มัลดีฟส์ใครๆ ก็ไปได้
สาธารณรัฐมัลดีฟส์ นิยมเรียกสั้นๆว่า “หมู่เกาะมัลดีฟส์” ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย มีอาณาเขตอยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศอินเดียและประเทศศรีลังกา ภูมิประเทศเป็นหมู่เกาะเล็ก เกาะใหญ่ที่เรียกว่า Atoll ประมาณ 1,190 เกาะ ซึ่งเกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่จริง มีเพียงไม่ถึง 250 เกาะ
“มัลดีฟส์” ได้ถูกขนานนามให้เป็นชายหาดที่สวยเพอร์เฟคที่สุดในโลก 10 แห่ง มีหาดทรายละเอียดสีขาว ท้องฟ้าใสตัดกับน้ำทะเลสีเทอร์ควอยส์ มีจุดดำน้ำชมปะการังที่ชื่อดังอยู่เป็นร้อย ๆ จุด เห็นฝูงปลาฉลาม วาฬ ปลากระเบนราหู ปลาโลมา เต่าทะเล ปะการัง
อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของผู้ที่รักกีฬาทางน้ำ ไม่ว่าจะเป็น Water Skiing, Fly boarding, Parasailing, Kayak and paddle board, Kite surfing, Banana boat, Fun tube, Knee Board เรา 2 คนได้ลองไปเล่น Jets Skiing, Fun tube และ Knee Board มาสนุกมากๆเลยค่ะ
จุดไฮไลท์ของผู้รักการดำน้ำ นั่นคือ จุดชมซากอับปางของเรือ Maldive Victory ซึ่งอยู่นอกชายฝั่ง Hulule Airport ถือว่าเป็นอีก 1 จุดในซากอับปางที่ผู้คนตื่นเต้น อยาก scuba diver ดำน้ำลงไปสัมผัสประสบการณ์แบบนี้
มัลดีฟส์…เกาะสวรรค์ของคนรักทะเล
หลังจากนั่งดูภาพมัลดีฟส์เพลินๆ แล้วก็มือลั่นจ้าาา กดจองตั๋วโปรสุดคุ้มของแอร์เอเชีย ใครๆก็บินได้ ราคาตั๋วเครื่องบินไป-กลับแค่ 7,xxx บาท บินตรง 4 ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงแล้ว แล้วหลายคำถามก็เกิดขึ้นในใจ “แล้วจะเตรียมตัวไปเที่ยวมัลดีฟส์ยังไงดีหล่ะ ?” ต้องขอ VISA ? แลกเงินสกุลอะไร? จองที่พักแบบไหน? Meal Plan แบบไหนดี?งั้นสรุปเป็น 15 ข้อควรรู้ก่อนไปมัลดีฟส์ เกาะสวรรค์ของคนรักทะเล
1. FREE VISA … แค่ซื้อตั๋ว ก็บินไปมัลดีฟส์ได้แล้ว
คนไทยไม่ต้องขอวีซ่า แค่ซื้อตั๋วเครื่องบิน พก Passport พร็อบกับกระเป๋าเสื้อผ้า ก็บินมาเที่ยวได้เลยจ้า ซึ่งคนไทยจะสามารถอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน และอายุ Passport ต้องไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
Maldives ไม่ได้ไปยากแล้ว ยิ่งตอนนี้ AirAsia มีบินตรงไป Maldives โอ้โห!! ประหยัดค่าทริปได้สุดๆ แถมเวลาบินก็สวยด้วย “ไปมัลดีฟส์ไปกับแอร์เอเชีย”
2. สายโซเชี่ยลต้องมี SIM card ไว้เลย
พอออกจาก Arrival Hall เลี้ยวขวา จะเห็นร้านขาย sim card ที่สนามบินเลย SIM CARD จะมี 2 เจ้าดัง คือ ค่าย Ooredoo และ Dhiraagu สัญญาณดีทั้งกลางทะเล และบนเกาะของโรงแรม สำหรับหมวย คิดว่า “WIFI” ของโรงแรมที่เราใช้ 3 คืนนั้นไม่ค่อยจะเสถียร พอมีคนใช้เยอะๆ อาการเน็ตก็หลุด หน่วงๆเป็นระยะ ดังนั้นซื้อ SIM CARD เถอะ…ชีวิตดีกว่าเยอะค่ะ เราซื้อซิมของ Dhiraagu ราคา 16 usd 4G ใช้ได้ 6 วัน
3. การแลกเงิน
- ควรเตรียมแบงค์ USD ย่อยๆ มาจากไทย เช่น 1, 5, 10 usd เราจะใช้แบงค์ย่อยๆให้ Tip พนักงานที่อำนวยความสะดวก เช่น ช่วยยกกระเป๋า พาไปส่งท่าเรือ หรือมารับที่สนามบิน
- ใช้เงินสกุล USD แทนเงินสกุลรูเฟียยา Maldivian Rufiyaa (MVR) สกุลท้องถิ่นมัลดีฟส์ได้เลย แถมเรทจ่ายเงินก็ดีกว่าด้วย
- เงิน 1 MVR เทียบกับเงินไทยประมาณ 2 – 2.5 บาท ( 2.15 บาท ณ.เดือน ก.ย. 2560)
- ไม่จำเป็นต้องแลกเงินท้องถิ่นเพราะแลกคืนยาก ตามร้านอาหารใน Male และ Maafushi , ร้านขายของ, โรงแรม หรือ ร้านค้าที่สนามบินก็ใช้ USD ได้ทั้งน้ั้นจ๊า เช่น ร้าน Coffee Club, Pizza Company, Burger King
- การจ่ายเงินตามร้านอาหารหรือโรงแรม ในใบเสร็จจะระบุ 2 สกุลเงินให้เราเลือกชำระเงินได้
4. ปลั๊กไฟ
- ไฟฟ้าที่นี่มาจากการปั่นไฟ และโซล่าร์เซลล์
- ระบบไฟฟ้า: 220-240 โวลต์ เครื่องไฟฟ้าจากไทยสามารถนำไปใช้ที่มัลดีฟส์ได้ แต่ต้องใช้ปลั๊กขา 3 เหลี่ยม (ปลั๊กแบบที่ฮ่องกง)
- แนะนำเตรียมปลั๊กแบบ universal ปลั๊กเดียวเที่ยวทั่วโลก หลายที่ก็จะมีปลั๊ก 2 ขาแบนบริการให้ใช้ด้วย
5. ไปมัลดีฟส์…หาร้านอร่อยยังไงดี ?
ที่มัลดีฟส์มีอาหารหลายประเภทให้เลือกทานทั้งอาหารเอเชีย ยุโรป อเมริกัน หรือจะอินเดียน แม้หมวยจะเป็นคนกินยาก แต่ถ้ามาเที่ยวแล้ว … จะต้องกินอาหารที่นี่ให้ได้ ไม่อด และไม่กินมาม่าจ๊า ^^
หมวยรู้สึกว่า “อาหารที่มัลดีฟส์ทานง่ายมาก” โดยเลือกร้านอาหารจาก TripAdvisor App ค่ะ แล้วเลือกร้านที่ได้ 4 ดาวขึ้นไป รับรองอร่อยแน่นอน วิธีนี้ลองมาหลายประเทศแล้วค่ะ ^^ โดยรวมแล้วค่าอาหารต่อคนตกประมาณ 500 บาทต่อมื้อค่ะ
- อาหารแนะนำ คือ “ปลาทูน่าย่างทั้งตัว” เนื้อปลาสดมาก ไม่คาว เนื้อแน่น รสออกหวานนิดๆ ยิ่งทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ จะอร่อยมาก และ Chicken Biriyani อร่อยกว่าที่อินเดียแบบติดดาวเลยน๊า
- อาหารตะวันตกก็อร่อยจ๊า ทั้งพิซซ่า, สเต็ก, สลัด, ขนมปัง, เบเกอรี่, ไอศกรีมก็มีนะ
- เครื่องดื่ม มีทั้งน้ำผลไม้ปั่น, smoothies, ชา-กาแฟ, Ginger Beer, น้ำอัดลม ไม่มีเครื่องดื่มแอลกฮออล์ใน local island ขายน๊าา (อดใจ… ไปกินทีเดียวที่ resort เลยจ้า)
แนะนำ 4 ร้านอาหารอร่อยที่ Male, Maafushi, Velana Airport
ร้านที่ 1 : Seagull Restaurant ใน Male
Fareedhee Magu, Maafannu, Male Tel+960 332-3332
ร้านนี้ได้ 4 ดาวใน TripAdvisor และมีไอศกรีมเจลาโต้ที่อร่อยที่สุดในเมืองด้วยน๊า…. เราก็ตามไปชิมแล้ว ^^
ค่าใช้จ่ายมื้อนี้ : ราคา 32 usd. รวม อาหาร 3 รายการ เครื่องดื่ม และไอศกรีม Medium 3 รส Gianduja, Cherry และ Truffle Nut Flavor ด้วยความที่เป็นไอศกรีมเป็นเจลาโต้ ตัวเนื้อจะเบาๆ พอยกไอศกรีมมาเราเห็นว่าเริ่มละลายแล้ว รสและมีความหอมอ่อนๆ เราว่าอาจจะสไตล์ไอศกรีมของคนที่นี่เค้านิยมกัน ^^
ร้านที่ 2 : Kaani Beach Restaurant ในโรงแรม Kaani Beach Hotel ที่เกาะ Maafushi
ตั้งอยู่ Aabaadhee Hingun Road , Maafushi โทรศัพท์: +960 993-3626
ร้านนี้เป็นร้านอาหารในโรงแรมระดับ 3 ดาว บน Maafushi Island มีริมหาดส่วนตัว และยังได้รับ 4 ดาวใน TripAdvisor และแล้ว…มื้อนี้หมวยรอดตายค่า ^^ Ginger Beer เครื่องดื่มสุดฮิตประจำตัวคุณอีพริ้งเค้าเลยค่า
ค่าใช้จ่ายมื้อนี้ : ราคาอาหาร 26 usd. รวม Maldivian Style Whole BBQ Fish 6 usd , Buttered Prawns 9 usd, Ginger Beer 4 usd และ Sprite 1.60 usd
ร้านที่ 3 : Red Bull pizza ร้านขายพิซซ่าบนเกาะ Maafushi
บรรยากาศร้านนี้จะเป็นโต๊ะนั่งริมชายหาด พนักงานแต่งตัวใส่หมวก ใส่ชุดอย่างกับมาริโอ้เลย 55 ร้านจะตั้งอยู่หน้าชายหาดใกล้ๆกับท่าเรือ Speed Boat เหมาะกับนั่งรับลมเย็นๆ ก่อนนอนเลยค่า
ค่าใช้จ่ายมื้อนี้ : ราคาอาหาร 32 usd รวม Pizza + Coke 1 Set, Maldivian Grilled Tuna และเครื่องดื่ม Smoothies ผลไม้ และ Ginger Beer
ร้านที่ 4 : Coffee Club ร้านกาแฟที่สนามบิน
หมวยมานั่งร้าน Coffee Club ได้ 2 ครั้ง เพราะมี 2 สาขาในสนามบิน สาขาแรกจะอยู่บริเวณก่อนทางออกไป Public Ferry อีกสาขาหนึ่งจะอยู่บริเวณ Cashier ใน Duty Free ตรงกันข้ามกับศูนย์รวมอาหารขนาดย่อมๆจ้า เครื่องดื่ม กาแฟรสชาติดีตามมาตรฐาน เบเกอรี่เนื้อดีอร่อย ไม่เสียดายตังส์แน่นอน (ราคา 4.50 -5.50 usd./แก้ว )
6. เวลาและสภาพอากาศที่มัลดีฟส์…เป็นยังไงน๊า?
เวลาที่มัลดีฟส์ช้ากว่าไทย 2 ชั่วโมง (GMT+5) มัลดีฟส์ตั้งอยู่ตรงเส้นศูนย์สูตรเป๊ะ อากาศร้อน ร้อนมาก สลับฝนตกประปราย จริงๆแล้วมัลดีฟส์สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ลมทะเลไม่เหนียวตัวต่างจากทะเลบ้านเราเลย
ฤดูกาลในมัลดีฟส์แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ
– ช่วงฤดูลมตะวันออกเฉียงเหนือ (พ.ย. – เม.ย.)
ช่วง Hi season อากาศสดใส ท้องฟ้าโปร่งใส ไม่มีฝน (เม.ย. จะร้อนที่สุด และ ธ.ค. จะเย็นที่สุด)
– ช่วงฤดูลมตะวันตกเฉียงใต้ (พ.ค. – ก.ย.)
ช่วงฝนตกชุก แต่จะตกเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ประมาณครึ่งชั่วโมงก็หยุดแล้ว แต่ถ้าวันไหน ฝนตก อากาศไม่ดี ฟ้าขมุกขมัว ทางบริษัทเรือนำเที่ยวจะไม่ออกเรือพาไปดำน้ำ ดังนั้นช่วงเดือนนี้ห้องพักจะว่าง ราคาถูกกว่าค่ะ
7. ซื้อแพ็คเกจมามัลดีฟส์…ยังไงดี?
พื้นที่ส่วนใหญ่ของมัลดีฟส์จะเต็มไปด้วยเกาะเหนือถึงใต้ ซึ่งเรียกว่า “Atoll” (อะทอลล์) พื้นที่ 1 เกาะจะมีแค่ 1 โรงแรม คือ ไม่เหมือนเกาะกูด เกาะช้างบ้านเราที่ 1 เกาะเต็มไปด้วยหลายโรงแรม ถ้ามาจาก local islands เช่น Maafushi, Hulhumale, Thulusdoo, Thulhaadhoo, Fulidhoo หรือ Male จะต้องมาเริ่มต้นที่สนามบินก่อนเดินทางไปรีสอรท์ตามเกาะของโรงแรมต่างๆ
การเลือกซื้อแพ็คเกจ และตั๋วเครื่องบิน
สเต็ป 1. ซื้อแพ็คเกจทัวร์จาก Agents สะดวกและง่ายที่สุด เพียง match งบกับแพ็คเกจที่เลือก เช่น ระดับโรงแรม ประเภทห้องพัก จำนวนวันแบบ 3 วัน 2 คืน หรือ 4 วัน 3 คืน (แพ็คเกจจะระบุราคาต่อคน) รวม/ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน ราคาค่อนข้างสูงกว่าที่ติดต่อเองค่ะ
สเต็ป 2. ถ้าอยากประหยัดมาทางนี้ค่ะ !! ซื้อตั๋วเครื่องบินช่วงโปรก่อน ราคาถูก เลือกแบบบินตรง 4 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงแล้ว แล้วเอาเงินไปซื้อแพ็คเกจที่พักสวยๆ (วิธีนี้คุ้มค่าเนอะๆ555) ราคาที่พักเริ่มต้นคืนละหมื่นกว่าๆ จนถึงหลายแสน นอกจากห้อง Overwater Bangalow ที่เห็นชินตาแล้ว ยังมีห้อง Jacuzzi Beach front หรือ Garden Villa ให้เลือก
พอมาถึงสนามบิน : หลังจากรับกระเป๋าแล้วก็มาติดต่อเคาน์เตอร์ของแต่ละโรงแรมที่สนามบินเพื่อแจ้งรายงานตัว และพนักงานจะพาไปขึ้น speed boat หรือ Sea plane รับรองไม่หลงทางแน่ๆ
- ใช้ speed boat ราคาไป-กลับ Meeru Island Resort รวม 2 คน 300 usd.
- ใช้ Seaplane ราคาไป-กลับประมาณ 11,000 บาท+/- ถ้านั่ง Sea Plane จะให้บริการเฉพาะกลางวัน-18.00 น. ซึ่งถ้าเครื่องลงที่สนามบินใกล้ 18:00 น. แนะนำให้นอนค้างที่ Male สัก 1 คืน
คนที่อยากเที่ยวที่ Male : เดินออกประตูทางด้านซ้ายของสนามบิน ซื้อตั๋ว Ferry to Male ราคา 1 usd/คน ใช้เวลาข้ามฟาก 10 นาทีก็ถึงเมืองหลวง Male (ถ้าจะไป Male แนะนำให้แต่งกายสุภาพนิดหนึ่ง เพราะคนส่วนใหญ่ที่นั่นนับถือศาสนาอิสลาม)
8. มามัลดีฟส์…ไม่ควรมาตรงกับวันศุกร์
วันศุกร์ ถือเป็นวันหยุดของประเทศ พวกเรือ Ferry ไป local islands 🌴 (เกาะที่คนพื้นเมืองอยู่ ) จะหยุดวิ่ง ตลาดปลาปิด และร้านค้าขายของส่วนใหญ่จะปิดทำการ แต่ร้านอาหารใหญ่ๆ ก็เปิดอยู่นะ ดังนั้น เราแนะนำว่าควรมาเที่ยว วันเสาร์กลับก่อนวันศุกร์จะดีกว่า
9. คน Local Island เป็นยังไง
Local islands (เกาะที่คนพื้นเมืองอาศัยอยู่) ผู้คนที่นี่นับถือศาสนาอิสลาม ทำละหมาดตามมัสยิดกันทุกวัน ไม่มีหมู ไม่มีแอลกฮออล์นะจ๊ะ ผู้หญิงจำเป็นต้องแต่งตัวให้มิดชิดหน่อย งดเกาะอก สายเดี่ยว บิกินีไปก่อน
ยกเว้น ชายหาด Bikini Beach ที่ Maafushi ที่ทางเกาะจัดพื้นที่ให้อยู่ทางด้านซ้ายของเกาะจ้า และที่โรงแรมตาม Atolls ต่างๆ จะจัดเต็มทั้งชุดบิกินี่ และแอลกฮออล์ได้ตลอดทั้งวัน
- คนมัลดีฟส์จะผิวสีเข้มๆ ยิ้มแยิ้มเป็นมิตร ผิวเข้มออกดำ หน้าบึ้ง ฟันขาวจั๊ว แต่ก็ใจดีพูดคุยได้เลย
- ภาษาพูด เป็นภาษาท้องถิ่นคือดิเวฮิ แต่ก็ฟังยากเหมือนเวลาฟังคนอินเดียพูดนั่นแหล่ะ
- คนที่ทำงานในส่วนบริการ และพนักงานในโรงแรมจะพูดภาษาอังกฤษได้ดี (มาจากอินเดียและปากีสถาน)
10. การเลือกจองโรงแรม และ Meal Plan… ควรทำอย่างไร?
สามารถจองที่พักผ่านเวปโรงแรมทั่วไป เช่น Traveloka, HotelCombined, Agoda, Booking.com, Expedia, หรือจองตรงกับโรงแรมก็ได้
สำคัญมาก!! ควรหาข้อมูลเหล่านี้ก่อนจองที่พักค่ะ :
- มี Public Ferry ไหม ? เดินทางแบบไหน? ตารางเวลาไป-กลับ ? ระยะเวลาการเดินทาง ?
- โรงแรมครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
– รวมค่าเดินทางของ Speed boat หรือ Sea plane หรือยัง ?
– ราคา และรายละเอียดของกิจกรรมทางน้ำ เช่น Snorkeling, อุปกรณ์ดำน้ำ, sunset cruise, sandbank trip, ดำน้ำหาเต่าทะเล-ปลากระเบนราหู, ดำน้ำรอบดึก, ไป local island, นั่ง seaplane เพื่อถ่ายรูปมุมสูง - Meal Plan อะไรดี? : (อ้างอิงข้อมูลจาก http://www.maldivepackage.com/m_p.html)
- Bed & Breakfast – เฉพาะ “อาหารเช้า” เท่านั้น เหมาะสำหรับนักดำน้ำ, คนซื้อทัวร์เที่ยวนอกเกาะ, คนที่ชอบเปลี่ยนร้านอาหารบ่อยๆ เพราะในบางโรงแรมมีห้องอาหาร 3-7 แห่ง
- Half Board – เฉพาะ “อาหารเช้า และอาหารค่ำ” เท่านั้น (บางที่เลือกมื้อเที่ยงแทนได้) ไม่รวมค่าเครื่องดื่ม เหมาะสำหรับคนที่มีกิจกรรมต่อเนื่อง ซื้อทัวร์เที่ยวช่วงกลางวัน
- Full Board – รวม “อาหารเช้า กลางวัน เย็น” ไม่รวมค่าเครื่องดื่ม ทานอาหารตามเวลา เช่น เช้า 07.30 – 09.30, เที่ยง 12.30 – 14.30, ค่ำ 19.30 – 21.30 เมนูอาหารหมุนเวียนสลับทุกมื้อ ข้อดี คือ รู้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดก่อนเดินทาง ไม่เสียเวลาสั่งอาหาร มีที่นั่งประจำ ***ราคาน้ำเปล่า 3 – 5 USD./ลิตร, น้ำอัดลม เบียร์ ไวน์ 7-8 USD./แก้ว***
- All Inclusive – รวม “อาหารเช้า กลางวัน เย็น รวมค่าเครื่องดื่มทุกประเภท ทั้งไม่มี และมีแอลกอฮอล์ รวมทั้ง snack ด้วย “ (ส่วนใหญ่จะเป็นยี่ห้อมาตราฐานปานกลาง)
หมายเหตุ: ข้อมูลการเดินทางเหล่านี้จะอยู่ในส่วนท้ายๆ หรือจะเช็คข้อมูลโดยตรงจากทางโรงแรมให้ชัวร์ก่อนจองก็ยิ่งดีค่ะ
11. การบริการ
การให้ทิปที่มัลดีฟส์ถือเป็นเรื่องสำคัญ ตามมารยาทจะให้เป็นสินน้ำใจแก่คนที่ให้บริการ เช่น คนขับรถ พนักงานที่ช่วยอำนวยความสะดวก ดังนั้น ควรเตรียมแบงค์ย่อยๆ การให้ทิป (ส่วนในบิลตามร้านค้าจะบวก ค่า service charge 10% และ GST 12% ค่ะ)
12. การเดินทางใน Male และ local islands…ทำยังไงดี?
- รถแท็กซี่ มี 2 แบบ คือ เป็นรถเก๋ง และรถกะบะเล็กๆให้คนไปยืนด้านหลัง
- Sea Plane มี 2 บริษัท คือ Air Maldive กับ Air Taxi ไม่มีตารางบิน ถ้าซื้อแพ็คเกจแล้ว ทางโรงแรมก็จะเลือกสายการบินให้
- เรือ Speed Boat ราคาจะแพงกว่าเรือ Public Ferry เช่น จาก Male ไปเกาะ Maafushi
- เรือ Speed Boat ใช้เวลา 30-45 นาที ราคา 25 usd/คน
- ส่วน Public Ferry ใช้เวลา 90 นาที ราคา 2 usd. แต่ตารางเดินเรือจะมีแค่วันละ 1 หรือ 2 รอบ (10.00 น.และ/หรือ 15.00 น.)
ตารางการเดินเรือ Public Ferry จาก MALE และ Maafushi island
สรุปรายละเอียดจาก Male ไป local islands ด้วย Public Ferry
13. ของฝาก
- เวลาเดินๆ ตามสองข้างถนน จะมีคนมาชักชวนซื้อของฝากในร้านบ่อยๆค่ะ เราไม่ต้องรีบซื้อตามร้านทั่วไปก็ได้นะ ราคาบางร้านก็ไม่ถูกนะ และของก็ไม่เยอะด้วย
- แนะนำไปซื้อตอนขากลับที่ Duty Free ที่สนามบินเลย มีเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์ให้เลือกเยอะด้วย และที่สำคัญ ที่นี่รวบรวมของฝากจากมัลดีฟส์ น่ารักมากมายให้เลือกช็อปปิ้ง สามารถชำระเป็นบัตรเครดิต หรือเงิน usd ได้เลย
- ของฝากมีอะไรบ้าง ? แม่เหล็กติดตู้เย็น แก้วน้ำ-หมอนรองคอรูปสัตว์น้ำ งานไม้จากกะลามะพร้าว เครื่องแก้ว ปากกาดินสอ พวงกุญแจรูปสัตว์ทะเล กรอบรูป แจกัน ข้าวของเครื่องใช้แบบเป็นไม้ ที่เขี่ยบุหรี่รูปเต่าทะเล ที่ใส่ของรูปปลาวาฬ สำหรับใครหิวก็มีร้านอาหารและร้านกาแฟ Coffee Club ให้นั่งรอก่อนขึ้นเครื่องบินกลับ
14. การบินโดรน
ถ้าจะบินโดรนตามที่สาธารณะควรขออนุญาตก่อนบินค่ะ พื้นที่ด้านขวาของ Maafushi island เป็นคุกเก่าจะตัดสัญญาณการบินค่ะ
สำหรับที่พักในรีสอรท์ตาม Atolls ต่างๆ ส่วนใหญ่ห้องน้ำ หรืออ่างแช่ Jacuzzi จะอยู่บริเวณ Open Air ปกติทางโรงแรมจะเน้นย้ำเรื่อง “ความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าพัก” ดังนั้นหลายรีสอรท์จะไม่อนุญาติให้บินโดรนในพื้นที่ของโรงแรมเลย ในทริปนี้เราจึงจำเป็นต้องปฎิบัติตามกฎของโรงแรมอย่างเคร่งครัด คือ ไม่บินโดรนในส่วนของที่พัก ดังนั้นเลยนั่งเศร้าอยู่นี่ …ไม่มีภาพมุมสูงในส่วนของที่พักมาฝากค่ะ ( นั่งร้องไห้แป๊ป T___T)
15. ของจำเป็นที่ต้องเตรียม…มีไรบ้าง?
เพราะเราไม่ได้ไปเที่ยวทะเลทุกวัน ไปทั้งทีต้องจัดให้เต็มที่ทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม กันซะหน่อย จะได้ถ่ายรูปมุ้งมิ้ง อัฟรูปชีวิตดี๊ดีลงโซเชี่ยล
- แว่นตากันแดด : ใช้ทั้งใส่กันลม กันแดด กันฝุ่น คาดศีรษะ
- หมวกเก๋ๆ : จะหมวกสาน หมวกปานามา หรือจะหมวกใบใหญ่ๆ แค่ใส่หมวกก็ทำให้สวยเก๋ขึ้น ท้ารังสี UV อย่างมั่นใจ
- ชุดว่ายน้ำ : จะ one piece สุดชิค หรือ bikini สุดแซ่บ และก็ “เสื้อคลุมตัวยาว” เอาใส่คลุมทับชุดว่ายน้ำจะยิ่งเพิ่มดีกรีความอินเทรนด์
- ชุดเดรสยาวชายกระโปรงพริ้วๆ : เดรสยาวจะเป็นแบบถัก แบบลูกไม้สีขาว ผ้าบาติก หรือแบบลายดอกไม้สดใสก็ได้
- กระเป๋าสาน : กระเป๋าทรง tote จะจุมากกกกใส่ทุกอย่างลงในกระเป๋าได้หมด แล้วใส่รองเท้าแตะเปลือยเท้าก็เป็นลุคส์ที่ดูสบายๆ
- ครีมกันแดด และ After sun : ไอเท็มนี้จำเป็นมากกกกก เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ ทาซ้ำทุก 2-4 ชม.
- ซองกันน้ำใส่กล้อง/ถุงซิบล็อค : ช่วยกันฝุ่นและทราย ถ้าเกิดอุบัติเหตุของตกน้ำ โชคดีก็อาจซ่อมได้ โชคร้ายก็ต้องเปลี่ยนใหม่จ๊ะ
- เตรียมกล้องให้พร้อม : เช็คสภาพกล้อง และชาร์จแบตให้เต็มก่อน
- เครื่องสำอางแบบ waterproof : สาวๆ ต้องสวยเป๊ะทุกสถานการณ์ ขอคิ้ว ตา แก้มแดงระเรื่อๆ จะได้สวยแบบธรรมชาติ
- ยาดม ยาอม ยาหม่อง : ขาเมาทั้งหลายควรทานยาแก้อาการเมารถเมาเรือก่อนออกเดินทาง 30 นาที
หวังว่าข้อมูล 15 ข้อนี้จะทำให้เพื่อนๆ หนีงานไปเที่ยวทะเลที่มัลดีฟส์อย่างสนุกจุใจค่ะ