ถ้าตลอดเวลาที่ผ่านมา “เกาหลีใต้ (South Korea)” ที่คุณรู้จักมีแค่ “โซล (Seoul)” กับ “ปูซาน (Busan)” บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ “คังวอน (Gangwon)” จังหวัดที่โดดเด่นเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติทั้งภูเขาและทะเล มีที่เที่ยวทางวัฒนธรรม มีแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ มีสกีรีสอร์ต มีคาสิโน มีงานเทศกาล และมีพิกัดเที่ยวตามรอยซีรีส์และ K-Pop อีกหลายแห่ง

ที่สำคัญคือเที่ยวง่ายแถมค่าครองชีพถูกกว่า “โซล (Seoul)”!!! ใครอยากรู้จัก “เกาหลีใต้ (South Korea)” ในมุมที่ต่างไปจากเดิม เราขอชวนคุณมาเที่ยว “คังวอน (Gangwon)” ด้วยกันในบทความนี้เลยครับผม!!

ทำความรู้จัก “คังวอน (Gangwon)” กันสักนิด

“คังวอนโด (Gangwon-do) หรือ จังหวัดคองวอน (Gangwon Province)” เป็นจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมของคนเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ “จังหวัดคยองกี (Gyeonggi)” ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “กรุงโซล (Seoul)”

“คังวอน (Gangwon)” เป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ พื้นที่ 4 ใน 5 เป็นภูเขาและป่าไม้ มีฝั่งตะวันออกของจังหวัดติดกับทะเลญี่ปุ่น ด้วยภูมิประเทศนี้ทำให้ “คังวอน (Gangwon)” มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติทั้งภูเขาและทะเล ไม่ว่าจะเป็นอุทยานแห่งชาติชื่อดังอย่าง *ซอรัคซาน (Seoraksan) และ *โอแดซาน (Odaesan) หรือจะเป็นเมืองริมทะเลอย่าง คังนึง (Gangneung), ซกโช (Sokcho), ดงแฮ (Donghae) และว็อนจู (Wonju)
หมายเหตุ : *อุทยานแห่งชาติทั้งสองแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแทแบก

เป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่สามารถเที่ยวได้ตลอดปี ช่วงฤดูร้อน – ฤดูใบไม้ร่วง ก็เหมาะจะขึ้นเขาชมธรรมชาติ หรือพักผ่อนริมทะเล ส่วนช่วงฤดูหนาวก็มีสกีรีสอร์ตดังๆ หลายแห่งไว้บริการ นอกจากนี้ยังมีตลาดโบราณ มีคาเฟ่ มีแลนด์มาร์ค และสถานที่ท่องเที่ยวตามรอยซีรีส์และ K-Pop อีกหลายแห่ง

ไม่ว่าคุณจะชอบเที่ยวธรรมชาติ ชอบสำรวจเมือง ชอบคาเฟ่ ชอบกิน หรือชอบประวัติศาสตร์ เราว่า “คังวอน (Gangwon)” ตอบโจทย์ได้ครบหมด ใครที่อยากรู้จัก “เกาหลีใต้ (South Korea)” ในมุมใหม่ๆ ที่มากกว่า “โซล (Seoul)” ลองมาเที่ยว “คังวอน (Gangwon)” ดูสักทริปครับ รับรองไม่ผิดหวัง!!

บินตรงสู่โซลกับ AirAsiaX

ทริปนี้ปูเป้และพี่ต้นบินตรงสู่โซล (Seoul) ด้วยสายการบิน “แอร์เอเชีย เอ็กซ์ (AirAsiaX)” จากสนามบินสุวรรณภูมิ (BKK) – สนามบินอินชอน (ICN) ประเทศเกาหลีใต้ ใช้เวลาบินตรงแค่ 5.30 ชม. ไฟล์ทเวลาบินดี ออกดึก ถึงเช้าแล้วเที่ยวต่อได้เลยจ้า

สำหรับ “แอร์เอเชียเอ็กซ์ (AirAsiaX)” แม้จะเป็น Low-cost airlines แต่ตารางบินดี เซฟเวลาเที่ยวได้มาก ที่สำคัญคือ “ตรงเวลา” ดีสุดๆ ซึ่งล่าสุดเดือนมิถุนายน 2566 แอร์เอเชีย และแอร์เอเชีย เอ็กซ์ คว้าแชมป์ “รางวัลสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในเอเชีย ปี 2566” ซึ่งประกาศรางวัลสายการบินยอดเยี่ยมประจำปีโดย AirlineRatings.com

เวลาจองตั๋ว แนะนำให้เลือก “แพ็คสุดคุ้ม” คุณจะได้ทั้ง

  • น้ำหนักโหลดกระเป๋า 20 กก.
  • เลือกที่นั่งติดกัน
  • มีอาหารร้อนๆ เสิร์ฟระหว่างบิน (อร่อยด้วย)

#ไปเกาหลีไปกับแอร์เอเชียเอ็กซ์ จองตั๋วเครื่องบิน : www.airasia.com

ลงทะเบียน K-ETA ก่อนไปเกาหลีใต้

ต้องรู้!!! คนไทยจำเป็นต้องขอ K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization) ก่อนเข้าประเทศเกาหลีใต้ คือ การลงทะเบียนกรอกข้อมูลส่วนตัวออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.k-eta.go.kr หรือผ่านแอปพลิเคชัน K-ETA เพื่อเป็นการสกรีนเบื้องต้นก่อนเข้าประเทศเกาหลีใต้แบบไม่ต้องขอวีซ่า ด้วยบ้านเรามีคนหนีไปเป็นผีน้อย (ลักลอบเข้าไปทำงานในเกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมาย) กันเยอะมากกกกก

เอกสารที่ใช้ในการลงทะเบียน K-ETA คือ

  1. หนังสือเดินทางที่ยังมีมากกว่า 6 เดือนก่อนหมดอายุ และมีการถ่ายรูปหน้าหนังสือเดินทางลงในระบบด้วย
  2. ข้อมูลโรงแรม หรือที่พักในเกาหลีแบบชัดเจน
  3. รูปถ่ายหน้าตรงชัดเจน (เราสองคนเซลฟี่หน้าตัวเองแบบชัดๆ ก็ผ่าน)
  4. ค่าธรรมเนียมประมาณ 10,000 วอน ตัดเงินผ่านบัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิต

หลังจากลงทะเบียน K-ETA

  • ตรวจสอบผลการลงทะเบียน K-ETA ผ่านทาง Email ภายใน 24 ชั่วโมง (กรณีปูเป้และพี่ต้นได้รับผล Approved ทาง Emaiil ประมาณ 15 นาที รวดเร็วทันใจมากๆ)
  • K-ETA จะมีอายุเวลาการใช้ 3 ปี สำหรับคนที่ลงทะเบียนใหม่หลังวันที่ 3 ก.ค. 2023 เวลาเกาหลี 0:00 น. (คนที่ลงทะเบียน K-ETA ก่อนวันที่ 3 ก.ค. 2566 จะใช้มีอายุใช้ได้ 2 ปี) สามารถอาศัยในเกาหลีใต้ครั้งละไม่เกิน 90 วัน เข้าออกไปไม่จำกัดจำนวนครั้ง
  • เมื่อเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้ก็ไม่ต้องกรอกบัตรตรวจคนเข้าเมืองแล้ว กรณีจะไปเที่ยวเกาหลีใต้ครั้งต่อไป ต้องอัพเดทข้อมูลในส่วนที่พัก หรือโรงแรมเพิ่มเติม

อัพเดทล่าสุด!!! มีผลบังคับใช้วันที่ 3 ก.ค. 2023 : ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปี และอายุ 65 ปีขึ้นไป ไม่ต้องลงทะเบียน K-ETA ก่อนเดินทางเข้าเกาหลีแล้ว

หมายเหตุ : การได้รับ K-ETA แล้วมีโอกาสที่ทาง ตม. เกาหลีไม่อนุญาตให้ผ่านด่านเข้าเมืองจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ด้วย

จะไปเที่ยวเกาหลีใต้ มีบัตร T-Money หรือยัง?

พกบัตร T-money ไว้ การเดินทางในเกาหลีใต้จะสะดวกและง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องพกเงินสด ไม่ต้องเก็บเหรียญให้หนักกระเป๋า บัตร T-money (รับที่เกาหลีและไทย) สามารถซื้อผ่าน Klook ได้สะดวกรวดเร็ว วันไปรับบัตรใช้แค่ QR cord ก็ได้รับ T-money แล้วครับผม

บัตร T-Money เป็นบัตรแทนเงินสดที่ใช้ได้ทั้งรถไฟใต้ดิน รถบัส รวมไปถึงร้านสะดวกซื้อ เวลาชำระเงินก็แค่สแกนผ่านเครื่องรับเงิน เช็คยอดเงินเหลือในบัตรและเติมเงินได้ที่ร้านสะดวกซื้อ หรือตู้เติมเงินในสถานีรถไฟใต้ดิน

  • สนใจซื้อ บัตร T-money (รับที่เกาหลี และไทย) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
  • สนใจซื้อ ซิมการ์ดเน็ตไม่จำกัด และบัตร T-money ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
  • สนใจซื้อ รับซิมการ์ดที่ไทย ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

กิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจในคังวอนโด

  • สนใจซื้อ บัตรเข้าชมเกาะนามิ (Nami Island) คลิกที่นี่
  • สนใจซื้อ ทัวร์ K-Pop ที่คังวอนโด 1 วันแบบส่วนตัวจากโซล คลิกที่นี่
  • สนใจซื้อ บริการรถบัสรับส่งไป-กลับโซลและเกาะนามิ คลิกที่นี่
  • สนใจซื้อ ทัวร์แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในคังนึงจากโซล คลิกที่นี่

ฤดูหนาว (เดินทางจากโซล)

  • สนใจซื้อ ทัวร์เกาะนามิ, หมู่บ้านฝรั่งเศส และวีวัลดีพาร์คสกีเวิลด์ คลิกที่นี่
  • สนใจซื้อ ทัวร์เกาะนามิและเล่นสกีที่เอลิเซียน คังชอน สกีรีสอร์ต คลิกที่นี่
  • สนใจซื้อ ทัวร์อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน / เกาะนามิ / อัลปาก้าเวิลด์ / Garden of Morning Calm คลิกที่นี่
  • สนใจซื้อ ทัวร์หุบเขาน้ำแข็งออบบิ, เกาะนามิ, Garden of Morning Calm, เรลไบค์ และหมู่บ้านฝรั่งเศส คลิกที่นี่

ฤดูใบไม้ผลิ ซากุระ

  • สนใจซื้อ ทัวร์ตามล่าสถานที่ชมดอกซากุระจากโซล/ปูซาน คลิกที่นี่

การเดินทางไปคังวอน (How to get to Gangwon-do)

การเดินทางไปเที่ยวยังเมืองต่างๆ ใน จังหวัดคังวอน (Gangwon-do) นั้นทำได้หลายวิธีครับ ทั้งเช่ารถขับ นั่งรถบัส และรถไฟ หากต้องการประหยัดเวลา (และไม่อยากเช่ารถขับ) แนะนำให้นั่งรถบัสยาวๆ จาก “สนามบินอินชอน (ICN)” ไปยัง “เมืองชุนชอน” (เมืองหลักของจังหวัดคังวอน) เลยครับ ใช้เวลาแค่ราวๆ 2 ชั่วโมงครึ่ง

จากนั้นคุณสามารถเช่ารถ หรือจะใช้บริการ Travel Taxi ท้องถิ่น เพื่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวในแต่ละเมืองได้เลย ส่วนใหญ่ Travel Taxi จะมีโปรแกรมเที่ยวแนะนำให้อยู่แล้ว การท่องเที่ยวในจังหวัดคังวอน (Gangwon-do) จึงไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด

Train To Gangwon : นั่งรถไฟไปคังวอน

กรณีที่คุณไม่อยากนั่งรถบัส คุณสามารถใช้บริการรถไฟไปยัง “เมืองชุนชอน” (เมืองหลักของจังหวัดคังวอน) ได้เช่นกัน โดยจาก “สนามบินอินชอน (ICN)” ให้นั่งรถบัสไปลงที่ป้าย Dongbu Ichondong (ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) จากนั้นเดินไปที่สถานีรถไฟอินชอน (Ichon Station) เพื่อต่อรถไฟ ITX Chuncheon Yongsan ไปลงสถานี Namchuncheon Station ใช้เวลาอีกประมาณ 1.10 ชม.

ซึ่งตั๋วรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งระหว่างเมืองนั้นสามารถจองล่วงหน้าได้ครับ เราลองเทียบราคาแล้วการซื้อ บัตรโดยสารรถไฟ Korea Rail Pass (KR Pass) ผ่าน Klook ราคาดีกว่าซื้อที่หน้าเคาน์เตอร์ พอซื้อแล้วจะได้รับ Voucher จาก Klook ทันที จากนั้นสามารถนำเลขของ Voucher ไปจองที่นั่งล่วงหน้าได้เลย เวลาเดินทางจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องรอบรถไฟที่ต้องการ ไม่ต้องลุ้นว่าจะมีที่นั่งไหม กรณีนี้วางแผนไว้ดีกว่าไปลุยเอาดาบหน้านะ

บัตรโดยสารรถไฟ Korea Rail Pass (KR Pass), Flexible แบบ 2 วัน ตั๋วรถไฟแบบใช้ได้ 2 วันขาไประบุวันที่เดินทาง ส่วนขากลับสามารถยืดหยุ่นเปลี่ยนวันที่กลับได้

  • เหมาะกับการเดินทางไป-กลับ 2 เมือง คือ ใช้วันไป 1 ครั้ง และใช้วันกลับอีก 1 ครั้งครับ
  • สำหรับวันกลับต้องใช้ภายใน 10 วันหลังจากเปิดใช้งานวันแรก
  • กรณีที่อยากจะไปเที่ยวหลายเมืองในเกาหลี แนะนำให้ซื้อบัตรโดยสาร Korea Rail Pass (KR Pass) แบบ Saver 4 วัน จะคุ้มกว่ามาก

วันเดินทางขึ้นรถไฟให้ปริ้นท์ “เอกสารใบจองรถไฟ KORAIL Train Ticket ฉบับจริง” มายื่นกับเจ้าหน้าที่ด้วยนะครับ (เอกสารใบนี้มาจากการนำเลข Voucher ที่ระบุในใบจองของ Klook ไปจองที่นั่ง และรอบเวลารถไฟออนไลน์ผ่านเว็บไซต์รถไฟเกาหลี KORAIL)

สนใจซื้อ บัตรโดยสารรถไฟ Korea Rail Pass (KR Pass) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

จากสนามบินอินชอน (Incheon Airport) เข้าโซล (Seoul) ยังไง?

  1. รถไฟความเร็วสูง AREX หรือ AREX Incheon Airport Express Train
    จากสนามบินอินชอน (Incheon International Airport) นั่งรถไฟความเร็วสูง AREX Incheon Airport Express Train ไปลงสถานีปลายทางที่ Seoul station จอดจุดเดียวจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 43 นาที ที่นั่งของ AREX เป็นแบบระบุที่นั่ง ได้นั่งยาวๆ ต่อเดียว ไม่ต้องกังวลเรื่องกระเป๋าหายระหว่างทางเพราะทุกคนลงพร้อมกัน เป็นการเดินทางเข้าโซลที่สะดวกสบายครับ
  2. K-Limousine รถบัสลีมูซีนจากสนามบินอินชอน (ICN) เข้าโซล
    รถบัส Limousine วิ่งจากสนามบินอินชอนเข้าโซล รถบัสวิ่งและจอดตามจุดต่างๆ ทั่วโซล (ทั้งทงแดมุน/ นัมซาน, กังนัม/COEX, Jamsil/สถานีขนส่ง East Seoul, ศาลาว่าการกรุงโซล) รถบัสที่นั่งกว้างขวางสบาย ซื้อเสร็จแล้วแคปหน้าจอใช้งานได้เลย ไม่ต้องไปรับบัตรที่เคาน์เตอร์ ไม่ต้องยกกระเป๋าเอง ราคาดีกว่าซื้อด้านหน้า สะดวกสบายมากครับ
  3. บริการรถรับส่งไป-กลับที่สนามบินและโรงแรม
    ถ้าทริปไหนเดินทางแล้วมีกระเป๋าหลายใบ ไปหลายคนแล้วอยากนั่งสบายๆ ต่อเดียวถึง เราสองคนจะใช้ บริการรับส่งสนามบินพร้อมคนขับให้รถไปส่งที่โรงแรม หรือวันเดินทางกลับให้รถไปรับโรงแรมแล้วไปส่งที่สนามบินอินชอนเลย สะดวกสุดๆ (กรณีเที่ยวบินเกิด Delay ก็ไม่ต้องกังวลเพราะพนักงานขับรถจะรอให้บริการคุณอยู่ที่สนามบินครับ)
  • สนใจซื้อ บัตรรถไฟความเร็วสูง AREX (จากสนามบินอินชอนเข้าโซล) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
  • สนใจซื้อ บัตรรถบัสลีมูซีนไป-กลับระหว่างสนามบินอินชอน (ICN) และโซล (จากสนามบินอินชอนเข้าโซล) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
  • สนใจซื้อ บริการรถรับ-ส่งที่สนามบินพร้อมคนขับ ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

รวม 20 พิกัด ที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก ในจังหวัดคังวอน

สำหรับทริปนี้จะเป็นการเที่ยว “จังหวัดคังวอน (Gangwon-do)” ฉบับรวบรัด เน้นที่เที่ยวไฮไลต์ของ 5 เมืองในจังหวัดคังวอน ซึ่งประกอบไปด้วย

  • ชุนชอน (Chuncheon : 춘천시)
  • จองชอน (Jeongseon : 정선군)
  • ซัมชอก (Samcheok : 삼척시)
  • คังนึง (Gangneung : 강릉)
  • ทงเฮ (Donghae : 동해)

จุดประสงค์คือเพื่อให้ทุกคนได้รู้เห็นภาพรวมว่า “จังหวัดคังวอน (Gangwon-do)” มีพิกัดน่าเที่ยวอะไร ยังไงบ้าง ซึ่งถ้าใครอยากเที่ยวตามรอยพิกัดเหล่านี้ ควรวางแผนทริปไว้สัก 4-6 วันครับ (ถ้าเช่ารถขับน่าจะใช้เวลา 4 วัน แต่ถ้าใช้บริการขนส่งสาธารณะ น่าจะใช้เวลาสัก 6 วัน)

ที่เที่ยวในเมือง “ชุนชอน (Chuncheon : 춘천시)”
เมืองหลวงของจังหวัดคังวอน (Gangwon-do)

1. พายเรือคิงแคนูล่องทะเลสาบเอียมโฮ ที่ชุนชอน มุลเลกิล (Chuncheon Mulle-gil)

ชุนชอน มุลเลกิล (Chuncheon Mulle-Gil, 물레길(춘천)) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแม่น้ำฮัน เป็นสถานที่สำหรับพายเรือเที่ยวชมทัศนียภาพของ “ทะเลสาบเอียมโฮ (Uiamho)” ทะเลสาบที่เกิดจากการกั้น “เขื่อนอุยอัม (Ui-am Dam)” บรรยากาศรอบทะเลสาบนั้นโอบล้อมด้วยขุนเขา ทัศนียภาพที่สวยงาม และอากาศบริสุทธิ์

เอกลักษณ์นึงของทะเลสาบเอียมโฮ คือ จะมีทุ่งกกสวยๆ อยู่ตามเกาะแก่งในทะเลสาบ แถมเรายังสามารถตั้งแคมป์บนเกาะแก่งเหล่านั้นได้อีกด้วย ที่นี่นับเป็นหนึ่งในสถานที่ทำกิจกรรมทางน้ำและจุด Camping ยอดนิยมของเกาหลีใต้เลยทีเดียว

สำหรับคนที่อยากมาลองพายเรือชมทะเลสาบ ให้มาติดต่อที่ท่าเช่าเรือบริเวณ “Mulle-gil (물레길)” ครับ ตรงนี้จะเป็นจุดเช่าเรือที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง โดยเค้าจะมีเรือ “คิงแคนู (King Canoe)” ซึ่งเป็นเรือแคนูไม้ขนาดใหญ่ที่จุคนได้มากถึง 12 คน พร้อมไม้พายและเสื้อชูชีพ

ก่อนออกเรือ เจ้าหน้าที่จะสอนการใส่ชูชีพและสาธิตวิธีการพายเรือ จากนั้นจึงทำหน้าที่คัดท้าย พาทุกคนออกจากชายฝั่ง เพื่อชมทัศนียภาพของ “ทะเลสาบเอียมโฮ (Uiamho)” พร้อมทำหน้าที่ entertain ลูกเรือ (ทั้งร้องเพลง ชวนคุย และแนะนำเส้นทาง) ไปตลอดทั้งทริป เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ปูเป้บอกสั้นๆ ว่า “รื่นเริงดีสุดๆ”

ศูนย์กีฬาทางน้ำ ประจำ Mulle-gil
เรือคิงแคนู ลำใหญ่ บาล๊านซ์ดี ไม่โคลงเคลง

กิจกรรมทางเลือก

  1. ถ้าไม่อยากนั่งเรือแคนูแต่อยากชมวิวสวยๆ ก็สามารถเลือกที่จะนั่งเคเบิ้ลคาร์ข้ามทะเลสาบขึ้นภูเขาชมวิวมุมสูงที่ Chuncheon Samaksan Mountain Lake Cable Car (춘천 삼악산 호수케이블카) ด้านบนจะเห็นวิวกว้างแบบพาโนราม่าครบทั้งวิวภูเขา ทะเลสาบ และวิวเมือง
  2. นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมี Uiamho Lake Skywalk (의암호 스카이워크) เป็นทางเดิน Skywalk มียาวเป็นอันดับ 2 ของเมืองชุนชอน (Chuncheon) ให้เราได้เดินเล่ารับลม ชมวิวธรรมชาติรอบทะเลสาบแบบเพลินๆ ได้ด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม

เวลาทำการ : วันธรรมดา 09:00 – 17:00 น. / วันหยุด 08:00 – 18:00 น.
ค่าบริการ :  Basic Canoe 2 คน : 30,000 KRW/canoe (เวลา 45 นาที) และ Twin Canoe 4 คน : 50,000 KRW/ canoe (เวลา 45 นาที) ราคานี้รวมค่าบริการเสื้อชูชีพและการสอนเรื่องความปลอดภัยก่อนลงเรือราวๆ 10 นาที
การเดินทาง : จากสถานี Chuncheon / NamChuncheon Station หรือ Chuncheon Intercity Bus Terminal ให้นั่งแท็กซี่ มาลงที่ Songam Sports Town (송암스포츠타운) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาที
พิกัด : https://naver.me/FT0qVXhw

2. LEGOLAND Korea Resort

อุ๊ย!! ฟังชื่อ LEGOLAND แล้วอย่าเพิ่งทำหน้าแบบนั้น ตราบใดที่ความเป็นเด็กยังคงอยู่ในตัวคุณ LEGOLAND จะยังคงเป็นสรวงสวรรค์ของเราเสมอ โดยเฉพาะอดีตวัยรุ่นยุค 90’s ยุคที่ไม่มีทั้งโทรศัพท์มือถือ และอินเตอร์เน็ต การมีอยู่ของตัวต่อ LEGO คือจุดเริ่มต้นแห่งพัฒนาการด้านความคิดสร้างสรรค์ของเด็กๆ ยุคนั้นเลยทีเดียว!! (รวมถึงตัวเราด้วย)

เมื่อเวลาผ่านไปสู่ยุคอินเตอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย ความนิยมในตัวต่อ LEGO อาจลดลงไปบ้าง แต่เชื่อไหมว่าที่เกาหลีใต้ นอกจากเค้าจะสร้าง LEGOLAND Korea Resort ให้เป็นสวนสนุกของเด็กๆ (และครอบครัว) แล้ว LEGOLAND แห่งนี้ยังเป็นสถานที่เดตสุดโรแมนติกของคนเกาหลียุคใหม่อีกด้วย!! โอ้ว… น่าสนใจขึ้นมาแล้วสิ!!

LEGOLAND Korea Resort นับเป็น LEGOLAND ลำดับที่ 10 ของโลก ตั้งอยู่ที่เมืองชุนชอน (Chuncheon) จังหวัดคังวอน (Gangwon) พื้นที่ด้านในแบ่งออกเป็น 7 โซน 7 ธีม พร้อมเครื่องเล่นมากกว่า 40 ชนิด ที่พร้อมจะดึงดูดให้เหล่าผู้มาเยี่ยมชมค่อยๆ อิน ค่อยๆ ตกหลุมรัก LEGOLAND จนถอนตัวไม่ขึ้น (^__^)

ยิ่งถ้าคุณเป็นคนยุค 80’s – 90’s ยิ่งคุณใช้เวลาใน LEGOLAND มากเท่าไหร่ ความทรงจำในวัยเด็กจะยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนพาคุณย้อนกลับไปเป็นเจ้าหนูคนเดิมคนนั้นอีกครั้ง หรือถ้าคุณเป็นคู่รักในจังหวะเริ่มออกเดต ความคิวท์ ความคุมธีมของ LEGOLAND จะช่วยละลายพฤติกรรมระหว่างกัน จนกลายเป็นความทรงจำหวานๆ ในที่สุด!!

  • สนใจซื้อ บัตรเข้า LEGOLAND Korea Resort ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
  • สนใจซื้อ บริการรถรับ-ส่งแบบไปกลับโซล และ LEGOLAND ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

แนะนำที่พักใน LEGOLAND Korea Resort

ถ้าอารมณ์คุณไม่จบก็แวะมาเป็นแขกของ LEGOLAND Korea Resort ซะเลย ที่นี่เป็นโรงแรมธีมตัวต่อเลโก้ ดีไซน์ได้น่ารักถูกใจคนเลิฟเลโก้ และคนชอบถ่ายรูป มีห้องพักจำนวน 154 ห้อง รวม 4 ธีมทั้ง Kingdom, Lego Ninja, Pirate และ Lego Friends และอีกสารพัดธีมแล้วแต่ว่า LEGOLAND สาขานั้นๆ จะอินน์กับเลโก้ธีมอะไร

ทำไมป้ายตรงนี้เขียนว่า LEGOLAND HOTEL เนี่ย!!?

การตกแต่งของโรงแรม LEGOLAND Korea Resort เป็นธีมตัวต่อเลโก้ตั้งแต่ล้อบบี้มีเลโก้ให้เด็กต่อเล่น, มี Kiosk ให้เช็คอินเอง (แต่ก็มีเคาน์เตอร์ที่มีพนักงานรับเช็คอินด้วย), มีตู้โชว์ตุ๊กตาเลโก้ในเครื่องแบบชุดต่างๆ, ห้องอาหารสีพาสเทล, ลิฟท์ดิสโก้เปิดเพลง และมีไฟวิ๊บวั๊บ พอขึ้นลิฟท์ก็อยากเต้นตามเลย  

เราสองคนชอบ “ห้องพัก” มากเป็นพิเศษ เราได้ห้องพักชั้น 4 ธีม Kingdom อัศวินปราบมังกร ทุกห้องบนชั้น 4 จะถูกโคฟให้เป็นห้องของเหล่าอัศวิน ในห้องพักแบ่งเป็นเตียงนอนใหญ่ Double Bed และ Buck Bed จำนวน 3 เตียง ห้องพักตกแต่งได้น่ารักมากขนาดเราสองคนโตแล้วยังอินน์กับการออกแบบที่นี่เลย

ภายในห้องพักมีหน้าต่างบานกว้างให้ได้เห็นวิวด้านนอก มีชุดเก้าอี้รับแขก โต๊ะอเนกประสงค์ เครื่องฟอกอากาศ บริเวณผนังห้องพัก และพรมปูพื้นมีลวดลายต่างๆ เช่น ดาบ บันได โล่ห์ กุญแจ และกำแพงเมืองเพื่อให้เข้ากับธีมห้อง และยังมีตัวต่อเลโก้แอบซ่อนตามมุมต่างๆ ของห้องทั้งรูปหางมังกร ตัวมังกร นกฮูก หอยทาก กบ และอื่นๆ พร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันทั้งเครื่องชงกาแฟแคปซูล, ตู้เซฟ, รองเท้า Slipper, Bathrobe, Hotel Amenity จะเป็นเซ็ทกล่องกระดาษ ที่พิเศษจะมีแปรงสีฟันสำหรับเด็ก สำหรับห้องน้ำที่มีการแบ่งโซนแห้ง โซนเปียก และอ่างอาบน้ำ

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด : https://naver.me/GiHVw1gb
Website : www.legoland.kr

จองที่พักออนไลน์

จองออนไลน์ผ่าน Booking.com คุณจะได้ดีลราคาพิเศษในทุกการจอง ได้สิทธิประโยชน์ในฐานะสมาชิก Booking.com

สนใจจองห้องพักที่ Legoland Korea Resort คลิกที่นี่

ที่เที่ยวในเมือง “จองชอน (Jeongseon : 정선군)”

เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีพลเมืองอยู่แค่ราวๆ 35,000 คน เป็นต้นกำเนิดของ “Jeongseon Arirang” เพลงพื้นบ้านของเกาหลีใต้ และเป็นบ้านเกิดของ “วอน บิน” นักแสดงสุดหล่อขวัญใจสาวๆ

3. Jeongseon Arrirang Center

ในเมื่อมาถึงเมือง “จองชอน (Jeongseon)” ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของ “จองชอน อารีรัง (Jeongseon Arirang)” หนึ่งในเพลงพื้นบ้านอันโด่งดังของเกาหลีใต้ เราจึงได้โอกาสมาไขปริศนากันสักทีว่าคำว่า “อารีรัง” นั้นแปลว่าอะไร? และสถานที่เดียวที่จะช่วยตอบคำถามนี้ได้ ก็ต้องที่ Jeongseon Arrirang Center นี่ละครับ

“Jeongseon Arrirang Center” ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ “มูลนิธิวัฒนธรรมชองซอนอารีรัง (Jeongseon Arrirang Foundation)” เป็นศูนย์ที่ตั้งขึ้นมาเพื่ออนุรักษ์ สืบสาน และส่งต่อวัฒนธรรมเพลงอารีรัง ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของเกาหลีให้คงอยู่สืบไป

ภายในศูนย์จึงมีการเรียน-การสอน วิธีร้องเพลงอารีรังในเวอร์ชั่นต่างๆ (เพลงอารีรังนี่มี 3,600 เวอร์ชั่นเลยนะคุณ) มีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ รวมถึงมีโรงละครไว้จัดคอนเสิร์ตและการแสดงทางวัฒนธรรมด้วย

เราสองคนได้มีโอกาสหัดร้องเพลงอารีรังไปกับนักร้องของทางศูนย์ด้วย บรรยากาศในการเรียนสนุกครื้นเครงมาก แต่พอได้เข้าใจว่าเพลงอารีรัง (Arrirang) มีความหมายถึงอะไร ก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์ไปกับเค้าด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่เราสองคนได้ยินบทเพลงพื้นบ้านของเกาหลีแบบนี้ นักร้องพลังเสียงดี กังวาน น่าประทับใจมากๆ

อารีรัง แปลว่าอะไร?

หลังจากสงสัยมานานเกี่ยวกับ “เพลงอารีรัง” เราเลย Research ข้อมูลเพิ่มเติมมาฝากเพื่อนๆ ดังนี้ครับ

ศัพท์ “อารีรัง” ในปัจจุบันมีความหมายกำกวม แต่นักภาษาศาสตร์บางส่วนตั้งสันนิษฐานว่า “อารี” (아리) หมายถึง “สวยงาม” และ “รัง” (랑) สื่อถึง “ผู้เป็นที่รัก” หรือ “เจ้าบ่าว” ในภาษาเกาหลีโบราณ เมื่อนำสองคำมารวมกัน คำว่าอารีรังจึงมีความหมายว่า “ผู้เป็นที่รักของฉัน”

เพลงอารีรังถือกำเนิดมาไม่ต่ำกว่า 600 ปี ว่ากันว่ามีเวอร์ชั่นต่างๆ มากถึง 3,600 เวอร์ชั่น เนื้อหาของเพลงมักจะเกี่ยวกับความเศร้าโศกที่ต้องจากลาจากคนรัก โดยอาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับสงครามหรือประวัติศาสตร์แฝงอยู่ เช่นเดียวกับ “จองชอน อารีรัง” ซึ่งเป็นเพลงที่ถ่ายทอดความรู้สึกและวิถีชีวิตของชาวเมืองจองชอน เนื้อหาแม้จะเศร้าแต่ก็แฝงด้วยความเข้มแข็งในการต่อสู้ชีวิต

”เพลงอารีรังของเกาหลีใต้” ได้รับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก (UNESCO Intangible Cultural Heritage of Humanity) ในปัจจุบันเพลงนี้มีการร้องทั้งในเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ เป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีของประเทศที่แบ่งแยกกันตั้งแต่สงครามเกาหลี และยังมีเทศกาล Jeongseon Arirang Festival ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเดือนตุลาคมเพื่อสืบทอดรักษามรดกทางภูมิปัญญาการร้องเพลงอารีรังต่อไป

Ararichon Folk Village (아라리촌)

หลังจากที่เรียนร้องเพลงอารีรังแล้วก็แวะมาถ่ายรูปสวยๆ ในห้องนิทรรศการ จากนั้นก็ออกมานอกอาคาร Arirang Centre เพื่อเดินชม Ararichon Folk Village (아라리촌) เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งล้อมรอบไปด้วยภูเขา และแม่น้ำ ภายในมีต้นไม้เขียวๆ เยอะ ร่มรื่นมาก ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีต้องสวยสุดๆ

ข้อมูลอ้างอิงจาก : https://www.jeongseon.go.kr/en/tourist_attractions/experience_shopping/ararichon

ระหว่างทางเดินเราจะเห็นการจำลองวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนเกาหลีในสมัยโบราณ ที่อยู่อาศัยสมัยราชวงศ์โชซอนทั้งบ้านเรือน ข้าวของเครื่องใช้ และรูปปั้น ภายในหมู่บ้านจะมีจำลองโครงสร้างบ้าน 6 หลังที่แตกต่างกัน เช่น บ้านหลังคากระเบื้องแบบดั้งเดิม บ้านหลังคาเปลือกไม้โอ๊ค, บ้านหลังคาเดี่ยว, บ้าน Jeorip house, บ้านหิน, บ้านไม้ซุง และโรงเตี๊ยม ศูนย์การค้า ฯลฯ และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น กังหันน้ำและโรงสีน้ำ หินโม่ พื้นที่เครื่องมือการเกษตร โรงสี และอื่นๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด : https://naver.me/FJHiM7Je

4. ร้านอาหาร San Masil  (산마실 식당)

หลายคนอาจรู้จักอาหารเกาหลีเมนูดังๆ อย่าง คิมบับ บิบิมบับ ต็อกบกกิ หรือแม้แต่รามยอน แต่เมื่อมาถึงเมืองจองซอน (Jeongseon) จังหวัดคังวอน (Gangwon) แล้ว เราอยากแนะนำเมนูพื้นเมืองให้คุณรู้จัก เมนูนี้มีชื่อว่า Jeongseon Gondre Rice (정선 곤드레밥) หรือ “กนเดร” เป็นข้าวยำเพื่อสุขภาพ ประกอบด้วย ผัก เห็ด ฟักทอง เสิร์ฟมาในหม้อหินร้อนๆ พร้อมเครื่องเคียงและกับข้าว

เวลาทานจะแบ่งส่วนนึงใส่ถ้วย ราดน้ำซอส แล้วทานคู่กับเครื่องเคียงหรือของทอด ส่วนข้าวอึกครึ่งที่เหลือในหม้อหิน ก็ให้เทน้ำซุปลงไป แล้วทานเหมือนข้าวต้ม ตัวข้าวจะหอมกลิ่นไหม้นิดๆ เป็นเมนูเพื่อสุขภาพประจำเมืองเลยล่ะ หาทานได้ทั่วไปที่ร้านอาหารพื้นเมืองในเมืองจองชอน หรือจะมาที่ร้าน San Masil (산마실 식당) ก็ได้ครับ

อิ่มแล้วออกมาเดินเล่นหน้าร้านอาหารบนถนน Jeongseon – ro ช่วงที่เราไปฝนตกปรอยๆ หมอกลงนิดๆ ทำให้บรรยากาศสวยไปอีกแบบ

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด : https://naver.me/FfMBc18K

5. Unamjeong Café (운암정 베이커리카페&전통주점)

จิบชาชมวิวในยามฝนพรำ อาจจะดูเหงาๆ แต่ก็ฟีลกู๊ดดดดดนะ

วันนี้เราสองคนมาเรียนชงชาที่คาเฟ่บ้านสไตล์ฮันบกเกาหลีโบราณ (Hanok) คาเฟ่นี้ชื่อว่า “Unamjeong Cafe” ตั้งอยู่เมืองจองซอน (Jeongseon) จังหวัดคังวอน (Gangwon) ในพื้นที่ของโรงแรม High1 Resort  ที่นี่เป็นคาเฟ่และเบเกอรี่สไตล์บ้านขุนนางเกาหลีซึ่งยังคงรักษาความดั้งเดิมเอาไว้ให้คนที่เข้ามาได้สัมผัสกับมรดกทางวัฒนธรรมของเกาหลี โครงสร้างจะเป็นไม้เกือบทั้งหลัง บรรยากาศดี สวย น่าประทับใจมากๆ ที่นี่เค้ามาถ่ายซีรีส์ย้อนยุคกันประจำเลย

ไฮไลต์มุมถ่ายรูปที่เราสองคนชอบมากจะเป็นมุมศาลากลางสวน, ระเบียงนั่งหน้าบ้าน, บ้านฮันอกและสวนสวยๆ, มุมซุ้มประตูวงกลมอยู่ด้านหลังคาเฟ่ มุมนี้สวยมากกกก และภายในคาเฟ่ที่ตกแต่งแบบดั้งเดิม

และที่นี่ยังมีคอร์สสอนชงชาสำหรับคนที่สนใจด้วย ซึ่งจะมีอาจารย์มาสอนเทคนิคการชงชาแบบเกาหลี โดยเริ่มแรกจะใส่น้ำร้อนให้ปริมาณน้ำต่ำกว่ากรวยของกาน้ำ ก่อนเทต้องให้ที่จับฝากาและปลายกรวยเทน้ำตรงกันแล้วค่อยๆ รินชาแก้วซึ่งเราจะทำทีละครั้งโดยให้จิบ 3 ครั้งต่อ 1 แก้ว

การดื่มชาจะเน้นใหรู้ถึงประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ ตาจากการมองเห็นสีของชา, ลิ้นสัมผัสรสชาติชา, หูเสียงจากการเทน้ำร้อนลงแก้วชา, จมูกกลิ่นหอมของชา และผิวหนังที่สัมผัสความอุ่นหรือร้อนของชา ซึ่งจะจิบชาทานคู่กับขนมโบราณเรียกว่ายักวาทำจากข้าวบาร์เลย์ และข้าวเหนียว

ข้อมูลเพิ่มเติม พิกัด : https://naver.me/GEAiPopJ

6. High1 Resort

สกีรีสอร์ทขนาดใหญ่สุดหรู 5 ดาวของจังหวัดคังวอน (Gangwon) ตั้งบนภูเขาที่สูงที่สุดในเกาหลีในเมืองจองซอน (Jeongseon) ท่ามกลางธรรมชาติ ภูเขาป่าไม้พร้อมสิ่งอํานวยความสะดวกครบครัน อยู่ใกล้กับบริเวณอุทยานภูเขาแทแบ็คซาน (Taebaeksan National Park) เหนือระดับน้ำทะเล 1,340 เมตร ฤดูหนาวที่นี่จะเป็นสกีรีสอร์ทพร้อมลานสกี ส่วนฤดูร้อนเป็นสวนน้ำขนาดใหญ่

ภายใน High1 Resort ตกแต่งแบบแกรนด์ หรูหรา วัสดุดี ดีไซน์สวย มีศูนย์รวมความบันเทิงแบบครบครันทั้งโรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า สนามกอล์ฟ สกี นั่งกระเช้าชมวิวบนเขา ห้องอาหาร คาเฟ่ ห้องประชุม เลานจ์ สวนพฤกษศาสตร์ สระว่ายน้ำ-ซาวน่า และเป็นคาสิโนเพียงแห่งเดียวในเกาหลีใต้ที่เปิดให้ชาวเกาหลีเข้าได้

โรงแรมแบ่งเป็นหลายโซนตั้งแต่ตีนเขาไปจนถึงยอดเขาที่เป็นสกีรีสอร์ท

  • ล็อบบี้อยู่ชั้น 5 ห้องพักตกแต่งสไตล์ Western Classic ดูเป็นทางการ แต่ก็อยู่สบาย หน้าต่างกระจกบานกว้างมองเห็นวิวภูเขาแบบเต็มตา สวนน้ำ และสวนดอกไม้ ส่วนเครื่องนอนนั้นจัดว่าดี ที่นอนสบาย มีหมอนให้เลือกหลายแบบ ทั้งหมอนกันนอนกรน หมอนขนเป็ด หมอนแข็ง และหมอนนุ่ม
  • สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องจัดมาให้แบบครบครันทั้งโต๊ะทำงาน ชุดรับแขก ทีวี ตู้เย็น กาต้มน้ำร้อน-ชุดชา ครื่องไดร์เป่าผม ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่พร้อมติดไฟ ปลั๊ก USB รองเท้าสลิปเปอร์ และอื่นๆ
  • ห้องน้ำกว้างแบ่งเป็นโซนแห้ง เปียกได้ดี พร้อมโถสุขภัณฑ์ไฟฟ้า อ่างอาบน้ำ และฝักบัว
  • ห้องอาหารเช้าอยู่ชั้น 4 เปิดตั้งแต่เวลา 07.00-09.30 ตกแต่งได้หรูหราแต่ยังขรึมและมินิมิอล ด้านข้างเป็นกระจกบานข้างทำให้เห็นวิวด้านนอก เพดานสูงทำให้ห้องอาหารดูกว้าง ไม่อึดอัด ไลน์อาหารเป็นแบบบุฟเฟ่ต์นานาชาติ อาหารอร่อย วัตถุดิบดี มีครบแบบจัดเต็มทั้ง ไข่ ไส้กรอก เบคอน แซลมอลรมควัน ขนมปัง แยม สลัด เครื่องดื่ม (นมเปรี้ยว น้ำผลไม้ ชา กาแฟ) และอื่นๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด :   https://naver.me/FIgEMuof

มื้อเย็นที่ High1 Resort Highland (하이원리조트 하이랜드)

เรามาทานอาหารเย็นที่ร้านอาหาร High1 Resort Highland ของโรงแรม High1 Resort ภายในห้องอาหารบรรยากาศดีตกแต่งคลาสิคสวยงาม เพดานสูงโปร่ง ล้อมรอบด้วยกระจกใส วิวด้านนอกเป็นทิวต้นสนสวยงาม เสียดายวันที่เราฝนตกหนักมากเลยไม่ได้ออกไปนั่งชมวิวด้านนอกอาคาร

เมนูแนะนำ

เซตซี่โครงวัวตุ๋นซีอิ๊ว เนื้อวัวเปื่อย นุ่มละลาย รสออกหวานหน่อยๆ เค็มนิดๆ เครื่องเคียงอร่อยครบรส มีทั้งไข่ปลาเมนไทโกะ (เค็มๆ) มีกิมจิ (รสเปรี้ยว) ซุปสาหร่าย (ร้อนๆ) ถั่วธัญพืช และผักคลุกน้ำยำ ทานคู่กับข้าวอร่อยมาก

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด :  https://naver.me/5t4ps8hw

จองที่พักออนไลน์

จองออนไลน์ผ่าน Klook คุณจะได้ดีลราคาพิเศษในทุกการจอง ได้สิทธิประโยชน์ในฐานะสมาชิก Klook

สนใจจองห้องพักที่ High1 Resort ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

ที่เที่ยวในเมือง “ซัมชอก (Samcheok : 삼척시)”

7. Maengbang Beach   

ตามรอยวง BTS มาที่ชายหาดแมงบัง (Maengbang Beach) ในเมืองซัมซอก (Samcheok) ที่นี่นับเป็นอีกจุดถ่ายรูปยอดฮิตของเหล่า ARMY (FC วง BTS) เลยทีเดียว

BTS ไม่ใช่ชื่อย่อของรถไฟฟ้าในกรุงเทพ แต่เป็นชื่อบอยแบนด์ของ 7 หนุ่มมากความสามารถจากเกาหลีใต้ ที่มีผลงานดังไกลระดับโลก และมีเพลงฮิตมากมาย อาทิ Butter และ Permission to dance. นี่คือ Soft power เกาหลีที่ทำให้หาดแมงบังนี้มีชีวิตชีวา ถ้าใครชอบเที่ยวตามรอยซีรีส์ เราอยากให้คุณรู้จักหาดนี้ค่ะ วง BTS เคยมาถ่ายภาพ Jacket Shooting โปรโมทซิงเกิ้ลเเพลง Butter ที่หาดนี้ (คงเคยฟังนะ 😄)

ที่ชายหาดจะมีร่มแดงตัดเขียวสีสันสดใส เก้าอี้ชายหาด สนามบีชวอลเลย์บอล ตู้ไลฟ์การ์ดสีเหลืองสดใส และยังมีประติมากรรมตัวอักษร “BTS” ให้ Army ได้ถ่ายรูปด้วย อีเวนต์นี้ปลุกให้ชายหาดที่เงียบสงบ กลายเป็นที่เที่ยวระดับแม่เหล็กของจังหวัดคังวอน (Gangwon) กันเลยละครับ !!!

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด :   https://naver.me/5OGyvjd9

สนใจซื้อ ทัวร์ K-Pop ที่คังวอนโด 1 วันแบบส่วนตัวจากโซล คลิกที่นี่

8. Gyodong Hot Pot Maeul (강원 삼척시 새천년도로)

เมนูเด็ดของร้าน Gyodong Hot Pot Maeul คือ หม้อไฟบูลโกกิเนื้อเกาหลี  (Bulgogi) น้ำซุปมีความกลมกล่อมอุมามิ อร่อยตะโกนมากกกก!! เป็นหนึ่งในเมนูอาหารเกาหลีที่ถูกใจสายเนื้อแบบเราสองคนเลยหล่ะ

เราจะคลุกเคล้าวัตถุดิบในหม้อไฟด้วยกันทั้งเนื้อหั่นสไลด์บาง ผักต่างๆ  เช่น เห็ดเข็มทอง วุ้นเส้น แครอท เห็ดฟาง หัวหอมใหญ่ และผักพื้นบ้านเข้าด้วยกัน  พอต้มเข้ากันดีแล้วยิ่งทำให้รสชาติของหม้อไฟเกาหลีนี้ละมุนขึ้น หอมขึ้น เนื้อวัวหมักได้ดี ได้ซดน้ำซุปร้อนๆ แล้วชื่นใจ มีเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงต่างๆ เช่น ไข่นกกระทา แป้งทอด กิมจิ ผักต่างๆ  นอกจากนี้ทางร้านยังมีก๋วยเตี๋ยวเนื้อ บะหมี่บัควีทเย็น บะหมี่เห็ด แพนเค้กทะเลปลาหมึก และเมนูอื่นๆ ด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด :  https://naver.me/FjcheXSz
Website : https://kyodongjeongol.modoo.at/

ที่เที่ยวในเมือง “ทงเฮ (Donghae : 동해)”

เมืองทงเฮ  (Donghae) เป็นเมืองชายทะเลชายฝั่งตะวันออกของเมืองคังวอน ถ้ามาโซลสามารถนั่งรถไฟ KTX ไปเมืองทงเฮ (Donghae) ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง

9. Mureung Byeolyucheonji (강원 동해시 삼화로)

ที่นี่ไม่ใช่สวิตเซอร์แลนด์ แต่เป็นเหมืองหินเก่าที่คนเกาหลีมาหาความฟินน์กับกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม แวะมากินไอศกรีมซีเมนต์

นี่คือโรงงานปูนซีเมนต์เก่าที่เมืองทงเฮ (Donghae) ได้มีการพัฒนาพื้นที่ทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่เพิ่งเปิดได้ 2 ปี ด้วยทรัพยากรที่มีจึงเน้นความใกล้ชิดธรรมชาติที่สวยงาม เนินเขาที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี ดอกไม้ ล้อมรอบทะเลสาบ Cheonggokho Lake และ Geumokho Lake สีฟ้าเขียว โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาสูง

ที่นี่มีเครื่องเล่นกลางแจ้งสนุกๆ เช่น Sky Glider, Luge, Sky Zipline และรถไฟเหาะ ทำให้การมาเที่ยวตื่นเต้น สนุกสนาน ด้านในมีพิพิธภัณฑ์ซีเมนต์ในการทำโรงปูนให้ได้เดินสำรวจ และนิทรรศการศิลปะภาพวาดและประติมากรรมได้ชมกันอีก  ภายในมีบริการรถรับส่งฟรีไปเที่ยวตามจุดต่างๆ และมีจุดถ่ายรูปสวยๆ อีกหลายจุด เช่น Spirit of Mureung, Giant’s Rest, incision Cliff และทุ่งดอกลาเวนเดอร์สีม่วง เสียดายที่เวลาเราจำกัดเลยไม่ได้ไปเก็บอีกหลายที่

ปูเป้เล่น Sky Glider เครื่องร่อนที่เหมือนนกบินอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งจริงๆ แล้วจะมีเส้นสลิงแขวนเครื่อง Sky Glider ที่ความสูง 125 เมตร และมีความยาว 777 เมตร ตอนบินอยู่บนฟ้าจะมีลมพัดเย็นสบายปะทะ ค่อยๆ ลอยสูงขึ้นเกือบจะสูงเท่าภูเขาอีกลูกเลย เลยเสียวนิดๆ ขาสั่นหน่อยๆ วิวด้านบนจะเห็นแลนด์สเคปสวยพร้อมทะเลสาบจากมุมสูง

ก่อนเล่นทางเจ้าหน้าที่จะให้ใส่ชุดหมีจะมีตัวล็อคด้านหลังแล้วจะเอาตัวเราแขวนกับสลิงด้านบน ส่วนขาก็เอาพาดไว้ด้านหลัง เจ้าหน้าที่จะเข้มงวด ดูแลดี มีความปลอดภัย รอบหนึ่งจะเล่นพร้อมกัน 4 คนเลยทำให้ไม่ค่อยน่ากลัวแบบที่คิดเป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นที่ได้ลองแล้วสนุกดี

Observatory café

คาเฟ่อยู่บนชั้น 4 แนะนำให้มาลอง “ไอศกรีมซีเมนต์ Cement ice-cream” ทำเป็นกิมมิคได้น่ารักมาก จริงๆ ไม่ได้ทำมาจากปูนซีเมนต์นะ ไอศกรีมทำมาจากงาดำ หวานน้อย อร่อยชื่นใจ ทีเด็ดสุดจะเป็นมีมาร์ชเมลโล่ที่นำมาเบิร์นไฟด้านบนไอศกรีม ส่วนช้อนเป็นเหมือนพลั่วผสมปูน ทานไปชมวิวสวยๆ ไปทำให้ไอศกรีมถ้วยนี้อร่อยขึ้นเยอะเลย  ราคาถ้วยละ 6,500 วอน

ข้อมูลเพิ่มเติม

เวลาทำการ : วันอังคาร-อาทิตย์ 10.00 -17.30 น. หยุดวันจันทร์
ราคา :  30,000 วอน/1 ครั้ง และ 55,000 วอน/2 ครั้ง (คนเล่นต้องมีความสูงเกิน 130 ซม. และน้ำหนักไม่เกิน 100 กก.)
พิกัด :  https://naver.me/xcJv82xW

10. Cheongok Spicy Seafood Soup (천곡해물탕)

มื้อเย็นเรามาทานอาหารเกาหลีชื่อว่า “แฮมุลจิม (Hae mool jim : 해물찜)” เมนูนี้เป็นอาหารทะเลสดๆ นำมานึ่งแล้วมาผัดกับเส้น คลุกเคล้ากับซอส ใส่เครื่องแน่นๆ ทั้งปลาหมึกตัวโตมาก หอยนางรม หอยเป๋าฮื้อ หอย ท่อเก็บน้ำอสุจิปลา ถั่วงอกและผักต่างๆ เห็นอาหารสีแดงแบบนี้แต่รสชาติไม่เผ็ด ไม่จัดจ้านนะ!!

ส่วนอีกเมนูหนึ่งจะเรียกว่า “แฮมูลทัง (Haemultang)” ซุปหม้อไฟเกาหลีรวมมิตรซีฟู้ดร้อนๆ ฟีลคล้ายต้มยำทะเลบ้านเรา แต่รสไม่เผ็ดเลยทำให้ไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่ 555

ข้อมูลเพิ่มเติม

เปิดทำการ : เวลา 10:00 – 21:30 น.
พิกัด :  https://naver.me/5Ywd896q

11. Cafe Hyunsangso (카페 현상소)

คาเฟ่เก๋ วินเทจโดดเด่นกลางสวนสวยสีเขียวมีครบทั้งเครื่องดื่ม และขนม เบเกอรี่ดีมากแบบอร่อยว๊าวววว!! ด้านในคาเฟ่ดีไซน์ดีมีกลิ่นอายความยุโรปทั้งการใช้สี การตกแต่ง การใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ ด้านนอกเป็นสวนมีที่นั่งริมระเบียง และโต๊ะบนพื้นสนามหญ้าให้ได้สัมผัสธรรมชาติต้นไม้และความร่มรื่น แต่เสียดายวันที่เราไปถึงคาเฟ่ดึกมาก และคนแน่นร้านเลยเก็บรูปมาได้นิดหน่อย

ข้อมูลเพิ่มเติม

เปิดทำการ : เวลา 10:00 – 21:00 น.
พิกัด :  https://naver.me/xswIlUAy

12. Donghae Medical Spa Convention Hotel
(동해보양온천컨벤션호텔)

โรงแรมขนาดใหญ่ที่ห่างจากชายหาด Mangsang Beach ประมาณ 600 เมตร ภายในมีห้องซาวน่า ห้องนอนขนาดกลางสไตล์คลาสิค เตียงนอนขนาด Double จำนวน 2 เตียงพร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันทั้งทีวี เครื่องเป่าผม โต๊ะเครื่องแป้ง ชุดโต๊ะรับแขกพร้อมเก้าอี้ ตู้เย็น กาน้ำร้อนพร้อมชุดชงชา-กาแฟ พร้อมชั้นวางของที่ใหญ่มาก ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นโซนแห้งและเปียก อาหารเช้าจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ให้เลือกตักเอง มีไข่ แฮม เบคอน ผัดสด มันฝรั่ง ผลไม้ ขนนมปัง แยม เครื่องดื่ม ชา กาแฟ และน้ำผลไม้

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด :  https://naver.me/xOvQoSTv

จองที่พักออนไลน์

จองออนไลน์ผ่าน Booking.com คุณจะได้ดีลราคาพิเศษในทุกการจอง ได้สิทธิประโยชน์ในฐานะสมาชิก Booking.com

สนใจจองห้องพักที่ Donghae Medical Spa Convention Hotel คลิกที่นี่

13. จิมจิลบัง (jimjilbang) ที่ Donghae Mureung Health Forest

นี่เป็นครั้งแรกที่มาโรงอาบน้ำ “จิมจิลบัง” แบบที่ดูในซีรี่ส์เกาหลี เรามาใช้บริการที่โรงแรม Donghae Mureung Health Forest ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามตั้งอยู่บนไหล่เขาของหุบเขามูรัง (Mureung Valley) เมืองทงแฮ (Donghae) ของคังวอนโด ที่นี่เป็น K-Wellness ศูนย์รวมของธรรมชาติบำบัดที่มีชื่อเสียงประกอบด้วยโรงแรมกลางป่า ซาวน่า สระว่ายน้ำกลางแจ้ง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ให้บริการด้านสุขภาพเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดความเครียด ทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย

ได้เวลามาจิมจิลบังแล้วววว!! เริ่มแรกมาเคาน์เตอร์เพื่อรับชุดเสื้อและกางเกง ผ้าขนหนู 2 ผืน และกุญแจล็อคเกอร์สำหรับเก็บรองเท้าและเสื้อผ้า คนที่อยากลองไข่ปิ้ง และน้ำดื่มก็ซื้อตรงนี้ได้เลย จากนั้นเดินลงไปด้านล่าง ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและห้องอาบน้ำแบ่งเป็นชายและหญิง ตรงกลางจะมีห้องรวมสำหรับนั่งเล่น นั่งคุยกัน และยังมีเก้าอี้นวดทั้งตัวให้ผ่อนคลาย, ที่แช่เท้าอุ่นๆ, ถ้ำเกลือที่ควบคุมอุณหภูมิ, Red Clay Sauna, White Gyeonmite Sauna และการบำบัดด้วยออกซิเจน

ข้อมูลเพิ่มเติม

โทรศัพท์ : 033-530-2391
พิกัด :  https://naver.me/xnKn4d8T

Donghae Mureung Health Forest

โรงแรมตั้งอยู่กลางป่าร่มรื่นเขียวๆ เน้นการบำบัดด้วยธรรมชาติเป็นที่เรามาทำซาวน่า (จิลจิมบัง : jimjilbang)  คอนเซ็ปส์ของ Donghae Mureung Health Forest คือ อยากให้ทุกคนที่เข้าพักตื่นเช้ามารับอากาศบริสุทธิ์ ได้ยินเสียงน้ำตกไหล และเสียงนกร้อง จิตใจสดใสเบิกบาน เริ่มต้นวันใหม่ด้วยอาหารเช้าสไตล์เกาหลีเพื่อสุขภาพดี

  • ที่พักจะเป็นอาคารอิฐสีส้ม ห้องนอนมีขนาดกะทัดรัดให้ความรู้สึกว่าเหมือนมาบ้านต่างจังหวัดมากกว่าโรงแรม ในห้องมีประตู 2 ด้าน ประตูด้านหนึ่งเป็นกระจกใสมองออกมาเห็นวิวหญ้าสีเขียวๆ อีกด้านหนึ่งเป็นประตูปิดทึบ
  • มีข้าวของเครื่องใช้ครบครันแต่อาจจะไม่ได้เน้นความสะดวกสบายแบบโรงแรมในเมือง และมีเครื่องอำนวยความสะดวก เช่น ทีวี กระติกน้ำร้อน ตู้เย็น ชั้นวางของอเนกประสงค์ โต๊ะตัวเตี้ยวางพื้น ตู้เสื้อผ้า
  • เตียงนอนขนาด Queen size 1 เตียงพร้อมฟูกปูนอนพื้นได้
  • ห้องน้ำกว้างมากแบ่งเป็นโซนเปียกและแห้ง น้ำไหลแรงแบบสะใจมาก

ข้อมูลเพิ่มเติม

โทรศัพท์ : 033-530-2391
พิกัด :  https://naver.me/xnKn4d8T

ที่เที่ยวในเมือง “คังนึง (Gangneung : 강릉)”

เมืองชายทะเลท่องเที่ยวตากอากาศทางฝั่งตะวันออกและยังมีภูเขาเยอะ ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ถือว่าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจอยู่ในจังหวัดคังวอนโด (Gangwondo) เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์สุดโรแมนติก เรื่องก็อบลิน (Goblin) และยังมีที่ท่องเที่ยวสวยๆ ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว

14. Drama ‘Dokkaebi’ Filming location (도깨비 드라마 촬영)

ตามรอยกงยูโอปป้าสุดหล่อมาที่ “หาดจูมุนจิน (Jumunjin Beach)” เมืองคังนึง จุดนี้เป็นฉากซีรีส์เรื่อง “Goblin ก็อบลิน คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ (도깨비)”  เป็นสถานที่พระเอกได้เจอกับนางเอก งู้ยยยย!! โรแมนติกสุดๆ

ด้านหน้าทางเข้าจะมีการติดตั้งป้ายเป็นรูปฉากแบบในซีรีส์ บริเวณนี้เป็นสะพานหินยื่นลงไปในทะเลเป็นหนึ่งจุดมุมถ่ายรูปสุดฮิตสำหรับคู่รัก บางคนก็มาพร้อมพร็อบเหมือนนางเอกถือดอกไม้ และผ้าพันคอสีแดง ใช้เวลาต่อคิวถ่ายรูปประมาณ 15-20 นาที ระหว่างทางจะมีร้านคาเฟ่น่ารักๆ ริมชายหาดจูมุนจิน (Jumunjin Beach) ตลอดทางเลย

ข้อมูลเพิ่มเติม

เปิดทำการ : ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
พิกัด :  https://naver.me/Frli10Aq

15. BTS Bus Stop ที่ชายหาด Hyangho (향호해변)   

อยู่ที่เมืองไทย…เราคงต้องตามรอยยุทธหัตถี แต่ที่นี่เกาหลี…เค้าตามรอยศิลปิน BTS กันจ้า
BTS Bus Stop ฉากป้ายรถเมล์ริมชายหาด Hyangho (향호해변) ติดกับชายหาดจูมุนจิน (Jumunjin Beach) ระหว่างทางชายหาด Jumunjin Beach ไป BTS Bus Stop จะมีมุมถ่ายรูปริมชายหาดสวยๆ ตลอดทาง

ฉาก BTS Bus Stop อยู่บริเวณชายหาด Hyangho ชื่อเสียงด้านน้ำทะเลสวย ทรายเนียนละเอียดนุ่ม มีฉากเป็นท้องฟ้าสดใส นี่คือจุดเช็คอินของเหล่า ARMY เป็นสถานที่ถ่ายทำ MV และบนปกอัลบั้ม “You Naver Walk Alone” ของ BTS ที่นี่น่าจะเป็นฉากป้ายรถเมล์ที่มีคนเกาหลีไปถ่ายรูปลง IG มากที่สุด จริงๆ ตรงนี้ไม่ใช่ป้ายรถเมล์  เป็นแค่ฉากถ่ายรูปที่ไม่มีรถจอดที่ป้ายนี้ แม้ว่าจะเปิดตัววันที่ 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2017 ตรงนี้ก็เป็นจุดท่องเที่ยวริมชายหาดสุดฮิตมากกว่า 6 ปีแล้ว มีนักท่องเที่ยว และคนเกาหลีมาต่อคิวมาถ่ายรูปตลอดเวลา วันนั้นเรารอคิวถ่ายรูปกันประมาณ 20-30 นาที

ข้อมูลเพิ่มเติม

เปิดทำการ : ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
การเดินทาง : จากโซลนั่ง KTX มาประมาณ 2 ชั่วโมง จากสถานีคังนึงขึ้นรถเมล์สาย 300 นั่งมาลงป้าย Jumunjin Beach (ใช้เวลาประมาณเดินทาง 50 นาที) แล้วเดินมาที่ชายหาด Hyangho ประมาณ 3 นาที
พิกัด :  https://naver.me/Gye3vO3t

สนใจซื้อ ทัวร์ K-Pop ที่คังวอนโด 1 วันแบบส่วนตัวจากโซล คลิกที่นี่

16. Gangneung Jungang Market (강릉중앙시장)

ที่นี่แหล่งรวมอาหารการกินและของซื้อของขายประจำเมือง “คังนึง (Gangneung : 강릉)” เลยล่ะ ตลาดนี้มีขายทุกอย่างทั้งอาหารสด อาหารแห้ง กิมจิ ของดอง สาหร่าย ผัก ผลไม้ สตรีทฟู้ด ขนมทานเล่น ของฝาก เสื้อผ้า ฯลฯ แค่เดินสำรวจตลาดก็เพลิดเพลินไปกับอัธยาศัยของเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้า บางร้านมีให้ชิม บางร้านก็ใช้ลีลาทำอาหารมาดึงดูดลูกค้า เราสองคนนี่เดินถ่ายคอนเทนท์กันสนุกเลย

บรรยากาศด้านใน “ตลาดจุงกัง (Jungang Market)” นั้นจะคล้ายๆ ตลาดใหญ่ๆ ตามหัวเมืองของเกาหลีใต้ คือมีการแบ่งพื้นที่ของตลาดเป็นโซนๆ แยกของสด ของแห้ง อาหารปรุงสุก เสื้อผ้า ฯลฯ ทีเด็ดของตลาดนี้คือซีฟู้ดครับ เมืองนี้อยู่ติดชายทะเล พวกอาหารทะเลสดๆ จะราคาไม่แพง ปลาหมึกก็ตัวโต ปูอลาสก้าก็น่าทาน ต้นกับปูเป้แค่แวะเดินร้านนั่นนิด ร้านนี่หน่อย ยังอิ่มจะตาปรือเลย ใครชอบกิน มาตลาดนี้ไม่ผิดหวังจ้า!!

แนะนำร้านที่ต้องมาลอง

Wolhwa Kimchi Roll Pork Belly (월화김치말이삼겹살)

พอเดินมากลางตลาดต้องได้กลิ่นหอมๆ ของร้านนี้ จะเป็นเบคอนสอดไส้ด้วยกิมจิ หัวหอม ชีส นำมาม้วนเป็นแท่งกลมยาวคล้ายไส้กรอกหนาๆ นำไปย่างบนกระทะเทปันมีสุกเกรียมนิดๆ แล้วนำมาตัดเป็นชิ้น  เป็นหนึ่งคำที่อร่อยครบรสมาก กลมกล่อมดีมากก หอมเบคอน แนะนำต้องทานตอนร้อนๆ ราคาชิ้นละ 5,000 วอน

พิกัดร้าน :  https://naver.me/54V8kTU9

BAENNI : ไก่ทอดกรอบคลุกซอสเกาหลี (배니닭강정)

ร้านนี้น่าจะเป็นร้านดังของตลาด เพราะเห็นลายเซ็นต์คนดังแปะเต็มหน้าร้านแถมมีรายการ TV มาถ่ายทำอีก ไก่ทอดมาได้กรอบดีคลุกซอสเกาหลีฉ่ำๆ ด้านบนโรยหน้าด้วยถั่วอัลมอนต์ฝานบางๆ เนื้อไก่ด้านในไม่ได้นุ่มๆ แต่ก็ไม่ได้แข็ง ทานได้เพลินๆ แต่อาจจะฝืดคอหน่อย

ราคา : กล่องใหญ่ 1 รส (20,000 วอน) ถ้าเลือก 2 รส (22,000 วอน) และกล่องเล็ก (12,000 วอน)

พิกัดร้าน : https://naver.me/5cTAAnuu

Gangneung Crispy (강릉 바삭이네)

ร้านรวมของทอดนานาชนิดอร่อยเด็ดมากกก แม่ค้าจะให้เราเลือกว่าจะเอาอะไรบ้างแล้วนำไปทอดแบบ Deep Fried อีกครั้ง เราเลือกกุ้งตัวเล็ก กุ้งตัวใหญ่ ปลาหมึก เนื้อกุ้งทอดออกมากำลังดี เนื้อด้านในเด้งๆ ฉ่ำๆ ส่วนปลาหมึกทอด กัดแล้วมีความหวาน เนื้อนุ่มมาก เคี้ยวง่าย