“พัทลุง” แค่ชื่ออาจฟังดูลุงๆ เชยๆ ไม่มีอะไรหวือหวาน่าสนใจ แต่รู้ไหม? จังหวัดนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานเป็นพันปี รุ่มรวยด้วยวัฒนธรรม เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งทะเลสาบ น้ำตก น้ำพุร้อน และอะไรอีกเยอะแยะไปหมด

“ยกยอ” วิถีการทำประมงริมฝั่งทะเลของชาวพัทลุง

ได้ไป “พัทลุง” ครั้งแรก ก็ตกหลุมรักในทันทีทันใด ถามตัวเองว่า เฮ้ย!! เราพลาดของดีๆ แบบนี้ไปได้ยังไง!!? มาครับ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ “จังหวัดพัทลุง” จังหวัดที่ได้ชื่อว่า “เมืองบ้านทุ่ง ไม่ปรุงแต่ง” ตามมาเลยครับ!!

เมืองหนังโนรา อู่นาข้าว พราวน้ำตก
แหล่งนกน้ำ ทะเลสาบงาม เขาอกทะลุ น้ำพุร้อน

การเดินทาง

เพราะทุกที่ไม่ใช่กรุงเทพฯ โจทย์หลักของการไปเที่ยวต่างจังหวัด ก็คือการเดินทางเนี่ยล่ะ ความที่ไม่ใช่หัวเมืองใหญ่และไม่ใช่จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม ทำให้การมาเที่ยว จังหวัดพัทลุง ไม่สะดวกมากนัก ปัจจุบัน ถ้าจะมาเที่ยว จังหวัดพัทลุง สามารถทำได้โดย…

รถยนต์ส่วนตัว (เดินทางจากกรุงเทพฯ)

ง่ายมากครับ แค่ตั้งพิกัด GPS (Google Map) ไว้ที่จังหวัดพัทลุง แต่ถ้าจะเอาแบบวิธีดั้งเดิม ก็มี 3 เส้นทางให้เลือกใช้

  • เส้นทางที่ 1 ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ไปจนถึงสี่แยกปฐมพร จังหวัดชุมพร ผ่านระนอง พังงา กระบี่ ตรัง จนถึงพัทลุง ระยะทาง 1,140 กิโลเมตร
  • เส้นทางที่ 2 ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ไปจนถึงชุมพร แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ไปจนถึงพัทลุง ระยะทาง 840 กิโลเมตร
  • เส้นทางที่ 3 ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ผ่านชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 403 จากนั้นจึงเข้าทางหลวงหมายเลข 41 ที่ชุมทางเขาชุมทอง ไปจนถึงพัทลุง

รถประจำทาง

ตัวเลือกนี้สะดวกสุด เพราะมีบริษัทรถทัวร์ให้บริการอยู่หลายเจ้า มีเดินทางจาก สถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี (กรุงเทพฯ) ไปพัทลุง ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชม. ค่าโดยสารรถแอร์ปกติ 600-750 บาท รถแอร์ VIP ประมาณ 1,000 บาท

ปัจจุบันมีบริการจองออนไลน์ จากผู้ให้บริการหลายเว็บไซต์เลยครับ ลองค้นหาด้วยคำว่า “รถทัวร์ ไปพัทลุง” ใน Google แล้วเลือกเว็บไซต์ที่ไว้ใจได้ มีระบบปลอดภัย น่าเชื่อถือ แต่ถ้าไม่แน่ใจ ก็ไปจองที่สถานีขนส่งเอาก็ได้นะ

รถไฟ

คลาสสิคสุดๆ ก็ต้องรถไฟไทยครับผม!! ถ้าไม่รีบมาก เราแนะนำให้ลองดูครับ บรรยากาศของการนั่งรถไฟชมวิวสองข้างทางไปเรื่อยๆ คือเอกลักษณ์เฉพาะตัวของการนั่งรถไฟเลยล่ะ

จากหัวลำโพง มีรถไฟลงไปสถานีพัทลุงทุกวัน รถไฟออกจากสถานีเวลา 12.25 น., 2.20 น., 2.45 น., 3.50 น. และ 10.50 น. สอบถามรายละเอียดได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย : 1690 หรือที่เว็บไซต์ http://www.railway.co.th/Home/Index

ตรวจสอบตารางเวลาเดินรถ : http://www.railway.co.th/WebDestination/#/SearchDestination/TH

เครื่องบิน

ตอนนี้ จังหวัดพัทลุง ยังไม่มีสนามบินประจำจังหวัดครับ การจะเดินทางมาพัทลุงโดยเครื่องบิน แนะนำให้มาลงที่จังหวัดใกล้เคียง อย่าง หาดใหญ่ หรือ นครศรีธรรมราช แล้วนั่งรถบัส หรือรถตู้ไปยังจังหวัดพัทลุงได้ครับ

แต่เดี๋ยวก่อน!! ขณะนี้ทางท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย กำลังมีแผนที่จะสร้างสนามบินพัทลุงแล้วจ้า!! อีกไม่นานเกินรอจะมีบินตรงไปลงที่จังหวัดพัทลุงแล้ว!!

พิกัดกิน-เที่ยวห้ามพลาด จ. พัทลุง

แม้จะไม่ได้เป็นเมือง Top 5 เรื่องการท่องเที่ยว แต่ “พัทลุง” ก็มีที่เที่ยวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่เยอะมาก!! จะชอบเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ แนววัฒนธรรม แนวธรรมชาติ หรือแนวตระเวณกิน “พัทลุง” ก็ตอบโจทย์คุณได้อย่างน่าประทับใจเลยล่ะ!!

คลองปากประ

เราวาง “คลองปากประและทะเลน้อย” ไว้อันดับแรก เพราะที่นี่คือสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด เมื่อมาเที่ยว จ.พัทลุง!!! ภาพการ “ยกยอยักษ์” ในยามเช้า วิถีชีวิตชาวประมงน้ำจืดอันเป็นเอกลักษณ์ ภาพทะเลสาบขนาดใหญ่ที่สะท้อนผืนฟ้าดุจกระจก ภาพระบบนิเวศน์ที่มีทั้งนกน้ำและควายน้ำอยู่ร่วมกัน… เหล่านี้ คือ The one and only ของ จ.พัทลุง ที่ไม่มีใครเหมือน

เมื่อแสงแรกเฉิดฉาย ภาพการยกยอยักษ์และวิถีชีวิตชาวบ้านที่นี่จะเริ่มขึ้น!!

คลองปากประ คือคลองที่ไหลสู่ทะเลสาบสงขลา เป็นแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและเป็นแหล่งหาปลาที่อุดมสมบูรณ์ของชาวปากประมาตั้งแต่อดีต ด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น ชาวประมงปากประได้สร้าง “ยอยักษ์” ขึ้นเพื่อดักปลาบริเวณปากคลอง เมื่อเวลาผ่านไปปริมาณ “ยอยักษ์” ก็เพิ่มมากขึ้น เกิดเป็นทิวทัศน์แปลกตาของหมู่ “ยอยักษ์” ที่สร้างเป็นทิวอยู่บริเวณปากคลอง

ช่วงเวลาที่สวยที่สุดในการชมวิถีชีวิตชาวคลองปากประ คือ ช่วงเช้าตรู่ เมื่อดวงอาทิตย์เริ่มฉายแสงแรกพ้นขอบฟ้า ชาวประมงจะตื่นแต่เช้าออกมายกยอเพื่อจับปลา กลายเป็นภาพวิถีชีวิตที่สวยงาม จนทำให้ “คลองปากประ” กลายเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจนถึงปัจจุบัน

คลองปากประนั้นเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ในฤดูฝนจะมีปลาชุกชุม แต่ในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาวจะมีโอกาสได้เห็นฟ้ายามเช้าสวยๆ มากกว่าฤดูฝน (ภาพเซ็ตนี้เราถ่ายช่วงปลายเดือนธันวาคม)

ข้อมูลเพิ่มเติม

เราสามารถล่องเรือเที่ยวคลองปากประและทะเลน้อยได้ที่บริเวณท่าเรือปากประครับ มีผู้ให้บริการหลายเจ้า ทริปนี้เราลงเรือที่ ท่าเรือปากประ บ้านต้นลำพู

  • ราคาเหมาเรือ (นั่งไม่เกิน 6 คน) ลำละ 1,200 บาท รวมโปรแกรมเที่ยวเชิงนิเวศน์ 2 ชั่วโมง
  • เรือออกทุกวัน เวลาประมาณ  05.30 – 06.00 น .
  • มีให้บริการอาหารเช้าบุฟเฟ่ต์ราคา 150 บาท/คน อาหารแบบบ้านๆ แต่รสชาติถึงเครื่องมีทั้งขนมจีน แกงไตปลา ข้าวต้มข้างสังค์หยดกระดูกหมู ขนมไทย ปลาทอดกรอบ ใบเลียงผัดไข่ และอื่นๆ 
  • มีให้บริการที่พักด้วย บริการราคาเริ่มต้น 1700 บาท/ห้อง รวมอาหารเช้า

Facebook Page : https://www.facebook.com/BaanTonlamphu/
พิกัด : https://goo.gl/maps/8xwszCyJSSYLx2tb8

ทะเลน้อย หรือ อุทยานนกน้ำทะเลน้อย

สำหรับนักท่องเที่ยว ที่นี่คือแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ที่สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจมากๆ แห่งนึงของประเทศไทย ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ ทำให้มีเหล่านกน้ำ พืชพรรณนานาชนิด ทุ่งบัวแดง ทุ่งดอกสาหร่าย และฝูงควายน้ำ เป็นแม่เหล็กดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาล่องเรือชมความงามกันไม่ขาดสาย

ทะเลน้อยเป็นทะเลสาบน้ำจืดและพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ มีความกว้างยาวประมาณ 5 x 6 กม. เชื่อมต่อกับทะเลสาบสงขลาผ่านคลองนางเรียม (ความยาว 2 กม.) พื้นที่ประมาณ 17,500 ไร่ พื้นที่ประกอบด้วย นาข้าว ป่าพรุ ทุ่งหญ้า ทุ่งบัวแดง และพืชลอยน้ำนานาพันธุ์

เป็นที่อาศัยของนกน้ำมากถึง 287 ชนิด ทั้ง นกกาบบัว นกกุลา นกกระสานวล นกกระสาแดง นกกาเล็กน้ำ นกแขวก นกเป็ดน้ำ นกกระทุง นกนางนวล นกกระเด็น นกกระสาแดง ฯลฯ เป็นที่อาศัยของฝูงควายน้ำ และเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าแห่งแรกของประเทศไทย!!

ช่วงเวลาท่องเที่ยว

  • มกราคม – เดือนเมษายนเป็นช่วงเวลาที่นกชุกชุมมากที่สุด มีมากถึงราวแสนกว่าตัว
  • มีนาคม – พฤษภาคม เป็นฤดูชมบัวแดง
  • ธันวาคม – กุมภาพันธุ์ เป็นช่วงที่เหมาะจะล่องเรือชมควายน้ำ

ข้อมูลเพิ่มเติม

เราสามารถล่องเรือเที่ยวคลองปากประและทะเลน้อยได้ที่บริเวณท่าเรือปากประครับ มีผู้ให้บริการหลายเจ้า ทริปนี้เราลงเรือที่ ท่าเรือปากประ บ้านต้นลำพู

  • ราคาเหมาเรือ (นั่งไม่เกิน 6 คน) ลำละ 1,200 บาท รวมโปรแกรมเที่ยวเชิงนิเวศน์ 2 ชั่วโมง
  • เรือออกทุกวัน เวลาประมาณ  05.30 – 06.00 น .
  • มีให้บริการอาหารเช้าบุฟเฟ่ต์ราคา 150 บาท/คน อาหารแบบบ้านๆ แต่รสชาติถึงเครื่องมีทั้งขนมจีน แกงไตปลา ข้าวต้มข้างสังค์หยดกระดูกหมู ขนมไทย ปลาทอดกรอบ ใบเลียงผัดไข่ และอื่นๆ 
  • มีให้บริการที่พักด้วย บริการราคาเริ่มต้น 1700 บาท/ห้อง รวมอาหารเช้า

Facebook Page : https://www.facebook.com/BaanTonlamphu/
พิกัด : https://goo.gl/maps/8xwszCyJSSYLx2tb8

สำเภาไทย

แลนด์มาร์คเช็คอินแห่งใหม่เมืองพัทลุง มีไฮไลต์ คือ หุ่นฟางคิงคองยักษ์ ที่กำลังลากเรือสำเภาลำใหญ่ ตั้งโดดเด่นสะดุดตาอยู่กลางทุ่งนาสีเขียวขจีสบายตา บนเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ ซึ่งจะมีสะพานไม้ทอดยาวไปในผืนนา มีมุมต่างๆ ให้ได้ถ่ายรูปสวยๆ ท่ามกลางธรรมชาติ ช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ของทุกปี ต้นข้าวจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองอร่ามก็น่ามาถ่ายรูปสวยๆ

คิงคองยักษ์ที่หน้าคล้ายบัวขาวสุดๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่ : บ้านท่าสำเภาใต้ ตำบลชัยบุรี อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง
ค่าเข้า : คนละ 20 บาท
เวลาทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00 -19:00 น.
Facebook page : https://www.facebook.com/pg/byTasorn/posts/
พิกัด : https://goo.gl/maps/LAKVMaTKgY3hCqdBA

ร้านขนมหวานป้ากี้

ครั้งนึงในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2562” ที่สวนลุมฯ เราสองคนได้ลองชิม “สาคูเปียก ร้านป้ากี้ (พัทลุง)” เพราะมีคนแนะนำ รสชาติเหนียวนุ่มหนึบของสาคูแท้ๆ ผสมความหวานหอมของน้ำตาลทรายแดง ตัดด้วยความเค็มมันของกะทิ ยังคงประทับใจเราไม่รู้ลืม เมื่อมีโอกาสมาเที่ยว จ.พัทลุง เราจึงไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมเยียนร้านป้ากี้ครับ!!

ร้านป้ากี้ เป็นขนมหวานขนาด 2 คูหา ตั้งอยู่ที่ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ขึ้นชื่อเรื่องขนมหวานราดกะทิ-น้ำเชื่อม แบบไทยๆ ที่เราคุ้นเคยแต่เก่าก่อน ไม่ว่าจะเป็น สาคูเปียก, กล้วยไข่เชื่อม, กล้วยแดงเชื่อม, รวมมิตร, ทับทิมกรอบ, เฉาก๊วย, ข้าวเหนียวดำ, ลูกเดือยต้ม, ข้าวโพดเปียก, ฟักทองบวด, มันเชื่อม และอีกมากมาย ในราคาถ้วยละแค่ 10 บาทเท่านั้น!!

เมนูเด่นของร้าน (และเป็นเมนูโปรดของเรา) ได้แก่ “สาคูเปียก” ซึ่งได้จาก “ต้นสาคู” แท้ๆ ที่ให้ความนุ่มหนึบมากกว่าสาคูที่ทำจากแป้งมัน เวลาทาน ทางร้านจะราดน้ำกะทิให้ก่อนเสิร์ฟ ซึ่งรสชาติกะทิทางใต้นั้นทั้งหอมมัน มีความเค็มนิดๆ ตัดกันดีกับความหวานหน่อยๆ ของ “สาคูเปียก” ทานทีไร เพลินไปถึง 2-3 ชาม ไม่รู้ตัว!!

ต้นสาคู จัดเป็นปาล์มชนิดหนึ่ง ปลูกได้ดีในพื้นที่ภาคใต้บ้านเรา รวมถึงอินโดนีเซียและมาเลเซีย จัดเป็นพันธุ์ไม้เฉพาะถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของภาคใต้ครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่ : ตำบลมะกอกเหนือ อำเภอควนขนุน พัทลุง 93150
โทร : 074-672-352, 085-893-8739
เปิดทำการ : ร้านทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00–17:00 น.
พิกัด : https://goo.gl/maps/4zjtZRtXviwJJhsK7

ตลาดนัดใต้โหนด

หลาดใต้โหนดตั้งอยู่ใต้ดงต้นโหนด และต้นไม้ร่มรื่นในบริเวณ “บ้านนักเขียน” ซึ่ง “กนกพงศ์ สงสมพันธุ์” นักเขียนรางวัลซีไรต์ปี 2539 (จากหนังสือรวมเรื่องสั้น “แผ่นดินอื่น”) เกิดและเติบโตที่นี่ ก่อนจะอำลาจากโลกไปใน ปี พ.ศ. 2549 กลายเป็นหนึ่งในตำนานนักเขียนไทยกับฉายา “นักเขียนหนุ่มตลอดกาล”

หลังกนกพงศ์จากไป พี่น้องครอบครัวสงสมพันธุ์ นำโดย “เจน สงสมพันธุ์” (อดีตนายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย) และ “นิยุติ สงสมพันธุ์” ร่วมด้วยญาติสนิทมิตรสหาย ได้ปรับเปลี่ยนบ้านที่กนกพงศ์เคยอยู่อาศัยให้เป็น “บ้านนักเขียน” เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้สาธารณะและเป็นสถานที่อบรมบ่มเพาะนิสัยรักการอ่านการเขียนให้แก่เยาวชน รวมถึงเป็นสถานที่จัดงานรำลึกการจากไปของกนกพงศ์ในทุกๆปี ซึ่งต่อมาได้มีขายกาแฟ เครื่องดื่มในบรรยากาศแบบบ้านๆ โดดเด่นไปด้วยบรรยากาศร่มรื่นซึ่งจะตกแต่งด้วยภาพวาด สามารถมานั่งเล่นอ่านหนังสือ นอนเล่นฟังเพลงไทยย้อนยุค

ที่ “บ้านนักเขียน” ยังมีท้องนาผืนเก่าที่ปกคลุมไปด้วยต้นโหนด(ตาลโตนด) ซึ่งนิยุติเห็นว่า น่าจะนำที่ว่างตรงนั้นมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชน โดยให้ชาวบ้านมีนำพืชผักผลผลิตที่ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมีมาแลกเปลี่ยน ซื้อขาย เป็นตลาดนัดชุมชนในบรรยากาศแบบบ้านๆ กับบรรยากาศซื้อขายสินค้าฉันมิตร

หลังจากนั้นหลาดใต้โหนดก็ก่อกำเนิดขึ้น ด้วยแนวคิด “ตลาดสีเขียววัฒนธรรมชุมชนเพื่อสุขภาพ” พร้อมกับมีสโลแกนของตลาดว่า “ของกิน ของใช้ งานศิลป์ บ้านบ้าน” โดยได้นำผลผลิตท้องถิ่น ผลผลิตตามฤดูกาลที่สอดคล้องกับวิถีป่า นา เล นิเวศชุมชนอันโดดเด่นของพัทลุง มาเป็นตัวชูโรง ร่วมด้วยการพยายามรื้อฟื้น อาหาร ขนม ของกินหายากในชุมชนที่กำลังจะสูญหายให้คืนกลับมา ภาชนะที่ใส่ก็เน้นวัสดุจากธรรมชาติเป็นหลัก เช่น ใบตอง ใบไม้ ไม้ไผ่ กะลามะพร้าว ซึ่งจะไม่มีการใช้หลอด โฟม และถุงพลาสติก

นอกจากนี้ก็ยังมีพืชผักผลไม้ อาหารพื้นบ้าน น้ำดื่มสมุนไพร ขนมไทย ลูกชก และสินค้าหัตถกรรม เช่น ผลิตภัณฑ์จากกระจูด ผ้าทอพื้นบ้าน ของใช้ทำมือ ลูกปัดมโนราห์ ผ้ามัดย้อม และอื่นๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่ : หมู่ที่ 4 บ้านศาลาม่วง ตำบลดอนทราย อำเภอควนขนุน พัทลุง 93110
เวลาทำการ :  ขายสินค้าทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 07:00 น.-17:00 น.
สำหรับร้านกาแฟเปิดทุกวัน
Facebook page : https://www.facebook.com/Tainodgreenmarket/
พิกัด : https://goo.gl/maps/4ojxJmnZjPP8fExh8

วังเจ้าเมือง (วังเก่า)

วังเจ้าเมืองพัทลุง ในอดีตเป็นเคยเป็นที่ว่าราชการและเป็นที่พักอาศัยของเจ้าเมืองพัทลุง  ประกอบด้วย “วังเก่า” และ “วังใหม่” เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของจังหวัดพัทลุง

“วังเก่า” เป็นวังเจ้าเมืองพัทลุง คือ พระยาอภัยบริรักษ์ (น้อย จันทโรจน์วงศ์) สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น สภาพปัจจุบันเป็นเรือนไทยภาคใต้ผสมภาคกลาง มีเรือนใหญ่ทรงไทยแฝดอยู่ตรงกลาง

ส่วน “วังใหม่” อยู่ทางทิศใต้ติดกับชายคลองลำปำ เป็นกลุ่มเรือนไทย ๕ หลัง แบ่งเป็นเรือนนอนและเรือนครัว เรือนทุกหลังสร้างด้วยไม้แบบเรือนไทยโบราณ วัสดุที่ใช้ในการสร้างเป็นไม้ทั้งหมด วิธีการประกอบเรือนใช้ “ลูกสัก” หรือลิ่มไม้เชื่อมยึดแทนตะปู ซึ่งเป็นวิธีของช่างไทยแต่โบราณ ภายหลังการบูรณะชานเรือนหายไปแต่มีลานปูกระเบื้องดินเผาเข้ามาแทนที่

นอกจากนี้บริเวณวังเจ้าเมืองพัทลุงยังมีศาลาไทยริมน้ำและเรือพัทลุง ซึ่งเป็นเรือเก่าสมัยรัชกาลที่ ๕ วังเจ้าเมืองพัทลุงเป็นมรดกของทายาทในตระกูลจันทโรจน์วงศ์ ทายาทได้มอบให้กรมศิลปากรเพื่อเป็นสมบัติของชาติในการดูแลรักษาและอนุรักษ์ไว้

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่ : ถนนอภัยบริรักษ์ ตำบลลำปำ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง
เวลาทำการ : เปิดวันพุธ-อาทิตย์ 09.00-12.00 น. และ 13.00-16.00 น. (ปิดวันจันทร์-อังคารและวันหยุดนักขัตฤกษ์)
ค่าเข้า : คนไทย 5  บาท / คนต่างชาติ  30 บาท
การเดินทาง : จากศาลากลางจังหวัดพัทลุงไปทางทิศตะวันออกตามถนนราเมศวร์ -อภัยบริรักษ์ ประมาณ 7 กิโลเมตร
พิกัด : https://goo.gl/maps/2whxTUAsuNBjbRw58

ตลาดป่าไผ่สร้างสุข และสวนไผ่ขวัญใจ

ตลาดป่าไผ่สร้างสุข และสวนไผ่ขวัญใจ เป็นสองตลาดพื้นบ้านรักษ์สิ่งแวดล้อมที่มีชื่อเสียงในจังหวัดพัทลุงตั้งอยู่ติดกัน เหมาะกับการเดินเล่น ถ่ายรูป ซื้อของ จุดประสงค์ของทั้งสองตลาด คือ ต้องการสร้างเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็งและสร้างจิตสำนึกที่ดี เน้นภาชนะทำจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น ใบไม้ ใบตอง กระบอกไม้ไผ่ ภาชนะดินเผา ไม่ใช้ถุงพลาสติกหรือกล่องโฟม จึงช่วยลดขยะพลาสติก เป็นมิตรกับธรรมชาติ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม โดยเราสามารถนำภาชนะที่ทานหมดแล้วไปฝากทิ้งไว้ยังร้านค้าที่ซื้อมา เรียกว่าเป็นการช่วยการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน

ตลาดป่าไผ่สร้างสุข

ตลาดป่าไผ่สร้างสุขก่อตั้งโดยเครือข่ายกินดีมีสุขพัทลุงร่วมกับชุมชน ขายอาหารแบบบ้านๆ มากกว่าสวนไผ่ขวัญใจ เปิดเฉพาะวันเสาร์เท่านั้น

มีพื้นที่กว่า 10 ไร่อันประกอบไปด้วยกอไผ่หลากหลายสายพันธุ์ อีกทั้งไม้ใหญ่ไม้น้อยพื้นถิ่นอีกหลายชนิด ‘ป่าไผ่สร้างสุข’ จึงเป็นพื้นที่ร่มรื่น อากาศเย็นสบายตลอดปี มีการออกแบบการใช้พื้นที่มีความสอดคล้องกับธรรมชาติ ตามแนวคิดที่ว่า “พักผ่อนมาก่อนการขาย” ภายในตลาดมีขายอาหาร

เปิดตลาดนัดแรกในวันที่ 28 มกราคม 2560 จุดเริ่มต้นคือความตั้งใจที่จะเป็นตลาดชุมชนสำหรับผู้ผลิตและผู้บริโภคหัวใจสีเขียวที่มีแนวคิดเดียวกัน ให้ได้มาพบเจอกันสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งดีๆ แก่กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของอาหารที่ดี ปลอดภัย เน้นคัดสรรวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น รู้ที่มาของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ไม่มีการใช้สารปรุงแต่งที่เป็นอันตราย ปลอดผงชูรส ภาชนะบรรจุภัณฑ์ที่ใช้เน้นมาจากธรรมชาติ ย่อยสลายได้ง่าย หรือเป็นภาชนะที่นำกลับมาใช้ซ้ำได้ ใช้วัสดุสังเคราะห์หรือพลาสติกน้อยที่สุด เป็นเขตปลอดโฟมและหลอดพลาสติกร้อยเปอร์เซ็นต์ 

สวนไผ่ขวัญใจ

สวนไผ่ขวัญใจจะจัดการโดยเอกชน เปิดทั้งวันเสาร์และวันอาทิตย์ ถ้าอยากเดินทั้ง 2 ตลาดแนะนำให้มาวันเสาร์

ด้วยพื้นที่ป่าไผ่กว่า 30 ไร่ ซึ่งแต่เดิมนั้นเป็นสวนที่ทำการเพาะปลูก ขยายพันธุ์ไผ่ ถ่านไม้ไผ่ พร้อมทั้งมีศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับต้นไผ่ สถานที่แห่งนี้จึงมีต้นไผ่หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ไผ่ตง ไผ่หวาน ไผ่ลืมแล้ง ไผ่กิมซุง ไผ่ซางหม่น ไผ่ใต้หวั่น ไผ่ปักกิ่ง จึงทำให้สวนไผ่แห่งนี้เขียวร่มรื่นไปทั่วอาณาบริเวณ

จากแนวคิด “อิ่มกาย บายใจ สุขอยู่ที่พอ” ของสวนไผ่ขวัญใจ และ เครือข่ายกินดีมีสุขพัทลุง ที่ร่วมมือกันผุดไอเดียสร้างพื้นที่แห่งความสุขให้กับชาวบ้านคนท้องที่ จนกระทั่งเกิดเป็นตลาดนัดธรรมชาติแห่งนี้ขึ้น จะเปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์สวนไผ่แห่งนี้จะเปิดพื้นที่ทำเป็นตลาดนัดท่ามกลางธรรมชาติ เพื่อให้พ่อค้าแม่ขายชาวบ้านพื้นถิ่น ได้เข้ามาเปิดร้านขายอาหาร เครื่องดื่ม ขนมหวาน ของฝาก รวมถึงสินค้าพื้นเมืองและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของจังหวัดพัทลุง เช่น ข้าวอินทรีย์ ผักพื้นเมืองที่ปลูกแซมในสวนยางนานาชนิด สมุนไพร ผลิตภัณฑ์จากการเลี้ยงผึ้ง ที่นำมาวางขายในราคายุติธรรม ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกช็อปเลือกซื้ออย่างเพลิดเพลินใจ

ด้วยการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 โซนหลัก ได้แก่ โซนตลาดป่าไผ่สร้างสุข โซนพื้นที่นั่งพักผ่อน โซนกิจกรรมสำหรับเด็กๆ โซนการเรียนรู้ของสวนไผ่ขวัญใจ และโซนป่าไผ่สุดร่มรื่น กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดพัทลุง มีพื้นที่ให้สามารถนั่งปิกนิกกินอาหาร เครื่องดื่ม ขนมหวาน และยังมีการแสดงดนตรี การละเล่น ให้ได้ชมกันอีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม

ตลาดป่าไผ่สร้างสุข (สวนไผ่ขวัญใจ) ทั้ง 2 ตลาดอยู่ติดกัน เดินเชื่อมถึงกันได้

ที่อยู่ : ตำบลโตนดด้วน อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง (ใกล้โรงพยาบาลควนขนุน)
เวลาทำการ :  ทุกวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 08.30 -17.00 น.
Facebook : www.facebook.com/kindeemeesuk.pattalung
พิกัด : https://goo.gl/maps/nfuHCA26hpuAHUMT8