สำหรับถ้ามีงบสักคนละหมื่นนิดๆ แต่คิดอยากเที่ยวแล้วได้ฟีลยุโรปต้องทำไง? ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก… ทำแบบนี้ เข้าเว็บ www.airasia.com แล้วจองตั๋วไปลง “ดานัง (Danang)” ประเทศเวียดนาม
ตามมาครับ เดี๋ยวเราจะพาคุณไปแต่งตัวเก๋ๆ แล้วเดินเฉิดฉาย ถ่ายรูปเริ่ดๆ แล้วเข้าพักโรงแรมแสนเก๋บนยอดเขา ประหนึ่งว่าอยู่หมู่บ้านโบราณในฝรั่งเศสเลยทีเดียว!!!
Where is Danang? (ดานังอยู่ที่ไหน?)
“ดานัง (Danang)” เป็นเมืองท่าสำคัญของเวียดนามกลางตอนใต้ ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลจีนใต้ เคยถูกยึดครองโดยฝรั่งเศส และเคยเป็นที่ตั้งฐานทัพอากาศหลักของกองทัพอเมริกาในช่วงสงครามเวียดนาม
วัฒนธรรมดั้งเดิม เติมความเป็นฝรั่งเศส-อเมริกันเข้าไป ทำให้ “ดานัง (Danang)” กลายเป็นเมืองท่าที่เด่นทั้งด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว การมาเที่ยว “ดานัง (Danang)” จึงเหมือนเป็นการพาตัวเองมาสัมผัสกลิ่นอายเวียดนามและฝรั่งเศสไปพร้อมๆ กัน!!
ทริปนี้เราใช้บริการสายการบิน ThaiAirAsia พาเราบินตรงสู่ “ดานัง (Danang)”
– ขาไป : DMK (ดอนเมือง) – DAD (ดานัง)
– ขากลับ : DAD (ดานัง) – DMK (ดอนเมือง)
สาย Social ไม่ต้องกังวลเรื่องขาดการติดต่อ เพราะเวียดนามเค้าเจริญ สัญญาณ 4G ทะลุทะลวง!! ลงเครื่องปุ๊บให้รีบรับกระเป๋า แล้วเดินมาซื้อ Sim Card ที่เคาน์เตอร์ก่อนถึงทางออกสู่ Arrival Hall ได้เลย
มีเครือข่ายให้เลือกหลายราย ส่วนของเราเลือกใช้ Viettel แบบ Unlimited 4G สัญญานฉิว เร็วเว่อร์ เล่นเน็ตอย่างเดียว 7 วัน ราคา 7 USD (150,000 VND) ซึ่งราคาปัจจุบันอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงนะครับ
ทริปนี้เราวางแผนไว้ 5 วัน 4 คืน กับจุดหมายปลายทางใน 3 เมืองท่องเที่ยวดังของเวียดนามกลาง ได้แก่ ดานัง, เว้ และฮอยอัน ออกจากสนามบินปุ๊บ เราก็เรียก Grab ปั๊บ!! เรียกสะดวกผ่านแอพฯ ในมือถือ Rate ราคามาตรฐาน ไม่ต้องหงุดหงิดเสียอารมณ์กับ Taxi จอมโกง!! ได้ยินกิตติศัพท์มาเยอะ ขนาดระวังตัวแล้ว สุดท้ายก็ยังเจอกับตัว!! ดังนั้นเรียก Grab ครับ สบายใจ ^_^
จากสนามบินใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็จะมาถึงจุดหมายปลายทางแรกของเรา นั่นคือ สถานี Cable Car ที่จะพาเราขึ้นสู่ Mercure Danang French Village Bana Hills โรงแรมอารมณ์หมู่บ้านฝรั่งเศส บนยอดเขาสูง 1,500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
Bana Hills Cable Car
เปิดใช้งานมาตั้งแต่ มี.ค. 2009 สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 1,500 คนภายใน 1 ชั่วโมง Cable Car แห่งนี้ได้รับการบันทึกสถิติโลกโดย Guinness World Records รวม 4 หมวด ว่าเป็นกระเช้าไฟฟ้าแบบเคเบิลเดี่ยวโดยไม่หยุดแวะมีความสูงที่สุด (5,042 m) ยาวที่สุด (1,291 m) สายเคเบิลยาวที่สุด (11,587 m) และหนักที่สุด (141.24 ton)
เปิดบริการตั้งแต่ 8.00 น. นอกจากนี้ Bana Hills Station ยังเป็นสถานีกระเช้าไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีแหล่งสันทนาการ สวนสนุก รวมทั้งห้องนิทรรศการที่รวบรวมประวัติความเป็นมาตั้งแต่ยุคอาณานิคม
สำหรับคนที่มาเที่ยว Sun World Ba Na Hills ก่อนอื่นต้องทราบก่อนนะครับ ว่าจุดขึ้น Cable Car มีทั้งหมด 3 จุด ใครที่ต้องการมาพักที่ Mercure Danang French Village Bana Hills ให้ไปขึ้นที่ Toc Tien Station (เบอร์ 9 ในแผนที่ด้านบน) เลยครับ เมื่อถึงแล้วให้ทำการแจ้งชื่อ Check in จากนั้นพนักงานจะรับกระเป๋าเราไว้ เตรียมขนขึ้น Cable Car
จองที่พักออนไลน์เพื่อสนับสนุน “หนีงานไปเที่ยว”
จองออนไลน์ผ่าน Booking.com ได้ประโยชน์ 2 ต่อ
- คุณจะได้ดีลราคาพิเศษในทุกการจอง ได้สิทธิประโยชน์ในฐานะสมาชิก Booking.com
- “หนีงานไปเที่ยว” จะได้ % ส่วนแบ่งจากทุกการจอง เพื่อให้เราสองได้พัฒนา Blog ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
สนใจจองห้องพักที่ Mercure Danang French Village Bana Hills คลิกที่นี่
คนที่เข้าพัก Mercure Danang French Village Bana Hills นั้น (อัพเดทราคาปี 2022) :
ค่า Cable Car เพียง 550,000 VND (จากราคาเต็ม 850,000 VND) รวมค่ากระเช้า 2 ขา (ไป-กลับ) และค่าเครื่องเล่น โดยจะใช้บริการได้แบบ Unlimited (ไม่จำกัดรอบ)
สำหรับคนที่ไม่ได้เข้าพัก Mercure Danang French Village Bana Hills ก็สามารถซื้อ บัตรเข้าสวนสนุกซันเวิลด์ บานาฮิลล์ (Sun World Ba Na Hills) เข้าไปเที่ยวด้านในได้ค่ะ
ซื้อ บัตรเข้าสวนสนุกซันเวิลด์ บานาฮิลล์ (Sun World Ba Na Hills) ในดานัง ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
ซื้อ บัตรเข้าชม “บานา บาย ไนท์” ในซันเวิลด์บานาฮิลล์ ในดานัง ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
ซื้อ ทัวร์บานาฮิลล์หนึ่งวัน (เดินทางจากดานัง) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
ซื้อ ทัวร์บานาฮิลล์และโกลเด้นบริดจ์หนึ่งวัน ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
มาถึงตรงนี้ บอกเลยนะ ว่าอย่าเผลอหลับระหว่างนั่ง Cable Car เด็ดขาด เพราะวิวระหว่างทางสู่ยอด Bana Hills นี่สวยเหลือเชื่อ!! คุณจะค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นเหนือผืนป่า, น้ำตก, ผ่านเมฆหมอก ในขณะที่อุณหภูมิก็จะค่อยๆ ลดต่ำลง ความเย็นเข้ามาจับผิวกาย โอ๊ว!! มันฟีลกู๊ดจริงๆ คุณเอ๋ย!!
มาเตรียมความพร้อมก่อนตะลุยบานาฮิลล์ (BaNa Hills)
อากาศบน BaNa Hills ค่อนข้างเย็นแตกต่างจากอุณหภูมิดานังด้านล่างมากๆ ครับ ด้วยความที่อยู่บนเขาสูงมาก จึงทำให้อากาศในแต่ละวันมีความแปรปรวน เช่น เดี๋ยวฝนตก หมอกลง แดดออก ลมพัดแรง ยิ่งพอไปถึง “หมู่บ้านฝรั่งเศสสวยๆ” แล้วก็อยากเดินเล่นถ่ายรูปเยอะๆ ยอมนอนน้อยเพื่อตื่นเช้ารีบไปถ่ายรูป (ช่วงเช้าคนน้อยกว่า รับรองได้รูปสวยเพียบ)
มาเที่ยว ถ้าเกิดป่วย เป็นไข้ ระหว่างทริปคงหมดสนุก และแย่แน่ๆ ครับ
ต้องเสริมภูมิป้องกัน ดูแลตัวเองให้สุขภาพให้แข็งแรงกันด้วย !!
- วิตามินรวมเม็ดฟู่บีรอคคา (BEROCCA)
วิตามินรวมเม็ดฟู่ BEROCCA แค่ตัวนี้ตัวเดียว ช่วยได้เยอะมากกกจริงๆ ติดเป็นนิสัยต้องดื่มทุกเช้าครับ !! ได้ครบทั้งวิตามิน C, วิตามิน B รวม, แร่ธาตุต่างๆ เช่น แคลเซียม, แมกนีเซียม, สังกะสี, ไบโอติน และกรดโฟลิค ครับผม! จุดเด่นของวิตามินรวมเม็ดฟู่ บีรอคคา (BEROCCA ชอบที่ทานง่าย เหมือนดื่มน้ำส้ม รสเปรี้ยวนิดๆ อร่อยมากก!! พกพาสะดวกเป็นหลอดเล็กๆ ประหยัดเนื้อที่กระเป๋า วันไหนตื่นขึ้นมาเพลียๆ พอทานแล้วก็รู้สึกสดชื่นขึ้นหายจากอาการล้า ช่วยบำรุงร่างกาย และระบบประสาทต่างๆ
2. ครีมกันแดดทาผิวหน้า
ยิ่งอยู่บนภูเขาสูง ยิ่งทำให้ผิวมีโอกาสได้รับอันตรายจากแสงแดด มากกว่าปกติด้ว บางทีก็อย่าประมาทนะคะ!! ยังไง UV ก็เป็นอันตราย ทำผิวเหี่ยว!! ก่อนออกแดดอย่าลืมทาครีมกันแดดที่ผิวหน้าด้วยนะคะ ปูเป้ชอบ SUNPLAY SKIN AQUA TONE UP UV ESSENCE SPF 50+/PA++++ เป็นแบรนด์ญี่ปุ่น เนื้อเอสเซ้นซ์บางเบา ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะ ไม่รำคาญผิว เป็นสูตรใหม่ล่าสุดจากญี่ปุ่น มีไฮยารูลอน และวิตามิน C สูตรอ่อนโยน เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย, ชอบที่เนื้อครีมบางเบาปรับสีผิวให้สว่างขึ้น เกลี่ยง่าย ซึมเร็ว, ไม่เหนอะผิว ผ่านการทดสอบการระคายเคือง ไม่มีมิเนอรัลออย และพาราเบน ใครๆ ก็รู้ว่าสินค้าญี่ปุ่นมีคุณภาพดีจนถึงวันนี้ปูเป้ใช้มาเกิน 10 หลอดแล้ว ดีเกิ๊นนนน!! ใช้ได้นาน คุ้มค่าเกินราคาค่ะ
3. ครีมกันแดดผิวกาย
ก่อนออกแดด : อย่าลืมทา ครีมกันแดดผิวกาย ปูเป้ชอบโลชั่นกันแดด Nivea Sun (นีเวีย) รุ่นนี้ค่ะ ทาแล้วออกแดดได้เลย สบายผิว ไม่เหนียว เหนอะหนะผิว จุดเด่นของครีมกันแดดผิวกาย Nivea Sun (นีเวีย) โลชั่นกันแดดเนื้อน้ำนม มี SPF50 PA+++ ปกป้องผิวจากรังสี UVA UVB ทุกวัน เป็นสูตรกันน้ำ ไม่หลุดง่าย ทาแล้วออกแดดได้เลย ไม่ต้องรอถึง 20 นาที, ปกป้องผิวได้ดีขึ้น ช่วยเรื่องผิวคล้ำเสีย หรือแลดูแก่ก่อนวัย, ทาแล้วบำรุงให้ความชุ่มชื้น แต่ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ และปกป้องคอลลาเจนจากการถูกแดดทำร้าย
ผ่านไปราว 30 นาทีเราก็มาถึง สถานี French Village ตรงนี้จะมีพนักงานมารับกระเป๋าแล้วพาคุณไปยังห้องพักที่จองไว้ ระหว่างทางคุณอาจจะอยากหยิบกล้องออกมาเก็บภาพนั่นนี่ไปตามความ “ว๊าว” เฉพาะบุคคล แต่ใจเย็นๆ ครับ รีบไปห้อง ล้างหน้าล้างตา เปิดกระเป๋า หยิบชุดสุดเริ่ดมาใส่ซะ มีมุมเก๋ๆ อารมณ์หมู่บ้านฝรั่งเศสรอคุณอยู่ครับ!!
รีวิวห้องพัก The Pigneau de Behaine
ห้องที่เราพักอยู่ตึก Hotel De Lyon ชื่อห้อง the Pigneau de Behaine room จัดเป็นห้องพัก VIP วิวดีสุดๆ มองเห็นหมู่บ้านและโบสถ์กลางเมืองได้จากระเบียงห้องพักเลย!! พื้นที่ในห้องกว้างมาก แบ่งสัดส่วนได้ดี มีการแยกห้องอาบน้ำ, ห้องส้วม และอ่างล้างหน้าออกจากกัน
การตกแต่งภายในห้องเน้นความเรียบง่าย ดูวินเทจ เน้นโทนสีเหลือง-ส้ม มีกลิ่นอายของฝรั่งเศส มีโต๊ะทำงาน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ Amenity, ไดร์เป่าผม, LED TV, ตู้เย็น, กาต้มน้ำร้อน, Mini Bar, ภายในตู้เสื้อผ้ามีเตารีด, ที่รองรีด, ตู้เซฟ, รองเท้าใส่เดินในห้อง และร่มคันใหญ่ (จำเป็นมาก เพราะบนนี้อากาศเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา)
สำหรับใครที่อยากนวดผ่อนคลาย ทางรีสอร์ทก็มีห้องสปาไว้คอยบริการ มีทั้งนวดเส้น นวดอโรมา ขัดตัว ฯลฯ เราลองนวดจับเส้น ผลปรากฏว่า เพลินจนหลับคร่อก… กกก เสียดายที่ทางโรงแรมไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพขณะทำสปา เลยไม่มีภาพมาให้ชมกัน นอกจากนี้ตรงห้องสปาจะมีทางออกไประเบียง มีมุมถ่ายรูปบน rooftop สวยมุมนึงเลย ลองแวะมาดูกันนะ
มื้ออาหารที่ร้าน L’Etable Restaurant ใน French Village
ถ้าเลือกจะเข้าพักที่ Mercure Bana Hills คุณคงต้องมาฝากท้องที่ร้านอาหารของโรงแรมอย่างๆ ก็ 1-2 มื้อ (ไม่นับมื้อเช้า) ที่นี่มีร้านอาหารและบาร์อยู่ถึง 8 แห่ง แต่ไฮไลท์น่าจะอยู่ที่ร้าน L’Etable Restaurant ซึ่งเป็นร้านสไตล์ Modern French & Vietnamese Cuisine ให้บริการมื้อกลางวัน-เย็น ด้วยอาหารสไตล์ฝรั่งเศสและเวียดนาม
การตกแต่งร้านนั้นสวยงาม มีกลิ่นอายโคโลเนียล เน้นความโปร่ง เปิดโล่ง ไม่มีแอร์ (เพราะอากาศบนนี้เย็นสบายตลอดอยู่แล้ว) รสชาติอาหารจัดว่าดีทีเดียว โดยเฉพาะอาหารฝรั่งเศส
เมนูแนะนำได้แก่
- Hoi An Chicken Deep Fry (185,000 VND)
- Beef Steak Frites (400,000 VND)
- Boeuf Bourguigno (275,000 VND) : รู้สึกว่าเส้นพาสต้ายังไม่กลมกลืนกับซอสสตูว์ แต่เนื้อสตูว์นุ่มมาก เด้งกำลังดี หอมไวน์แดง มีเครื่องเคียงเป็นเห็ดและแครอท อร่อยใช้ได้เลย
- Duck Orange (290,000 VND) : เป็ดทำมาได้ดี เนื้อหวานไม่มีกลิ่นเลย ไม่เลี่ยน สุกกำลังพอดี ตัวซอสส้มออกเปรี้ยวนิดๆ หวานหน่อยๆ มาตัดรสเป็ด ทานคู่มันบด อร่อย ลงตัวมาก
- Spaghetti Smoked Salmon (170,000 VND) : เส้นสปาเก็ตตี้ลวกมา “ดังเต้” ดี ยัยหมวยชอบ smoked salmon มาก เนื้อปลาไม่เค็ม ไม่เลี่ยน นุ่มกำลังดี ทานกับสปาเก็ตตี้เข้ากันสุดๆ
รีวิว Buffet มื้อเช้า ณ ห้องอาหาร La Crique
ห้องอาหาร La Crique นี้เป็นห้องอาหารบุฟเฟ่ต์ของโรงแรม ให้บริการครบทุกมื้อ เช้า, กลางวัน, เย็น พื้นที่กว้าง รองรับลูกค้าได้เยอะ เพดานสูง เน้นความโปร่งและแสงธรรมชาติ การจัด Layout และการจัด Flow ในห้องอาหารยังไม่ลื่นไหลนัก วันที่เราใช้บริการมีนักท่องเที่ยวหนาแน่นพอสมควร เวลามาทานพร้อมๆ กัน มีความแออัดพอสมควร
อาหารมีความหลากหลายพอสมควร แต่ถ้าเทียบกับเทียบกับปริมาณลูกค้าแล้ว เราว่ายังไม่สมดุลกันเท่าไหร่ เมนูมื้อเช้าเป็นอาหารเวียดนามและอาหารนานาชาติ มีเมนูเด่นที่ควรลอง คือ ไข่เจียวแบบเวียดนาม และเฝอสูตรดั้งเดิมของเวียดนามใต้ เราลองแล้วรสชาติดีทีเดียว ส่วนเมนูอื่นๆ รสชาติอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรเท่าไหร่
อีกเรื่องที่อยากชื่นชม คือการเติมอาหารที่ทำได้ว่องไว ในขณะที่แขกมาพร้อมกันเยอะๆ ก็แทบไม่มีจุดไหนที่ยืนรอเติมอาหารนานเลย
รวมที่เที่ยวบน Bana Hills
เราว่าส่วนใหญ่คนที่มาเที่ยว Baha Hills จะมาเพราะหลงใหลในภาพที่แชร์กันทาง Social Media นี่แหล่ะ (เราเองก็ด้วย) แต่รู้ไหมว่าบนนี้ไม่ได้มีดีแค่หมู่บ้านฝรั่งเศสกับทิวเขาสวย แต่ยังมีที่เที่ยวน่าสนใจอีกหลายแห่งบนยอดเขา Bana Hills แห่งนี้ มีที่ไหนบ้าง ไปดูกัน!!
หมายเหตุ : ด้วยเวลาที่มีจำกัด เราอาจจะไปไม่ครบทุกที่นะ ขออภัยด้วย ^_^
1. French Village
มา Bana Hills ก็ต้องเริ่มเที่ยวจาก French Village นี่แหล่ะ หมู่บ้านฝรั่งเศสที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปคลาสสิค ประกอบด้วยจตุรัสลานกว้าง, โบสถ์, เมือง, หมู่บ้าน, โรงแรม, ร้านอาหาร ไฮไลท์ คือ โบสถ์ Saint Danis ซึ่งจำลองแบบมาจากโบสถ์ Notre-Dame ที่ปารีส ด้านในตกแต่งสวยงามด้วยกระเบื้องปูพื้นสีน้ำตาลตัดกับสีขาว
ด้านหน้าโบสถ์มีลานน้ำพุที่ล้อมรอบด้วยแปลงดอกไม้สวยๆ ช่วงสาย-บ่าย จะมีการแสดงโชว์ตรงลานหน้าโบสถ์ด้วย ที่ Bana Hills นั้น สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงเกือบตลอดเวลา บางวันมีทั้งฝน ทั้งหมอกหนา แดดจ้า และสายลมเย็นๆ เกิดขึ้นในวันเดียว ยิ่งทำให้การมาเที่ยว French Village ยิ่งดูน่าสนใจมากๆ ทีเดียว
2. Linh Phong Zen Monastery
ถ้าอยากชมวิว Bana Hills จากมุมสูง รวมถึงอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากหมู่บ้านฝรั่งเศสบ้าง เราแนะนำให้มาเที่ยว “วัดจีน” ที่อยู่ด้านหลังครับ การไปถึงต้องออกกำลังสักนิดนึง เพราะต้องค่อยๆ เดินไต่ระดับขึ้นบันไดไปสักหน่อย ก็จะเจอกับเจดีย์และวัดจีนที่ตั้งอยู่บนมุมสูง ใครมาแล้วอย่าพลาดนะ!!
3. Golden Bridge
นอกจาก French Village แล้ว Golden Bridge คืออีกหนึ่งสัญลักษณ์ใหม่ของ Bana Hills ที่กำลังเนื้อหอมสุดๆ ในขณะนี้!! กับสะพานลอยฟ้าสีทอง ความกว้าง 12.8 เมตรและยาวเกือบ 150 เมตร กับประติมากรรมรูปมือหินยักษ์ที่โอบอุ้มสะพานไว้ ณ ความสูง 1,414 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
สองข้างราวสะพานปลูกดอก Lobelia Chrysanthemum สีม่วงสดใส ยาวตลอดทาง อากาศบนสะพานเย็นสบาย สดชื่น เหมาะที่จะมาเดินเล่นถ่ายภาพ มาสูดอากาศสดชื่น มาชมวิวเมืองดานัง ในบางครั้งสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เราอาจจะพบเจอหมอกหนา เจอฝน เจอเมฆขาวไหลผ่านมาบนสะพานแบบคิดไม่ถึง!! ถ้าอยากรู้ว่าการยืนอยู่ท่ามกลางปุยเมฆเป็นยังไง ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองที่ Golden Bridge
คำแนะนำ : ตอนนี้สะพาน Golden Bridge เนื้อหอมสุดๆ คนเยอะมาก!!! ทั้งทัวร์จีน ทั้งคนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวทั่วไป ถ้าอยากมาถ่ายภาพแบบโล่งๆ แนะนำให้นอนค้างที่ French Village สักคืน พอตอนเช้าให้รีบนั่ง Cable Car เที่ยวแรก มาลงที่สถานี Marseille หรือ Bordeaux ก็จะมาถึง Golden Bridge แล้ว จากนั้นก็รีบถ่ายรูปรัวๆ ก่อนทัวร์จะมาเลยคร๊าบ!!
นอกจากนี้ ที่ Bana Hills ยังมีที่เที่ยวน่าสนใจอีกหลายแห่ง อาทิ Fantasy Park, Alpine coaster, Wax Museum, Le Jardin D’Amour Gardens ซึ่งแต่ละแห่งล้วนออกแบบมาให้ขึ้นกล้องเสียเหลือเกิน ถ่ายไปตรงไหน มุมไหนก็สวยไปหมด จึงไม่แปลกใจ ที่ Bana Hills จะกลายเป็นโปรเจ็คยักษ์ใหญ่ มูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลเวียดนามลงทุน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชม Bana Hills แห่งนี้!!
จะเที่ยว Bana Hills ให้หนำใจ คงต้องใช้เวลาสัก 3 วัน 2 คืน เป็นอย่างน้อย ที่นี่เป็นเหมือนอาณาจักรบนยอดเขาที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งมวลดอกไม้, ความสนุกสานของ Theme Park, ความโรแมนติกของ French Village และความตระการตาของขุนเขา สายหมอก และธรรมชาติอันงดงาม
ไม่ว่าจะมาเที่ยวกับแฟน กับหมู่เพื่อนฝูง หรือกับครอบครัว เราว่า Bana Hills ตอบโจทย์ให้ทุกคน Happy ได้สบาย!! มาถึงตรงนี้คงจะรู้แล้วว่า มีเงินแค่หมื่นนิดๆ ก็บินมาเฉิดฉาย ถ่ายภาพเริ่ดๆ สไตล์ยุโรปในหมู่บ้านฝรั่งเศสแห่งนี้ได้แล้ว อย่าลืมนะครับ “ไปดานัง ไปกับแอร์เอเชีย” ดีงามทุกประการครับผม!!
ที่พัก และกิจกรรมใน Mercure French Village Bana Hills
สนใจจองห้องพักที่ Mercure Danang French Village Bana Hills คลิกที่นี่
สนใจซื้อ บัตรเข้าสวนสนุกซันเวิลด์ บานาฮิลล์ (Sun World Ba Na Hills) ในดานัง ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
สนใจซื้อ บัตรเข้าชม “บานา บาย ไนท์” ในซันเวิลด์บานาฮิลล์ ในดานัง ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
สนใจซื้อ ทัวร์บานาฮิลล์หนึ่งวัน (เดินทางจากดานัง) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
สนใจซื้อ ทัวร์บานาฮิลล์และโกลเด้นบริดจ์หนึ่งวัน ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
แนะนำกิจกรรม และสถานที่เที่ยวต่างๆ ในดานัง (Danang)
สนใจซื้อ ทัวร์ภูเขาหินอ่อนและฮอยอันแบบเต็มวัน (เดินทางจากดานัง) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
สนใจซื้อ ทัวร์เมืองเว้, ฮอยอัน และดานัง (วางแผนการเดินทางด้วยตัวเอง) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
สนใจซื้อ กิจกรรมล่องเรือในแม่น้ำฮันยามเย็นที่ดานัง ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
สนใจซื้อ บริการรถรับส่งส่วนตัวระหว่างดานังและบานาฮิลส์, ฮอยอัน, เว้ หรือสวนสนุกวินวันเดอร์ส นัม ฮอยอัน ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่