คนไทยนี่น่ารักนะคะ เรามักมีน้ำใจ นึกถึง ห่วงใย คนที่เรารักเสมอ ยิ่งเวลาได้ไปเที่ยวไหน สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยขาดเลยก็คือ “เหล่าของฝาก” ที่แม้ว่าจะเยอะ จะหนัก จะแพงยังไง ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เราจะหาทางขนกลับมาฝากญาติๆ เพื่อนฝูง และคนที่เรารักได้เสมอ!!

แล้วถ้าเกิดไปเที่ยว “ทูร์เคีย (ตุรกี)” ล่ะ ควรซื้ออะไรมาเป็นของฝากดี? โอ้โห!! บอกเลยค่ะ ว่าเยอะมว๊าก!! เพราะประเทศนี้มีอารยธรรมเก่าแก่ที่ผสมผสานความเป็นยุโรปและเอเชียเอาไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน เครื่องประดับ เสื้อผ้า งานฝีมือ เครื่องสำอาง ยา และของที่ระลึก ทุกอย่างล้วนแปลกใหม่ น่าสนใจ เห็นแล้วกระเป๋าตังค์สั่น อยากซื้อหาไปซะหมด

แต่เราจะขนทั้งหมดกลับไทยก็คงไม่ได้!! ดังนั้นปูเป้เลยรวบรวม “10 ของฝากเด็ดๆ จากทูร์เคีย (ตุรกี)” มาเป็นไอเดียตั้งต้นให้เพื่อนๆ ทุกได้เลือกซื้อกลับไปฝากคนทางบ้านกันค่ะ มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!!

รวมบทความและคลิปเที่ยวเมืองทูร์เคีย (Turkey)

“ตุรกี (Turkey)” เปลี่ยนชื่อเป็น “ทูร์เคีย (Türkiye)” แล้วนะ

อัพเดทล่าสุด!! (2 มิ.ย. 65) ตุรกีได้ประกาศเปลี่ยนชื่อจากประเทศ “ตุรกี (Turkey)” เป็น “ทูร์เคีย (Türkiye)” หรือชื่อเป็นทางการว่า “สาธารณรัฐทูร์เคีย” โดยมีการยื่นจดหมายไปยังองค์การสหประชาชาติ (UN) เพื่อเปลี่ยนชื่อประเทศภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการ โดยมีสาเหตุเพราะต้องการไม่ให้สับสนกับคำว่า “turkey(ไก่งวง)” อีกต่อไป อีกทั้งคำว่า “turkey” ในภาษาอังกฤษนั้น นอกจากจะแปลว่า “ไก่งวง” แล้ว ยังหมายถึงความ “ล้มเหลว” หรือ “คนโง่” อีกด้วย

แต่แม้ชื่อประเทศ Türkiye จะเขียนเป็นไทยว่า “ทูร์เคีย” (ด้วยเหตุผลด้านความสะดวกในการเขียนและรวบเสียง) แต่ถ้าจะออกเสียงให้ถูกต้องชัดเว่อร์ ก็ต้องออกเสียงว่า “ตูร-คีย์-เย่” นะคะทุกคน ^^

ก่อนไปเที่ยว “ทูร์เคีย (Türkiye)” เรามาซ้อมออกเสียงให้คุ้นปากกันก่อนนะคะ ทูร-คีย์-เย่! ทูร-คีย์-เย่! no more Turkey แล้วนะคะ

ถ้าเพื่อนๆ อยากไปสัมผัสทูร์เคียสไตล์ Travel Blogger ในมุมมองใหม่ๆ (แบบที่ทัวร์ไม่พาไป)

ถ่ายรูปสวยๆ กินอยู่สบาย เน้นเที่ยวจุกๆ กินอร่อย นอนดี เดินทางสบาย มีช่างภาพถ่ายรูปสวยๆ ครบรสทั้งวิถีชีวิต, วัฒนธรรม, สถาปัตยกรรม, นั่งบอลลูน, จิบกาแฟตุรกี, เก็บมุม Instagram รวมถึง Hidden Gem ที่รู้กันเฉพาะคนท้องถิ่น ทริปเที่ยวแบบ Blogger ไม่ซ้ำใครแน่นอน!!

เราสองคนอยากชวนมาร่วมทริปที่ปูเป้กับพี่ต้นจัดขึ้น ติดตามข่าวสารได้ที่ หนีงานไปเที่ยว หรือสอบถามได้ที่ Inbox ของเพจได้เลยค่ะ

1. โคมไฟโมเสก และงานเซรามิก

โคมไฟโมเสก หรือ “โคมไฟตุรกี” เป็นหนึ่งในงานศิลปะดั้งเดิมโบราณของชาวตุรกีโดยใช้เทคนิคการเป่าแก้ว และงานโมเสก ถือว่าเป็นงานฝีมือทำแฮนด์เมด 100%  งานแต่ละชิ้นล้วนแต่ใช้ฝีมือรายละเอียดจะไม่เหมือนกัน นี่จึงเป็นเสน่ห์ความสวยงาม ความวิจิตรของโคมไฟตุรกีที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนที่ใดในโลก

การทำโคมไฟนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “ของประดับตกแต่งในพระราชวังของสุลต่าน และใช้การผสมผสานวัฒนธรรมออตโตมันที่มีสีสัน” จึงทำให้โคมไฟมีสีสดใส, ดีไซน์สวย, ลวดลายไม่เหมือนกัน และดูมีความวินเทจ โคมไฟมีหลากหลายแบบให้เลือกซื้อ เช่น โคมห้อยระย้า, โคมแบบ Chandelier, แบบติดผนัง, ห้อยเพดาน และแบบตั้งโต๊ะ สามารถหาซื้อได้ที่ตลาด Grand Bazaar ที่อิสตันบูล (ขอแนะนำสถานที่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวค่ะ)

งานเซรามิก เป็นอีกหนึ่งงานหัตถกรรมดั้งเดิมของคนตุรกี การออกแบบงานเซรามิกจะเน้นลวดลายเยอะ, เส้นสายการวาดมีความอ่อนช้อย, ลงสีสวย, มีสีสันสดใส และน้ำหนักเบา ของที่น่าซื้อฝาก เช่น ชุดกาน้ำชาเซรามิค, แก้วน้ำ, แก้วกาแฟ, แจกัน, เซตเหยือกไวน์ จานรองพร้อมแก้ว, ที่รองแก้ว, ภาชนะใส่ของทั้งจาน, ชาม, นาฬิกา และอื่นๆ ในหลายเมืองจะมีแหล่งผลิตงานเซรามิกที่มีชื่อเสียง เช่น โรงงานเซรามิก Chez Galip ที่เมืองคัปปาโดเกีย

2. ขนมหวานพื้นเมืองของทูร์เคีย (ตุรกี)

ทูร์เคีย (ตุรกี) มีขนมหวานพื้นเมืองดั้งเดิมหลายแบบเลยค่ะ ปูเป้ขอยกตัวอย่างที่ได้ลองชิมมานะคะ เริ่มจาก Baklava (ขนมบัคลาวา) ขนมที่ใครๆ ต้องรู้จัก ขนมบัคลาวาทำจากแผ่นแป้งฟิลโล (Phyllo Dough) ชุ่มๆ ด้วยน้ำผึ้ง และผสมถั่วต่างๆ เช่น พิสตาชิโอ,วอลนัต, เฮเซลนัต เลเยอร์ของแป้งจะมีความกรุบกรอบ เป็นขนมหวานที่หวานที่หวานแบบปรี๊ดดดขึ้นสมองไปเลย!! แนะนำให้ทานคู่กับชาดำร้อน หรือกาแฟดำร้อนจะช่วยตัดความหวานเลี่ยนได้ดี ช่วยให้รสชาติกลมกล่อมลงตัวขึ้นมากค่ะ

Turkish Delight (เตอร์กีชดีไลท์) ขนมหวานเป็นลักษณะเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ ทำจากเจลแป้ง, น้ำตาลผสมอินทผลัม และถั่วต่างๆ เช่น พิสตาชีโอ เฮเซลนัต หรือวอลนัต แต่งกลิ่นให้หอมดอกไม้ หรือส้ม เลมอน แล้วคลุกน้ำตาลไอซิ่ง รสหวานเจี๊ยบบบบบแต่ต้องลองน๊าาา!! บางร้านจะเสิร์ฟ Turkish Delight พร้อมกับ Turkish Coffee ซึ่งเอาขนมหวานตัดรสขมของกาแฟเข้มๆ เข้ากันดีเลยค่ะ

Sütlaç พุดดิ้งข้าวหน้าไหม้ (ภาพด้านล่างซ้ายมือ) เป็นขนมท้องถิ่นอีกอย่างที่เราสองคนชอบมาก รสชาติดี หวานกำลังดี ด้านล่างจะมีข้าวเม็ดเละแฉะๆ คล้ายข้าวเหนียวเปียก ตัวเนื้อพุดดิ้งเนียนนุ่ม รสมัน ละมุนลิ้น และหอมตรงหน้าไหม้ที่อยู่ด้านบนด้วย อร่อยติดใจมากๆ ค่ะ

รสชาติของขนมหวานของทูร์เคีย (ตุรกี) จะหวานมากกก!! คนชอบทานรสหวานน่าจะชอบ ไหนๆ มาเที่ยวแล้วก็ต้องมาลองค่ะ และถ้าลองแล้วถูกใจ ก็ซื้อกลับมาเป็นของฝากแบบเป็นกล่องได้ที่ตลาด Spice Market และยังมีอีกหลายร้านดังๆ ใน Istanbul ด้วยค่ะ

3. อัญมณี จิลเวอรี่ และเครื่องประดับ

ทูร์เคีย (ตุรกี) เริ่มทำ “อัญมณี และเครื่องประดับ” มาอย่างยาวนานจึงถือว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอีกอย่างหนึ่ง อัญมณีที่ตุรกีนิยมในการส่งออก คือ “เครื่องประดับที่มีพลอย หรือพลอยประดับเพชร” ถือว่าเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศเลยนะ! ในปัจจุบันตุรกีมีการใช้เทคนิคทำเครื่องประดับด้วยลวดลายดั้งเดิม, เทคโนโลยีชั้นสูง และมีการประยุกต์นำศิลปะจากยุคสมัยออตโตมันมาใช้ในการออกแบบ จึงทำให้อัญมณีมีความหรูหรา ดูทันสมัย มีดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ทูร์เคีย (ตุรกี) ยังติดอันดับ 1 ใน 5 ประเทศของโลกในการผลิตเครื่องประดับทอง และสามารถส่งออกไปขายกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

ตลาด Grand Bazaar เมืองอิสตันบูลเนี่ยแหละ!! ถือว่าเป็นศูนย์การค้าขายสินค้าอัญมณี จิลเวอรี่ เครื่องประดับและทองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ร้านค้าขายของจะอยู่ภายในและรอบตลาด แนะนำมาเดินดูของสวยๆ งามๆ กันค่ะ

The Blue Evil Eye หรือ “นัยน์ตาปีศาจ สิ่งนี้เหมาะกับคนสายมูค่ะ!! เป็นเครื่องรางที่มีความเป็นมามากกว่า 5,000 กว่าปี เชื่อกันว่าช่วยคุ้มครองและปกป้องสิ่งชั่วร้ายต่างๆ วัสดุทำจากกระจก ลูกปัด หรือแก้ว มีรูปร่างคล้ายรูปดวงตาที่วางซ้อนกันเป็นชั้นๆ จะมีวงกลมสีดำ สีฟ้า สีขาว และสีน้ำเงินเข้ม ของฝากที่เห็นจะมีทั้งพวงกุญแจ, ที่ห้อยโชว์, โมบายแขวน, เครื่องประดับทั้งต่างหู สร้อยข้อมือ สร้อยคอ แหวน และของตั้งโชว์

4. เครื่องหนังต่างๆ

ทูร์เคีย (ตุรกี) เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีอุตสาหกรรมผลิต, ส่งออกเครื่องหนัง และเสื้อผ้าขนวูลไปยังต่างประเทศทั่วโลก คุณภาพผลิตภัณฑ์เครื่องหนังของตุรกี ถือว่าเป็นที่ยอมรับระดับแบรนด์สากลในด้านคุณภาพ ดีไซน์สวย ใช้งานทนทาน มีแบบให้เลือกเยอะ และยังมีมาตรฐานในการส่งออกไปให้กับบริษัทแบรนด์เนมมากมาย จึงเป็นอีกหนึ่งไอเท็มเด็ดที่น่าซื้อเป็นของฝาก หรือซื้อให้ตัวเองก็ดีงามค่ะ

ทริปนี้ปูเป้แวะ EMELDA เป็นร้านเครื่องหนังก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1991 มีสินค้าคุณภาพหลากหลายของทั้งของผู้หญิงและผู้ชาย เช่น เสื้อโค้ท, โค้ทขนวูล, เสื้อแจ็คเก็ตหนังสัตว์, กระเป๋าทุกขนาด, กระเป๋าเงิน, รองเท้า, หมวก, เข็มขัด และเครื่องหนัง accessory ต่างๆ ราคาของสินค้าเริ่มตั้งแต่หลักพันถึงหลายหมื่นเลยค่ะ แบรนด์นี้ถือว่าเป็นที่ยอมรับในการผลิตสินค้าระดับ High Class โดยจะมีขายในห้างสรรพสินค้า เช่น Nordstrom, Neiman Marcus, Saks Fifth Avenue ในสหรัฐอเมริกา , Galleries La Fayatte ในฝรั่งเศส และ Selfridges & Co ในอังกฤษด้วยค่ะ

ทางร้าน EMELDA จะมีพนักงานทำหน้าที่เหมือนผู้ช่วยช้อปส่วนตัว (Personal Shopper) ที่มองรูปร่าง, ความสูง, โทนสีผิว, ลักษณะท่าทาง, สไตล์การแต่งตัว และสังเกตเราจากการเลือกหยิบสินค้า จากนั้นพนักงานจะเลือกแบบเสื้อ ไซต์ และสีให้แมตซ์กับสไตล์ของเรามาให้ลอง พอลองแล้วเข้ากับเราดีมากกกก!! ประทับใจมากก!! อันนี้ขอปรบมือดังๆค่ะ

และแล้ว!! ปูเป้ก็จัด “เสื้อแจ็กเก็ตหนังแกะสีน้ำตาลเข้ม” ความพิเศษของเสื้อแจ็กเก็ตตัวนี้ที่ยอมซื้อแม้จะราคา 400 USD คิดเป็นเงินไทย 13,xxx บาทกว่าๆ คือ แจ็กเก็ตเนื้อผ้าบางเฉียบ, น้ำหนักเบาแต่กันหนาวได้, ใส่สบายแล้วไม่รู้สึกอึดอัด, เหมาะกับคนขี้เบื่อเพราะใส่ได้สองด้าน, ยับยาก, ใส่แล้วพอดีตัวทำให้ดูมีเอวขึ้นด้วยค่ะ ^^

5. กาแฟตุรกี และเครื่องโลหะต่างๆ

Turkish Coffee เครื่องดื่มประจำชาติมีเอกลักษณ์อยู่ที่วิธีการชงและรสชาติกาแฟที่ทั้งหอม ทั้งเข้มข้น โดยเค้าจะใช้กระบวยเป็นตัวชง ใส่ผงกาแฟและน้ำลงไป จากนั้นนำกระบวยไปวนในทรายร้อนๆ จนน้ำเดือด แล้วบรรจงเทลงในแก้วกาแฟ เวลาดื่มจะเน้นดื่มน้ำกาแฟด้านบน ส่วนกากกาแฟจะตกตะกอนอยู่ที่ก้นถ้วย Turkish Coffee มักเสิร์ฟคู่กับของหวานประจำชาติอย่าง Turkish Delight รสชมกับหวานมาเจอกัน โหย… ลงตัวมากมาย สำหรับสายชอบเข้มๆ รับรองถูกใจแน่นอนค่ะ

เครื่องโลหะทั้งเครื่องทองเหลือง ทองแดง และเงิน ถือว่าเป็นงานหัตถกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และเป็นหนึ่งของฝากที่น่าสนใจค่ะ ตามร้านค้าใน Grand Bazaar, Spice Market และร้านขายของฝากตามเมืองต่างๆ จะมีเครื่องโลหะสวยๆ เยอะเลย เช่น หม้อต้มกาแฟ, แก้วกาแฟ, แก้วน้ำ, ถ้วย, ชุดกาน้ำชา, ชุดกาแฟพร้อมแก้ว, ถาด, เครื่องบดกาแฟแบบมือหมุน และอื่นๆ ซื้อกลับมาใช้แล้ว จะช่วยทำให้กาแฟอร่อยขึ้นอีก 50% เลยค่ะ 555

6. พรมตุรกี

ของฝากอีกอย่างหนึ่งที่ทุกคนนึกถึง ก็คือ “พรมตุรกี” ถือว่าเป็นสินค้าขึ้นชื่อของประเทศเลย และยังเป็นหนึ่งของสะสมของคนทั่วโลก พรมตุรกีจะมีเทคนิคการทอแบบพิเศษที่เรียกว่า “Double Knot” จึงทำให้พรมมีความทนทาน มีปมที่หนาแน่น สามารถใช้งานได้ยาวนาน วัสดุในการทำพรมจะมีทั้งแบบผ้าฝ้าย, ขนสัตว์ (พรมขนแกะ) เส้นไหม และบางครั้งมีการใช้ด้ายสีทองหรือสีเงินด้วย ไกด์ท้องถิ่นเล่าให้พวกเราฟังว่า “พรมที่มีคุณค่าและสวย คือ พรมที่เอามาใช้งานจริงๆ แล้วมีความเก่าที่เกิดจากการใช้ มิใช่พรมใหม่ที่วางไว้เฉยๆ เป็นเครื่องประดับค่ะ

บ้านของคนตุรกีส่วนใหญ่จะมีพรมตกแต่งบ้าน เช่น สำหรับปูพื้น แขวนผนัง เบาะนั่ง ผ้าคลุม หรือตกแต่งเหมือนเป็นเฟอร์นิเจอร์ ลายของพรมจะเป็นลวดลายที่สวยงาม ส่วนใหญ่จะเป็นลาย “ดอกทิวลิป” ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติ และเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหรา พรมจะมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ตามแต่ละท้องถิ่น ซึ่งพรมที่มีชื่อเสียงจะมาจากเมือง Hereke และที่ Cappadocia ถ้าได้แวะไป ลองไปดูนะคะว่าสวยสมคำเล่าลือไหม??

7. ชาตุรกี

วัฒนธรรมการดื่มชาของตุรกีเริ่มเป็นที่แพร่หลายในศตวรรษที่ 19 โดยสุลต่าน Abdülhamid II  คนตุรกีส่วนใหญ่จะดื่มชาดำร้อนกันทุกเวลา ทุกโอกาส ถือว่าเป็นเครื่องดื่มประจำชาติอีกหนึ่งอย่างเลย ซึ่งถือเป็นวัฒนธรรมที่พบเจอได้ในคนทุกชนชั้นตั้งแต่คนชั้นสูงจนชั้นคนใช้แรงงาน นอกจากชาดำแล้วยังชาหลายแบบเลยค่ะ เช่น ชาผลไม้ เช่น ชาแอปเปิ้ล ชาทับทิม, ชาทับทิม มีความหอมหวานนิดๆ กลิ่นดี, ชาสมุนไพร เช่น ชาคาโมมายด์, ชาลาเวนเดอร์, ชากุหลาบ, ชามะลิ และ ชาที่ช่วยในเรื่องของสุขภาพ เช่น ชาเพิ่มพลังงาน, ชาช่วยย่อย, ชาผ่อนคลาย และอื่นๆ

คนที่เลิฟการดื่มชาน่าจะชอบชาตุรกีค่ะ ปูเป้ว่ารสชาไม่เข้มมาก ไม่ขมมาก จิบร้อนๆ ได้เรื่อยๆ จะชงร้อนก็ดี หรือใส่น้ำแข็งก็เย็นชื่นใจค่ะ สามารถซื้อเป็นของฝากได้ที่ Spice Market และ Grand Bazaar และตามร้านขายของที่ระลึก

8. เครื่องเทศ

มาที่เมืองอิสตันบูลแล้ว!! แนะนำให้มาเดินชมบรรยากาศที่ “ตลาดเครื่องเทศสไปซ์บาซาร์ (Spice Market)” แค่ชื่อตลาดก็รู้เลยว่าเน้นขายเครื่องเทศแบบจัดเต็มมากมาย ตลาดนี้ถือว่าเป็น “ศูนย์การค้าเครื่องเทศขนาดใหญ่ และเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง” ระหว่างที่เราเดินผ่านร้านค้าต่างๆ จะเห็นเครื่องเทศนานาชนิด เช่น หญ้าฝรั่น, พริกไทยดำ, โหระพา, ยี่หร่า, พริกแดงหวาน, มิ้นต์, ใบกระวาน, เครื่องแกง, อบเชยแห้ง และอื่นๆ เครื่องเทศเหล่านี้แหละ! ที่เป็นส่วนผสมสำคัญในการปรุงอาหารอร่อยๆ ของตุรกีเลย

อ้อ!! หลังจากเที่ยวตุรกีมา 9 วัน ความรู้สึกส่วนตัวนะคะโดยรวม อาหารตุรกีค่อนข้างทานง่าย และกลิ่นเครื่องเทศไม่แรง!! กลิ่น สี และรสชาติของเครื่องเทศคนละอย่างกันอาหารอินเดียเลยค่ะ จะไม่ค่อยมีการปรุงแต่งเยอะ, รสไม่หวาน, รสไม่จัด ไม่ค่อยมัน, จะเน้นการทำอาหารแบบปิ้ง ย่าง และนึ่ง

9. ถั่วต่าง และผลไม้อบแห้ง

นอกจากเครื่องเทศแล้ว ตลาด Spice Market ยังมีขายถั่วนานาชนิด เช่น พิตาชิโอ, วอลนัท, เฮเซลนัท, อัลมอนต์, เกาลัด, ถั่วลิสง และผลไม้อบแห้งอร่อยๆ หลายชนิด เช่น สตรอเบอร์รี่, เกรปฟรุ้ต, แอปริคอต, มะนาว, มะม่วง, สัปปะรด, ลูกแพร, ลูกพรุน, อินทผาลัม และอื่นๆ ใครสายถั่ว หรือชอบผลไม้อบแห้ง แนะนำให้ซื้อจากที่นี่เป็นของฝากได้เลยค่ะ

10. ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันมะกอก และน้ำมันหอมระเหย

ทูร์เคีย (ตุรกี) เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการปลูกมะกอกมานับพันปี จึงทำให้มีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับน้ำมันมะกอกต่างๆ มากมาย เช่น น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ, ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการบำรุงเส้นผม ใบหน้า และผิวพรรณ (แชมพู, ครีมนวดผม, เซรั่มบำรุงผม, ครีมบำรุงผิว, เซรั่มและครีมทาหน้า, ครีมทามือ) ด้วยคุณสมบัติของน้ำมันมะกอก คือช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นไว้ที่ผิวไม่ให้ระเหยออกไป, ซึมซาบเร็ว, ไม่เหนียวเหนอะ, ทำให้ผิวเนียนนุ่ม ดูจากคุณสมบัติใช้แล้ว (น่าจะ) สวยขึ้นค่ะ ต้องซื้อๆๆค่าา

นอกจากนี้ทูร์เคีย (ตุรกี) ยังขึ้นชื่อในด้านการปลูก ดอกกุหลาบ และยังมีการปลูกกุหลาบสีดำพันธุ์ Turkish Halfeti Rose แห่งเดียวในโลกด้วย รวมทั้งมีการปลูกลาเวนเดอร์ จริงๆ แล้วตุรกีก็มีทุ่งลาเวนเดอร์บานเต็มทุ่งที่เมือง Isparta ในช่วงกลางเดือน ก.ค. ของทุกปี ดังนั้นทูร์เคีย (ตุรกี) จึงสามารถสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยทั้งกลิ่นกุหลาบ และกลิ่นลาเวนเดอร์ออกมาได้ หลังจากได้ดมกลื่นแล้ว ทั้งสองกลิ่นดีมาก ดมแล้วสดชื่น ผ่อนคลายดีจัง แนะนำให้ซื้อมาตุน หรือซื้อมาเป็นของฝากก็ดีค่ะ

อ่านจบ 10 ของฝากจากทูร์เคีย (ตุรกี) จะซื้ออะไรดีหล่ะ? หวังว่าลิสต์ของฝากคงจะโดนใจเพื่อนๆ บ้างนะคะ ^^

ถ้าเพื่อนๆ อยากไปสัมผัสตุรกีในสไตล์ #หนีงานไปตุรกี ทริปเที่ยวสไตล์ Blogger (แบบที่ทัวร์ไม่พาไป)

ถ่ายรูปสวยๆ กินอยู่สบาย เน้นเที่ยวจุกๆ กินอร่อย นอนดี เดินทางสบาย มีช่างภาพถ่ายรูปสวยๆ ครบรสทั้งวิถีชีวิต, วัฒนธรรม, สถาปัตยกรรม, นั่งบอลลูน, จิบกาแฟตุรกี, เก็บมุม Instagram รวมถึง Hidden Gem ที่รู้กันเฉพาะคนท้องถิ่น ทริปเที่ยวแบบ Blogger ไม่ซ้ำใครแน่นอน!!

เราสองคนอยากชวนมาร่วมทริปที่ปูเป้กับพี่ต้นจัดขึ้น ติดตามข่าวสารได้ที่ หนีงานไปเที่ยว หรือสอบถามได้ที่ Inbox ของเพจได้เลยค่ะ