ฝันหมวยเป็นจริงแล้วที่ Brisbane (บริสเบน) !!!
ทั้งได้อุ้มน้องหมีโคอาล่า, เล่นกับน้องจิงโจ้, ให้อาหารน้องโลมาแบบใกล้ชิดสุดๆ ,
เล่น Sandboarding กลางทะเลทราย,
ชมพระอาทิตย์แสงแรกในโลกที่ Mt.Coot Tha
ถ้าเพื่อนๆ มี Bucket List แบบนี้ ต้องมาเที่ยวที่ “บริสเบน” สักครั้งค่ะ
Brisbane อยู่ที่ไหน?
ประเทศออสเตรเลีย ประกอบจากวัฒนธรรมที่แตกต่างของหลายเชื้อชาติ ทำให้เกิดการผสมผสานของขนบธรรมเนียมประเพณีที่ได้รับอิทธิพลจากผู้คนทั่วทุกมุมโลก
Brisbane (บริสเบน) เป็นเมืองหลวงของรัฐควีนสแลนด์ เมืองตากอากาศทางทิศตะวันออกของประเทศออสเตรเลีย มีขนาดใหญ่อันดับที่ 3 ของประเทศรองจาก Sydney และ Melbourne และมีประชากรหนาแน่นที่สุด เกือบ 2.2 ล้านคน บริสเบนเป็นเมืองที่อยู่ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก และมีแม่น้ำบริสเบน (Brisbane River) ไหลผ่านบนที่ราบระหว่างมอร์ทันเบย์ (Moreton Bay) กับเทือกเขาเกรตดิไวดิง (Great Dividing Range) ส่วนชื่อเมืองตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ เซอร์โทมัส บริสเบน (Sir Thomas Brisbane)
อ่านรีวิว : Brisbane – Gold Coast แบบครบรส!! ชอปปิ้ง อุ้มหมี จับปู ดูโลมา ล่าแสงเช้า ใครๆ ก็ไปได้!!
เอาหล่ะ!! งั้นมาเตรียมความพร้อมก่อนไปเที่ยว Brisbane (บริสเบน) กันค่ะ
1. เที่ยว “บริสเบน” ต้องมีวีซ่านะ
วีซ่าออสเตรเลีย ใช้เวลาอนุมัตินานนะคะ!!! ถ้าไม่อยากลุ้นจนเหงื่อตก จงท่องจำให้ขึ้นใจ ว่าให้ “เตรียมตัวขอวีซ่า (VISA) ออสเตรเลียตั้งแต่เนิ่นๆ” หมวยใช้เวลายื่นวีซ่า (VISA) และรอผลเอกสารส่งทางไปรษณีย์รวม 1 เดือนเป๊ะค่ะ (ยื่นเอกสารวันที่ 18 มิย.2562 ได้รับผลทางไปรษณีย์วันที่ 17 กค. เดินทางวันที่ 22 กค.) ได้วีซ่า (VISA) แค่ 5 วันก่อนเดินทาง ลุ้นกันจนเหงื่อแตกเลยล่ะค่า!! ดังนั้นถ้าคิดจะแพลนเที่ยวออสเตรเลีย ต้องรีบเตรียมเอกสาร แล้วไปยื่นขอวีซ่า (VISA) แบบด่วนๆ เลยนะคะ
แต่ถึงจะใช้เวลานานไปสักหน่อย แต่ในกระบวนการยื่นขอวีซ่า (VISA) ออสเตรเลียนั้นก็มีความสะดวกกับเราอยู่พอสมควร นั่นคือ ไม่ต้องแปลเอกสาร, ไม่ต้องทำประกันการเดินทาง และไม่ต้องนำ Passport ตัวจริงไปฝากไว้ค่ะ ดังนั้นช่วงที่ยื่นขอวีซ่า (VISA) เราก็ยังใช้ Passport เดินทางออกนอกประเทศได้อยู่ค่ะ
การยื่นขอวีซ่าออสเตรเลียมี 2 แบบ คือ
- ยื่นผ่านระบบออนไลน์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองออสเตรเลีย (Immi Account)
วิธีนี้ถือว่าสะดวก รวดเร็ว รู้ผลเร็วกว่า ใช้วิธีสแกนเอกสารทุกสิ่งอย่างแล้วอัพโหลดทำตามแต่ละขั้นตอนตามระบบ และชำระเงินผ่านบัตรเครดิตได้เลย แต่ยังไงก็ต้องทำนัดออนไลน์เข้าไปที่ VFS ตึกเทรนดี้ เพื่อไปเก็บ Biometric ค่ะ - ยื่นผ่านศูนย์รับเรื่องขอวีซ่า (VFS) ที่ตึก Trendy ซ.นานา
ต้องทำนัดออนไลน์, ยื่นเอกสารเหมือนยื่นวีซ่าเชงเก้น และเก็บ Biometric พร้อมกันเลย ผลของการอนุมัติวีซ่า จะเป็นแบบ Electronic Visa ไม่มีการลงตราประทับวีซ่าใน Passport แต่จะมีการส่งเอกสาร A4 จำนวน 2 ใบทางไปรษณีย์ว่าได้รับอนุมัติวีซ่า พร้อมระบุระยะเวลาที่ได้ พอเรา Check-in ที่เคาน์เตอร์สายการบิน ข้อมูลในระบบจะโชว์ว่าเราได้รับอนุมัติวีซ่าแล้วค่ะ
เอกสารขอวีซ่าออสเตรเลียเพื่อการท่องเที่ยวเป็นหลัก (ประเภท 600) มีอะไรบ้าง
- กรอกแบบฟอร์มยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยว (1419) เป็นภาษาอังกฤษ และลงชื่อด้านท้าย
- ใบนัดหมายจองคิวล่วงหน้ากับศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VFS) ผ่านระบบออนไลน์
- หนังสือเดินทางตัวจริงที่มีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน และสำเนาหน้าหนังสือเดินทางทั้งเล่มปัจจุบัน-เล่มเก่าที่มีการเดินทางเข้า/ออก และเคยได้รับวีซ่ามาก่อน
- รูปถ่ายสีพื้นหลังสีขาวขนาด 3.5 x 4.5 ซม. (รูปถ่าย 2″) ไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 2 รูป
- สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- สำเนาเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล และสำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
- หนังสือรับรองการทำงานของบริษัทใช้ได้ทั้งภาษาอังกฤษและไทย ที่ระบุเงินเดือน เซ็นชื่อ พร้อมประทับตราบริษัท หรือสำเนาทะเบียนการค้ากรณีเป็นเจ้าของกิจการ
- หลักฐานการเงินย้อนหลัง 6 เดือน ซึ่งสามารถขอ Statement ที่ธนาคาร (ไม่รับ Bank Guarantee) หรือสำเนาจากสมุดบัญชีธนาคารประเภทออมทรัพย์พร้อมยื่นสมุดบัญชีตัวจริง
- ใบยืนยันการจองตั๋วเครื่องบิน
- ตารางการเดินทางในแต่ละวัน
- เอกสารการจองโรงแรมที่พัก
- กรณีที่มีผู้สนับสนุนต้องแนบจดหมายเชิญ หรือหลักฐานแสดงความสัมพันธ์ เช่น รูปถ่าย ข้อความต่างๆ
- ค่าธรรมเนียมชำระเป็นเงินสดรวม 4,621 บาท แบบส่งทางไปรษณีย์ถึงบ้านเลย (Visa Fee : 3,450.-, VFS Service Fee : 896 บาท และ SMS Fee : 75 บาท)
Tip :
- ยื่นเอกสารขอวีซ่าก่อนล่วงหน้า 1 เดือน
- เอกสารที่เป็นสำเนาต้องลงชื่อรับรองสำเนาให้เรียบร้อย
- มาถึงศูนย์ยื่นขอวีซ่าก่อนเวลานัดหมาย 15 นาที ด้านบนมีที่จอดรถ
- ตรวจสอบสถานภาพใบสมัครโดยใส่หมายเลข VLN ที่ระบุในใบเสร็จ และวันเดือนปีเกิด
ข้อมูลเพิ่มเติม :
VFS ศูนย์ยื่นวีซ่าออสเตรเลีย
ที่อยู่ : อาคารเดอะเทรนดี้ ออฟฟิศ ชั้น 28 สุขุมวิท ซอย 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
โทร : +66(0) 2118 7100
เปิด : วันจันทร์-วันศุกร์ เวลาตั้งแต่ 8.30-16.30 น.
อีเมล : info.auth@vfshelpline.com
การเดินทาง : ลง BTS สถานีนานา ใช้ Exit 3 แล้วเดินต่อไปจนถึงซอยสุขุมวิท 13 ประมาณ 300 เมตร
อ่านรีวิว : Brisbane – Gold Coast แบบครบรส!! ชอปปิ้ง อุ้มหมี จับปู ดูโลมา ล่าแสงเช้า ใครๆ ก็ไปได้!!
2. การเดินทางเอาไงดีหล่ะ ?
ระบบขนส่งสาธารณะในเมืองบริสเบนไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถบัส หรือเรือเฟอร์รี่ ถือว่าสะดวกสบายไม่แพ้เมืองอื่นๆ เหมือนกันค่ะ และยังมีรถแท็กซี่ให้บริการ หรือจะกดเรียกจาก Grab ก็ได้ราคาก็ไม่ได้แพงมาก สำหรับการเดินทางเราก็ใช้ Google map นำทางได้เลย ค่อนข้างแม่นยำค่ะ
การเดินทางเข้าเมือง… เอาไงดี?
จากสนามบินบริสเบนเดินทางเข้าตัวเมือง แนะนำให้ใช้ “รถไฟ Airtrain Australia” ใช้เวลาประมาณ 25 นาที รถไฟออกทุกๆ 15 นาที ถือเป็นการเดินทางที่สะดวก และรวดเร็วที่สุด จะมีสถานีให้บริการทุกอาคารผู้โดยสาร
การเดินทางในเมือง
หมวยแนะนำให้ซื้อบัตรเดินทาง Go Card เพื่อความสะดวกในการเดินทาง บัตรใบนี้สารพัดประโยชน์จริงๆ
- การใช้งาน : สามารถใช้บริการขนส่งมวลชนได้ทุกแบบเลยทั้งรถไฟ รถบัส รถรางและเรือเฟอร์รี่ซึ่งสะดวก รวดเร็ว ราคาถูกกว่าซื้อตั๋วรายเที่ยว และใช้ชำระเงินบางร้านค้า หรือค่าเข้าสถานที่บางที่ได้ด้วย
- การซื้อบัตร : ซื้อได้ตามสถานีรถไฟ เครื่องขายตั๋ว ร้านสะดวกซื้อ เจ้าหน้าที่บนเรือ Ferry หรือออนไลน์ วิธีการใช้บัตร : ใช้แตะที่เครื่องตอนขึ้นและลง กรณีถ้าลืมแตะบัตรก็จะถูกปรับ
- การเติมเงิน : ทางออนไลน์, ร้านสะดวกซื้อต่างๆ, ตู้อัตโนมัติ และตามช่องขายตั๋วที่สถานีรถไฟ
- การคำนวณค่าเดินทาง : จะคิดจากจำนวนโซนที่เราเดินทาง โดยจะแบ่งแยกโซนตามภาพด้านล่าง
สำหรับการวางแผนเส้นทางการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะสามารถใช้ Journey planner ผ่านเว็บไซต์ translink.com.au หรือ MyTransLink Application ซึ่งจะบอกวิธีการเดินทางเป็นขั้นตอน เช่น ขึ้นรถสาย? ต่อรถที่ไหน? ค่าใช้จ่ายการเดินทาง? ใช้เวลา? ซึ่งทำให้เราวางแผนเที่ยวเองได้อย่างสนุก และเห็นภาพรวมชัดขึ้นค่ะ
แต่สำหรับคนที่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี? จะเดินทางยังไงดี?
หมวยแนะนำให้ซื้อแพ็กเกจทัวร์ตาม Tour Desk ตามร้านค้าซึ่งหาได้ง่าย ซึ่งจะมี Day trip ไป Gold Coast, Balloon Flight, สวนสนุก, Whale watching และก็จะมี 2 day tour ให้เลือกตามโปรแกรมที่เราสนใจอีกด้วยค่ะ
อ่านรีวิว : Brisbane – Gold Coast แบบครบรส!! ชอปปิ้ง อุ้มหมี จับปู ดูโลมา ล่าแสงเช้า ใครๆ ก็ไปได้!!
3. เรื่องแลกเงินและการใช้บัตรเครดิต
ทริปนี้หมวยแลกเงิน Australian Dollar (AUD) ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1 AUD = 21.60 บาท (เรท ณ.วันที่ 21 กค.2562) คำนวณง่ายๆ คือ เอาราคาของ x 22 ก็เป็นเงินบาท
หมวยลองเปรียบเทียบกับเรทรูดซื้อของผ่าน “บัตรเครดิตแอร์เอเชียธนาคารกรุงเทพ” ที่ใช้อยู่ประจำ เรทอยู่ที่ 1 AUD = 22.08 บาท ต่างกัน 0.48 บาทค่ะ ส่วนตัวพอรับได้ เพราะเวลาไปต่างประเทศหมวยไม่อยากพกเงินสดเยอะๆ กลัวอันตราย แถมเวลาแลกกลับมาเป็นเงินบาท ก็แอบขาดทุนเหมือนกัน (เศษเหรียญเค้าก็ไม่รับ) หมวยว่าแลกเงินสดไว้ใช้จ่ายตามสมควร แล้วส่วนพกบัตรเครดิตไปด้วยก็สะดวกนะคะ
ล่าสุดบัตรแอร์เอเชียธนาคารกรุงเทพ เค้าเปลี่ยนเป็นแบบ Contactless Payment แตะปุ๊บ รูดปั๊บ สะดวกใช้จ่ายได้ในต่างประเทศ เพียงแตะบัตรที่เครื่องรับชำระเงินก็เรียบร้อย!! จะซื้อน้ำจากตู้อัตโนมัติ ซื้อของฝาก ซื้ออาหารเสริม หรือใช้จ่ายที่ไหนในออสเตรเลียก็สะดวก ไม่ต้องควักเงินสด
ที่สำคัญปลอดภัยกว่าเดิม เพราะบัตรอยู่กับตัวเราตลอด ไม่ต้องยื่นบัตรให้พนักงานนำไปรูด ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมา copy บัตรเรา สบายใจ ปลอดภัยสุดๆ หมวยใช้บัตรนี้มา 4 ปีแล้ว ปลื้มค่ะ ได้อภิสิทธิ์นั่นนี่เยอะไปหมด ไม่ว่าจะเป็น…
ยิ่งรูดบัตร ก็ยิ่งได้สิทธิพิเศษอื่นๆ จาก AirAsia BIG เช่น
- ได้ลดทันที 40 บาท ทุกเที่ยวบิน เพียงล็อกอินสมาชิก BIG เมื่อจองตั๋วผ่าน airasia.com หรือ แอร์เอเชียโมบายแอพ
- ได้สะสมคะแนน BIG Points ทุกครั้งที่บินกับแอร์เอเชีย! ยิ่งบิน ยิ่งได้เลื่อนสถานะสมาชิก BIG ยิ่งได้คะแนนมาก!
- ได้ตั๋วคุ้มกว่าใคร เพียงใช้ BIG Points แลกเที่ยวบินฟรี หรือใช้จ่ายค่าตั๋วแทนเงินสด
- ใครยังไม่เป็นสมาชิก BIG โหลดแอพ AirAsia BIG สมัครฟรี แล้วเริ่มสะสม BIG Points ได้เลย
สรุปแล้วมีแต่ได้กับได้ ไม่ว่าจะใช้แลกตั๋ว, จ่ายค่าตั๋วก็คุ้ม, จองตั๋วราคาพิเศษก่อนใคร แถมยังนำคะแนนไปแลกบริการอื่นๆได้อีก ยิ่งเหลือเงินเที่ยวเยอะขึ้น เท่านั้นยังไม่หมด ยังได้ความสะดวกสบายจาก Priority เช่น เช็คอินก่อน-ได้ขึ้นเครื่องก่อน-รับกระเป๋าก่อน , ฟรีโหลดกระเป๋า 4 ใบ, ฟรีเลือกที่นั่ง Hot seat 4 ใบ, ฟรีเครื่องดื่มบนเครื่องบินมูลค่าอีก 60 บาท ฟังแค่นี้ก็คุ้มแล้วใช่ไหมคะ?
สมัครบัตร กดที่นี่เลยค่า : http://bit.ly/aabbl-brisbane
4. เวลาและอากาศเป็นอย่างไร ?
พอเครื่อง Landing ปุ๊ป ปรับนาฬิกาให้ “เร็วกว่าบ้านเรา 3 ชั่วโมง” โดยปกติอากาศของออสเตรเลียจะอยู่ในเขตร้อนและแห้งแล้ง ช่วงร้อนจริงๆ ก็สูงกว่า 40 °C เลยค่ะ ซึ่งอากาศทางซึกโลกใต้จะสวนทางกับทางซีกโลกเหนือ คือ ช่วงที่อากาศยุโรปร้อนๆ ทางออสเตรเลีย นิวซีแลนด์จะอากาศหนาวเย็นค่ะ ดังนั้นนี่คือช่วงเวลาทองที่เราจะได้มาเที่ยวเมืองหนาวกัน
หมวยไปปลายเดือน กค.2562 ถือว่าเป็นช่วงหน้าหนาว อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 15-23 °C อากาศช่วงเช้าและเย็นจะสบายๆ กลางวันมีแดดแต่ไม่ร้อนแรงมาก ทำให้ได้ใส่เสื้อกันหนาวถ่ายรูปออกมาสวยเลย
ภูมิอากาศของเมืองบริสเบนจัดอยู่ในกลุ่มเขตกึ่งร้อนชื้น เป็นเมืองที่ได้รับแสงแดดโดยเฉลี่ย 8 ชั่วโมง/วันตลอดปี มีอากาศ 4 ฤดูกาล ได้แก่
- ฤดูร้อน (ธ.ค.-ก.พ.) : ช่วง summer อากาศร้อนจัดและแห้งแล้ง ซึ่งเดือน มค. ก็เคยถูกบันทึกว่าเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดของปี (อากาศที่ Adelaide เคยทำสถิติความร้อนสูงถึง 49.5 °C)
- ฤดูใบไม้ร่วง (มี.ค.-พ.ค.) : ช่วงใบไม้ร่วง อากาศเริ่มเย็นลงตามเมืองชายฝั่งทางตอนใต้ และเมืองเขตป่า
- ฤดูหนาว (มิ.ย.-ส.ค.) : ช่วงฤดูหนาว อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิประมาณ 9-21 °C
- ฤดูใบไม้ผลิ (ก.ย.-พ.ย.) : ช่วงใบไม้ผลิ อากาศดี ดอกไม้เริ่มบานสวยงาม
5. ถ้าอยากโซเชี่ยล… เรื่องนี้ต้องอ่าน
ทริปนี้หมวยไป Brisbane-Gold Coast รวม 7 วัน 5 คืน แนะนำให้ซื้อ Sim card (6GB ได้ 8 วัน) จากไทยไปเลยค่ะ พอลงเครื่องปุ๊ป ต่อเน็ต อัพรูปได้ทันที ความเร็วของเน็ตถือว่าดี แต่ไม่ได้เร็วและลื่นปรู๊ดปร๊าดแบบประเทศแถบเอเชีย ซึ่งส่วนใหญ่ที่พัก-โรงแรมจะมี Wifi ฟรีให้อยู่แล้ว (ยกเว้นที่ Tangalooma Resort Hotel จะเป็น Wifi แบบมีค่าใช้จ่าย)
สำหรับสัญญาณเน็ตไม่ค่อยดีตอนที่อยู่ Moreton Island และอับสัญญาณในทะเลทรายค่ะ
6. ของฝากซื้ออะไรดี ?
ถามว่ามา Australia อะไรคือ “ของฝากสำหรับคนทางบ้าน” บอกกันตรงนี้มีมากมายจ้าเธออออ!!!
- วิตามิน อาหารเสริม Manuka Honey ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ-ลดน้ำหนักมีมากมายหลายแบรนด์ มีทั้งบำรุงเล็บ ผม หน้า ผิว ความจำ คอลลาเจน สมอง เยอะแยะไปหมด เช่น Blackmores, Swisse, Centrum, Nature’s Own หรือจะเป็นครีมรกแกะก็ดีเริ่ด ราคาไม่แพง แนะนำให้ซื้อที่ร้าน Chemist Warehouse จะได้ของถูกค่ะ
Tip : ถ้ามีโลโก้น้องจิงโจ้ติดบนฉลากข้างขวด แปลว่า ผลิตในออสเตรเลีย ปลอดภัย และน่าเชื่อถือได้ค่ะ - ZARA : เสื้อผ้าใน ZARA ก็ไม่แพงค่ะ หมวยได้กางเกงยีนส์ Jeans Mom Fit ในราคา 49.95 AUD ถูกกว่าที่ไทยเกือบตัวละ 500 บาทเลย (ZARA ที่ไทยขาย 1,590 บาท)
- Sephora : ผลิตภัณฑ์และเครื่องสำอางบางแบรนด์ถูกกว่าไทยค่ะ เช่น หมวยซื้อสเปรย์น้ำแร่ “CAUDALIE Beauty Elixir” ช่วยในเรื่องผิวแห้ง และรูขุมขนกว้าง ขนาด 100 ml. ราคา 77 AUD ถูกกว่าที่ไทยเกือบขวดละ 400 บาท (Sephora ที่ไทยขาย 2,090 บาท) แนะนำซื้อมาตุนก็คุ้มค่ะ
- เชอร์รี่ : ลูกโต หวานฉ่ำในราคาที่ถูกมากกก ซื้อได้จาก Supermarket ได้เลย
- ขนมบิสกิต TIMTAM : ราคาไม่แพงแพ็คละ 3.60 AUD มีหลายรส อร่อยกว่าที่ขายในไทยอีก จะซื้อมาแจกเพื่อนร่วมงาน เด็กที่ออฟฟิต เพื่อนบ้าน ก็ดีงามทัั้งนั้นค่ะ หรือจะเป็นขนมกรุบกรอบยี่ห้อ CC’s Tasty Cheese นี้คือดี!! ชีสเยอะ เคี้ยวเพลิน อร่อยเจ้มจ้น
- ของฝากเป็นรูปน้องหมีโคอะล่า น้องจิงโจ้มีเยอะมากเหลือเกิน ทั้งแม่เหล็กติดตู้เย็น พวงกุญแจ ตุ๊กตา แก้วน้ำ เสื้อ กระเป๋าผ้า กระเป๋าใส่ของ หมวก ของโชว์ต่างๆ
- รองเท้า และอุปกรณ์กีฬา : หมวยได้เป้ของ ADIDAS ลด 50 % ในราคา 66 AUD ที่ Harbour Town Outlet Shopping Centre Gold Coast ราคาถูกมากค่ะ ตกเป็นเงินไทย 1,462 บาท เป้ใบใหญ่ใส่ Notebook มีก้น และกันน้ำทั้งใบด้วย คุ้มจัง!!
- “โอปอล” : โอปอล 95% มาจากรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งถือว่าเป็นอัญมณีประจำชาติในตระกูลควอตซ์ (Quartz) เช่นเดียวกับแอเมทิสต์ จะซื้อไปฝากคุณแม่ก็ดี มีมากมายให้เลือกหลายร้านค่ะ
- ก่อนกลับมาต่อที่ Duty Free!! สเปรย์น้ำแร่ MAC COSMETICS ตัว Prep + Prime Fix+ Mattifying Mist ใช้เพิ่มความสดชื่น ฉีดหลัง Makeup ยิ่งช่วยควบคุมความมัน ตัวนี้หมวยว่าเด็ดและชอบมากค่ะ หมวยได้แพ็ค Duo ขนาด 100 ml. (2 ขวด) ราคา 49 AUD (เรทรูดบัตร 1,083 บาท) เหลือขวดละ 541.50 บาท โอ๊ย!!ดีงาม ถูกมากเธอจ้า (Sephora ไทยขายขวดละ 1,150 บาท) จัดมา 2 แพ็คค่า 555
- การขอ Tax Refund ในออสเตรเลีย แนะนำให้อ่านจากลิ้งค์นี้ค่ะ
7. คนออสซี่เป็นไงบ้าง?
- “คนที่นี่หน้าตาดีจัง” ด้วยการผสมผสานของเชื้อชาติของชาวยุโรปที่อพยพมาเป็นผู้อพยพเสรีเลยทำให้เป็นประเทศที่หลากหลายทางวัฒนธรรม
- คำทักทายที่ได้ยินบ่อยๆ คือ G’day (ย่อมาจากคำว่า “Good day”) แปลว่า สวัสดี
- หน้าตาผู้คนยิ้มแย้ม แจ่มใส ดูเป็นมิตรไมตรี
- สำเนียงพูดภาษาอังกฤษแบบออสซี่ เราว่าฟังยากหน่อยอ่ะ เพราะพูดเร็วกันเหลือเกิน และไม่ค่อยขยับปากอีก 555
- ชอบทำกิจกรรมนอกบ้าน ใช้ชีวิตแบบสบายๆ เช่น ว่ายน้ำ โต้คลื่น เล่นหรือชมการแข่งขันกีฬา ทำบาร์บีคิวและอยู่บ้านกับครอบครัว ตลอดทริปเราไม่เห็นคนที่นี่ก้มเล่นมือถือเลย
- ร้านค้าและห้างสรรพสินค้าปิดเร็วมาก เวลา 6 โมงเย็นที่นี่ก็เริ่มปิดร้านกันแล้ว ใครจะเตรียมชอปปิ้งอะไรต้องไปแต่เนิ่นๆ
- มีอาหารให้เลือกทานหลากหลาย ทั้งอาหารจีนที่อร่อย อาหารไทย อาหารยุโรป อาหารอาหรับ ฯลฯ คนไทยน่าจะชอบค่ะ
ก่อนกลับก็สามารถมานั่งที่ Lounge แวะจิบกาแฟ