นี่คือ ทริปญี่ปุ่นครั้งแรกในรอบ 3 ปีหลังจากเปิดประเทศเลยจ้า!! ประเทศที่เราโหยหามานานนนน 3 ปีเต็มๆ โอ๊ยย!! ตื่นเต้นมากก ทริปนี้เราไปเที่ยวเกาะคิวชูในช่วงที่พีคที่สุดใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงเวลาปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม จะได้ชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติ และภูเขาเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง ส้ม แดงให้เต็มที่เต็มตารวม 8 วันไปเลย

ทริปนี้เราขับรถเที่ยวภูมิภาคคิวชูตอนเหนือ (North Kyushu) ใช้เวลา 8 วัน 7 คืน แพลนขับรถเป็นวงกลมเที่ยวเมืองหลักๆ คือ ฟุกุโอกะ (Fukuoka) > ยุฟุอิน (Yufuin) > เบปปุ (Beppu) > คุมาโมโตะ (Kumamoto) > KitaKyushu (คีตะคิวชู) แล้ววนกลับมาเที่ยวฟุกุโอกะ (Fukuoka) ก่อนบินกลับไทย การเดินทางทริปนี้เราใช้บริการของสายการบินแอร์เอเชีย (AirAsia) บินตรงจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) – ฟุกุโอกะ ลงที่สนามบินฟุคุโอกะ (FukuokaAirport) เมืองที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะคิวชู โดยไฟลท์บินออกจากกรุงเทพฯ ช่วงดึก ถึงญี่ปุ่นเช้าพร้อมเที่ยวต่อได้เลยค่ะ

รีวิวที่เกี่ยวข้อง :

มารู้จักภูมิภาคคิวชู (Kyushu) กันก่อน!!

ภูมิภาคคิวชู (Kyushu) อยู่ทางใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น โดดเด่นเรื่องของธรรมชาติที่สวยงามทั้งภูเขา ออนเซ็น และทะเล มีของดีซ่อนอยู่เยอะมากกกกก!!! ภูมิภาคนี้ประกอบด้วย 7 จังหวัด คือ จังหวัดฟุคุโอกะ (Fukuoka), จังหวัดซะกะ (Saga), จังหวัดโออิตะ (Oita), จังหวัดนางาซากิ (Nagasaki), จังหวัดคุมะโมโตะ (Kumamoto), จังหวัดมิยะซะกิ (Miyazaki) และจังหวัดคะโงะชิมะ (Kagoshima) โดยมีเมืองฟุกุโอกะเป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 6 ของญี่ปุ่นเป็นเมืองหลักของภูมิภาค มีความทันสมัย, มีรถไฟใต้ดิน 3 สายหลัก, มีรถไฟเชื่อมต่อเมืองต่างๆ แต่อาจจะไม่หนาแน่นเท่าภูมิภาคอื่นๆ

เช่ารถขับเองกับ ToCoo! Car Rental

ทริปคิวชูนี้ปูเป้เที่ยวแบบ Road Trip ขับรถแวะไปเรื่อยๆ จอดถ่ายรูปบนถนนสวยๆ, ได้ไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวหลายที่ที่รถสาธารณะพาไปลำบาก หรือไปไม่ถึง,ได้อิ่มเอมกับธรรมชาติแบบไม่ต้องกังวลกับเรื่องเวลา หรือรอบรถต่างๆ และที่ชอบที่สุด คือ การได้ขับรถที่จะได้เห็นใบไม้กำลังเปลี่ยนสีทั้งภูเขาแบบสวยสะพรึงสุดๆ จะเป็นทริปนี้เราได้ซึมซับกับบรรยากาศญี่ปุ่นที่คิดถึงค่ะ

อีกหนึ่งความสุขของการขับรถเที่ยว คือ การได้จอดถ่ายวิวนี่แหล่ะ เจอมุมไหนสวยปุ๊บ รีบมองหาที่จอดปั๊บ ยิ่งไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสี (Autumn) ปลายเดือน พ.ย. – ต้น ธ.ค. ยิ่งตะการตา เพราะมีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปเยอะมาก!! แต่ที่จะต้องแลกมาก็คือช่วงกลางวันที่สั้นกว่าปกติมากๆ พระอาทิตย์ขึ้นช้า-ตกเร็ว ท้องฟ้าตอน 5 โมงเย็นแต่มืดอย่างกับ 1 ทุ่ม!! ทำให้เที่ยวได้วันละไม่กี่ที่

ทุกทริปที่แพลนขับรถเที่ยวญี่ปุ่นจะใช้บริการของ ToCoo! สะดวกสบาย รวดเร็ว สมัยนี้เรื่อง “เช่ารถขับรถเที่ยวญี่ปุ่นเป็นเรื่องเล็ก” เราสามารถจองเองผ่านทางเว็บไซต์ได้ง่ายมากค่ะ

ทริปนี้ไปกัน 3 คน ปูเป้เช่ารถ Toyota รุ่น Prius Hybrid กับ ToCoo! Car Rental หลังจากลองขับรถแล้ว สมรรถนะรถดี ขับนิ่ม วิ่งเงียบ ยิ่งวิ่งระยะไกลยิ่งประหยัดน้ำมัน แถมรถใส่ของได้เยอะ กระโปรงท้ายรถสามารถใส่กระเป๋าเดินทาง 30″ วางแบบแนวนอนได้ 3 ใบ และเบาะหลังคนขับใส่กระเป๋าเดินทาง 20″ ได้ 1 ใบ และกระเป๋ากล้องเป้ใบใหญ่อีก 1 ใบ ทริปนี้ขับรถรวมทั้งหมด 720 กม. เติมน้ำมันไป 1,400 บาท ปูเป้ว่าคุ้มค่ามาก เดินทางสะดวกตามใจเราได้ดีค่ะ!!
อ้อ!! แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น ค่าที่จอดรถ, ค่าขึ้นทางด่วน และค่าประกันภัยรถด้วยนะคะ

ข้อดีของการเช่ารถกับ ToCoo!

  • จุดแข็งที่ 1 ของ ToCoo! คือ เว็บไซต์จองรถของ ToCoo! นั้น “รองรับภาษาไทย” แบบจริงจังเลยค่ะ ทุกเมนู ทุกหัวข้อบนเว็บไซต์ มีข้อมูลภาษาไทยรองรับหมด ไม่เข้าใจรายละเอียดตรงไหน กดเข้าไปอ่านได้เลย เข้าใจทะลุปรุโปร่ง!!!
  • จุดแข็งที่ 2 ของ ToCoo! คือ เชื่อมโยงบริษัทรถเช่าเกือบทุกค่ายในญี่ปุ่น ทำให้ ToCoo! มีรถเช่าพร้อมให้บริการเยอะมาก!!! มีรถหลายแบบให้เลือก รวมถึงมี option ต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเช่ารถเยอะค่ะ

จองรถเช่ากับ ToCoo! Car Rental ใส่ FVT2ZGได้รับส่วนลดทันที 1,000 เยน

เงื่อนไขการใช้โค้ดคูปอง

  • โค้ดคูปอง FVT2ZG   : รับส่วนลดทันที 1,000 เยน เมื่อมียอดค่ารถเช่า 10,000 เยนขึ้นไป
  • ระยะเวลาการเช่ารถ : 1 ต.ค. 2024 – 31 มี.ค.2025

ทำประกันภัยการเดินทาง Chubb เพิ่มความอุ่นใจให้ทุกทริป

เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ยิ่งถ้าอยู่ต่างบ้านต่างถิ่น ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้นมา เรื่องที่ควรจัดการได้ อาจไม่ง่ายอย่างที่คิด ทั้งเครื่องบินดีเลย์ กระเป๋าหาย (หรือล่าช้า) ประสบอุบัติเหตุ ป่วยไข้ ทรัพย์สินสูญหาย และปัญหาจุกจิกอีกมากมาย ที่จะพาลทำให้ทริปนั้นกลายเป็นฝันร้ายเอาง่ายๆ

เพื่อความอุ่นใจ ต้นกับปูเป้เลยเลือกทำประกันภัยการเดินทางเอาไว้ล่วงหน้าเสมอ สมัยเป็น Blogger ใหม่ๆ เราก็ซื้อประกันภัยการเดินทางเป็นรายเที่ยวครับ แต่หลังๆ นี่เดินทางปีนึง หลายทริปมากๆ เราเลยเลือกทำประกันภัยการเดินทางกันเป็นรายปี 5555 (ใครที่เดินทางปีนึงเกิน 5-6 ทริป ซื้อ ประกันการเดินทางชับบ์ Chubb Travel Buddy แบบรายปี ปีคุ้มสุดครับ)

สำหรับ Road Trip (ขับรถเที่ยว) เกาะคิวชู รอบนี้เราทำประกันภัยการเดินทางกับ “Chubb Travel Buddy (คู่หูนักเดินทาง)เค้าดูแลครอบคลุมทั้ง…

  • การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุและความพิการ
  • ค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ (ทั้งโควิด และไข้หวัดใหญ่)
  • ค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในประเทศไทย 21 วัน
  • ผลประโยชน์รายวันสำหรับการเข้ารักษาพยาบาลเป็นผู้ป่วยใน ใน รพ.ต่างประเทศ
  • การเคลื่อนย้ายทางการแพทย์ฉุกเฉิน หรือการเคลื่อนย้ายกลับภูมิลำเนา
  • ค่าใช้จ่ายในการส่งศพหรืออัฐิกลับประเทศภูมิลำเนา
  • ค่าใช้จ่ายในการเดินทางและที่พักเพื่อไปเยี่ยมผู้เอาประกันภัยที่ รพ.ในต่างประเทศ
  • มีบริการสายด่วนช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม.
  • มีแผนประกันเสริม Flight Secure ทั้งการบอกเลิกการเดินทาง, การดีเลย์ของเที่ยวบิน การพลาดการต่อเครื่อง, ความล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง รวมถึกรณีโจรขึ้นบ้าน ระหว่างเดินทางอยู่ต่างประเทศ

ที่สำคัญสามารถ ซื้อออนไลน์ได้ง่าย เลือกแผนได้ตามที่เราต้องการ ซื้อปุ๊ปได้กรมธรรม์ประกันภัยการเดินทางเลย เคลมไวไม่งอแง เบี้ยเริ่มต้นหลักร้อย ความคุ้มครองหลักล้าน ถูกใจเราสองคนสุดๆ!!

หมายเหตุ :
* เงื่อนไขของประกันการเดินทางชับบ์ (Chubb) ตามที่บริษัทฯ กำหนด
* ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัย

สนใจซื้อ ประกันการเดินทางชับบ์ (Chubb) พร้อมรับส่วนลดพิเศษ 18% คลิกที่นี่
อย่าลืมกรอกโค้ด NENGAN18 เพื่อรับส่วนลดน๊า!

เดินทางเที่ยวคิวชูด้วยรถไฟ JR

กรณีบางคนอาจไม่สะดวกในการเช่ารถขับเที่ยวในแถบคิวชู (Kyushu) เราก็สามารถเดินทางด้วยรถไฟ JR ได้ ซึ่งถือว่าเป็นการเดินทางอีกวิธีที่สะดวกมากๆ เพราะรถไฟญี่ปุ่นมีตารางเวลาที่หนาแน่นและตรงเวลา รู้เวลาถึงจุดหมายได้ดี นั่งสบาย และยังสะอาดด้วย หลังจากซื้อ JR Pass จาก Klook แล้วเราจะได้ Exchange Order ให้นำไปแลกรับบัตร JR Pass ฉบับจริงที่สถานีรถไฟที่ญี่ปุ่นได้เลยค่ะ!!

1. กรณีเที่ยวเฉพาะในภูมิภาคคิวชู
แนะนำ JR Kyushu Rail Pass ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งเหนือ/ฝั่งใต้/ทั้งหมดในคิวชู มีแบบ 3, 5 หรือ 7 วันใช้ได้ไม่จำกัดครั้ง เป็นตั๋วใช้สำหรับโดยสารรถไฟแบบไม่จำกัดเที่ยวในภูมิภาคคิวชู จะขึ้นรถไฟท้องถิ่น รถไฟด่วนพิเศษ หรือรถไฟชินคันเซ็น ขึ้นเหนือ ล่องใต้หรือทั่วทั้งภูมิภาคคิวชู สะดวกสบายมากๆค่ะ โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ All Kyushu Pass (คิวชูทั้งหมด), North Kyushu Pass (คิวชูเหนือ) และ Kyushu Southern Pass (คิวชูใต้)

สนใจซื้อ บัตร JR Kyushu Rail Pass ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

2. กรณีเที่ยวแถบคิวชูเหนือ และภูมิภาคอื่นๆ ด้วย
แนะนำ JR Sanyo-San‘in Northern Kyushu Pass : พาส JR สำหรับซันโย, ซันอิน และคิวชูตอนเหนือ (7 วัน) จะขึ้นรถไฟ JR ได้ไม่จำกัดเดินทางได้จากชินโอซาก้า (Shin Osaka), ทตโตริ (Tottori), ฮิโรชิม่า (Hiroshima), ยาวถึงภูมิภาคคิวชูตอนเหนือ เช่น นั่งรถไฟ Yufuin No Mori ไปเที่ยวยูฟุอิน (Yufuin), เบบปุ (Beppu), โออิตะ (Oita), คุมาโมโต้ (Kumamoto), นางาซากิ (Nagasaki), ซากะ (Saga), Mojiko (โมจิโกะ) และที่อื่นๆ

สนใจซื้อ บัตร JR Sanyo-San‘in Northern Kyushu Pass ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

3. กรณีบินลงที่เมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) แต่ไม่เน้นเที่ยวในคิวชู อยากไปเที่ยวภูมิภาคใกล้ๆ แทน
ด้วยเส้นทางบินลงฟุกุโอกะ (Fukuoka) กำลังฮิตมากกกก เพราะราคาตั๋วเครื่องบินถูกกว่าภูมิภาคอื่นๆ!! จากฟุกุโอกะ (Fukuoka) เราอยากไปเที่ยว สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studios Japan) หรือไปเดินเล่นเมืองเก่าที่เกียวโต (Kyoto) ก็ทำได้ง่ายมากค่ะ

แนะนำ บัตร JR Pass Sanyo-San’in Area Pass สำหรับซันโย และซันอิน (7 วัน) พาสนี้จะสามารถนั่งรถไฟ JR และชินคังเซ็นได้ 7 วัน จากฟุกุโอกะ (Fukuoka) ขึ้นรถไฟที่สถานีฮากาตะ Hakata) เดินทางไปเมืองดังนี้ ฮิโรชิม่า (Hiroshima), โอกายามะ (Okayama), โกเบ (Kobe), โอซาก้า (Osaka), เกียวโต (Kyoto), นารา (Nara), วากายามะ (Wakayama), ทตโตริ (Tottori), มัตสึเอะ (Matsue) และอื่นๆ (พาสนี้จะไม่สามารถใช้กับรถไฟ JR ในคิวชูตอนเหนือได้)

สนใจซื้อ บัตร JR Pass Sanyo-San’in Area Pass ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

4. กรณีอยากเที่ยวแถบคันไซ (Kansai)
เที่ยวแบบครอบคลุมพื้นที่ (5 วัน) สำหรับคนที่อยากเที่ยวยาวหลายๆ วัน ไปได้หลายๆ เมืองในภูมิภาคคันไซ เราแนะนำให้ซื้อ “JR Kansai Wide Area Pass ครับ นอกจาก 7 จังหวัดหลักของภูมิภาคคันไซแล้ว Pass นี้ยังพาคุณเที่ยวไกลไปถึงภูมิภาค Chugoku ฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น (ไปได้ไกลกว่า JR Kansai Area Pass) ครอบคลุมเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ เช่น โอกายามะ โอสึ ทากามัตสึ อามาโนะฮาชิดาเตะ คิโนะซากิออนเซ็น ทตโตะริ คิชิ ชิราฮามะ และอีกหลายเมือง

เที่ยวแบบคนมีเวลาน้อย (1-4 วัน) ใช้ JR Kansai Area Pass สามารถเที่ยวจังหวัดยอดนิยม รอบๆ โอซาก้า อาทิ มิเอะ ชิกะ เกียวโต นารา วากายามะ เฮียวโกะ (โกเบ, ฮิเมจิ) และโอซาก้า มีให้เลือกตั้งแต่ 1-4 วัน โดยสามารถใช้บริการได้ไม่จำกัดครั้งไปยังเมืองที่ระบุไว้ สามารถนั่งรถไฟ Kansai-Airport Express “HARUKA” เมื่อนั่งที่นั่งแบบจองล่วงหน้า, รถไฟประเภท Rapid Service หรือ Special Rapid Service หรือประเภท Local ในเส้นทางเดินรถไฟธรรมดาของ JR-WEST และ WEST JAPAN JR BUS ใช้ได้เฉพาะกับรถบัสประจำทางภายในเขตพื้นที่ที่กำหนดเท่านั้น ไม่สามารถใช้บริการรสบัสด่วนได้

เตรียมความพร้อมก่อนไปสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ญี่ปุ่น (Universal Studios Japan) 

Universal Studios Japan คือสถานที่เที่ยวสุดฮิตของโอซาก้า (Osaka) แม้เที่ยววันธรรมดาคนก็แน่นมากกกกกก!! ถ้าได้วันที่เดินทางไปแล้ว แนะนำให้ซื้อ บัตรเข้าสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ญี่ปุ่น (Universal Studios Japan) เตรียมไว้ล่วงหน้าก่อนจะยิ่งทำให้การสะดวก รวดเร็ว มีเวลาเที่ยวมากขึ้น ไม่เสียเวลาต่อคิว หรือต่อแถวซื้อบัตรด้านหน้าทางเข้า

  • สนใจซื้อ บัตรเข้าสวนสนุกแบบสตูดิโอพาส ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
  • สนใจซื้อ บัตรเอ็กซ์เพรสพาส 7 (Express Pass 7) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
  • สนใจซื้อ บัตรเอ็กซ์เพรสพาส 4 (Express Pass 4) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

5. กรณีเที่ยวแบบครอบคลุมทุกภูมิภาคของญี่ปุ่น
กรณีอยากเที่ยวเมืองต่างๆ ที่ตั้งอยู่คนละภูมิภาคกันเลย เช่น จากฮอกไกโด (Hokkaido) อยากไปเที่ยวแถบคันโต (Kanto), คันไซ (Kansai) หรือคิวชู (Kyushu) ขอแนะนำ JR All Area Pass สำหรับทุกภูมิภาคในญี่ปุ่น (7, 14 หรือ 21 วัน) : JR พาสนี้คุ้มมากๆ จ่ายครั้งเดียวสามารถเดินทางเที่ยวได้ทั่วประเทศญี่ปุ่น เที่ยวได้ครอบคลุมทุกภูมิภาคของญี่ปุ่นสำหรับ 7, 14 หรือ 21 วัน ใช้รถไฟสาย JR แบบไม่อั้นรวมทั้งรถบัส, เรือเฟอร์รี่มิยาจิม่า, รถไฟชินคันเซ็นทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับเมืองใหญ่ทั้งสาย Tokaido Shinkansen, สาย Akita Shinkansen, สาย Kyushu Shinkansen, สาย Hokkaido Shinkansen, สาย Joetsu Shinkansen, สาย Yamagata Shinkansen และ Hokuriku Shinkansen เป็นต้น (พาสนี้ไม่ครอบคลุมการเดินทางโดยขบวนรถไฟโนโซมิและมิซูโฮะ)

สนใจซื้อบัตร JR Pass ทุกภูมิภาคในญี่ปุ่น ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

ยูฟุอิน (Yufuin) เมืองเล็กๆ สุดคิ้วท์ของเกาะคิวชู ญี่ปุ่น

ยูฟุอิน (Yufuin) เป็นเมืองเล็กๆ น่ารักที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติของจังหวัดโออิตะ (Oita) และยังเป็นเมืองออนเซ็นชื่อดังที่มีภูเขาฟุดาเกะเป็นฉากหลังของเมือง ครั้งแรกที่ปูเป้และพี่ต้นเห็นภาพเมืองยุฟุอิน (Yufuin) กับวิวใบไม้เปลี่ยนสีมีหมอกลอยฟุ้งๆ บรรยากาศอุ่นๆ เหมือนภาพวาดสวยมากกจนอยากมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งเลยค่ะ!!

ยูฟุอิน (Yufuin) เหมาะมากที่จะจัดทริปเที่ยวแบบ One Day Trip จากฟุกุโอกะ การเดินทางก็สะดวกมากใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง สามารถนั่งรถไฟสีเขียวสุดฮิต “Yufuin no Mori” (สาย Yufu) เพลินๆ จากสถานี Hakata ของเมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) มาลงที่สถานี Yufuin หรือสำหรับคนชอบชิลล์ๆ อยากดื่มด่ำบรรยากาศตอนเช้า คนโล่งๆ ก็จะมานอนค้างคืน แช่ออนเซ็นสักคืนก็ดีงามค่ะ

มาที่ ยูฟุอิน (Yufuin) จะได้สัมผัสทั้งธรรมชาติ, บรรยากาศญี่ปุ่นแบบชนบท, มุมถ่ายรูปสวย, ของกินอร่อย และสองข้างทางยังมีร้านรวงน่ารักๆ ชวนให้แวะช้อปปิ้งอีก เดินเล่นเพลินเลยค่ะ สำหรับทริปนี้ปูเป้เลือกไปค้างคืนที่เมืองเบบปุ (ฺBeppu) รวม 2 คืน (เพราะไม่อยากย้ายที่พักบ่อยๆ) ช่วงเช้าตรู่ค่อยขับรถมาเที่ยวยูฟุอิน (Yufuin) ใช้ระยะเวลาเพียง 40 นาที แนะนำขับมาเส้นทางธรรมดานะคะ (ไม่ต้องขึ้นทางด่วน) วิวระหว่างทางสวยมาก ขับรถเพลินตาเพลินใจ ก่อนจะถึงยูฟุอิน (Yufuin) จะเป็นจุดชมวิวหมู่บ้านในหุบเขาท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยสะพรึงมากๆค่ะ

เที่ยวคิวชูด้วยรถไฟ

กรณีบางคนอาจไม่สะดวกในการเช่ารถขับเที่ยวในแถบคิวชู (Kyushu) เราก็สามารถเดินทางด้วย “รถไฟ JR ได้ ซึ่งถือว่าเป็นการเดินทางอีกวิธีที่สะดวกมากๆ เพราะรถไฟญี่ปุ่นมีตารางเวลาที่หนาแน่นและตรงเวลา รู้เวลาถึงจุดหมายได้ดี นั่งสบาย และยังสะอาดด้วย หลังจากซื้อ JR Pass จาก Klook แล้วเราจะได้ Exchange Order ให้นำไปแลกรับบัตร JR Pass ฉบับจริงที่สถานีรถไฟที่ญี่ปุ่นได้เลยค่ะ!!

1. กรณีเที่ยวเฉพาะในภูมิภาคคิวชู
แนะนำ บัตร JR Kyushu Rail Pass ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งเหนือ/ฝั่งใต้/ทั้งหมดในคิวชู มีแบบ 3, 5 หรือ 7 วันใช้ได้ไม่จำกัดครั้ง เป็นตั๋วใช้สำหรับโดยสารรถไฟแบบไม่จำกัดเที่ยวในภูมิภาคคิวชู จะขึ้นรถไฟท้องถิ่น รถไฟด่วนพิเศษ หรือรถไฟชินคันเซ็น ขึ้นเหนือ ล่องใต้หรือทั่วทั้งภูมิภาคคิวชู สะดวกสบายมากๆค่ะ โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ North Kyushu Pass (คิวชูเหนือ), Kyushu Southern Pass (คิวชูใต้) และ All Kyushu Pass (คิวชูทั้งหมด)

สนใจซื้อ บัตร JR Kyushu Rail Pass ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

กรณีอยากนั่งรถไฟแบบตื่นตาตื่นใจมีความหรูหราไฮโซพร้อมเชฟเสริ์ฟอาหารสุดอร่อยของภูมิภาคคิวชู
ขอแนะนำ บัตรโดยสารรถไฟ ARU RESSHA โดย JR Kyushu (รถไฟรับประทานอาหารสุดหรู) รถไฟขบวนนี้จะมีความลักชูหรูหรา ระหว่างการเดินทางจาก Hakata ไป Yufuin หรือ Yufuin ไป Hakata จะมีเชฟ Narisawa ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เสิร์ฟอาหารสไตล์ Fine Dining แต่ละจานตกแต่งได้สวยเว่อร์วัง ยิ่งวัตถุดิบนั้นก็ได้คัดสรรมาตามฤดูกาลอย่างพิถีพิถันจากภูมิภาคคิวชูเพื่อนำมาเสิร์ฟเป็นอาหารจานเด็ด สำหรับคนที่งบถึงการนั่งรถไฟหรูพร้อมทานอาหารดีๆ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น และน่าลองสักครั้งในการเดินทางมากๆ ค่ะ

สนใจซื้อ บัตรโดยสารรถไฟ ARU RESSHA โดย JR Kyushu ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

2. กรณีอยากเที่ยวคิวชูเหนือ และภูมิภาคอื่นๆ ด้วย
แนะนำ บัตร JR Sanyo-San‘in Northern Kyushu Pass สำหรับซันโย, ซันอิน และคิวชูตอนเหนือ (7 วัน) จะขึ้นรถไฟ JR ได้ไม่จำกัดเดินทางได้จากชินโอซาก้า (Shin Osaka), ทตโตริ (Tottori), ฮิโรชิม่า (Hiroshima), ยาวถึงภูมิภาคคิวชูตอนเหนือ เช่น นั่งรถไฟ Yufuin No Mori ไปเที่ยวยูฟุอิน (Yufuin), เบบปุ (Beppu), โออิตะ (Oita), คุมาโมโต้ (Kumamoto), นางาซากิ (Nagasaki), ซากะ (Saga), Mojiko (โมจิโกะ) และที่อื่นๆ

สนใจซื้อ บัตร JR Sanyo-San‘in Northern Kyushu Pass ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

3. กรณีบินลงที่เมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) แต่ไม่เน้นเที่ยวในคิวชู อยากไปเที่ยวภูมิภาคใกล้ๆ แทน
ด้วยเส้นทางบินลงฟุกุโอกะ (Fukuoka) กำลังฮิตมากกกก เพราะราคาตั๋วเครื่องบินถูกกว่าภูมิภาคอื่นๆ!! จากฟุกุโอกะ (Fukuoka) เราอยากไปเที่ยว สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studios Japan) หรือไปเดินเล่นเมืองเก่าที่เกียวโต (Kyoto) ก็ทำได้ง่ายมากค่ะ

แนะนำ บัตร JR Pass Sanyo-San’in Area Pass สำหรับซันโย และซันอิน (7 วัน) พาสนี้จะสามารถนั่งรถไฟ JR และชินคังเซ็นได้ 7 วัน จากฟุกุโอกะ (Fukuoka) ขึ้นรถไฟที่สถานีฮากาตะ Hakata) เดินทางไปเมืองดังนี้ ฮิโรชิม่า (Hiroshima), โอกายามะ (Okayama), โกเบ (Kobe), โอซาก้า (Osaka), เกียวโต (Kyoto), นารา (Nara), วากายามะ (Wakayama), ทตโตริ (Tottori), มัตสึเอะ (Matsue) และอื่นๆ (พาสนี้จะไม่สามารถใช้กับรถไฟ JR ในคิวชูตอนเหนือได้)

สนใจซื้อ บัตร JR Pass Sanyo-San’in Area Pass ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

4. กรณีเที่ยวแบบภูมิภาคคันไซ (Kansai)

เที่ยวแบบครอบคลุมพื้นที่ (5 วัน) สำหรับคนที่อยากเที่ยวยาวหลายๆ วัน ไปได้หลายๆ เมืองในภูมิภาคคันไซ เราแนะนำให้ซื้อ “JR Kansai Wide Area Pass” ครับ นอกจาก 7 จังหวัดหลักของภูมิภาคคันไซแล้ว Pass นี้ยังพาคุณเที่ยวไกลไปถึงภูมิภาค Chugoku ฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น (ไปได้ไกลกว่า JR Kansai Area Pass) ครอบคลุมเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ เช่น โอกายามะ โอสึ ทากามัตสึ อามาโนะฮาชิดาเตะ คิโนะซากิออนเซ็น ทตโตะริ คิชิ ชิราฮามะ และอีกหลายเมือง (ดูแผนที่ประกอบ) สามารถใช้บริการได้ไม่จำกัดครั้งไปยังเมืองที่ระบุไว้ตลอด 5 วัน เอาจริงๆ แค่นั่งรถไฟชินคันเซ็น 2 รอบก็คุ้มค่าเกินราคาพาสแล้ว, ใช้ Pass ขึ้นรถไฟ Hello Kitty Shinkansen, นั่งรถไฟความเร็วสูง Sanyo Shikkansen (ยกเว้นระหว่าง Okayama และ Hakata) แบบไม่จองที่นั่งได้ไม่จำกัดเที่ยว และรถไฟด่วนพิเศษ Haruka, Kuroshio, Thunder Bird, Kounotori, Super Hakuto และรถไฟท้องถิ่นได้

เที่ยวแบบคนมีเวลาน้อย (1-4 วัน) ใช้ JR Kansai Area Pass สามารถเที่ยวจังหวัดยอดนิยม รอบๆ โอซาก้า อาทิ มิเอะ ชิกะ เกียวโต นารา วากายามะ เฮียวโกะ (โกเบ, ฮิเมจิ) และโอซาก้า มีให้เลือกตั้งแต่ 1-4 วัน โดยสามารถใช้บริการได้ไม่จำกัดครั้งไปยังเมืองที่ระบุไว้ และ รถไฟ Kansai-Airport Express “HARUKA” เมื่อนั่งที่นั่งแบบจองล่วงหน้า, รถไฟประเภท Rapid Service หรือ Special Rapid Service หรือประเภท Local ในเส้นทางเดินรถไฟธรรมดาของ JR-WEST, WEST JAPAN JR BUS ใช้ได้เฉพาะกับรถบัสประจำทางภายในเขตพื้นที่ที่กำหนดเท่านั้น ไม่สามารถใช้บริการรสบัสด่วนได้

เตรียมความพร้อมก่อนไปสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ญี่ปุ่น สถานที่เที่ยวสุดฮิตของโอซาก้า (Osaka) แม้เที่ยววันธรรมดาคนก็แน่นมากกกกกก!! ถ้าได้วันที่เดินทางไปแล้ว แนะนำให้เตรียมซื้อ บัตรเข้าสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ญี่ปุ่น (Universal Studios Japan) ไว้ล่วงหน้าก่อนจะยิ่งทำให้การสะดวก รวดเร็ว มีเวลาเที่ยวมากขึ้น ไม่เสียเวลาต่อคิว หรือต่อแถวซื้อบัตรด้านหน้าทางเข้า

  • สนใจซื้อ บัตรเข้าสวนสนุกแบบสตูดิโอพาส ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
  • สนใจซื้อ บัตรเอ็กซ์เพรสพาส 4 (Express Pass 4) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
  • สนใจซื้อ บัตรเอ็กซ์เพรสพาส 7 (Express Pass 7) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

5. กรณีเที่ยวแบบครอบคลุมทุกภูมิภาคของญี่ปุ่น
แนะนำ JR Pass สำหรับทุกภูมิภาคในญี่ปุ่น (7, 14 หรือ 21 วัน) : JR All Area Pass พาสนี้คุ้มมากๆ จ่ายครั้งเดียวสามารถเดินทางเที่ยวได้ทั่วประเทศญี่ปุ่น เที่ยวได้ครอบคลุมทุกภูมิภาคของญี่ปุ่นสำหรับ 7, 14 หรือ 21 วัน จากฮอกไกโด (Hokkaido) ไปเที่ยวแถบคันโต (Kanto), คันไซ (Kansai) หรือคิวชู (Kyushu) พาสใบนี้สามารถใช้รถไฟสาย JR แบบไม่อั้นรวมทั้งรถบัส, เรือเฟอร์รี่มิยาจิม่า, รถไฟชินคันเซ็นทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับเมืองใหญ่ทั้งสาย Tokaido Shinkansen, สาย Akita Shinkansen, สาย Kyushu Shinkansen, สาย Hokkaido Shinkansen, สาย Joetsu Shinkansen, สาย Yamagata Shinkansen และ Hokuriku Shinkansen ฯลฯ (ไม่ครอบคลุมรถไฟโนโซมิและมิซูโฮะ)

สนใจซื้อ JR Pass สำหรับทุกภูมิภาคในญี่ปุ่น ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

ทำประกันภัยการเดินทาง เพิ่มความอุ่นใจให้ทุกทริป

เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ยิ่งถ้าอยู่ต่างบ้านต่างถิ่น ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้นมา เรื่องที่ควรจัดการได้ อาจไม่ง่ายอย่างที่คิด ทั้งเครื่องบินดีเลย์ กระเป๋าหาย (หรือล่าช้า) ประสบอุบัติเหตุ ป่วยไข้ ทรัพย์สินสูญหาย และปัญหาจุกจิกอีกมากมาย ที่จะพาลทำให้ทริปนั้นกลายเป็นฝันร้ายเอาง่ายๆ

เพื่อความอุ่นใจ ต้นกับปูเป้เลยเลือกทำประกันภัยการเดินทางเอาไว้ล่วงหน้าเสมอ สมัยเป็น Blogger ใหม่ๆ เราก็ซื้อประกันภัยการเดินทางเป็นรายเที่ยวครับ แต่หลังๆ นี่เดินทางปีนึง หลายทริปมากๆ เราเลยเลือกทำประกันภัยการเดินทางกันเป็นรายปี 5555 (ใครที่เดินทางปีนึงเกิน 7 ทริป ซื้อ ประกันการเดินทางชับบ์ Chubb Travel Buddy แบบรายปี ปีคุ้มสุดครับ)

เพื่อความอุ่นใจ ต้นกับปูเป้เลยเลือกทำประกันภัยการเดินทางเอาไว้ล่วงหน้าเสมอ สมัยเป็น Blogger ใหม่ๆ เราก็ซื้อประกันภัยการเดินทางเป็นรายเที่ยวครับ แต่หลังๆ นี่เดินทางปีนึง หลายทริปมากๆ เราเลยเลือกทำประกันภัยการเดินทางกันเป็นรายปี 5555 (ใครที่เดินทางปีนึงเกิน 3-4 ทริป ซื้อ ประกันการเดินทางชับบ์ Chubb Travel Buddy แบบรายปี ปีคุ้มสุดครับ)

รอบนี้เราทำประกันภัยการเดินทางกับ “Chubb Travel Buddy (คู่หูนักเดินทาง)” เค้าดูแลครอบคลุมทั้ง…

  • การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุและความพิการ
  • ค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ (ทั้งโควิด และไข้หวัดใหญ่)
  • ค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในประเทศไทย 21 วัน
  • ผลประโยชน์รายวันสำหรับการเข้ารักษาพยาบาลเป็นผู้ป่วยใน ใน รพ.ต่างประเทศ
  • การเคลื่อนย้ายทางการแพทย์ฉุกเฉิน หรือการเคลื่อนย้ายกลับภูมิลำเนา
  • ค่าใช้จ่ายในการส่งศพหรืออัฐิกลับประเทศภูมิลำเนา
  • ค่าใช้จ่ายในการเดินทางและที่พักเพื่อไปเยี่ยมผู้เอาประกันภัยที่ รพ.ในต่างประเทศ
  • มีบริการสายด่วนช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม.
  • มีแผนประกันเสริม Flight Secure ทั้งการบอกเลิกการเดินทาง, การดีเลย์ของเที่ยวบิน การพลาดการต่อเครื่อง, ความล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง รวมถึกรณีโจรขึ้นบ้าน ระหว่างเดินทางอยู่ต่างประเทศ

ที่สำคัญสามารถ ซื้อออนไลน์ได้ง่าย เลือกแผนได้ตามที่เราต้องการ ซื้อปุ๊ปได้กรมธรรม์ประกันภัยการเดินทางเลย เคลมไวไม่งอแง เบี้ยเริ่มต้นหลักร้อย ความคุ้มครองหลักล้าน ถูกใจเราสองคนสุดๆ!!

สนใจซื้อ ประกันการเดินทางชับบ์ Chubb Travel Buddy พร้อมได้รับส่วนลดพิเศษ คลิกที่นี่
อย่าลืมกรอกโค้ด NENGAN18 เพื่อรับส่วนลดน๊า! ใช้ได้ถึง 30 เม.ย. 2567

พาเที่ยวยูฟุอิน (Yufuin) เมืองสุดคิ้วท์ของเกาะคิวชู

รีวิวนี้รวบรวมไฮไลต์ 10 พิกัดของเมืองยุฟุอิน (Yufuin) ทั้งที่เที่ยว ที่กิน มุมถ่ายรูป คาเฟ่ จุดชมวิวปังๆ สินค้าชอปปิ้งฯลฯ มาฝากกันค่ะ

1. Kinrin lake (ทะเลสาบคินริน)

ทะเลสาบคินริน ทะเลสาบเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในเมืองยูฟุอิน เป็นที่เราเห็นครั้งแรกต้องพูดออกมาเลยว่า โคตรสวย!! ทะเลสาบคินรินของเมืองยูฟุอินในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นวิวที่คุ้มค่ามากๆ เราจะได้เห็นภาพของทะเลสาบสีใสตัดกับวิวภูเขาที่อร่ามไปด้วยสีสันสวยงามจากฤดูใบไม้เปลี่ยนสี สีแดง สีเขียว สีเหลืองที่สะท้อนลงบนผิวน้ำใส ๆ กับฝูงปลาที่แหวกว่ายไปตามธรรมชาติ

ขอบอกเลยว่า สวยจนต้องยิ้มออกมาเลยทีเดียว อีกหนึ่งความพิเศษของทะเลสาบคินรินในช่วงฤดูใบไม้ร่วงอีกอย่าง คือ การควันหรือม่านหมอกเบาบางที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ เพราะข้างใต้ของทะเลสาบมีบ่อน้ำพุร้อนที่ระอุอยู่ ภาพของทะเลสาบคินรินในช่วงฤดูนี้เลยให้ความสวยงามที่ดูลึกลับ น่าค้นหา แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความสงบ เยียวยาหัวใจได้ดีเลยทีเดียว

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/zhvMJj13jvHoQTHk8

2. Tenso shrine

ศาลเจ้าชินโตในเมืองยูฟุอินริมทะเลสาบคินริน (Kinrin lake) เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่ถ่ายรูปทะเลสาบได้สวยมากๆ เลย ด้านหน้าทางเข้าศาลเจ้าก็มีต้นไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดง ส้ม เหลืองแบบปังๆ พอเดินเข้ามาด้านในเราจะเห็นมุมสวยสงบๆ นั่งมองเพลินเลยค่ะ

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/UeWmmWuGLoMuHZeNA

3. Sabo Tenjo Sajiki

Sabo Tenjo Sajik จะอยู่ใกล้ ๆ กับทะเลสาบคินรินกันเหมือนหมู่บ้านญี่ปุ่นเล็ก ๆ สไตล์โบราณ ซึ่งมีร้านค้าขายของจะให้ความเป็นดั้งเดิมและเรียบง่าย สุขุมแต่ผ่อนคลาย และยังมีขายของฝาก งานหัตถกรรม ขนมดั้งเดิมมากมาย (แอบกระซิบว่าในร้านกลิ่นหอมม๊ากก) ถ้าใครไปทะเลสาบคินรินแล้ว ลองเดินต่อไปอีกนิดหนึ่ง แล้วจะเจออีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามอย่างหมู่บ้าน Sabo Tenjo Sajiki

พิกัด : https://maps.google.com/?cid=6405790038134942369&entry=gps
โทร : +81 977-85-2866

4. สะพานข้ามท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสี

ในละแวกเดียวกันกับทะเลสาบคินรินและ Sabo Tenjo Sajiki จะเจอกับสะพานข้ามร่องแม่น้ำเล็ก ๆ 2 แห่งตรงข้ามกันท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสี จะถ่ายรูปก็เหมาะ จะยืนดูปลาแหวกว่ายด้านล่างก็เพลิน จะมองผู้คนมากมายที่เดินผ่านไปมาก็สุขใจ เป็นจุดที่ทำให้จิตใจสงบอย่างน่าประหลาด เพราะเราได้เห็นทั้งภาพของใบไม้หลากสีที่ตัดกับสีของท้องฟ้าสะท้อนสีสันกระทบกับผืนน้ำด้านล่าง และภาพของผู้คนมากมายที่มีมาจากต่างที่ต่างถิ่น ต่างภาษา ต่างเครื่องแต่งกาย แต่ทุกคนมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าเหมือนกัน เป็นภาพที่ชวนให้ใจรู้สึกยินดี

5. Yufuin Floral Village

น่ารัก น่ารัก มีแต่คำว่าน่ารักเต็มไปหม๊ดดดด นี่มันสวรรค์วัยเด็กชัดๆ! ใครที่หลงรักในแอนิเมชั่นจิบลิหรือการ์ตูนคลาสสิคต้องห้ามพลาดที่นี่ เด็ด! ขาด! หมู่บ้านที่เต็มไปด้วยกลิ่นความเยาว์วัยอย่าง Yufuin Floral Village นี้ตั้งอยู่บนถนนสายเล็ก ๆ ที่ประดับด้วยดอกไม้นานาชนิด สองข้างทางเป็นกระท่อมยุโรปคลาสสิคเหมือนกับกระท่อมฮอบบิทในความทรงจำวัยเด็กของเราเดี๊ยะ กระท่อมต่าง ๆ เรียงรายเป็นร้านขายของสุดน่ารักจากแอนิเมชั่นที่ติดอยู่ในใจของเด็ก ๆ ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นแอนิเมชั่นจากสตูดิโอจิบลิอย่าง โตโตโต่โตโตโร่ หรือ My Neighbourhood Totoro, แม่มดน้อยกิกิ, Spirited Away หรือแอนิเมชั่นคลาสสิคระดับโลกอย่าง แอนิเมชั่นจากค่าย Walt Disney, Jojo Rabbit, Moomin และอีกมากมาย

ภายในกระท่อมต่าง ๆ จะตกแต่งด้วยเอกลักษณ์ของแอนิเมชั่นเรื่องนั้น ๆ รวมถึงเปิดเพลงช่วยบิ้วท์อารมณ์ให้เราอินยิ่งกว่าเดิมอีกร้อยเท่าพันเท่ากันเลยทีเดียว นอกจากจะมีกระท่อมน้อยน่ารักกระจุ๊บกระจิ๊บแล้ว ในหมู่บ้านนี้ยังเอาใจเด็กๆ ด้วยสัตว์โลกตัวน้อยมากมายด้วยคาเฟ่แมวเหมียว, กิจกรรมส่องนกฮูก, ให้อาหารกระรอก รวมถึงป้อนนมแพะอย่างน้องยูกิด้วย! เรียกได้ว่าเป็นความน่ารักระดับสังหารที่ชวนให้เราพลีกายละลายทรัพย์ด้วยความยินดีเลยล่ะ

โทร : 0977-85-5132
website : http://floral-village.com/

6. Yufuin Kinsho Croquettes (湯布院 金賞コロッケ)

อาหารยอดนิยมของที่นี่เลย!! ความรู้สึกแรกที่เจอร้านนี้ หอมมาก ยั่วสุด ๆ ยั่วให้เดินตรงไปซื้อทันที กัดเข้าไปคำแรก ร้อนมาก แต่ลองนึกว่า นี่แหละ อากาศ 14-15 องศากับคร็อกเก้ร้อน ๆ โอ้โห ฟินขาดลอย ฟินแบบตะคอกออกมาว่า ฟิน!!! ยังจำรสสัมผัสความกรอบของตัวคร็อกเก้ได้แม่นอยู่เลย น่าเอาไปทำ ASMR มันเป็นความกรอบที่กำลังพอดี ไส้ข้างในกับแป้งข้างนอกอยู่ในสัดส่วนที่เท่ากันมาก คุ้มสุดๆ ครอแก็ตที่นี่ได้รางวัล Croquettes Gold Medal ระดับประเทศร้านตั้งอยู่หน้าทางเข้า Yufuin Floral Village เลยค่ะ

โทร : +81 977-85-3053
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/UASqGo8rPM6wTZvr9

7. ร้านไอศกรีม café HIVE

ไอศครีมนมราดน้ำผึ้งหอมมากกกก (ราคา 520 เยน) สัมผัสแรกนวลมาก นุ่ม กินไปหนึ่งคำแล้วอยากกินอีกเรื่อย ๆ เข้ากันกับรสชาติน้ำผึ้งได้ดีสุด ๆ ตอนแรกคิดว่าไอศครีมนมสดมาเจอกับน้ำผึ้งแล้วต้องหวานสุด ๆ แน่นอน แต่ไม่เลย หวานกำลังพอดี หม่ำได้เรื่อย ๆ ไม่รู้สึกผิดต่อร่างกาย ฟินมาก สำหรับใครชอบชาเขียวแนะนำให้ลองไอศกรีมชาเขียวมันหวานสีม่วง (ราคา 600 เยน) ชาเขียวขมนนิดๆ ปลายลิ้นตัดกับมันหวานสีม่วงยิ่งเพิ่มความนัวๆ อร่อยลงตัวมากก!!

โทร : +81 977-85-7002
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/KXYMCPSZGxZa7kar8

8. โดรายากิพุดดิ้ง Hanakojikikuya

โดรายากิไส้พุดดิ้งของร้านฮานะโคจิคิคุยะนี่คือของหวานขึ้นชื่อของยุฟุอิน! โดรายากิพุดดิ้งนู่มมมมมมมมมากกกกกกกกก เด้งดึ๋งสุด ๆ ตัวแป้งหอมมาก ไส้พุดดิ้งข้างในลงตัวกับแป้งโดรายากิสุด ๆ กินเพลิน กินหมดแล้วรู้สึกว่าอยากกินอีกซักสิบอัน จากใจคนที่ไม่ค่อยกินโดรายากิเพราะไม่ชอบถั่วแดง วันนี้เจอทางสว่างของตัวเองแล้วค่ะ

พุดดิ้งที่นี่ทำมาจากน้ำแร่ธรรมชาติใต้ดินในยุฟุอินแล้วนำนมวัวจากพันธุ์เจอร์ซี่ (Jersey Cows) จากหมู่บ้านโอกุนิ (Oguni) เมืองอาโซะ (Aso) จังหวัดคุมาโมโตะ (Kumamoto) จึงทำให้เป็นพุดดิ้งที่รสชาติโดดเด่นหอมนมๆ มีเอกลักษณ์และน่าจดจำ โดยมีให้ 3 รสชาติให้เลือก คือ แบบดั้งเดิม, ชาเขียวพร้อมถั่วแดงเม็ดโตๆ และสตรอว์เบอร์รี อร่อยจริงจ้า!! (แนะนำให้ซื้อมาแล้วรอให้มันนิ่มลงซักพักก่อน ไม่งั้น แข็งโป๊กเลยค่าา)

โทร : +81 977-28-2215
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/HGczc63UZr55R4Nq9

9. ถนนยุโนะสึโบะ (Yunotsubo Street)

ถนนสายหลักที่เชื่อมระหว่างสถานีรถไฟยูฟุอินและทะเลสาบคินริน เป็นเหมือนถนนท่องเที่ยวหลักของเมืองเลยก็ว่าได้ ถนน Yunotsubo เต็มไปด้วยร้านค้ามากมายหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ดั้งเดิมยันคาเฟ่กิ๊บเก๋ของวัยรุ่น ร้านขายของใช้เซรามิก กิฟท์ช๊อปสุดน่ารักต่าง ๆ ร้านขนมพื้นเมือง ร้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น รวมไปถึงร้านขายของฝากอีกด้วย ถนนเส้นนี้จะให้ความรู้สึกคึกคักแต่สงบในตัว เพราะคนไม่พลุกพล่านมากแต่ยังไงตามร้านต่าง ๆ ก็มีการต่อคิวยาววววเลยแหละ และเมื่อเราเดินไปสักพักเราจะพบกับตรอกที่ตกแต่งเป็นสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมที่จะให้บรรยากาศเหมือนเรากำลังใส่ยูกาตะคีบเกี๊ยะเดินเล่นในสมัยเอโดะ เป็นอีกถนนที่ล่อตาล่อใจและล่อเงินให้ออกจากกระเป๋าอีกหนึ่งที่เลย

พิกัด : https://bit.ly/3XDP7Ga

10. Aso-Kuju National Park Sagiridai Overlook

เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่น่าเช็คอินระหว่างทางลงจากเมืองยูฟุอิน (ํYufuin) จากจุดชมวิวมองลงไปทุกคนจะเห็นหมู่บ้านเรียงรายอยู่เบื้องล่างท่ามกลางหุบเขาที่ขนานกัน เรียกได้ว่าเป็นภาพฉากที่ทำให้นึกถึงซีนในหนังและการ์ตูนญี่ปุ่นหลายเรื่องเลย (หนึ่งในนั้นคือ Your Name แหละ!) นอกจากวิวของหมู่บ้านแล้ว เราจะได้เห็นเส้นของท้องถนนขึ้นภูเขาที่คดเคี้ยวเป็นโค้งปราณีตอย่างสวยงามอีกด้วย ไปหนึ่งได้ถึงสอง! รับรองว่าทุกคนจะได้รูปมากมายเก็บไว้ดูตอนที่คิดถึงยูฟุอินแน่นอนค่ะ วันที่เราไปอากาศค่อนข้างครึ้มเล็กน้อย แต่ก็มีเสน่ห์ที่น่าค้นหา ลุ่มลึก และดุดันอีกแบบเลยค่ะ

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/G12zGJYuRnnHxaLW8

เดินทางจากฟุกุโอกะ (Fukuoka) ไปยูฟูอิน (Yufuin)

กรณีอยู่ที่ฟุกุโอกะ (Fukuoka) อยากไปเที่ยวยูฟูอิน (Yufuin) และที่อื่นๆ แบบไปเช้า-เย็นกลับ พร้อมคนขับรถ
ขอแนะนำทัวร์แบบ 1 วัน โดยจะออกเดินทางจากฟุกุโอกะ (Fukuoka) ในโปรแกรมจะพาไปเที่ยว ทัวร์ยูฟูอิน (Yufuin), สะพานแขวนยูเมะ (Kokonoe Yume) และหมู่บ้านคุโรคาวะ ออนเซ็น (Kurokawa Onsen) หนึ่งวัน จากฟุกุโอกะ โดยจะพาทัวร์ยูฟูอิน (Yufuin), เยี่ยมชมสะพานแขวนโคโคโนเอะยูเมะอันโด่งดัง (Kokonoe Yume Suspension Bridge) ตื่นตาตื่นใจไปกับทิวทัศน์อันน่าทึ่งของแม่น้ำนารุโกะและทิวทัศน์ธรรมชาติของโออิตะขณะข้ามสะพานคนเดินที่ยาวและสูงที่สุดในญี่ปุ่น และผ่อนคลายด้วยการแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนของหมู่บ้านคุโรคาวะออนเซ็น (Kurokawa Onsen) ก่อนเดินทางกลับเข้าเมืองฟุกุโอกะ

สนใจซื้อ ทัวร์ยูฟูอิน (Yufuin) สะพานแขวนยูเมะ (Kokonoe Yume) หมู่บ้านคุโรคาวะ
ออนเซ็น (Kurokawa Onsen) เดินทางหนึ่งวันจากฟุกุโอกะ ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่