก็เริ่มตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักหมื่น  ทริปนี้เมื่อเรามาหลวงพระบางแล้ว หมวยก็อยากเห็นวิวจากห้องพักเห็นแม่น้ำโขงเลย เลยเลือกพักที่ The Belle Rive Boutique Hotel เป็นโรงแรมบูติก  บรรยากาศภายในโรงแรมดูอบอุ่น สะอาด พนักงานยิ้มแย้มบริการดี อาหารเช้าอลังการและอร่อยมาก แนะนำที่นี่โรแมนติกมากสำหรับคู่รักค่ะ

บรรยากาศภายในห้องพักดูอบอุ่น พื้นที่กว้างขวางพอสมควร

บริเวณด้านหน้าตึกของโรงแรมที่พัก

อาคารตกแต่งสไตล์โคโลเนียล ผสมผสานลาวแบบท้องถิ่นและความร่วมสมัยดูแล้วยิ่งกลมกลืนกับเมืองมรดกโลก โดยเฉพาะอาคารหลังกลาง ทาด้วยสีขาว ประตูหน้าต่างสีฟ้าเข้ม ดูแล้วเหมือนเป็นตึกฝรั่งเศสดูแล้วเหมือนอยู่ยุโรปเลย

8. แต่งตัวแบบไหนดี

ไปเที่ยวลาวก็แต่งตัวสบายๆ เหมือนที่ไทยได้เลยจ้า แต่ถ้าอยากเพิ่มความอินน์และกลมกลืนกับบ้านเมืองเก่าๆ ก็จัดนุ่งผ้าซิ่น เสื้อลูกไม้สีขาว เข็มขัด และผ้าพาดไหล่ให้สีเข้าชุดกัน แค่นี้ก็ดูเป็นสาวหลวงพระบางเต็มตัวแล้ว ส่วนพวกเสื้อผ้าก็หาซื้อได้ที่ตลาดมืด มีให้เลือกทั้งแบบ สี หลาย และให้คนขายสอนใส่ด้วยเลยนะ

9. มีอะไรเป็นของฝาก

แหล่งซื้อของฝากก็จะมี 2 ที่หลักๆ คือ ตลาดมืด และร้านค้าบนถนน Sakarin สำหรับของฝากจะมี งานผ้าลายสวยๆ งานผ้าย้อมมือ งานผ้าคลุมไหล่ ผ้าพันคอ หมวก สร้อย สินค้าทำมือ ปลอกหมอน ผ้าคลุมเตียง ของตกแต่งกระจุกกระจิก เสื้อผ้าดีไซน์เก๋ๆ

ร้านที่หมวยชอบ เช่น ร้าน Passa Paa (พาสาผ้า), Anakha และ ร้าน Ock Pop Tok Living Crafts Centre ยิ่งที่นี่ งานผ้าแต่ละชิ้น สวยมากก ส่วนราคาก็สูงเพิ่มขึ้นไปตามระดับความสวยค่ะ  หมวยได้ของฝากเป็นผ้าคลุมไหล่ เนื้อผ้านุ่มดี แถมมีปอมๆห้อยรอบผืนด้วย จากร้าน Traditional Arts & Ethnology Centre ในราคา 25 usd. อยู่ใกล้ร้านคาเฟ่ Le Cafe Ban Vat Sene (ร้านกาแฟบ้านวัดแสน) ร้านนี้มีงานเก๋ๆเยอะ ราคาไม่ได้สูงเว่อร์ค่ะ

 

10. แนะนำ 6 ร้านอร่อย…ที่น่าไปนั่งชิลล์

อาหารที่หลวงพระบาง  รสชาติใกล้เคียงกับอาหารภาคอีสานที่เราคุ้นเคยดีค่า…แซ่บอีหลีเด้อออ!! ทั้งหมูกะทะ (จิ้นดาด) ลาบหมู  โอลัม(แกงอ่อม) ตำลาว ตำหมากหุ่งหลวงพระบาง  อาหารฝรั่งเศส (ครัวซองค์ บาแก็ต ขนมปัง เบเกอรี่) อาหารอิตาเลี่ยน และก็มีร้านกาแฟเก๋ๆ รสชาติหอม เข้มข้น มาจากเมล็ดกาแฟดีๆ จากที่ราบสูงโบโลเว่น

แนะนำ 3 ร้านอาหาร และ 3 ร้านกาแฟ รวม 6 ร้าน

1. Utopia Restaurant and Bar

พิกัด :  Ban Aphay หน้าปากซอยจะมีป้ายชื่อร้าน ทางเข้าอาจจะดูสับสนหน่อย ดูตามป้ายเข้าไปให้สุดซอย
เวลา :  ทุกวันเวลา 8.00 น.-23.00 น.
FB :     https://www.facebook.com/UtopiaInLaos/

“ร้านกิ่นดื่ม Utopia” นั้น ข่อยขอเว่าว่าเป็น “ฮ้านนั่งกิน-นอนกิน” เพราะเมื่อเจ้าเข้าไปถึงฮ้าน เจ้าสิเบิ่งว่า!!! มีหมู่ฝรั่ง หมู่นักท่องเที่ยว นอนสลบไสล ทอดฮุย เอื่อยเฉื่อยอยู่ตามมุมต่างๆ ในฮ้าน บ่ายๆ นั่งร้านชิลล์ๆ ติดริมแม่น้ำ เราไปนั่งเล่น นอนเล่น ถ่ายรูปเล่นแบบสบายๆ เกือบครึ่งค่อนวัน

2. ส้มตำป้าติ๋ม

พิกัด : ตรงข้ามวัดหนองสีควนเมือง (ห่าง 130 เมตร เดิน 2 นาทีจากโรงแรม The Belle Rive Boutique Hotel) ร้านนี้เด็ดมากสมคำล่ำลือ แล้วจะรู้จักส้มตำหลวงพระบางของแท้เป็นจั๋งซี่

ส้มตำหลวงพระบาง –  แซ่บอีหลีนัมเบอร์วัน มะละกอฝานเว้นแผ่นบางๆ รสเข้มข้น แซ่บนัว เข้ากันมากๆ
ไก่ย่าง                          อีก 1 เมนูเด็ดของร้าน หนังกรอบได้กลิ่นเตาถ่านย่าง
แหนมทอด                –  อร่อยใช้ได้ น่าลอง
ไส้อั่ว                         –  รสกลางๆ ที่เชียงใหม่อร่อยกว่า
ราคา :  145,000 กีบ (576 บาท)

3. Joy’s Restaurant

เป็นอาหารท้องถิ่นลาวต้นตำรับ อร่อยจนฝรั่งแนะนำให้เราไปลอง ถือว่าเป็นร้าน Hidden gem บรรยากาศเหมือนนั่งทานในบ้าน
ลาบหมู             – ใส่ตะไคร้ หอมแดง ถั่วงอก เหมือนยำทูน่า ไม่ใส่ข้าวคั่ว
Olam หมู        – หน้าตาคล้ายอ่อม ใส่แครอท ฟักทอง มะเขือเทศ คล้ายๆ แกงโฮะทางเหนือ
ไก่ทอดตะไคร้ – ในชิ้นไก่มีตะไคร้สับ ทอดกรอบมาก
น้ำตะไคร้         – หอมตะไคร้สดๆ รสกลมกล่อม
ราคา :   140,000 กีบ (555 บาท)

4. Le Cafe Ban Vat Sene (ร้านกาแฟบ้านวัดแสน)

ที่ตั้ง :         Sakarine Road, Luang Prabang
เวลา :        ทุกวัน 6.30- 23.00 น.
โทรศัพท์ : 071 252 482
FB:            https://www.facebook.com/lecafebanvatsene/

ร้านคาเฟ่น่านั่งริมถนน Sakarine ในเครือ L’elephant อาคารเก่าสไตล์โคโลเนียลสีขาว ได้รับรีวิวที่ดีจากนักท่องเที่ยว เน้นเสริฟ์กาแฟ เครื่องดื่ม เบเกอรี่ แต่มีอาหารสไตล์ฝรั่งเศสผสมกับลาว ทานแล้วไม่ผิดหวัง กาแฟรสไม่เพี้ยน พนักงานบริการเร็ว มีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งมองวิวนอกแบบสไตล์ร้านกาแฟฝรั่งเศส
– Lemon tarte 29,000 – ทารต์เลมอน เป็นเมนูเด็ดประจำร้านเลย อร่อยออกเปรี้ยวนิดๆ ไม่เลี่ยน หวานน้อย
– Hazelnut Latte 30,000
– Macchiato 30,000

5. Saffron Coffee

FB:            https://www.facebook.com/SaffronCoffee/
Website:  https://saffroncoffee.com/
ร้านอยู่ริมน้ำโขง มีที่นั่ง 2 ฝั่งคือติดทางถนนกับติดแม่น้ำ ร้านเป็นบ้านไม้นำมาตกแต่งแบบสบายๆ มีลมพัดเย็นๆ น่านั่ง มีเมนูอาหารเช้า เบเกอรรี่ เครื่องดื่ม กาแฟสด และสมูตตี้

ร้านนี้ติด 1 ใน 5 ร้านกาแฟเด็ดของหลายรีวิว เป็นร้านกาแฟที่คั่วบดกาแฟของตัวเอง เมล็ดกาแฟมาจากแหล่งปลูกกาแฟท้องถิ่นที่ราบสูงโบโลเว่น กาแฟรสชาติเข้มข้น หอมอบอวล มีเอกลักษณ์เฉพาะ ไม่หวานมาก กลิ่นคั่วเมล็ดกาแฟหอมอบอวล และที่นี่ยังตั้งใจจริงทั้งเรื่องการคัดคนปลูก สอนการดูแลต้นกาแฟ และทางร้านยังซื้อเมล็ดกาแฟจากชาวสวนที่สูงกว่าราคากลางตลาดด้วย
– สมูตตี้ 20,000 กีบ
– ม็อคค่าเย็น 20,000 กีบ
– Siphon 39 40, 000 กีบ
– ราคา 80,000 กีบ (320 บาท)

6. Le Banneton Café French Bakery

ที่ตั้ง :         03/46 Sakkaline road, Ban Killy, Luang Prabang
เวลา :         ทุกวัน 6.30 – 21.00 น.
โทรศัพท์ : +856 30 57 88 340
FB:             https://www.facebook.com/lebannetonluangprabang/

ถ้ามาที่นี่แล้วนึกถึง ร้านกาแฟ มีเบเกอรี่สไตล์ฝรั่งเศสก็แนะนำร้านนี้ค่ะ ร้านคาเฟ่เป็นบ้านไม้ที่ตกแต่งดูทันสมัยอยู่ตรงข้ามวัดแสนสุขาราม ถนน Sakarin นั่งร้านนี้ทำให้ยิ่งอินน์กับบรรยากาศของเมืองหลวงพระบาง
แนะนำ “ครัวซองค์” อร่อยเด็ด เยี่ยมมากเลย! นอกจากนี้ยังมีขายอาหารเช้า brunch สลัด กาแฟ และเครื่องดื่มต่าง