ไม่ต้องนั่งเครื่องนาน ไม่ต้องลางานเยอะ นั่งเครื่องแค่ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็วาร์ปไปสัมผัสเสน่ห์ของเมืองท่าประวัติศาสตร์ ที่เด่นดังเรื่องทาร์ตไข่ อาหารแมกานีส (Macanese) การแข่งรถกรังด์ปรีซ์ และวัฒนธรรมโปรตุเกสผสมจีน (ที่ไม่มีใครเหมือน) ได้ที่นี่ครับ “มาเก๊า (Macao)”

บทความนี้เราจะมาชี้เป้าพิกัดเที่ยว “มาเก๊า (Macao)” แบบควิกทริป “กิน-เที่ยว-ถ่าย-มู” ถูกจริตคนทำงาน เพราะใช้เวลาแค่ 3 วัน 2 คืน ก็เที่ยวครบ มาครับมาดูกันว่าเกาะเล็กพริกขี้หนูแบบ “มาเก๊า (Macao)” จะมีอะไรเซอร์ไพรซ์เราได้บ้าง!!

ทำความรู้จัก “มาเก๊า (Macao)” กันสักนิด

“มาเก๊า (Macao)” ตั้งอยู่บนชายฝั่งตอนใต้ของมณฑลกวางตุ้ง ของประเทศจีน (สาธารณรัฐประชาชนจีน) แต่เดิมเคยเป็นเมืองท่าสำคัญ เป็นประตูสู่การค้าขาย-แลกเปลี่ยนระหว่างประเทศจีนกับนานาประเทศ จนต่อมาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 “มาเก๊า (Macao)” ก็ตกไปอยู่ใต้การดูแลของประเทศโปรตุเกสเรื่อยมาจนถึง พ.ศ. 2542 “มาเก๊า (Macao)” ก็ถูกส่งคืนกลับไปอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศจีน ในฐานะ “เขตบริหารพิเศษมาเก๊า แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน” ภายใต้หลักการ “หนึ่งประเทศสองระบบ” ต่ออีก 50 ปี

หมายเหตุ : ช่วงเวลา 50 ปีดังกล่าว เริ่มตั้งแต่ 19 ธ.ค. 2542 – 19 ธ.ค. 2592 หลังจากนั้นรัฐบาลจีนจึงจะมีมติอีกครั้งว่าจะกำหนดทิศทางในการบริหาร “มาเก๊า (Macao)” ในรูปแบบไหน

หลายคนที่เคยดูหนัง ฟังข่าวมาตั้งแต่ยุคก่อนคงจะรู้ดีว่า “มาเก๊า (Macao)” ขึ้นชื่อเรื่องเปิดเสรี “คาสิโน” ทำให้เซียนพนันมากมายทั่วโลกต่างมุ่งหน้ามาเสี่ยงดวงกันมากมาย จนทำให้เม็ดเงินสะพัด นำความมั่งคั่งมาสู่โรงแรมและคาสิโนมากมาย รวมถึงสร้างความเจริญอย่างรวดเร็วให้กับ “มาเก๊า (Macao)” แต่เสน่ห์ที่แท้จริงของ “มาเก๊า (Macao)” ไม่ใช่ความเป็นเมืองคาสิโนครับ!!

อะไรคือเสน่ห์ของ “มาเก๊า (Macao)”

เสน่ห์แท้ๆ ของ “มาเก๊า (Macao)” อยู่ที่ความเป็นเมืองท่าประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรม ทั้งด้านอาหาร ภาษา สถาปัตยกรรม ที่ได้รับมาจากประเทศ “โปรตุเกส” ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 กว่า 400 ปี ที่ “มาเก๊า (Macao)” อยู่ใต้การดูแลของโปรตุเกส เมืองท่าแห่งนี้ผสมผสาน 2 วัฒนธรรม โปรตุเกส-จีน จนกลายเป็นวัฒนธรรมเฉพาะตัว

  • มีอาหาร “แมกานีส (Macanese)” ที่ผสมอาหารโปรตุเกสเข้ากับอาหารจีนจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
  • มี “ทาร์ตไข่” สูตรต้นตำรับจากโปรตุเกส ประเทศที่เป็นต้นกำเนิด “ทาร์ตไข่” และขนมอร่อยๆ อีกมากมาย
  • มีพลเมืองคุณภาพ เป็นคนจีนเวอร์ชั่นโปรตุเกส ที่เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยว เคารพกฏหมาย ใส่ใจสังคม
  • มีสถาปัตยกรรมยุคโคโลเนียล สไตล์โปรตุเกส ทั้งอาคารบ้านเรือน โบสถ์ โรงเรียน สถานที่สำคัญทางราชการ ที่ยังถูกอนุรักษ์ไว้เป็น “มรดกโลก (World Heritage)” แถมมีเยอะมาก จนบางมุมเหมือนวาร์ปเราไปโปรตุเกสเลยทีเดียว
  • มีย่านเมืองเก่า ที่เต็มไปด้วยอาหารท้องถิ่น สตรีทฟู้ด คาเฟ่ ร้านชา ฯลฯ ที่ให้บรรยากาศเฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร
  • มีโรงแรมสวยเก๋มากมาย แต่ละที่พยายามสร้างจุดขาย สร้างแลนด์มาร์ค เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมเยือน
  • นอกจากนี้ “มาเก๊า (Macao)” ยังไม่หยุดพัฒนาตัวเอง เพราะยังมีสีสันใหม่ๆ ที่ภาครัฐและเอกชนวางแผนนำมาแต่งเติมให้ “มาเก๊า (Macao)” กลายเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ในเอเชียให้จงได้

นับตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป “มาเก๊า (Macao)” กำลังจะพัฒนาตัวเองให้เป็น City of Gastronomy รวมถึงพัฒนาตัวเองให้เป็นเมืองที่น่าเที่ยวมากกว่าเดิม มาดูกันครับว่า ณ ตอนนี้ (ปี 2023) “มาเก๊า (Macao)” มีมุมไหนให้เราเที่ยวกันบ้าง!!

“มาเก๊า (Macao)” อยู่ห่างจากฮ่องกงประมาณ 60 กิโลเมตร และใกลักับเมืองจูไห่ของประเทศจีน ประชาชนชาว “มาเก๊า (Macao)” ส่วนใหญ่พูดภาษากวางตุ้งเป็นภาษาแม่ ภาษาจีนกลาง ภาษาโปรตุเกส และภาษาอังกฤษ  

ภูมิประเทศของ “มาเก๊า (Macao)” ประกอบไปด้วยคาบสมุทรมาเก๊าเป็นส่วนที่ติดกับแผ่นดินใหญ่ และส่วนที่เป็น 3 เกาะที่เชื่อมต่อกันด้วยสะพาน คือ เกาะไทปา (Taipa), เกาะโคโลอาน (Coloane) และพื้นทะเลตรงกลางที่ถูกถมให้เป็นแผ่นดินใหม่ ซึ่งเรียกว่า โคไท สตริป (Cotai Strip) บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของรีสอร์ทคาสิโนเริ่ดหรูอลังการมากมาย เช่น The Londoner, MGM Cotai, The Parisian, Galaxy Macao, The Venetian Macao และ City of Dreams

มาตรการเข้ามาเก๊าจากไทยและฮ่องกง

  1. ตรวจ ATK ด้วยตัวเอง โดยต้องตรวจ 48 ชม. ก่อนเดินทาง และต้องมีผลตรวจเป็นลบ
  2. ถ่ายรูปผลตรวจคู่กับหน้าพาสปอร์ตของตัวเอง
  3. กรอกข้อมูลส่วนตัวในระบบพร้อมอัพโหลดรูปผลตรวจ https://eservice.ssm.gov.mo/generalrat
  4. แคปเจอร์หน้าจอที่มี QR Code เก็บไว้ และแสดงให้กับเจ้าหน้าที่สายการบินตอนเช็คอิน
  5. พอถึงที่สนามบินมาเก๊า แค่โชว์หน้าจอ QR Code พร้อมพาสปอร์ตว่าได้ลงข้อมูลมาแล้ว
  • สนใจ บัตรโดยสารรถบัสฮ่องกง (ออกเดินทางจากมาเก๊า) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
  • สนใจ บัตรโดยสารเรือเฟอร์รี่ระหว่างฮ่องกงและมาเก๊า ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
  • สนใจ บริการรถรับส่งส่วนตัวที่สนามบิน ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
    มีคนขับรถรอรับที่สนามบินแล้วพาไปส่งโรงแรมที่พักต่อเดียวถึงเลย ไม่ต้องขนกระเป๋า เดินทางเข้าเมืองสะดวกสบาย

บินตรงสู่ “มาเก๊า (Macao)” กับ AirAsia

ทริปนี้ต้นกับปูเป้บินตรงสู่ “มาเก๊า (Macao)” ด้วยสายการบิน “แอร์เอเชีย (AirAsia)” ครับผม จากดอนเมือง – มาเก๊า ใช้เวลาบินแค่ประมาณ 2.40 ชั่วโมง คนทำงานอย่างเราๆ ถ้าฉลาดใช้เงินก็เที่ยวแบบจัดเต็มได้ บินระยะสั้นไม่เกิน 6 ชม. ถ้าจ่ายแบบ Full-service ก็เหมือนใช้งบเกินความจำเป็น ออพชั่นไหนไม่ค่อยได้ใช้ก็ตัดออกบ้าง เซฟค่าตั๋วเครื่องบิน เอาไปกิน ไปชอปปิ้ง น่าจะดีกว่า

สำหรับ “แอร์เอเชีย (AirAsia)” แม้จะเป็น Low-cost airlines แต่เค้ามีจุดแข็งมากมายที่หลายสายการบินไม่มี ไม่ว่าจะเป็น

  • มีบินตรงจากดอนเมืองไปลง “มาเก๊า (Macao)” วันละ 2 เที่ยวบิน (เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย. 66)
  • บินกับ “แอร์เอเชีย (AirAsia)” ตารางบินดี เซฟเวลาเที่ยวได้มาก ที่สำคัญคือ “ตรงเวลา” ดีสุดๆ
  • ไฟลท์เช้าสุด 00:20 น. บินถึง “มาเก๊า (Macao)” ตีสี่กว่าๆ (ประมาณ 04:15 น.) ส่วนไฟลท์ถัดมาคือ 13:40 – 17:20 น. บินไฟลท์บ่ายมาถึงก็ชมโชว์ แสง สี ความเว่อร์วังยามค่ำคืนของ “มาเก๊า (Macao)” ต่อได้เลย!! (FYI : เวลาที่มาเก๊าเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง)
  • เวลาจองตั๋ว แนะนำให้เลือก “แพ็คสุดคุ้ม” คุณจะได้ทั้ง
    • น้ำหนักโหลดกระเป๋า 20 กก.
    • เลือกที่นั่งติดกัน
    • มีอาหารร้อนๆ เสิร์ฟระหว่างบิน (อร่อยด้วย)

ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.airasia.com/th/th

1. Ruins of St. Paul’s (ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล : 大三巴牌坊)

ที่นี่คือสัญลักษณ์ประวัติศาสตร์ของ “มาเก๊า (Macao)” ใครมามาเก๊าแล้วไม่ได้ถ่ายรูปที่นี่ถือว่ามาไม่ถึง นี่คือจุดไฮไลท์ที่ใครๆมาก็ต้องถ่ายรูป ใครอยากมาคนแนะนำต้องมาแต่เช้าครับ (สัก 7:30 – 9:00 น. กำลังดี) แต่ถ้ามาไม่ทันแนะนำให้หาจุดถ่ายรูปรอบๆ อาทิเช่น ทางเดินด้านข้างโบสถ์, มุมบันไดด้านข้าง, มุมจากศาลเจ้านาจา หรือจะถ่ายจากร้านยูนิโคล่บันไดขั้นสุดท้ายก็สวย (แต่ร้านค้าจะเปิดสายนะ)

บริเวณซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล โบสถ์อันโด่งดังสมัยศตวรรษที่ 17 ซึ่งถูกไฟไหม้และพายุไต้ฝุ่นถล่มในช่วงปี ค.ศ. 1835 จนเหลือเพียงแต่ซากประตูตัวโบสถ์ส่วนหน้า เดิมเคยเป็นโบสถ์สำคัญของ “มาเก๊า (Macao)” ก่อสร้างระหว่างปี ค.ศ. 1602–1640 ออกแบบโดยพระนิกายเยซูอิต ชาวอิตาเลียน โดยได้รับการช่วยเหลือของคริสเตียนชาวญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในโบสถ์คาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul’s) ถือว่าเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของ “มาเก๊า (Macao)” ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์กร UNESCO เป็นสัญลักษณ์ของการผสานวัฒนธรรมระหว่างตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด : https://goo.gl/maps/inP4mH9TjrtTTkSy5

2. ศาลเจ้านาจา (Na Tcha Temple)

ศาลเจ้านาจา (Na Tcha Temple)  มีขนาดเล็กมาก ตกแต่งเรียบง่าย ตั้งอยู่ด้านข้างกับซากโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul’s) สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเทพเจ้านาจา เทพผู้ต่อสู้กับสิ่งชั่วร้าย และยังมีความเชื่อให้คนมาขอลูก หรือขอให้ลูกเป็นเด็กดี ศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกทางประวัติศาสตร์ของ “มาเก๊า (Macao)”

มุมไฮไลต์ คือ มุมในบริเวณซุ้มศาลเจ้านาจาถ่ายออกมาจะเห็นซากอาสนวิหารนักบุญเปาโล (Ruins of St. Paul’s) และตึกโรงแรม Grand Lisboa อันยิ่งใหญ่อลังการ

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด : https://goo.gl/maps/QEwY3X9Y6164efLL7

3. Senado Square(เซนาโด้สแควร์)

Senado Square (เซนาโด้สแควร์) จตุรัสกลางเมืองแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก UNESCO’s World Heritage มีขนาด 1 ใน 4 จัตุรัสที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของ “มาเก๊า (Macao)” เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ประวัติศาสตร์ พื้นทางเดิน และผนังบางช่วงตกแต่งด้วยกระเบื้องและหินโมเสสหลากสี อาคารบ้านเรือนมีทั้งสถาปัตยกรรมสไตล์โปรตุเกสผสมผสานกันวัฒนธรรมจีน สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้า โบสถ์ มุมถ่ายรูป ช้อปปิ้ง สตรีทฟู้ด ให้เดินเล่นเพลินๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด : https://goo.gl/maps/isg78MBirn5tPn547

4. เดินเล่นย่าน Tap Seac Square (ทัปแซค : 塔石廣場)

จัตุรัสสาธารณะสำคัญของ “มาเก๊า (Macao)” บริเวณนี้จะรายล้อมด้วยอาคารโปรตุเกสโบราณที่ถูกอนุรักษ์รวม 8 หลังทั้งหอสมุดกลาง “มาเก๊า (Macao)” สถาบันวัฒนธรรม และหอจดหมายเหตุประวัติศาสตร์ “มาเก๊า (Macao)” แต่ละอาคารมีสีสันสวยงามสะดุดตา และจะเห็นชีวิตของผู้คนท้องถิ่นเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปที่สวยประทับใจมาก

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/17rLnXNg9CNe8GD29

5. ป้อมปราการมองเตฟอร์ท (Monte Fort : 大炮台)

ป้อมปราการแห่งมอนเต หรือ ป้อมปราการมองเตฟอร์ท เรียกเต็มๆ ว่า Fortaleza do Monte ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ขององค์การยูเนสโก ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง 52 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล มีปืนใหญ่วางรอบกำแพงป้อมจำนวน 32 ลำ ป้อมปราการนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการป้องกันเชิงยุทธศาสตร์ทางการทหารพื้นที่แนวชายฝั่งตะวันออก และตะวันตกของ “มาเก๊า (Macao)” และป้อมปราการนี้มีส่วนสำคัญที่ช่วยปกป้องประเทศจากการบุกรุกดินแดนของชาวดัตช์ ในปี ค.ศ. 1622 ปัจจุบันเปิดเป็นพื้นที่สำหรับการท่องเที่ยวในปี ค.ศ. 1966

ด้านบนของป้อมปราการมองเตฟอร์ท (Monte Fort) จะสามารถเห็นวิวเมืองของ “มาเก๊า (Macao)” ได้ 360 องศา พอลงจากป้อมปราการเดินถัดมาหน่อยก็จะเป็นซากโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul’s) ที่อยู่ใกล้ๆ กัน

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด : https://goo.gl/maps/7AvoS8K9nvE3unRM9

6. ฝึกกระโดดร่มในอุโมงค์ลม (GoAirborne Indoor Skydiving Macao)

ครั้งหนึ่งในชีวิตอยากให้มาสัมผัสประสบการณ์การลอยตัวในอุโมงค์ลมแบบเดียวกับที่ใช้ฝึกนักบินกระโดดร่ม (เราเองก็เห็นมาจากในหนัง Mission Impossible) ในชีวิตจริงเราคงไม่มีโอกาสกระโดดลงมาจากฟ้าเหมือนในหนังแต่มาลองเล่น GoAirborne Indoor Skydiving Macao ตั้งอยู่ในโรงแรม Lisboeta Macao Hotel ฝั่ง Cotai (โคไท) ก็ทำให้เราได้รู้ว่า เวลานกอยู่บนท้องฟ้าหรือ Tom Cruise กระโดดร่มลงมา เขารู้สึกยังไง? แถมทริปนี้เราได้พบกับแชมป์โลก Indoor Skying ชาวลัตเวียที่ช่วยจับตัวเราหมุนตัวในอุโมงค์ลม ตื่นเต้นมากกก เป็นประสบการณ์ที่สนุกจริงๆเว้ยย

GoAirborne Macao เป็นศูนย์กระโดดร่มในร่มแห่งแรกใน “มาเก๊า (Macao)” ไฮไลต์ของที่นี่ คือ มีอุโมงค์ลมล้ำสมัยแบบมาตรฐานการแข่งขันระดับนานาชาติ สามารถเล่นได้ตั้งแต่เด็กอายุตั้งแต่ 4 ขวบขึ้นไปจนถึงผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักตัวไม่เกิน 120 กิโลกรัม เริ่มแรกจะมีผู้สอนที่ผ่านการฝึกอบรมในระดับสากลจะมีการ Training ก่อนโดยจะให้ดู VDO, สอนท่าทาง การเตรียมตัว และการสื่อสารภาษามือระหว่างอยู่ในอุโมงค์ ซึ่งเราจะเพลิดเพลินไปกับการบินในอุโมงค์ลมที่ปลอดภัยและควบคุมทุกสภาพอากาศเหมือนดิ่งพสุธาจากความสูง 12,000 ถึง 3,000 ฟุต

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด : https://goo.gl/maps/kVP2ZrjuJCapumvQ9

สนใจ บัตรกิจกรรมกระโดดร่มในอุโมงค์ลมที่ GoAirborne ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

7. Stanley’s Café

Stanley’s Café คาเฟ่ที่ “มาเก๊า (Macao)” ก็มีเก๋ๆ อย่างกับหลุดเข้าไปในหนังยุค 80s มีความ Retro บรรยากาศฟีลเหมือนนั่งอยู่ในร้านน้ำชา “มาเก๊า (Macao)” สมัยก่อน ถ่ายรูปเก๋กู๊ดดีสุดๆ ร้านนี้ตั้งอยู่ในโรงแรม Lisboeta Macao Hotel ฝั่ง Cotai เราแนะนำให้เล่น GoAirborne Indoor Skydiving Macao เสร็จแล้วมาทานอาหารที่ร้าน Stanley’s Café

อาหารของ Stanley’s Café จะมีความผสมผสานจีนและโปรตุเกส เรียกว่าอาหารแมกานีส แม้แต่ละเมนูจะหน้าตาไม่คุ้นเคย แต่รสชาติคุ้นปาก คนไทยทานได้ อร่อยแปลกใหม่ดี

เมนูแนะนำ

  • วานิลลาสไปซ์ เพิ่งได้ลองเมนูเครื่องดื่มนี้ อร่อยมากจริงๆ
  • ข้าวหน้าหมูกราเตงใส่ชีสด้านบน ซอสมะเขือเทศ
  • ขนมปังบาแก็ตผ่าครึ่งสอดไส้ซาดีน
  • ขนมปังบาแก็ตผ่าครึ่งสอดไส้หมูทอด
  • มาม่าใส่ซุปปลาซาดีน และหมูย่างชิ้นโต
  • ทารต์ไข่สไตล์ “มาเก๊า (Macao)”

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด : https://goo.gl/maps/NrdDMyrDepeEzFKj7

8. teamLab Super Nature Macao

TeamLab Super Nature ที่ “มาเก๊า (Macao)” ตั้งอยู่ในโรงแรมสุดหรู The Venetian Macao เป็นนิทรรศการแสงสีเสียงที่มีชื่อเสียง มีลูกเล่นที่ตื่นตาตื่นใจสุดๆ เลยครับ แสง สี เสียง อย่างกับหลุดไปอีกโลกนึง แต่ละห้องนี่สวยจึ้งมีนั่นนี่ให้ว๊าวตลอด ถ่ายรูปสนุก แค่ใช้มือถือถ่ายก็ยังสวย!! เราสองคนเคยไปดู teamLab Forest ฟุกุโอกะ (Fukuoka)  ประเทศญี่ปุ่น บอกเลยว่าของ “มาเก๊า (Macao)” ก็ไม่แพ้กันเลยครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม

เวลาทำการ : 11:00 – 19:00 น. (เข้ารอบสุดท้าย 18:16 น.)
พิกัด : https://goo.gl/maps/2k1dW8KzRNGUbGE38

สนใจ บัตรเข้าชมนิทรรศการ teamLab SuperNature Macao ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

9. หมู่บ้านชาวประมงสุดคิ้วท์ย่าน Coloane (โคโลอาน)

หมู่บ้านชาวประมงสุดคิ้วท์ริมทะเลย่าน Coloane (โคโลอาน)ที่น่าเดินเล่นเป็นที่สุด บ้านเรือนแต่ละหลังมีขนาดกะทัดรัดทาด้วยสีพาสเทล มีโบสถ์ มีลานกลางเมือง มีศาลเจ้า มีร้านน้ำพุ มี street art มีห้องสมุด มีร้านอาหาร และคาเฟ่หน้าตาน่ารักๆ กระจายตัวอยู่ตามตรอกซอกซอยรัศมีพื้นที่ 8 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น ให้เราเดินแวะถ่ายรูปเล่น

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด : https://goo.gl/maps/vcCTdeudHurLBDU16

10. Lord Stow’s Bakery (Coloane) 安德魯餅店 (路環)

ย่าน Coloane (โคโลอาน) ที่สำคัญยังเป็นต้นกำเนิดร้านทาร์ตไข่โปรตุเกสเจ้าแรกใน “มาเก๊า (Macao)” ชื่อ “Lord Stow’s Bakery”  ซึ่งเป็นทาร์ตไข่ชื่อดังอันดับต้นๆ   ในหมู่บ้านชาวประมงจะมีร้าน Lord Stow’s Bakery จำนวน 2 สาขานะ สาขาแรกเป็นสาขาที่เก่าแก่ที่สุดสร้างขึ้นในปี 1989 จะเน้นให้ซื้อกลับบ้านหรือไม่ก็ยืนกินกันหน้าร้าน คิวจะยาวทั้งวัน

ส่วนใครขี้เกียจรอคิวให้ไปสาขา 2 ใกล้ๆกัน สาขานี้จะเป็นร้านแบบคาเฟ่เล็กๆ แบบมีที่นั่งกิน ขายทั้งอาหาร ขนม เครื่องดื่มต่างๆ รองรับได้ประมาณ 15 คน แนะนำให้ไปวันธรรมดายังพอมีที่นั่งบ้าง ถ้าไปวันเสาร์-อาทิตย์คนแน่นมากๆ

ทาร์ตไข่ (ชิ้นละ 11 MOP ประมาณ 50 บาท): ตัวแป้งกรอบเป็นชั้นๆ หอมเนย  สอดไส้ด้วยไข่เนื้อแน่นนุ่มๆ หวานน้อย แนะนำให้ทานตอนร้อนๆ ซื้อปุ๊ป ทานเลย ยิ่งทานที่ร้านจะยิ่งอร่อยขึ้น ฟินมากๆ  นอกจากนี้ยังมีทาร์ตเลมอน และเสาวรส (Lemon, Lime & Passion Fruit Tart) และ Kouign Amann (ชิ้นละ 16 MOP  72 บาท)  อร่อยไม่แพ้กัน

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด : https://goo.gl/maps/MgNm9ZuFbLktr1zh7

11. ชิมอาหารซีฟู้ดสดๆ ย่าน Coloane (โคโลอาน)

นอกจากมีทาร์ตไข่เจ้าแรกที่อร่อยประทับใจแล้วที่หมู่บ้านชาวประมงย่าน Coloane (โคโลอาน) ที่นี่ยังมีอาหารจีนที่อร่อยถูกปากคนไทย แนะนำร้านอาหารจีนชื่อ Ng Tim (งาติม) ถ้าคุณอยากไปสัมผัสรสชาติอาหารจีนท่ามกลางบรรยากาศสไตล์โปรตุเกสให้มาร้านนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจที่มีเฉพาะหมู่บ้านนี้เท่านั้น

เมนูอาหารแนะนำ

  • ห่านย่างหนังกรอบหอมไฟย่าง เนื้อเนียนแน่น รสเค็มเบาๆ
  • หอยลายตัวโตผัดกับไวน์ขาว เนื้อหอยลายแน่น อาจจะเหนียวหนึบหนับนิดๆ
  • กุ้งสดวางบนหินร้อนภูเขาไฟแช่ไวน์แดงเพื่อนำมาดับกลิ่นคาว หรือเพิ่มความสดชื่นให้อาหาร นี่คือเมนูไฮไลต์ของร้าน
  • หมูกรอบออกเค็มนำเสิร์ฟคู่กับน้ำตาล พอจิ้มแล้วทำให้รสชาติกำลังพอดีเลย
  • ข้าวผัดหยินหยาง เปรี้ยว หวาน
  • ปูชุบแป้งทอดเหลืองกรอบ เป็นเมนูทานเล่นเพลินๆ
  • ปลาทอดกรอบเป็นเส้นๆ ทอดมาไม่อมน้ำมัน เคี้ยวเพลินมาก
  • ปลาหมึกชุบแป้งทอด
  • ผัดผักบล็อกโคลี่ได้กรุบกรอบ รสกำลังทานเปล่าๆ ทำให้ทานผักได้เรื่อยๆ
  • เส้นหมี่ทอดจนสีเหลืองทองกรอบๆ กับน้ำราดหน้าข้นหอมพริกไทยดำ

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด : https://goo.gl/maps/VmudtsMztokXskPm7

12. Taipa Food Street (ไทปาฟู้ดสตรีทและอาร์ตสตรีท)

เป็นถนนสั้นๆ บนเกาะไทปาที่ทำให้เราได้สัมผัสเสน่ห์ของบรรยากาศหมู่บ้านเก่าแก่ที่ถูกอนุรักษ์ไว้ตั้งแต่สมัยที่สร้างในยุคโปรตุเกส แถวนี้จะมีร้านค้าขายของมากกว่า 30 ร้าน ทั้งขนม, อาหาร, เนื้อย่าง, ไอศกรีมรสต่างๆ, หมูหวาน-หมูแผ่น, ของฝากของที่ระลึก และยังมีพายไข่ Lord’s Staw Bakery เจ้าแรกของ “มาเก๊า (Macao)” ที่คนต่อคิวกันยาวมาก  เดินไป ชิมไปก็อิ่มแล้ว สุดถนนเส้นนี้บริเวณบันได ด้านบนจะมีคาเฟ่ที่สามารถนั่งบน Rooftop รับอากาศดีๆ และมี Street Art เก๋ๆ สีพาสเทลน่ารักเยอะมาก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสีสันของถนนเส้นนี้เลยหล่ะ

หมายเหตุ : ถ้าเราออกมาอีกฝั่งตลอด เดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามก็จะมีขายชานมร้านดัง Sei Kee Café since 1965 รสหวานน้อย  เข้มข้นอร่อยๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด : https://goo.gl/maps/UWyLCigG5KPt4XabA

13. La Famiglia

ไหนๆ มาเดินเล่นแถว Taipa Food Street แนะนำมามาทานอาหารที่ร้าน La Famiglia ร้านนี้ถือว่าเป็นร้านดังของ “มาเก๊า (Macao)”  ไฮไลต์ร้าน La Famiglia จะเป็น “อาหารแมกานีส (Macanese)” อาหารท้องถิ่นของ “มาเก๊า (Macao)” ซึ่งเป็นอาหารฟิวชั่นที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างอาหารโปรตุเกสและอาหารจีน ในยุคอดีตที่คนโปรตุเกสล่องเรือจะมีการนำวัตถุดิบจากแอฟริกา, อินเดีย, มะละกา เมนูอาหารจึงถูกถ่ายทอดผสมผสาน และวัตถุดิบต่างๆ ของ “มาเก๊า (Macao)” จนกลายเป็นอาหารที่มีเอกลักษณ์ มีความหลากหลาย และมีความโดดเด่นเฉพาะตัวจนได้รับการยกย่องจากยูเนสโก ให้ “มาเก๊า (Macao)” เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของโลก (Creative City of Gastronomy) โดยมีเชฟดังของมาเก๊า Chef Florita Alves เป็นเจ้าของร้าน

จากที่เชฟเล่าให้ฟังส่วนใหญ่ “อาหารแมกานีส (Macanese)” จะมีการทำที่พิถีพิถันใช้เวลานาน และใช้วัตถุดิบเยอะเหมือนอาหารรสมือแม่ที่ทำทานเองในบ้าน (Home cook) บางทีอาจจะไม่เจอสูตรในอินเตอร์เน็ต วัตถุดิบหลักที่ใช้จะมีมะพร้าว ผงกะหรี่ เครื่องเทศที่กลิ่นไม่ได้หนักเท่าของอินเดีย อาหารที่มีความมันๆ เช่น ขนมปังหน้าหมู หรือหมูพะโล้จะมีการหมักนาน 3-5 ชั่วโมงเพื่อให้เนื้อเปื่อย และอร่อย

เมนูอาหารแนะนำ

  • อาหารจานแรกที่เสิร์ฟแบบ Appetizer หน้าตาเหมือนของทอดหลายเมนู ทอดได้ดีมากแบบไม่อมน้ำมันเลย มีทั้งมันบดทอดคล้าย Croquette, เนื้อบดทอดกลิ่นเนื้อหอมๆ, กะหรี่ปั๊บรสชาติผงกะหรี่ อ่อนๆ ไม่ได้เข้มข้นมาก, ซาลาเปาทอดสอดไส้กะหรี่หมู รสชาติเข้มข้นเหมือนกะหรี่ปั๊ปไป
  • หมูผัดแห้งๆ แบบไม่ใส่กระเพราทานคู่กับมันฝรั่งทอดหั่นเต๋า และโปะด้วยไข่ดาว
  • ผัดกุ้งผงกระหรี่ทานคู่กับข้าว กลิ่นผงกะหรี่ขึ้นจมูก กุ้งแกะเปลือกพร้อมทาน เมนูนี้มีความคล้ายกับอาหารบ้านเรา ทานง่าย
  • ไก่แอฟริกัน มีความไก่สะเต๊ะ รสของกะหรี่ไม่เยอะมาก ไก่นุ่มมีกลิ่นมะพร้าวหน่อยๆ
  • Pork Loaf หมูม้วนๆ ฟีลแหนมหมู
  • โบโลโบนี่โน่
  • เบอรูมมานี่โน่ เค้กท้องถิ่นของแมงกานีส
  • ขนมไข่ใส่มะพร้าว
  • หม้อแกง เบบิงกัตเตอเลเตอร์

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/6WbV56xSjaT7mmF16

14. A-Ma Temple 妈阁庙 (วัดอาม่า)

อยากเดินทางปลอดภัย ร่ำรวยเงินทองประสบสำเร็จในหน้าที่การงานต้องมาวัดนี้ครับ สมัยก่อนที่ “มาเก๊า (Macao)” สัญจรด้วยเรือ จึงเป็นที่นับถือของคน “มาเก๊า (Macao)” ที่ต้องเดินทางเพื่อการค้าขาย

วัดนี้คนไทยจะรู้จักในชื่อศาลเจ้าแม่ทับทิมเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของ “มาเก๊า (Macao)” ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1488 ก่อนที่จะมีเมือง “มาเก๊า (Macao)” ภายในวัดจะมีศาลเจ้าแม่อาม่าที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้เพื่อให้เดินทางปลอดภัย แคล้วคลาดจากภัยและอุปสรรคต่างๆ แล้ว

ด้านหน้าจะมีก้อนหินขนาดใหญ่ที่เชื่อกันว่าเป็นที่เจ้าแม่อาม่าเหยียบลงเป็นก้าวแรก ซึ่งปัจจุบันได้มีการแกะสลักรูปเรือสำเภาไว้ ซึ่งทางไกด์แนะนำให้ อธิษฐานขอพรจากอาม่าโดยให้ใช้แบงค์ลูบจากท้ายเรือมาด้านหัวเรือแล้วพับเก็บใส่กระเป๋าเพื่อเป็นสิริมงคล เชื่อว่าจะทำให้เดินทางราบรื่นปลอดภัย ร่ำรวยเงินทอง เฮงๆปังๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด :  https://goo.gl/maps/xFkurRWLWbX4vjGr7

15. ร้านอาหารโปรตุเกส Miramar (美麗華餐廳)

มาเที่ยว “มาเก๊า (Macao)” ทั้งที ควรไปหาโอกาสไปชิมอาหารสไตล์โปรตุเกสแท้ๆ ถือว่าเป็นวัฒนธรรมที่อยู่คู่กับคน “มาเก๊า (Macao)” มามากกว่า 400 ปีดูบ้าง แนะนำเชิญที่ร้าน Miramar ริมชายทะเลหาดฮักซา (หาดทรายสีดำของมาเก๊า) ร้านนี้ถือว่าเป็นร้านดังต้องจองล่วงหน้า!! ถ้าเดิน walk in มาอย่าหวังจะไม่ได้กิน รสชาติอาหารสไตล์โปรตุเกสโดยรวมถูกปากคนไทยทานง่าย หลายเมนูเรารู้สึกคุ้นเคยเพราะมีประวัติศาสตร์ร่วมกันบรรยากาศของร้านเป็นสไตล์ครอบครัว พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส  ดูแลดี

เมนูอาหารแนะนำ

  • สลัดปลาหมึกอาหารเรียกน้ำย่อย (ซาลาโดดู๊โปฟวู)
  • มันฝรั่งบดชุบแป้งทอด ทอดมีความแห้งหน่อยๆ
  • ไส้กรอกรวมมิตรโปรตุเกส (อาเยด้า)
  • ไส้กรอกหมูเค็ม ใส่กับชีส ขนมปัง
  • ไส้กรอกแป้งขนมปัง หมู เกลือเล็กน้อย เครื่องเทศ
  • หอยนางรมหอยอบซอสครีมสไตล์โปรตุเกส ทานคู่กับขนมปังจิ้มซอส เมนูนี้เด็ดมาก อร่อยมาก
  • มันฝรั่งบดอบ (บาคาร่านัทตัว)
  • ตบท้ายด้วยเหล้าย่อยอาหาร และของหวาน

ข้อมูลเพิ่มเติม

เวลาทำการ : 11:00 – 22:00 น. (ปิดวันอังคาร) ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์ปิดเวลา 23:00 น.
พิกัด :  https://goo.gl/maps/MrnxmuCtcVhHFqzb8

16. Former Iec Long Firecracker Factory Walkway  (เอี๊ยกลอง)

ที่นี่เคยเป็นโรงงานพลุและทำประทัดที่ใหญ่ที่สุดถือว่าเป็นอาชีพเก่าแก่ของคน “มาเก๊า (Macao)” ในอดีตมากกว่าหลายร้อยปี โรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองแล้วเกิดการไฟไหม้หลายครั้งจนถูกปิดถาวร ต่อมาพื้นที่บริเวณนี้ได้พัฒนาให้เป็นพิพิธภัณฑ์พลุ มีวีดีโอเพื่อให้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตพลุ ภายในเป็นสวนสาธารณะพักผ่อนหย่อนใจขนาดใหญ่ มีโกดังเก่าที่มีต้นไม้ปกคลุมหลายหลัง มีสระน้ำตรงกลางที่ทำทางเดินเชื่อมยาว 400 เมตร เพื่อให้ผู้คนท้องถิ่นได้มาฟอกปอดใจสูดอากาศบริสุทธิ์ ชอบที่มีการปลูกต้นไม้เขียวๆ ร่มรื่นมาก มีลมพัดเย็นสบาย มองไปรอบๆ แล้วชื่นตาชื่นใจ เย็นตาสบายใจ

ข้อมูลเพิ่มเติม

เวลาทำการ : 09:00 – 19:00 น.
พิกัด : https://goo.gl/maps/Ze9a8y9GYmyH2e1n9

17. Macao Grand Prix Museum (พิพิธภัณฑ์รถแข่งกรังปรีซ์มาเก๊า)

เคยอยากไปเห็นรถที่ใช้แข่งจริงๆ ไหม? พิพิธภัณฑ์กรังปรีซ์เป็นพิพิธภัณฑ์การแข่งรถใน “มาเก๊า (Macao)” ภายในมีโชว์รถมอเตอร์ไซค์ และรถแข่งรุ่นต่างๆ ที่เคยใช้ลงแข่งของนักแข่งรถจริงๆ เป็นประจำที่ “มาเก๊า (Macao)” ทุกปลายปี

พิพิธภัณฑ์รถแข่งกรังปรีซ์ เปิดครั้งแรกในปี 1993 เพื่อเฉลิมฉลองการแข่งรถกรังปรีซ์ครบ 40 ปี ภายในพิพิธภัณฑ์นั้นมีการรวบรวมเอารถแข่งรุ่นต่างๆมาจัดแสดงโชว์เอาไว้ ซึ่งจะได้เป็นถึงการเปลี่ยนแปลงของรถแข่งในแต่ละช่วงเวลา มีการพัฒนาระบบต่างๆขึ้นเรื่อยๆ รถที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ Formula 1 เป็นเหมือนรถในตำนานที่เมื่อถึงรถแข่งก็จะต้องนึกถึงรถรุ่นนี้ นอกจากรถแข่งแล้วก็ยังมีทั้งรูปภาพ, วิดีโอ, ถ้วยรางวัล และของสะสมต่างๆเกี่ยวกับงาน Grand Pix ที่ได้นำมารวบรวมเอาไว้ที่พิพิธภัณฑ์รถแข่งกรังปรีซ์แห่งนี้

ข้อมูลจาก : https://www.talontiew.com/Macao-grand-prix-museum/

ในการฉลองครบรอบ 50 ปีของ “มาเก๊า (Macao)” กรังปรีซ์ สำนักงานการท่องเที่ยวของรัฐบาล “มาเก๊า (Macao)” ได้ตกแต่งและปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น

ข้อมูลเพิ่มเติม

เวลาทำการ : 10:00 – 18:00 น. (ปิดวันอังคาร)
Website : https://mgpm.macaotourism.gov.mo/en/
พิกัด :  https://maps.app.goo.gl/RssuVRVTP29k6VeB9

เที่ยว 6 โรงแรมสุดอลังการเว่อร์วังใน “มาเก๊า (Macao)”

ย่านโคไท (Cotai)  คือโซนใหม่ที่เกิดจากการถมทะเลเชื่อมระหว่างเกาะโคโลอาน (Coloane) และเกาะไทปา(Taipa) จนเป็นที่มาของชื่อ Co(loane)-Tai(pa) เป็นที่ตั้งของโรงแรมคาสิโนหรูหราขนาดใหญ่ ออกแบบได้เวอร์วังอลังการสไตล์ยุโรปเต็มไปหมดเลย

เดินเล่นย่านโคไท (Cotai)  ฟีลเหมือนไปเที่ยวยุโรปหลายประเทศได้ใน 1 วัน บาง เช้าไปเดินเล่นที่หอบิกเบนในลอนดอน บ่ายขึ้นหอไอเฟลที่ฝรั่งเศส ช่วงเย็นวาร์ปไปล่องเรือนั่งเรือกอนโดล่าที่อิตาลี แนะนำให้มาเดินเล่นแถวนี้ช่วงบ่ายแล้วอยู่ยาวจนถึงช่วงกลางคืนจะมีประดับไฟ แสง สี เสียง แบบจัดเต็มๆ ถ่ายรูปกันเมมเต็มแน่นอน

18. The Londoner Macao

The Londoner Macao โรงแรมใหม่ล่าสุดที่สร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจของประวัติศาสตร์ของอังกฤษ พร้อมมุมถ่ายรูป IG ที่สุดฮิต พื้นที่ภายในโรงแรมใหญ่โตมากประกอบไปด้วย 5 โรงแรมหรูที่สามารถเดินถึงกันได้ทั้ง The Londoner Hotel, Londoner Court, Conrad Macao, The St. Regis Macao และ Sheraton Grand Macao

จุดเด่นของโรงแรม The Londoner Macao นี้อยู่ที่ดีไซน์ภายนอกที่เหมือนว่าพาเราไปอังกฤษเลยทีเดียว มีการจำลองทั้งพระราชวัง Westminster, หอนาฬิกาบิกเบน เป็นหอนาฬิกาประจำพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ และสถานีรถไฟใต้ดินของอังกฤษด้านหน้าโรงแรมที่เป็นมุมฮิต IG Shot,รถบัสลอนดอน 2 ชั้น, รถแท็กซี่ลอนดอน (London taxi) รวมถึงอพาร์ทเม้นท์หมายเลข 10 ซึ่งเป็นที่พำนักของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ใครที่อยากเที่ยวเก๋ๆ ได้ฟีลเหมือนวาร์ปไปอังกฤษ มาเที่ยวโรงแรม The Londoner Macao รับรองได้ครบทุกไฮไลท์ของอังกฤษเลย

ข้อมูลเพิ่มเติม

Website : https://www.londonermacao.com/
พิกัด : https://goo.gl/maps/tJgzV5dkWzMdJyCVA

จองโรงแรมในจีน มาเก๊า ผ่าน Trip.com ได้ที่พักชัวร์! ที่พักเยอะ หลายสไตล์ เลือกได้ตามใจ 🏨

สนใจจองโรงแรม The Londoner Macao ผ่าน Trip.com ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

19. The Parisian Macao

ถ้าใครวันลาไม่พอเที่ยวปารีส มาที่ The Parisian Macao มาแกล้งๆ ขึ้นหอไอเฟลที่ Parisian Macao Eiffel Tower หอคอยแห่งนี้มีความสูงครึ่งหนึ่งของขนาดหอไอเฟลในกรุงปารีส เริ่มแรกจะขึ้นมาชั้น 7 จากนั้นจะต้องต่อลิฟท์พาไปจุดชมวิว Observation Deck ที่ชั้น 37 (ค่าขึ้นลิฟท์ไปจุดชมวิวราคา 75 MOP) ด้านบนจุดชมวิวจะเห็นวิวมุมกว้าง 360 องศาของเมืองเขตโคไท (Cotai) ทะเล และโรงแรมสวยๆ รอบด้านฟีลเหมือนอยู่ยุโรปจริงๆ

ด้านในบริเวณล็อบบี้ของโรงแรม The Parisian Macao จะมี “เทศกาลดอกทิวลิปยักษ์” เป็นอีกมุมที่ถ่ายรูปออกมาสวย ด้านบนเพดานจะเป็นภาพจิตรกรรมวาดโดยจิตรกรจีนที่สวยเว่อร์วังมาก

ข้อมูลเพิ่มเติม

Website : https://www.parisianmacao.com/Macao-hotel/attractions/eiffel-tower.html
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/sVK6ixvdWZZL3kVX9

สนใจจองโรงแรม The Parisian Macao ผ่าน Trip.com คลิกที่นี่

สนใจ บัตรเข้าชมหอไอเฟลมาเก๊า (Macau Eiffel Tower) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

20. The Venetian Macao (เดอะเวเนเชี่ยนมาเก๊า)

วาร์ปล่องเรือกอนโดร่าที่ The Venetian Macao ก่อนไปจริงที่ Venice ที่อิตาลี ซึ่งเราไปล่องเรือที่โซนด้านนอกซึ่งเพิ่งเปิดใหม่ล่าสุด มีความโรแมนติก อลังการเว่อร์วังมากกกกกก!!!

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด : https://goo.gl/maps/LFYzZHQny8X9abbs7

สนใจจองโรงแรม The Venetian Macao ผ่าน Trip.com คลิกที่นี่

สนใจ กิจกรรมล่องเรือกอนโดลาที่เดอะเวเนเชียนมาเก๊า ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

21. Grand Lisboa Palace Resort Macao

แวะไปอัพเดทถ่ายรูปกับมุม IG Shot สวยๆ ที่ Jardim Secreto (Secret garden) สวนเขาวงกตตั้งอยู่ชั้น 3 โรงแรม Grand Lisboa Palace Resort Macao สวนมีพื้นที่สีเขียวร่มรื่น ตกแต่งอย่างสวยงามกว่า 1,000 ตร.ม. ล้อมรอบด้วยอาคารสถาปัตยกรรมยุโรปสไตล์ Baroque

ข้อมูลเพิ่มเติม

เวลาทำการ : 10.00 – 18.00 น.
Website : https://www.grandlisboapalace.com/en
พิกัด : https://goo.gl/maps/QmFFUCxvdNwfvdWL9

สนใจจองโรงแรม Grand Lisboa Palace Resort Macao ผ่าน Trip.com คลิกที่นี่

22. Wynn Palace : นั่งกระเช้าลอยฟ้าไปทานบุฟเฟ่ต์นานาชาติ

ไฮไลต์ของห้องอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ Fontana Restaurant ของโรงแรม Wynn Palace คือ การนั่งกระเช้ามังกรลอยฟ้าเข้าสู่โรงแรม ที่หน้าโรงแรมมีสระน้ำพุเริงระบำขนาดยักษ์ เป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวแสงสีเสียงตระการตาจัดเต็มไม่แพ้โรงแรม MGM ที่ลาสเวกัส (Las Vegas) เลยทีเดียว วิวตอนที่อยู่ด้านหน้าโรงแรมก็ว่าตื่นตาตื่นใจแล้ว วิวจากบนกระเช้ายิ่งตื่นเต้น ระทึกใจมากขึ้นไปอีกอยากให้มาลองขึ้นกระเช้าชมวิวน้ำพุกันครับ

จากนั้นมื้อเย็นเราไปทานบุฟเฟ่ต์นานาชาติที่ห้องอาหาร Fontana Restaurant บรรยากาศตกแต่งได้สวยงามแกรนด์มาก ระหว่างทางมาห้องอาหารชวนใจเบาหวิวๆเพราะเต็มไปด้วยช็อปแบรนด์เนมเต็มไปหมดเลยไม่ว่าจะเป็น Hermes, Gucci, Louis Vuitton, Chanel, Tiffany & Co, Versace, Van Cleef & Arpels  ฯลฯ ต้องทำใจแข็งขนาดไหนที่จะเดินมาถึงห้องอาหารได้ แถมการตกแต่งในโรงแรมก็สวยอลังการ มีสวนดอกไม้สีสันสดใส และสวนบอลลูนดอกไม้ชวนให้ตื่นตาตื่นใจมาก ใช้คู่สีสดใสชวนว๊าววว!!

บุฟเฟ่ต์นานาชาติที่ห้องอาหาร Fontana Restaurant อาหารหลากหลาย ไฮไลต์ของห้องอาหารนี้ คือ ซีฟู้ดแน่นๆ ทั้งปูอลาสก้า ล็อปสเตอร์ กุ้ง  ซูชิ ซาชิมิ ฮามอง หมูแดงดีมาก หมูกรอบ ติ๋มซำ บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง เป็ดย่าง หอยนางรม และมี Hot Plate ให้เลือกเยอะ เช่น หมูเปรี้ยวหวาน ปลานึ่ง แต่ที่ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด คือ เบเกอรี่ดีงามทุกรายการ ทาร์ตไข่โปรตุเกสก็ดี ไอศครีมก็เลิศ สุ่มหยิบมากินก็อร่อยทุกตัวนะ ผลไม้ก็มีจ้า

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด : https://goo.gl/maps/ydTjYSrUhHcrXjTX9

สนใจจองโรงแรม Wynn Palace ผ่าน Trip.com คลิกที่นี่

23. SW Steakhouse 永利扒房

SW Steakhouse ตั้งอยู่ในโรงแรม Wynn Palace นี่คือร้านอาหารสุดหรูได้รับแรงบันดาลใจจาก SW Steakhouse ที่ได้รับรางวัลในลาสเวกัส ไฮไลต์ คือ เราจะได้ทานอาหารสุดอร่อยแบบ Fine Dinging พร้อมกับตื่นตาตื่นใจกับโชว์กลางห้อง ในทุกๆ 30 นาที ซึ่งแต่ละโชว์ก็ลุ้นว่าจะได้เห็นอะไร ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ตื่นเต้น และสนุกมาก

SW Steakhouse เป็นร้านอาหารสุดหรูเสิร์ฟเนื้อวัวชั้นดีนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น จากอเมริกาที่ได้รับการรับรองจาก USDA, เนื้อวากิวญี่ปุ่นที่ผ่านการรับรอง และเนื้อ Australian Rangers Valley Black Market รวมถึงอาหารทะเลสดเนื้อฉ่ำๆ จากทะเลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น  กุ้งล็อบสเตอร์สดไซส์ใหญ่ Maine Lobster,  ขาปูอลาสก้าแบบเนื้อแน่นๆ หวานฉ่ำมาก, กุ้งตัวโตจัมโบ้เนื้อหวานราดน้ำจิ้มซีฟู้ดแล้วดีมาก, หอยนางรมตัวโตสดๆ ตัวแน่น ตัวโต หวานอร่อยมาก และหอยเชลล์

นอกจากนี้ไฮไลต์ยังมี King Crab Tart โปะด้านบนด้วยไข่ปลาคาเวียร์ที่ช่วยเพิ่มรสเค็มและมันนิดๆ ยิ่งทำให้รสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้น และยังมีค็อกเทลหน้าตาดี ให้จิบเพลินๆ ด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด : https://goo.gl/maps/qVfxZqq5bns67u6P7
Website : https://www.wynnpalace.com/en/restaurants-n-bars/fine-dining/sw-steakhouse

24. MGM Cotai

MGM COTAI คือหนึ่งในโรงแรมที่เป็นโฉมหน้าแห่ง “มาเก๊า (Macao)” ยุคใหม่ ตัวโรงแรมออกแบบให้เป็นกล่องเครื่องประดับวางซ้อนกันอยู่ ที่นี่มีห้องพัก (รวมห้องสวีท) ราวๆ 1,400 ห้อง มีสถานที่จัดประชุม มีสปาระดับ 5 ดาว มีร้านอาหารและร้านค้าแบรนด์เนมอยู่มากมาย นอกจากนี้ยังเปิดพื้นที่ให้จัดแสดงงานศิลป์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวและชาวมาเก๊า ได้เข้ามาเยี่ยมชมได้อย่างอิสระอีกด้วย

ไฮไลท์ของ MGM Cotai นั้นอยู่ตรง Lobby ส่วนกลางของโรงแรมครับ เค้าออกแบบให้เหมือนโลกใต้น้ำ เพดานเป็นช่องกระจกเปิดให้แสงส่องลงมา แถมยังมีโชว์พิเศษอีกด้วยนะ

ชมโชว์ Sea Odyssey ฟรี  

นี่คือไฮไลต์ของโรงแรม MGM Cotai ภายในล้อบบี้ตกแต่งสวย กว้างขวาง และโอ่โถงมากที่สุด “มาเก๊า (Macao)” ฟีลเหมือนเดินอยู่ใน Art Gallery หรือ Art Museum ในทุกวันจะมีโชว์ฟรีของน้องโลมา 3 ตัวแหวกว่ายอวดโฉมความงามใต้ท้องทะเลอยู่กลางอากาศบริเวณล้อบบี้ โชว์จะมีวันละ 4 รอบ เวลา 13:00 ,15:00 ,17:00 และ 19:00 น. เป็นอีกหนึ่งจุดขาย และสีสันของโรงแรม ดูเพลินมาก

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด : https://goo.gl/maps/VdHivSDZVHNC6d3X9

สนใจจองโรงแรม MGM Cotai ผ่าน Trip.com คลิกที่นี่

ชมนิทรรศการฟรี Fondant Art Exhibition

นี่คือนิทรรศการฟรีที่แนะนำอยากให้เข้าไปชมสักครั้ง Fondant Art Exhibition ตั้งอยู่ชั้น 1 ในโรงแรม MGM Cotai รูปปั้นสวยมาก และงานดีมากกก!!  ทั้งหมดนี้คือผลงานของศิลปินจีนชื่อ Zhou Yi มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ นำมาสร้างสรรค์การผสมผสานแป้งโดว์กับศิลปะฟองดอง และใช้เทคนิคทางศิลปะมาปั้นตุ๊กตาจีนทั้งการระบายสี การพ่นสี และการแกะสลัก เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของจีนทั้งวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียบ ชีวิตความเป็นอยู่ของคนจีนผ่านชิ้นงานศิลปะ เช่น พิธีการแต่งงาน, พิธีการสู่ขอเจ้าสาว, เทพเจ้าดวงจันทร์, การกินติ๋มซำ ผลงานแต่ละชิ้นมีความละเอียดประณีตเสมือนจริงทั้งสีหน้า ท่าทาง สิ่งของ ลมพัดปลิวทำให้เส้นผมและเสื้อผ้าพลิ้วไหวมากๆ  

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด : https://goo.gl/maps/VdHivSDZVHNC6d3X9

25. The Rocks Hotel 萊斯酒店

ทริปนี้เราพัก โรงแรมร็อคส์ (Rocks Hotel) 萊斯酒店 เป็นโรงแรมที่รีโนเวทใหม่สไตล์วิคตอเรียน ศตวรรษที่ 18 อยู่ริมอ่าวมาเก๊า ตัวโรงแรมอยู่ในพื้นที่ของ Macao Fisherman’s Wharf ใกล้กับท่าเรือเฟอร์รี่มาเก๊า (ห่างจากสนามบิน 15 นาที)

เรามานอนอยู่นี่ 3 คืน หลับสบายเว่อร์ๆ ใครอยากสัมผัสบรรยากาศแบบ Victorian ศตวรรษที่ 18 เราเชียร์ให้มาพักที่นี่ครับ โถงบันไดอลังการมาก, ภาพเขียนผนังสวย, chandelier ห้อยระย้าอลังการงานสร้าง ถ่ายพรีเวดดิ้งก็เริ่ด!! ถ้าจะถ่ายตรงนี้ให้แกรนด์ ต้องมีชุดราตรียาวถึงจะคู่ควรกัน เสียดายรอบนี้มากับ Fam Trip เลยไม่ค่อยได้อยู่โรงแรม เลยเก็บภาพมาฝากได้นิดหน่อย

  • ภายในห้องพักตกแต่งสวยงาม เน้นโทนสีครีมให้มีความลักชู เรียบหรูดูแพง และให้ความสำคัญกับดีเทลวินเทจต่างๆ ได้ดีมากทั้งกรอบรูป โคมไฟ กระจก เตียงนอน โต๊ะทำงาน และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันทั้งตู้เสื้อผ้า, กระติกน้ำร้อนพร้อมชุดชา-กาแฟ, ชุดคลุมอาบน้ำ, ที่ชั่งน้ำหนัก, ตู้เซฟ, ทีวี และอื่นๆ
  • ไฮไลต์ของห้องพัก คือ ที่ระเบียงห้อง มองเห็นวิวอ่าวมาเก๊าได้เลย และห้องน้ำกว้างที่มีทั้งอ่างแช่น้ำทำระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นดีมาก น้ำไหลแรง ห้องอาบน้ำ ผ้าขนหนูและผ้าเช็ดตัวนุ่ม ส่วน Hotel Amenities ในห้องน้ำเป็นของ L’occitane

พิกัด : https://goo.gl/maps/SZymtj7Tc4nByMnQ8

สนใจจองโรงแรม Rocks Hotel ผ่าน Trip.com คลิกที่นี่