
ไปมาเลเซียมาหลายครั้ง แต่กลับพลาด “ปีนัง” ได้ไงเนี่ย?
ขอนิยาม “ปีนัง” ว่าเป็นเมืองอารต์ตัวแม่ ตึกสวย มุมถ่ายรูปเยอะ แถมยังเที่ยวสนุก กินอิ่ม นอนสบาย ขอติดดาวให้ “ปีนัง” เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ถูกจริตเราสองคนไปเลยค่ะ
รู้จักปีนัง !!
“ปีนัง” เป็นเกาะอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของมาเลเซีย เคยเป็นเมืองท่าเรือเก่าในอดีต ที่นี่จึงเป็นจุดจอดพักเรือ ถ่ายขนสินค้า จึงได้รับอิทธิพลของกลิ่นอายของวัฒนธรรมจากประเทศยุโรป พอได้ผสมผสานกับวัฒนธรรมของคนท้องถิ่น จึงทำให้ปีนังเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีเอกลักษณ์ มีความกลมกล่อม มีชีวิตชีวา มีเสน่ห์ทั้งศิลปะ วัฒนธรรมดั้งเดิม ความเป็นอยู่ของผู้คน และสถาปัตยกรรมเก่าแก่อาคารสวยๆ สไตล์ชิโน-โปรตุกีส และที่นี่เป็นที่ตั้งของ “เมืองจอร์จทาวน์ (George Town)” เมืองหลวงของรัฐปีนัง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน UNESCO World Heritage Site
รีวิวที่เกี่ยวข้อง :
มาเตรียมความพร้อมกันเลยจ้า
1. เที่ยวปีนัง Free VISA แล้วนะ (รู้ยัง?)
เที่ยวปีนัง ประเทศมาเลเซีย เปิด Free VISA ให้คนไทยแค่มีตั๋วเครื่องบิน, Passport และกระเป๋าเสื้อผ้า ก็มาได้เลย อยู่ได้ครั้งละ 30 วันโดยไม่ต้องขอวีซ่า และไม่ต้องกรอกฟอรม์ใดๆ ก่อนเข้าเมืองจ้า

2. เรื่องแลกเงินเรื่องใหญ่ ตั้งใจฟังนะ
ประเทศมาเลเซียใช้สกุลเงิน “ริงกิตมาเลเซีย (MYR)” อักษรย่อเป็น RM แนะนำให้แลกเงินจากไทยไปเลยจะสะดวกกว่า เรทแลกเปลี่ยน 1 ริงกิตมาเลเซีย = 7.92 บาท (อัพเดท ณ.วันที่ 21 สิงหาคม 2561) คิดง่ายๆ ก็คูณ 8 จากราคาสินค้าได้เลย (มาเที่ยวมาเลเซีย ขอให้ท่องสูตรคูณแม่ 8 ให้คล่องๆ ก็พอแล้ว) ถ้าเงินสดไม่พอก็สามารถกดเงินจากตู้ ATM เป็นเงิน RM
ยกตัวอย่างราคาค่าครองชีพที่ปีนังคร่าวๆ หมวยว่าราคาก็พอๆ หรือถูกกว่ากรุงเทพค่ะ เช่น
- บะหมี่หมูแดง (Wan Tan Mee) ราคา 6 RM (ประมาณ 48 บาท)
- ชาร์ก๋วยเตี๋ยว (Char Koay Teow) คล้ายกับก๋วยเตี๋ยวคั่วซีฟู้ด ราคา 8 RM (ประมาณ 64 บาท)
- กาแฟดริปแบบ Syphon Pot ราคาแก้วละ 11 RM ( ประมาณ 88 บาท)
- เบียร์ตามบาร์ก็ไม่แพงจ้า ราคาโปร Happy Hour มีเยอะแยะ เช่น Heineken beer ราคาแก้วละ 40 บาท
- ค่าเข้าสถานที่ราคาประมาณ 20- 60 RM (ราคา 160 – 480 บาท)
3. เดินทางยังไงดี?
ไปปีนังไปกับแอร์เอเชีย Air Asia มีเที่ยวบินตรงไป-กลับจากกรุงเทพฯไปปีนัง มีวันละ 2 เที่ยวบินต่อวัน บินใกล้ๆ แค่ 1.45 ชม. ปูเป้แนะนำให้จองไฟลท์ออกช่วงสาย กลับจากปีนังช่วงเย็นจะได้เที่ยวให้คุ้มๆ จ้า เมื่อบินลงที่สนามบินปีนังปุ๊ปปรับเวลาให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมงด้วยจ้า

4. อยากเล่น Social ต้องหา Sim Card
คุณอาจไม่รู้ว่าสัญญาณ 3G/4G ที่ปีนังเนี่ย แรงนะจ๊ะ !! พอถึงสนามบินปุ๊บ เราแนะนำให้ซื้อซิมปุ๊ปต่อเน็ตได้เลย เน็ตเร็วฉิว ราคาก็ไม่แพง ซื้อซิมที่สนามบินจะแพงกว่าซื้อข้างนอกประมาณ 10 RM แต่หมวยว่าซื้อเถอะ คุ้มกว่า ซื้อความสะดวกสบาย

ถ้ามาซื้อซิมการด์นอกสนามบิน จะค่อนข้างยุ่งยากในการหาร้านซื้อของชำ รอ sms เข้ามา ซื้อบัตรเติมเงินเพื่อกดรห้สยืนยัน ….แค่ฟังก็ปวดหัวแล้วหล่ะ 5555 เอาเวลาไปคิดหามุมถ่ายรูปสวยๆดีกว่า อ้อ!! โรงแรมที่พัก ร้านกาแฟจะมี wifi ไว้ให้บริการฟรีจ้า
สนใจซื้อ 4G ซิมการ์ดใช้ในมาเลเซีย (รับที่สนามบินปีนัง) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
5. ไปปีนัง… แต่งตัวแบบไหนดี ?
อากาศที่ปีนังมีความคล้ายกรุงเทพฯ เป๊ะ!! อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 28-34 องศาเซลเซียส ไม่ต้องปรับตัวนะจ๊ะ เหมาะกับการแต่งตัวสบายๆ เน้นเสื้อผ้าระบายเหงื่อ ความร้อนได้ดี ไม่อับชื้น ที่นี่ไม่ได้เข้มงวดเรื่องการแต่งตัวมิดชิดเหมือนประเทศมุสลิม จะใส่ขาสั้น เดรสยาว-สั้น สายเดี่ยวก็ได้ทั้งนั้น แต่ก็คำนึงถึงความปลอดภัยด้วยนะ


สำหรับใครที่ชอบแต่งตัวกลมกลืน หมวยแนะนำให้ใส่ชุดพื้นเมือง เรียกว่า “เปอรานากัน” ชุดแบบเดียวกับ “ชุดย่าหยา” ของภูเก็ตเลย ตัวเสื้อเป็นผ้าลูกไม้หรือผ้าป่านรูเบีย แขนยาว เข้าเอวรัดรูปและนุ่งผ้าปาเต๊ะปักเลื่อม ยิ่งเอามาใส่เดินที่คฤหาสน์เปรานากัน (Pinang Peranakan Mansion) โอ๊ย!!! สวยชนะเลิศมากๆค่ะ
6. เที่ยวปีนังช่วงไหนดีหล่ะ ?
เราสามารถเที่ยวปีนังได้ตลอดปีค่ะ โดยรวมแล้วอากาศจะร้อนชื้นแบบใกล้เขตศูนย์สูตร และมีฝนตก อุณหภูมิอยู่ที่ 28-34 องศาเซลเซียส
– ฤดูมรสุม (พ.ค.-ก.ย.) อุณหภูมิเฉลี่ย 28-34 C.
– ฤดูร้อน (ต.ค.- กพ.) ช่วงอากาศร้อนมีฝนตกชุก อุณหภูมิประมาณ 24-32 C.
มาเตรียมความพร้อมก่อนไปตะลุยปีนัง !
1. เตรียมอุปกรณ์กันแดด กันฝน เช่น หมวก แว่นตากันแดด และร่ม
โดยส่วนตัวแล้วปูเป้ชอบพก ร่มขนาดเล็ก BGG Umbrella พกพาสะดวกเป็นแบรนด์ไต้หวัน สินค้ามีคุณภาพดี และมีชื่อเสียงในการผลิตร่มแบบ OEM ให้กับแบรนด์ร่มของญี่ปุ่น, เกาหลี, ยุโรป และอื่นๆ พอซื้อมาแล้วใช้งานจริง แล้วคุ้มจุดเด่นของร่มคือ น้ำหนักเบาพกพาสะดวก, กันฝน, กันแดด, กัน UV 100% มีแบบให้เลือกเยอะ เช่น บางรุ่นขนาดเล็กหนาเพียง 2 ซม. หรือมีน้ำหนักเบาพิเศษ 99 กรัม เองค่ะ

2. รองเท้าที่เดินสบาย และกันลื่น
เราสองคนชอบยี่ห้อ Skechers เป็นพิเศษค่ะ เพราะพื้นรองเท้านุ่ม น้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี ใส่แล้วสบายเท้า จะเดินวันละหมื่นกว่าก้าวก็สบายๆ ไม่ค่อยเมื่อยเท้า และราคาไม่แพง คุ้มค่าค่ะ ซึ่งแบรนด์นี้มีรองเท้าเยอะหลายรุ่น มีทั้งของผู้หญิง ผู้ชาย และเด็ก
- รุ่นแนะนำสำหรับผู้หญิง : GOwalk 6 Shoes
- รุ่นแนะนำสำหรับผู้ชาย : GOwalk Max และรุ่น Flection Sport
3. ครีมกันแดดผิวหน้า
ทุกทริปปูเป้เลือก ครีมกันแดดทาผิวหน้า แบรนด์ญี่ปุ่น SUNPLAY SKIN AQUA TONE UP UV ESSENCE SPF 50+/PA++++ เนื้อเอสเซ้นซ์บางเบา ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะ ไม่รำคาญผิว มีไฮยารูลอน และวิตามิน C สูตรอ่อนโยน เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย เนื้อครีมบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมเร็ว ไม่มัน ไม่เหนอะผิว เหมาะกับช่วงอากาศร้อนๆ ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่ม ปรับสีผิวให้สว่างขึ้น ทาแล้วไม่เป็นขุย ผ่านการทดสอบการระคายเคือง ไม่มีมิเนอรัลออย และพาราเบน

4. ครีมกันแดดผิวกาย
อากาศช่วงกลางวันแดดแรงมาก ร้อนมากจนถอดเสื้อกันหนาว (อยากใส่เดรสสายเดี่ยวเดินเลยค่ะ) ยังไง UV ก็เป็นอันตราย ทำผิวเหี่ยว ฝ้าแดด ผิวคล้ำ!! ท่องไว้ๆๆ ปูเป้เลยต้องมีตัวช่วย 2 ไอเท็มนี้พกตลอดค่ะ
ก่อนออกแดด : อย่าลืมทา ครีมกันแดดผิวกาย ปูเป้ชอบโลชั่นกันแดดเนื้อน้ำนม มี SPF50 PA+++ ปกป้องผิวจากรังสี UVA UVB ทุกวัน ทาแล้วออกแดดได้เลย ไม่ต้องรอถึง 20 นาที สบายผิว ไม่เหนียว เหนอะหนะผิว สูตรกันน้ำ ไม่หลุดง่าย ทาแล้วออกแดดได้เลย ให้ความชุ่มชื้น และปกป้องคอลลาเจนจากการถูกแดดทำร้าย

หลังผิวถูกแดด : อย่าลืมทา เจลว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ (Aloe Vera gel) ทาแล้วสบายผิว ผิวไหม้ๆ เกรียมๆ ก็รอดมาได้เพราะตัวนี้เลย เห็นหลอดเล็กๆ แบบนี้ใช้ได้นานมากกก ช่วยลดอาการแสบร้อนผิวไหม้แดด ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และมีส่วนผสมว่านหางจระเข้ และวิตามินอีช่วยบำรุงผิวเนียนนุ่ม เพิ่มความชุ่มชื้น และเติมน้ำให้ผิวค่ะ

5. ยาต่างๆ เช่น ยาแก้ไข้, แก้ไอ, แก้เจ็บคอ, ยาพ่นคอ, ยาแก้แพ้, ยาลดน้ำมูก และหวัดเผื่อไปด้วยค่ะ
6. วิตามินต่างๆ ที่ช่วยเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกาย ถ้าเราสุขภาพแข็งแรง ยังไงๆ โอกาสป่วย และติดเชื้อโรคต่างๆ ได้น้อยลงค่ะ
ด้วยความที่เราเป็น Travel Blogger การออกทริป คือ การทำงานทั้งถ่ายรูป เก็บข้อมูล ตื่นเช้า ซึ่งอากาศช่วงเดินทางแปรปรวนมีทั้ง ฝนตก แดดออก ลมแรง นอนน้อย ซึ่งโอกาสทำให้ป่วยง่าย วิตามินรวมเม็ดฟู่ ของบีรอคคา (BEROCCA)” ช่วยได้เยอะมากกกก!! เลยอยากมาแชร์ให้เพื่อนๆ เวลาไปเที่ยวต้องสนุก ไม่ป่วย สุขภาพแข็งแรงกันค่ะ ตัวนี้ได้ครบทั้งวิตามิน C, วิตามิน B รวม, แร่ธาตุต่างๆ เช่น แคลเซียม, แมกนีเซียม, สังกะสี, ไบโอติน และกรดโฟลิค ทานง่าย เหมือนดื่มน้ำส้ม รสเปรี้ยวนิดๆ พกพาสะดวกเป็นหลอดเล็กๆ ประหยัดเนื้อที่กระเป๋า วันไหนตื่นขึ้นมาเพลียๆ พอทานแล้วก็รู้สึกสดชื่นขึ้นหายจากอาการล้า

7. ไปปีนังใช้ภาษาอังกฤษได้ไหม ?
บาฮาซาร์มาเลเซีย (Bahasa Malaysia) เป็นภาษาราชการ ภาษาจีนฮกเกี้ยนเป็นภาษาท้องถิ่นที่ใช้ทั่วไปคู่กับภาษาบาฮาซาร์มาเลเซีย ประชาชนทั่วไปส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษได้ ขนาดอาม่าขายขนมปังยังพูดภาษาอังกฤษได้เลย ดังนั้นสื่อสารกันได้สบายๆ
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็สามารถซื้อบัตรเข้าชมล่วงหน้าผ่าน Klook ได้เลย ราคาดีกว่าซื้อหน้าเคาน์เตอร์ แถมสะสมแต้มใช้เป็นส่วนลดสำหรับครั้งหน้าได้อีก เช่น บัตร Klook Pass ปีนัง จะเข้าได้ที่ Entopia Penang, The Habitat Penang Hill, The TOP Komtar, ESCAPE Theme Park, สวนนกปีนัง, Tech Dome Penang, Boutique Aquarium ที่ The TOP, The Gravityz Obstacle Rope ที่ปีนังฮิลล์
สนใจซื้อ บัตร Klook Pass ปีนัง ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
สนใจซื้อ บัตรเข้า The Top Penang ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
8. มาปีนังต้องมาจัด Street Food สิ
หมวยเนี่ยเป็นคนทานยาก เรื่องมาก ไม่ทานมัน เผ็ด หวาน แต่ตลอด 3 วัน 2 คืน “อาหารของปีนัง” อร่อยถูกใจหมวยจริงๆ ขอยกให้ที่นี่เป็นสวรรค์ของนักชิมเลยจ้า มาแล้วลาย “Top 10 เมนูอาหารที่ต้องลองที่ปีนัง” มีอะไรบ้าง
Credit: http://www.tourismpenang.net.my/
9. เดินทางไป-กลับสนามบินยังไงดี
วิธีเราชอบที่สุดเป็น บริการรถรับส่งไป-กลับสนามบิน หลังจากรับกระเป๋าออกมาแล้วจะมีคนขับรถถือป้ายชื่อรอรับที่สนามบินแล้วพาไปส่งโรงแรมที่พักต่อเดียวถึงเลย ไม่ต้องขนกระเป๋าขึ้นลงบันได หรือรถไฟฟ้าให้วุ่นวาย กรณีที่มากัน 2-3 คน, มีเด็ก-ผู้สูงอายุมาด้วย, มาไฟล์ทดึกก็ไม่ต้องกังวล คุ้มกว่า ประหยัดแรงขาไว้เดินเที่ยวอีกหลายวันดีกว่าจ้า 5555 ส่วนขากลับก็จะใช้ถ้ามากันหลายคน ก็จะใช้บริการรถรับส่งจากโรงแรมไปส่งสนามบิน ต่อเดียวถึงเลย จะกระเป๋างอกหลายใบก็ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องแบกของเยอะ ไม่ต้องกลัวตกเครื่อง หรือโดนโก่งราคาด้วยจ้า
สนใจซื้อ บริการรถรับส่งส่วนตัวไป-กลับสนามบิน ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
10. ของฝากซื้ออะไรดีหล่ะ ?
ของฝากที่นิยมซื้อกลับ เช่น ผลิตภัณฑ์และผ้าปาเต๊ะ, เสื้อผ้า, น้ำลูกจันทร์เทศ (Nutmeg) รสชาติจะขมๆแต่ชุ่มคอมาก , กาแฟ Old Town, แม่เหล็กติดตู้เย็น, ขนมขบเคี้ยว, คุกกี้มะพร้าว,ขนมเปี๊ยะกรอบสอดไส้รสต่างๆ, ช็อกโกแลต, ที่รองแก้ว, แก้วน้ำ, จานชามที่ระลึก, ของตั้งโชว์ที่มีลวดลายของภาพ Street Art


สถานที่ที่นิยมไปซื้อของฝาก เช่น แหล่งท่องเที่ยวย่าน George Town, Chew Jetty และช็อปปิ้งก่อนขึ้นเครื่องที่หน้า Gate ที่สนามบินปีนังได้เลยจ้า ซื้อเสร็จหิ้วขึ้นเครื่องบินได้เลย สบายๆจ้า