ต่อเนื่องจากตอนที่แล้วนะครับ หนีงานไปเที่ยว : ตามฝันถิ่นคันไซ (เตรียมเนื้อเตรียมตัว)

Day 1 : Bangkok – Osaka: ตื่นเต้นฝุดๆ

หลังจากเตรียมข้อมูลกันอย่างขะมักเขม้น เราทั้งคู่ก็เริ่มนับถอยหลังเพื่อให้ถึงวันเดินทางไวๆ

… แล้วในที่สุดก็ถึงวันเดินทาง ^_^

15.20 น. คือเวลาเครื่องบินออก ผมกะแฟนเคยมีประสบการณ์ตกเครื่องบินที่ฮ่องกงเพราะมัวแต่ตามหาซื้อทาร์ตไข่มาแล้ว รอบนี้เรามารอเวลาขึ้นเครื่องกันตั้งแต่บ่ายโมงครับ

ทริปนี้เราใช้บริการตั๋วโปรราคาแรงจาก Air Asia จองกันมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2557 หากต้องการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองแบบประหยัดๆ ควรวางแผนล่วงหน้าเยอะๆ ครับ  เราจะได้ตั๋วโปรไม่แพง ได้สนุกกับการวางแผนเที่ยวด้วย

IMG_0571_1024

มาแต่หัววัน คิวเลยไม่ยาว

IMG_0575_1024

เจ้าหน้าที่ยิ้มแย้มใจดีมากค่า

วันเดินทางท้องฟ้าแจ่มใสเลยครับ สำหรับไฟลท์ขาไปนั้น เราเลือกซื้อตั๋วพร้อมอาหาร พอเครื่องออกสักแป๊ปนึง แอร์คนสวยก็นำอาหารมาเสริฟ์

Departure

พออิ่มแล้วก็หลับเอาแรงเลย (เรื่องนอนนี่ผมถนัดมากหลับตาปุ๊ป …ก็กรนทันที Zzzz…)

22:40 เราก็เดินทางมาถึง Kansai airport โดยสวัสดิภาพ ผู้โดยสารทุกคนลงเครื่องพร้อมรอยยิ้ม จากกิจกรรม happy birthday บนเครื่องบินที่บรรดาลูกเรือ Air Asia ช่วยกันสร้างสีสัน ขอปรบมือดังๆ ให้ณ จุดนี้

ลงจากเครื่องแล้วเดินตาม step 1-3 เลย

ลงจากเครื่องแล้วเดินตาม step 1-3 เลย

หลังจากลงเครื่อง เราต้องนั่ง Wing Shuttle เข้าสู่ตัวอาคารสนามบิน เพื่อผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองครับ ระหว่างอยู่บนรถไฟก็ให้เตรียมเอกสารให้พร้อมนะ

ขึ้น Wing Shuttle เพื่อไปยัง Main Terminal ตามขั้นตอน 4-7

ขึ้น Wing Shuttle เพื่อไปยัง Main Terminal ตามขั้นตอน 4-7

สนามบินนานาชาติคันไซ

สนามบินนานาชาติคันไซ

8 องศา ลมหนาวกระแทก face!!! – ช่วงที่ผมไปนั้นหิมะเพิ่งจะละลายไปได้ไม่นานครับ พอเราเดินพ้นไออุ่นจาก heater สนามบินปุ๊ป Osaka ก็ต้อนรับเราด้วยสายลมหนาวกระแทก face ในทันที ( เมืองไทยตอนมานี่ 24 องศา!!) คุณแฟนไม่สามารถต้านทานลมหนาวได้ เราจึงต้องเปิดกระเป๋าเอาเสื้อกันหนาวมาเติม

พอเตรียมพร้อมแล้วเราก็ไปซื้อตั๋วรถบัสเข้าเมืองกัน สำหรับป้ายรถก็หาไม่ยากครับพอเรารับกระเป๋าแล้วเดินออกมาให้ลงไปที่ชั้น 1 ที่ Terminal 1, Exit no.5  เพื่อมาที่จุดขึ้นรถ Osaka Airport for Limousine bus

Arriving-step3

เมื่อเดินมาถึงจุดรอรถให้เราเดินไปซื้อตั๋วที่เครื่องขายอัตโนมัติ สังเกตคำว่า English ครับ เครื่องจะเปลี่ยนภาษาพร้อมคำอธิบายทุกขั้นตอน จุดหมายของเราคือจะไปลงที่ป้าย Hotel New Hankyu ครับ (นั่งรถบัสมาประมาณ 50 นาที) อยู่ใกล้ใกล้โรงแรมที่เราพักเลยเดินแค่ 10 นาที

Bus-Rate

ตารางเวลารถบัส พร้อมค่าโดยสาร

ยืนเข้าแถวรอตรงนี้ครับ รถมาตรงเวลาเป๊ะๆ

ยืนเข้าแถวรอตรงนี้ครับ รถมาตรงเวลาเป๊ะๆ

รถบัสนั่งสบาย นั่งต่อไปอีก 45 นาที

รถบัสนั่งสบาย นั่งต่อไปอีก 50 นาที

มาถึงแล้วครับ จากนั้นก็มุ่งหน้าไปโรงแรมสำหรับคืนแรกกัน

thumb_IMG_0734_1024 thumb_IMG_0735_1024

เจ้าหน้าที่ต้อนรับพูดภาษาอังกฤษได้ดีเลยครับ หน้าตาน่ารักด้วยยยยย

thumb_IMG_0738_1024

Check in แล้วไปดูห้องพักกัน

ห้องพักสำหรับนักเดินทางของโรงแรมในญี่ปุ่นนั้นขนาดจะไม่ใหญ่มากนะครับ เพราะค่าที่ดินแพง ดังนั้นแต่ละห้องจึงมีการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยอย่างคุ้มค่า อย่างห้องพักที่ผมจองไว้นั้นเป็นห้องพักสำหรับสองคน ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ (พอวางของปุ๊บ ก็เต็มห้องทันที 555) ภายในห้องมีอุปกรณ์ครบครัน ทั้ง LED TV โทรศัพท์ โคมไฟ ชุดนอน รองเท้าสวมในห้อง กาต้มน้ำร้อน ดรายเป่าผม ตู้เย็น เครื่องสร้างไอน้ำ (กรณีอากาศแห้งเกินไป)

สำหรับในห้องน้ำ จะเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป (โรงแรมส่วนใหญ่จะมีรูปแบบคล้ายกัน) จะมีอ่างอาบน้ำเล็กๆ ไว้นั่งแช่น้ำอุ่นได้ มีฝักบัว มีม่านกั้นส่วนเปียก-แห้ง ก๊อกน้ำ โถส้วมแบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีแปรงสีฟัน ยาสีฟัน แชมพู ครีมนวด สบู่เหลว และหมวกคลุมอาบน้ำให้ด้วย เรียกว่ามาแต่ตัวก็ยังได้นะ

KNP_2171

ห้องพักสำหรับ 2 คน ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ มีอุปกรณ์ครบครัน

KNP_2175

ในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำเล็กๆ ไว้นั่งแช่ได้

ขอจบวันแรกเท่านี้ก่อนนะครับ พรุ่งนี้ตื่นมาเราจะไปกิน Endo sushi แล้วไปเที่ยวต่อที่ Universal studio กันฝันดีคร๊าบบบ…

KNP_2187-Edit

วิวจากหน้าต่างห้อง แจ่มมากๆ เรย