ใกล้ฤดูท่องเที่ยวญี่ปุ่นอีกแล้ว หมวยเอา 15 สถานที่สุดสวย
ที่ไม่ควรพลาดมาฝากมิตรรักแฟนเพจค่ะ หมวยยังไปมาไม่ครบ
แต่บอกเลยว่าจะวางแผนไปให้ครบให้ได้

1 ป่าไผ่ซากะโนะ (Sagano Bamboo Forest, Arashiyama)

ป่าไผ่ซากะโนะ สูงตระหง่านตั้งอยู่ในเขตอาราชิยามะ เมืองเกียวโต ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่คนนิยมไปเที่ยวมากที่สุดค่ะ ใช้เวลาเพียง 30 นาทีจากสถานี JR เกียวโตเท่านั้น

ที่นี่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมากันเนืองแน่นทุกฤดูกาลเลยค่ะ ช่วงพีคสุดของที่นี่ คือ ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ประมาณปลายเดือน ตค – พย. (แนะนำให้ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนมาอีกทีนะคะ)

เมื่อมาถึงที่ป่าไผ่ซากะโนะแล้ว หมวยแนะนำว่าไม่ควรพลาดที่จะไปเที่ยว สะพานข้ามจันทร์ (Togetsukyo Bridge) วัดเทนริวจิ (Tenryuji Temple) นั่งรถไฟสายโรแมนติก (Saga Scenic Railway) แวะไปชมวิธีการจับปลาด้วยวิธีดั้งเดิม Cormorant Fishing (Ukai) และการล่องเรือในแม่น้ำ Hozu River Boat Tour เพื่อสัมผัสความงามของธรรมชาติด้วยนะคะ

ถ้าอยากเที่ยวให้เต็มอิ่มแนะนำว่าควรมีเวลาสัก 2 วันค่ะ มาเช้าๆ เที่ยวได้ยันเย็นเลยนะ

25591111-09-19-59-_knp0460
Sagano Bamboo Forest, Arashiyama

2. ใบไม้เปลี่ยนสีสุดโรแมนติกที่ Hitachi Seaside Park

สวนสาธารณะ Hitachi Seaside Park ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของเกาะฮอนชู (เกาะที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น) ช่วงเวลาที่สวยที่สุดที่ควรไปเที่ยวชมจะช่วงเป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งเป็นช่วงที่มีการผลัดใบเป็นสีส้มและสีแดง ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงจากโตเกียวเท่านั้น

เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนหย่อนใจ เที่ยวชิลล์ 1 วันแบบเบื่อความวุ่นวายในเมืองหลวงค่ะ คู่รักหรือครอบครัวจะมาเที่ยวเติมความหวานก็เหมาะนักแหล่ะค่า

2

3 Baby Blue Eyes In Japan’s Hitachi Seaside Park

ยังคงอยู่ที่ Hitachi Seaside Park นะคะ ที่นี่เป็นสถานที่ ที่มีสิ่งน่าสนใจเยอะเชียวค่ะ ที่สวนแห่งนี้จะมีทุ่ง Nemophila อันเลื่องชื่อ เป็นทุ่งดอกไม้สีฟ้าอ่อนสวยไปทั้งเนินเขาเลยค่ะ เหมาะแก่การมาเที่ยวถ่ายรูปมากๆ เลยค่า

มี 2 ช่วงเวลาที่แนะนำในการไปชมทุ่ง Nemophila ได้แก่ “เดือนกันยายน” ซึ่งเป็นช่วงดอกไม้เบ่งบานเต็มที่ สวยและดีที่สุดค่ะ รองลงมาจะเป็นช่วง “เดือนเมษายน และพฤษภาคม”

จากโตเกียวมาที่จังหวัดอิบารากิใช้เวลาเพียงแค่ 2 ชม. เราสามารถวางแผนเที่ยวเป็น One Day Trip ได้ค่ะ

3

4 อุโมงค์ดอก Wisteria ที่สวนคาวาชิ ฟูจิ

เพื่อนๆ เคยดูละครช่อง 3 ที่พี่เบิร์ดเล่นคู่กับชมพู่อารยาไหมค่ะ? อุโมงค์ดอกไม้สีม่วงสลับขาวในละครนั้นมีอยู่จริงค่ะ และคงจะโรแมนติกมากๆ ถ้าได้เดินจูงมือคนรักลอดผ่านซุ้มอุโมงค์ดอก Wisteria สวยๆ เหล่านี้

อุโมงค์นี้ตั้งอยู่ตอนเหนือของเกาะคิวชู ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงจากเมืองฟุกุโอกะ ช่วงเวลาที่ดอกไม้จะสวยและเบ่งบานเต็มที่คือปลายเดือนเมษายนนะคะ

4

5 ทุ่งสีชมพู ทุ่งดอกชิบะซากุระ (Fields Of Shibazakura)

เทศกาลชมดอกชิบะซากุระ ที่ภูเขาไฟฟูจิถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ประจำปีในพื้นที่ทะเลสาบฟูจิทั้ง 5 ซึ่งจะมีดอกชิบะซากุระพร้อมใจกันบานมากกว่า 800,000 ดอกเลยค่ะ มีทั้งสีชมพู ขาว และม่วง

ช่วงเวลาที่จะเปิดให้เข้าชมจะสัมพันธ์กับสภาพอากาศนะคะ โดยมากจะจัดขึ้นระหว่าง “เดือนเมษายนและมิถุนายน” ช่วงเวลาที่เหมาะในการชมดอกไม้ที่สุด คือ ตั้งแต่เช้าตรู่ค่ะ ถ้าฟ้าเคลียร์ๆ เราจะได้ชมทุ่งดอกไม้สวยๆ โดยมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังด้วยค่ะ

นอกจากชมดอกไม้แล้ว ยังสามารถเข้างาน “เทศกาลอาหารอร่อยภูเขาไฟฟูจิ” ซึ่งมีร้านอาหารท้องถิ่นรสเด็ดมาออกร้านกันอย่างมากมาย ร้านดังที่มักมาร่วมออกงานก็เช่น Fujiyoshida โยชิดะอุด้ง (ก๋วยเตี๋ยว), Fujinomiya Yakisoba (ก๋วยเตี๋ยวผัด) เป็นต้น

สถานที่ตั้งอยู่ประมาณ 3 กม. จากทะเลสาบ Motosu ไป Fujinomiya อยู่ข้างของเส้นทาง 139 แต่ไม่ได้อยู่ที่ ริมทะเลสาบ Motosu นะคะ

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.shibazakura.jp/thai/

5

แม่น้ำคาวาโกเอะ (River In Kawagoe)

ภาพวิวทิวทัศน์สวยๆ แห่งนี้อยู่ที่เมือง Kawagoe เป็นเมืองเก่าที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น Little Edo ตั้งอยู่ในจังหวัดไซตามะ ห่างจากเมืองโตเกียวเพียง 30 นาทีเท่านั้น สามารถไปกลับเพียงวันเดียวได้สบายเลยค่ะ

เหตุที่เมืองนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “Little Edo” หรือเมืองย้อนยุคสมัยเอโดะ เนื่องจากที่นี่เค้าพยายามรักษาบรรยากาศของบ้านเมืองเอาไว้ให้เหมือนสมัยเอโดะค่ะ

เราจะได้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมมากยิ่งขึ้น ถ้ามาในช่วงเทศกาล Kawagoe ประจำปี ซึ่งจะจัดขึ้นติดต่อกัน 2 วัน คือ เสาร์-อาทิตย์สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคมค่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.koedo.or.jp/foreign/Thai/

6

7 ศาลเทพเจ้าจิ้งจอก Fushimi Inari-taisha

ศาลเจ้าเทพจิ้งจอกแห่งนี้สร้างขึ้นมานานกว่า 1,000 ปี ถือเป็นศาลเจ้าที่สำคัญและโด่งดังที่สุดในลัทธิชินโต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ในโปรแกรมการท่องเที่ยวเลยค่ะ

ใครมาเที่ยวที่นี่นอกจากจะได้มาสักการะเทพเจ้าจิ้งจอกแล้ว ยังได้พบความตระการตาของเสาโทริอิ (Torii) หรือประตูศาลเจ้าที่วางเรียงจากตีนเขาไปถึงยอดเขาที่สูงถึง 233 เมตร เสาโทริอิสีแดงเหล่านี้วางเรียงต่อเนื่องยาวกว่า 10,000 ต้น เป็นเหมือนอุโมงค์โทริอิที่พาเราเดินขึ้นสู่ยอดเขาเลยค่ะ

เราสองคนเคยเดินขึ้นไปถึงยอดเขามาแล้ว ขาลาก ลิ้นห้อย เหนื่อยหอบ เกือบเอาชีวิตไม่รอดค่ะ แต่ด้านบนก็เผยให้เห็นเมืองเกียวโตยามค่ำคืนที่สวยมากเลยค่ะ

7

8 Nakasendo Walk

ถนนเส้นนี้สวยคลาสิคสุดๆ ไปเลยค่า!!! Nakasendo Walk เป็นถนนที่มีบ้านเรือนเก่าแก่เรียงรายในบรรยากาศย้อนยุค เป็น 1 ใน 5 ถนนที่มีชื่อเสียงมากมาตั้งแต่สมัยเอโดะแล้วค่ะ หากชอบที่จะเดินชมเมือง ถ่ายภาพ และซึมซับวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของคนญี่ปุ่นโบราณ หมวยแนะนำให้มาเที่ยวที่นี่ค่ะ ^_^

8

9 วัดนาทะเดระ (Natadera Temple)

หิมะขาวโพลนกับวัดญี่ปุ่นโบราณสีแดงสด !!! แค่คิดก็อยากมาดูด้วยตาแล้วนะเนี่ย งั้นลองมาสัมผัสบรรยากาศหิมะสีขาวโพลนปกคลุมหลังคา วัดนาทะเดระ (Natadera Temple) กันค่ะ เห็นภาพนี้ครั้งแรก สวยตรึงตาหมวยมากเลยค่ะ

วัดนี้ถือเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์อายุกว่า 1,300 ปี ก่อตั้งขึ้นในปี 717 เป็นวัดของพุทธศาสนาญี่ปุ่นนิกายกอน ภายในวัดมีเนื้อที่กว้างขวางมาก นักท่องเที่ยวต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาทีในการเดินสำรวจให้ทั่วค่ะ

9

10 เจดีย์ไซกันโทจิและน้ำตกนาชิ (The Pagoda Of Seigantoji and Nachi No Taki Waterfall)

น้ำตกนาชิ แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ JR Kiikatsuura Station, Wakayama ถือว่าเป็นน้ำตกแนวดิ่งไหลต่อเนื่องชั้นเดียวที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีความสูง 133 เมตรและลึกถึง 10 เมตร น้ำตกนาชิ ถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 3 น้ำตกที่มีความสวยงามในญี่ปุ่น เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางแสวงบุญของคนญี่ปุ่นสมัยโบราณ และยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย

เมื่อเดินมาถึงบนเขาแล้ว จะเห็นความงามของเจดีย์ทรงสวยสีแดงสด Seigantoji ตั้งตะหง่านข้างน้ำตกนาชิ วัดนี้เป็นเก่าแก่ของ Wakayama ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO ในปี 2004 เส้นทางการเดินขึ้นบันไดเพื่อไปแสวงบุญบนยอดเขาแห่งนี้ถือว่า โหดดด!! วัดใจเราสองคนมากๆ ค่ะ พอขึ้นมาถึงแล้ว รีบวิ่งหามุมถ่ายทันทีเลย สุดท้ายก็ได้ภาพนี้มา นึกแล้วก็ประทับใจมากค่ะ

10

11 เทศกาลโคมไฟไม้ไผ่ (Bamboo Light Festival In Taketa, Ōita)

เทศกาลประเพณีโคมไฟไม้ไผ่ bamboo light festival เทศกาลนี้จัดขึ้นที่คิวชู จะจัดงานรวม 3 วันทุกปี โดยจะเริ่มจัดวันแรกในวันศุกร์ที่ 3 ของเดือนพฤศจิกายน งานนี้ถือว่าเป็นงานที่โด่งดังสามารถดึงดูดคนให้มางานได้ถึง 20,000 คน ในจังหวัด Oita

11

12 โอซาก้าในม่านหมอก (Rainy Day In Osaka)

เมืองโอซาก้าเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำ เมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของภูมิภาคคันไซ (Kansai) ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากโตเกียว ซึ่งไม่ว่าจะฝนตก แดดจะออกเราก็สามารถเที่ยวชมสถานที่ ช้อปปิ้ง และตระเวณหาของกินได้อย่างมิรู้เบื่อเสมอๆ ทั้งยามกลางวันและกลางคืน

สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญห้ามพลาด นั่นคือ Osaka Castle, The Umeda Sky Building, Minoo Waterfall, Shinsaibashi-suji, Dotonburi, Universal Studio ค่ะ

12

13 บึงสีฟ้าแห่งฮอกไกโด (Blue Pond In Hokkaido)

Blue Pond เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงของเกาะฮอกไกโด ซึ่งตั้งอยู่ใจเมืองบิเอ (Biei) เหตุที่บึงสีฟ้าแห่งนี้มีความหัศจรรย์กว่าที่อื่นก็เพราะบ่อน้ำแห่งนี้มีการเจือปนของสารอลูมิเนียมไฮดรอกไซด์อยู่เป็นจำนวนมากคล้ายกับกับชั้นบรรยากาศของโลก เมื่ออลูมิเนียมไฮดรอกไซด์เกิดการสะท้อนกับแสงสีขาว จึงกลายมาเป็นสีฟ้าสดที่สวยงามอย่างที่เห็นค่ะ

มาเที่ยวที่นี่แล้ว ก่อนกลับอย่าลืมแวะชิมขนม Blue Pond Drinking Jelly, Blue Pond Pudding และ Blue Pond Biei Cider นะคะ จากนั้นก็แวะไปชิโรงาเนะออนเซ็น (Shirogane Onsen) เมืองบ่อน้ำร้อนชื่อดังของบิเอด้วยนะคะ

13

14 เมื่อซากุระแต่งแต้มทะเลสาบจนเป็นสีม่วง (Cherry Blossoms Paint a Lake Purple In Tokyo)

ช่วงซากุระบานสะพรั่งถือเป็นเช่วงเวลาพีคสุดของญี่ปุ่นค่ะ สีชมพูอมม่วงของซากุระที่แต่งแต้มให้ญี่ปุ่นสวยสะพรั่งไปทั้งเมืองนี้มีเวลาเพียงแค่ 2-3 สัปดาห์เท่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายนค่ะ

ถ้าวางแผนท่องเที่ยวมาชมซากุระช่วงนั้น หมวยแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลเรื่องเวลาในการออกดอกของซากุระจากเว็บไซต์ของญี่ปุ่นก่อนนะคะ เพราะช่วงเวลาในแต่ละปีจะไม่ตรงกันขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และปริมาณน้ำฝนด้วยค่ะ

14

15 Chureito Pagoda and Mount Fuji

หนึ่งในมุมสวยวิวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเห็นด้วยตาของตัวเองสักครั้ง นั่นคือขึ้นเขาไปชม Chureito Pagoda กับทิวทัศน์ของเมือง โดยมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง

ช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวนิยมมามากที่สุด คือช่วงที่ซากุระบานสะพรั่งทั่วเนินเขาค่ะ ประมาณเดือนเมษายน รองลงมาจะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งจะเห็นใบไม้เป็นสีส้มสลับแดง สวยสดไปทั่วทั้งเนินเขาเลยค่ะ ช่วงเวลาเหมาะสมคือประมาณกลางเดือนพฤษจิกายนนะคะ ปูเป้บอกเลยว่าคุ้มค่ากับการเดินขึ้นบันได้ 400 ขั้นแน่นอนค่ะ

25591108-08-23-44-_knp7978

แปะไว้เลยค่ะ!!

ปูเป้ยังไปมาไม่ครบ แต่บอกเลยว่าจะวางแผนไปให้ครบให้ได้ ถ้าดูแล้วชอบใจ ฝาก like และ share ด้วยนะคะ

เครดิตภาพ : http://samkurd.com/2016/06/15-reasons-youll-love-japan/