The Riverie by Katathani (เดอะ ริเวอร์รี) ทิวเขา สายน้ำ และความแกรนด์แห่งเชียงราย

นี่คือ The Riverie by Katathani (เดอะ ริเวอร์รี บาย กะตะธานี) โรงแรมที่เพิ่งได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (หรือรางวัลกินรี) ในสาขา “ดีไซน์โฮเทล” จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และเป็นเพียงโรงแรมเดียวในไทยที่ได้รับรางวัลนี้!! ถ้าคุณมีแผนไปเที่ยว จ.เชียงราย นี่คือโรงแรมที่คุณควรหาโอกาสไปเยี่ยมเยียนสักครั้ง!!

มาครับ!! มาดูกันว่าโรงแรมเดียวที่ได้รางวัล “ดีไซน์โฮเทล” จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เค้าจะสวยงาม ครบเครื่อง ควรค่าแก่การมาเข้าพักสักแค่ไหน!!?

ภาพรวมของโรงแรม

ชื่อ The Riverie (เดอะ ริเวอร์รี) เป็นการผสมคำภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ นั่นคือ “River” + “วารี” ที่แปลว่าแม่น้ำ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากที่ตั้งของโรงแรมที่เป็นเกาะกลางแม่น้ำกก เรากับยัยหมวยไปมาแล้วบอกเลยว่าวิวโรงแรมนี้ดี๊ดี ล้อมรอบด้วยทิวเขาและสายน้ำ วิวตอนพระอาทิตย์ขึ้นก็อบอุ่น วิวตอนพระอาทิตย์ตกก็โรแมนติก

โรงแรม The Riverie by Katathani (เดอะ ริเวอร์รี บาย กะตะธานี) เป็นโรงแรม 5 ดาวในเครือ “กะตะธานี” การดีไซน์โรงแรมจะเป็นแบบ Urban Contemporary ที่นำเสนอวัฒนธรรมล้านนาให้ดูร่วมสมัย มีการนำศิลปะล้านนามาตกแต่งโรงแรมได้อย่างฉลาด ไม่ว่าจะเป็นเรือนแก้ว หอระฆัง ซุ้มหลังคา โคมไฟระย้า ตุง ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ฯลฯ แต่ทั้งหมดที่มารวมกันนั้นอยู่ในสัดส่วนที่พอดี ไม่โบราณไป ไม่เยอะไปจนดูอึดอัด ยัยหมวยที่ไม่ค่อยชอบนอนบ้านเก่าๆ โบราณๆ ก็ยังชอบดีไซน์ของ “เดอะริเวอร์รี” เหมือนกัน

บรรยากาศภายในโรงแรมให้ความรู้สึกโปร่งและอบอุ่นไปในตัว ด้วยเพดานสูง หน้าต่างบานใหญ่ การให้แสงที่สว่างพอดีๆ และการเลือกใช้โทนสีขาว น้ำตาล ครีม มีสีส้มมาตัดบ้าง (เพื่อให้ดูสะดุดตา) ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและเป็นกันเองเมื่อมาใช้บริการ

ไฮไลท์งานตกแต่งจะอยู่ตรงโถงล็อบบี้ครับ เป็นงานศิลปะล้านนาโดดเด่นมาก ตรงกลางมีภาพจิตรกรรมฝาผนังรูปกระต่ายกับนกยูง มี “บุษบก” มณฑปขนาดเล็กอยู่ตรงกลางประดิษฐานองค์พระพุทธสิหิงค์ (ปางมารวิชัย) บนเพดานเหนือพระพุทธสิหิงค์จะเป็น “ดาวเพดานบน” ซึ่งมักใช้ตกแต่งเพดานวิหารในวัดล้านนา ด้านข้างประดับด้วย “หม้อดอก (บูรณฆฏะ)” สัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ และ “สุ่มดอก” เครื่องสักการะสำหรับประดับดอกไม้ธูปเทียนของล้านนา สวยงามอลังการมาก มาแล้วอย่าลืมถ่ายรูปคู่น๊า

นอกจากนี้รอบโรงแรมยังมีงานสถาปัตยกรรมล้านนาอีกหลายจุด เช่น

เรือนแก้ว (THE PAVILON OF HUMANS) คือ อาคารที่รับรองและต้อนรับ หลังคาทรงล้านนา นกยูงตามมุมหลังคา เป็นสัญลักษณ์ของความงดงาม อวดโฉม พรั่งพร้อม สะพรั่ง อลังการ ความรัก ความสุข ความโชคดี ความเจริญใน ด้านการเงิน

หอระฆัง (THE BELL TOWER) คืออาคารประเภทหนึ่งในงานสถาปัตยกรรมไทย (ล้านนา) ทำด้วยทองสัมฤทธิ์หมายถึง การตื่นเข้าถึงสัจธรรมและ ให้ความรู้สึกแห่งสันติสุข

ห้องพัก

ห้องพักที่ The Riverie by Katathani (เดอะ ริเวอร์รี บาย กะตะธานี) จัดว่ากว้างทีเดียวครับ พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 36 ตร.ม. การตกแต่งภายในห้องเน้นโทนสว่าง ประกอบด้วยสีขาว, ครีม, ทอง ดูสะอาดตา ห้องพักทุกห้องจะมีลวดลายล้านนาประยุกต์ประดับอยู่ที่ผนังหัวเตียง ส่วนห้องน้ำก็ออกแบบได้ถูกใจ เพราะเค้าเน้นโทนสีขาวสะอาดตา แถมยังมีโต๊ะแต่งหน้ากับกระจกบานใหญ่ไว้เอาใจสาวๆ อีกด้วย

ห้องพักมีทั้งหมด 6 แบบ ได้แก่ Deluxe Room, Deluxe Garden, Deluxe River, Family Suite, Riverie Suite และ Royal Suite

ห้อง Deluxe River

เราเข้าพักห้อง Deluxe River ครับ พื้นที่ใช้สอยขนาด 36 ตร.ม. กว้างขวางถูกใจ พร้อมที่นอนคิงไซส์หลับสบายสุดๆ (เรียกว่าดูดวิญญาณก็ว่าได้) จุดขายของห้องนี้คือวิวแม่น้ำกกกับชุดโซฟาริมหน้าต่าง ที่ให้คุณได้มองวิวพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าได้แบบเต็มๆ ตา

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพักก็ได้แก่

• Wi-Fi
• โซฟาพร้อมโต๊ะตั้งอยู่ริมหน้าต่าง (วิวแม่น้ำกก)
• ทีวีจอแบน
• ตู้เย็นขนาดเล็ก
• อุปกรณ์ชงชาและกาแฟ
• ตู้เซฟ
• ตู้เสื้อผ้าพร้อมชุดคลุม

ไฮไลต์ของห้อง ยกให้ “ห้องน้ำ” โดนใจยัยหมวยสุดๆ ห้องน้ำแบ่งเป็น 2 โซน คือ

• โซนแห้งจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกระจก และกระจกส่องขยาย สีไฟสีขาว แต่งหน้าแล้วสีไม่เพี้ยนแน่ๆ
• โซนเปียกจะเป็นตู้ Shower
• มีอุปกรณ์ Amenity ครบครันและไดร์เป่าผม
• แถมหน้าห้องน้ำยังมีกระจกบานใหญ่ที่ส่องเต็มตัวอีก ถูกใจสาวๆ แน่นอน

ห้อง Family Suite

ห้องนี้เราไม่ได้พักเองครับ แต่เป็นอีกห้องที่อยากแนะนำสำหรับครอบครัวพ่อแม่ลูก นั่นคือห้อง Family Suite เป็นห้องขนาด 62-75 ตร.ม. จุดเด่นคือเป็นห้อง Connecting ติดกัน 2 ห้อง แบ่งเป็นห้องรับแขกพร้อมเตียงนอน 2 ชั้น (สำหรับเด็กๆ) และอีก 1 ห้องนอนสำหรับคุณพ่อคุณแม่ (มีโต๊ะทำงานด้วย) ในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำ พื้นที่ใช้สอยเยอะ สิ่งอำนวยความสะดวกครบ พักได้ 4 คนสบายๆ เหมาะกับครอบครัวเป็นที่ซู๊ด!!

ห้อง Riverie Suite

อีกหนึ่ง Room Type ที่อยากแนะนำให้กับคนที่ชอบความแกรนด์ นั่นคือ “ห้อง Riverie Suite” ห้องนี้มีพื้นที่ใช้สอยกว้างถึง 70-100 ตร.ม. ลักษณะเป็น 2 ห้อง Connect กัน ประกอบด้วยห้องรับแขกพร้อมระเบียงชมวิวส่วนตัว และห้องนอนใหญ่อีก 1 ห้องนอน

การตกแต่งจะเป็นโทนเดียวกับทุก Room Type แต่เฟอร์นิเจอร์ในห้อง Riverie Suite จะมีโต๊ะเครื่องแป้ง ชุดโซฟา และโต๊ะทำงาน ที่เพิ่มขึ้นมา ดีไซน์ก็อ่อนช้อยสวยงาม รับกับดีไซน์ห้องดีทีเดียว ส่วนห้องน้ำนั้นพื้นที่กว้างดีทีเดียว มีอ่างอาบน้ำให้ มีการแบ่งพื้นที่เปียกแห้งอย่างเป็นสัดส่วน ออกแบบมาได้เหมาะกับคู่รักดีจริงเชียว ^^

นอกจากห้องพักจะแกรนด์สุดๆ แล้ว วิวจากห้อง Riverie Suite ก็ปังสุดๆ อีกด้วย จากระเบียงห้องสามารถมองเห็นทิวเขาและวิวแม่น้ำกกได้แบบเต็มตา เรียกว่าวิวสวยตั้งแสงเช้า-แสงเย็นเลย ชิลล์มากกก!!

สระว่ายน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวก

ด้วยความที่เป็นโรงแรมใหญ่ The Riverie by Katathani (เดอะ ริเวอร์รี บาย กะตะธานี) จึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเลยครับ ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส คิดส์คลับ (Kids Club) สปา รวมถึงบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชม. แต่ที่โดดเด่นเห็นจะเป็นสระว่ายน้ำนี่ละครับ ที่ออกแบบมาได้สวยงามโดดเด่น มีทั้งสระว่ายน้ำ Pool Bar และสไลเดอร์สำหรับเด็กอยู่ด้วยกัน ช่วงเช้าๆ หรือบ่ายๆ นี่เหมาะจะมาเล่นน้ำมาก!!

ทิวาราตรีสปา (Tivaa Ratrii Spa)

สำหรับใครที่ชอบนวด ชอบมาส์คหน้า ชอบประทินผิว เราแนะนำให้มาลองใช้บริการที่ “ทิวาราตรีสปา (Tivaa Ratrii Spa)” ดูครับ งานนวดตัวดี นวดน้ำมันดี นวดหน้าก็ยิ่งดี เราทดลอง “มาส์คหน้าด้วยใยไหมทองคำ” ซึ่งเป็น Signature ดังของโรงแรม (ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) ทำแล้วหน้านุ๊มนุ่ม ผิวหน้าสดชื่น สดใสปิ๊งๆ ใครที่ผิวกรำแดดมาหลายๆ (แบบเรา) แนะนำให้ลองมาส์คหน้าตัวนี้เลยครับ!!

แผ่นมาส์คใยไหมทองคำคืออะไร?

แผ่นมาส์คนี้เป็นภูมิปัญญาแท้ๆ ของร้านจินนาลักษ์ อ.ปางห้า จ.เชียงราย ได้รับรางวัลชนะเลิศสุดยอดนวัตกรรมของประเทศไทย ปี 2556 แผ่นมาส์คสีเหลืองทองนี้คือใยไหมของหนอนไหมที่มีโปรตีนชื่อว่า “ชิลค์เซอริซิน” ที่มีสรรพคุณ…

• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน
• รักษาสมดุลและความชุ่มชื้นของผิวหน้า
• กระชับผิส ชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
• ลดการอักเสบของสิว สมานแผลอย่างอ่อนโยน
• ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัส หน้ากระจ่างใสสุขภาพดี

มื้ออร่อยของโรงแรม

รสมือเชฟของโรงแรม The Riverie by Katathani (เดอะ ริเวอร์รี บาย กะตะธานี) นั้นจัดว่าไม่ธรรมดาครับ อร่อยประทับใจไปซะทุกอย่าง ไม่ว่าจะอาหารจีน อาหารตะวันตก หรือแม้แต่ขันโตกอาหารเหนือ โอ๊ว!! ทำได้ถึงรสชาติดีจริงๆ แต่ถ้าจะถามว่าโรงแรมนี้เค้าดีเด่นด้านไหน เราขอชี้เป้าเลยครับว่า “อาหารจีน” ที่ The Riverie นี่การันตีได้ว่าดีสุดในเชียงรายแต๊ๆ!!! ใครมาแล้วไม่ลองชิมถือว่ามาไม่ถึง!!

ห้องอาหารจีน China Garden

ในฐานะที่อาหารจีนดีเด่น เราขอเริ่มกันที่ห้องอาหารจีนกันก่อนเลย ห้องอาหารจีนของ The Riverie ชื่อว่า China Garden (ไชน่าการ์เด้น) เสิร์ฟอาหารจีนกวางตุ้งและติ่มซำแสนอร่อยจากเชฟฝีมือดี วัตถุดิบดี สดใหม่ ส่วนบรรยากาศห้องอาหารก็สวยงาม มีกลิ่นอายความเป็นจีนด้วยลายดอกไม้จีน 4 ฤดู ด้านนอกมองเห็นวิวสวนและแม่น้ำกก เจริญอาหารแล้วยังเจริญตาอีกด้วย ดีงามครับผม

สำหรับติ่มซำของห้องอาหาร China Garden นั้นมีตัวเลือกเยอะมาก ทั้งฮะเก๋า, ขนมจีบหมู, ขนมจีบกุ้ง, ขนมกุยช่ายแป้งบาง อร่อย, ปลาหิมะนึ่งซีอิ้ว,  ซาลาเปาไส้ไข่เค็ม (เมนูนี้เด็ดออกรายการครัวคุณต๋อยด้วย), ซาลาเปาไส้ครีมลาวาก็ไส้ทะลัก, ซาลาเปาหมูแดง, เผือกทอด,  ก๋วยเตี๋ยวหลอดเสฉวน, สาหร่ายยัดไส้กุ้ง, ข้าวผัดก็ผัดข้าวมาแยกเม็ดดีมาก สรุปว่าเราเกือบทุกเมนูเลย 5555

อาหารเช้าที่ห้องอาหาร Blossom

มื้อเช้ามีอะไร? เป็นคำถามที่หลายให้ความสนใจ เพราะโรงแรมและรีสอร์ทส่วนใหญ่มักจะคิดราคารวมบุฟเฟ่ต์มื้อเช้าเอาไว้ด้วย สำหรับที่ The Riverie by Katathani (เดอะ ริเวอร์รี บาย กะตะธานี) มื้อเช้าจะเป็นบุฟเฟ่ต์นานาชาติครับ เสิร์ฟที่ห้องอาหาร Blossom ซึ่งเปิดรับแสงยามเช้าได้พอดิบพอดี

ห้องอาหาร Blossom เน้นความโปร่งสบายด้วยเพดานสูง หน้าต่างบานใหญ่ สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำกกที่วางตัวขนานไปกับด้านข้างโรงแรมได้แบบเต็มๆ ตา โซนที่นั่งมีทั้ง Indoor และ Outdoor ชอบลมแอร์หรือลมธรรมชาติก็เลือกนั่งได้ตามอัธยาศัยครับ

ความหลากหลายของเมนูอาหารเช้าที่ The Riverie อยู่ในระดับกลางๆ ครับ รสชาติจัดว่าอร่อยดีเลยครับ ตัวเลือกมีทั้งไข่ดาว ออมเล็ท ข้าวต้ม โจ๊ก สลัด เบเกอรี่ ขนมปัง ครัวซองต์ ไฮไลท์คือมุมอาหารเหนือ (ที่จะหมุนเวียนไปในแต่ละวัน) มีต้มเลือกหมูจิงจูฉ่าย (อันนี้ห้ามพลาด) มีโอเลี้ยง + กาแฟโบราณที่รสชาติเข้มข้นได้ใจ และที่ขาดไม่ได้คือปาท่องโก๋กรอบๆ ราดนมข้นหวาน!!

ขันโตกริมแม่น้ำกกที่ห้องอาหาร Blossom  

และแล้วก็ได้มาถึงเชียงรายสักที !! เรามาทานอาหารเหนือเสิร์ฟมาในชุดขันโตก รสชาติดี อร่อย รสกลมกล่อมแบบคนกรุงเทพชอบ  รสไม่เผ็ดจัดจ้านนะแต่ถึงเครื่องดี

ใน 1 เซ็ทชุดขันโตกจะประกอบไปด้วยอาหารหลายอย่าง ใส่ในถ้วยเล็กที่ให้บรรยากาศล้านนาสุดๆ   มีทั้งไส้อั่ว, หมูยอ, แหนม, น้ำพริกอ่อง, น้ำพริกหนุ่ม, ยำขนุน, แกงฮังเล, แกงหน่อไม้, ลาบคั่ว ทานคู่ผักสด แคปหมู และข้าวเหนียว…. จ๊าดลำ!!! (อร่อยมากกก!) สำหรับราคาอาหารเหนือชุดขันโตกราคา 700 บาท/2 คน และ 1,400 บาท / 4คน นอกจากนี้ยังมีเมนูอร่อยอื่นๆ อีกหลายเมนู โดยเฉพาะยำยอดใบชากุ้งแม่น้ำและข้าวซอยไก่

ตัวยำยอดใบชากุ้งแม่น้ำนั้นรสจัดจ้านกำลังดี รสขมนิดๆ ของยอดใบชาตัดกับรสเปรี้ยวเผ็ด หวานของน้ำยำ เข้ากันดีมากๆ เลยครับ ตัวเนื้อกุ้งแม่น้ำนั้นสดเด้ง ทอดมาดี เป็นส่วนผสมที่ลงตัวมาก

ในส่วนของข้าวซอยไก่ เราชาติจะนวลๆ รสไม่จัดมาก กะทิดี เนื้อไก่เปื่อยกำลังดี ในถ้วยมีทั้งเส้นข้าวซอยลวกและเส้นทอด ทานแล้วได้รสสัมผัสทั้งสองแบบ ถ้วยนี้เราให้ 8/10 คะแนน

ห้องอาหารเดอะพีค (The peak wine and grill) ชั้น 10 ของโรงแรม

ช่วงเย็นแนะนำมานั่งเล่นตากลมเย็นๆ บนดาดฟ้าของห้องอาหารเดอะพีค จิบเครื่องดื่มค๊อกเทลพร้อมชมวิวภูเขาที่โอบล้อมเมืองเชียงราย  และพระอาทิตย์ตกริมแม่น้ำกกสุดโรแมนติก บรรยากาศดี เห็นเจ้าแม่กวนอิมที่วัดห้วยปลากั้ง

ช่วงเวลา  17:30 – 19:00 น. จะมีโปรโมชั่น  “Sundowner Happy Hours”  เมนูเครื่องดื่มที่ได้รับการรังสรรค์อย่างพิถีพิถัน ราคาค็อกเทลก็ดีงามแก้วละ 100 บาท ราคานี้พร้อมวิวดาดฟ้าของโรงแรมและชมธรรมชาติในบรรยากาศแบบนี้ ถือว่าคุ้มค่ามากครับ

• เปิดให้บริการตั้งแต่ 18.00 – 24.00 น. ทุกวัน
• สำรองโต๊ะล่วงหน้า : โทร 053 607 999
• LINE: @theriverie

ปิดท้ายค่ำคืนด้วยการทานอาหารค่ำแบบยุโรปแบบมีความสุขไปกับเสียงเปียโน และไวโอลิน

เมนูแนะนำ

• ฟอคคาเซีย : กรอบนุ่ม เทคเจอร์ดี แต่ยังไม่หอมนัก
• ซุปเห็ดทรัฟเฟิล : รสชาติปานกลาง กลิ่นทรัฟเฟิลยังไม่ขึ้น
• สเต็กเนื้อย่าง medium rare ความเหนียวนุ่มใช้ได้ แต่รสชาติอาจจะยังไม่สุดแต่ระดับขนาดนี้ถือว่าผ่านครับ
• ฟัวการ์ : ให้คะแนน 7.5/10 ตัวตับทานง่ายกว่าปกติ จัดว่าทานได้ทุกเพศทุกวัย ทานคู่ซอสมะม่วง ไข่คาเวียร์บัคซามิกตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี
• สเต็กปลาแซลมอน : ปลาแซลมอนสดดี ย่างมาไม่แห้งไป ไม่เละทานคู่กับมันฝรั่ง เบบี้แครอท ทานรวมเครื่องเคียงแล้วดีมาก
• อกไก่ย่าง : ไก่ย่างมากำลังดี เนื้อฉ่ำนุ่มทานคู่กับสาหร่าย ซอสออกนัวๆ อกไก่แห้งก็มาทานกับสาหร่ายเข้ากันดี
• สลัดผักทานคู่กับปู , มะเขือเทศสับ และสาคูทอด เหมาะกับสายเฮลตี้สุดๆจ้า
• สเต็กออสเตรเลียเทนเดอร์ลอยด์ : เนื้อย่างมา  medium มีความชุ่มฉ่ำ เคี้ยวอร่อย สำหรับสเต็กเนื้อ well-done ย่างมาดีมาแบบในอุดมคติเลย เนื้อชุ่มๆ ไม่แห้ง
• สเต็กอาร์เจนติน่า (ถ่ายรูป)

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่ : 1129 ถนน ไกรสรสิทธิ์ ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย เชียงราย 57000
โทร : 053 607 999
พิกัด : https://goo.gl/maps/2rnyXT515veShaJx8
Website : https://www.theriverie.com/
Facebook Page : https://www.facebook.com/theriverie/