แดกู (Daegu) มหานครใหญ่อันดับ 3 ของเกาหลีใต้

 เมืองใหญ่ อากาศดี ล้อมรอบด้วยท่ามกลางขุนเขา และธรรมชาติสวยงามสุดๆ
เป็นจุดบรรจบของวัฒนธรรม ความทันสมัย มีแหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่มากกว่าเมียงดงถึง 3 เท่า
และนี่คือ “เมืองท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่เราหลงรักไปเรียบร้อยแล้ว” ^^

บทความนี้ปูเป้จะมาแนะนำ 9 ข้อควรรู้ ที่จะช่วยให้ทุกคนเที่ยวแดกู (Daegu) ได้อย่างสบายใจ… ไม่เปิ่นแน่นอนค่ะ 

รวมบทความและคลิปเที่ยวเมืองแดกู (Daegu)

1. เที่ยวเกาหลีใต้ Free VISA นะ (รู้ยัง?)

ประเทศเกาหลีใต้เปิด Free VISA ให้คนไทยมานานแล้วจ้า เราสามารถเดินทางไปท่องเที่ยว ประชุม สัมมนา งานนิทรรศการ หรือเยี่ยมครอบครัว พักอาศัยอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ได้ครั้งละไม่เกิน 90 วัน ดังนั้นแค่มีตั๋วเครื่องบิน, Passport ก็แพ็คกระเป๋าเสื้อผ้ามาเที่ยวได้เลยจ้า

เมืองแดกู (Daegu) ไม่ไปยากนะคะ เพราะตอนนี้ T’Way สายการบิน Low-cost ของเกาหลีใต้ มีเส้นทางบินตรงจาก กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) ไปลงเมืองแดกู (Daegu) แล้วค่า เปิดให้บริการทุกวันด้วยนะ!! เส้นทางบินจากกรุงเทพ-แดกู-กรุงเทพ :

  • BKK-TAE   TW106  เวลา 02.25 – 09.20  ใช้เวลาบิน 4.55 ชั่วโมง
  • TAE-BKK   TW105  เวลา 21.10 – 01.10(+1) ใช้เวลาบิน 6 ชั่วโมง

เวลาบินสวยมากเลย บินไปถึงปุ๊บ ลงไปเติมหน้านิดหน่อยก็เที่ยวต่อได้เลย ปูเป้ว่าเวลาบินของ T-Way น่าจะถูกใจคนทำงานอย่างเราๆ นะคะ

คำเตือน : ขากลับ ควรมาถึงสนามบิน Daegu ก่อนเครื่องบินออกอย่างน้อย 3 ชม. นะคะ แม้สนามบินที่นี่จะไม่ใหญ่ แต่คนเดินทางหนาแน่นมากค่ะ โดยเฉพาะไฟลท์จาก Daegu ไปประเทศไทย คนเมือง Daegu ชอบไปเที่ยวเมืองไทยเอามากๆ เลยค่า

และแม้จะเป็นตั๋ว Low-cost แต่เค้าแถมน้ำหนักโหลดกระเป๋าเริ่มต้นให้เลย 15 กก. ค่า แล้วเรายัง Carry-on ขึ้นเครื่องได้อีก 10 กก. รวมแล้วเราได้เริ่มต้นตั้ง 25 กก. แน่ะ โอ้โห!! ช่วยประหยัดต้นทุนท่องเที่ยวเราได้เยอะเลย

ส่วนใครตั้งใจจะไปชอปปิ้ง เราแนะนำให้ซื้อน้ำหนักเพิ่มตอนขากลับเอาไว้รอเลยนะ ทริปนี้ปูเป้ซื้อน้ำหนักโหลดกระเป๋าขากลับเอาไว้แล้ว 40 กก. ค่าาาา!!! บอกเลยทริปนี้ปูเป้ช้อปฯ กระจาย!!

แอร์สวยอย่างกับนางเอกซีรีย์เกาหลี

ที่นั่งกว้าง ยืดขาได้สบายๆ

แม้จะไฟลท์ดึกๆ เราก็ไม่หิว เพราะบนเครื่องมี Light Meal ไว้จำหน่าย หรือใครอยากสั่งเมนูอร่อยล่วงหน้า เค้าก็มีให้บริการนะ

2. อย่าลืมกรอกแบบฟอร์มก่อนเข้าเมือง

ก่อนลงเครื่องบิน แอร์สาวสวยจะแจกฟอร์มให้กรอก 2 ใบ ได้แก่ Arrival Card และ Passenger Declaration กรอกให้เรียบร้อย แล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่ค่ะ

3. เรื่องแลกเงินเรื่องใหญ่ ตั้งใจฟังนะ

ประเทศเกาหลีใต้ใช้สกุลเงิน KRW  (สัญลักษณ์: ₩, ภาษาเกาหลี: 원, WON)  แนะนำให้แลกเงินจากไทยไปเลย สะดวกกว่าเยอะจ้า แต่ถ้าไม่ได้เตรียมแลกเงินมาที่สนามบินก็มีเคาน์เตอร์ให้แลกเงินด้วย  ถ้าอยากจะเดินทางสะดวก ปูเป้แนะนำให้ซื้อบัตร T-Money พร้อมเติมเงินในบัตรได้เลยที่ร้านมินิมารท์ CU ชั้น 1 ของสนามบินแดกูได้เลย

ร้านมินิมารท์ CU ชั้น 1 ของสนามบินแดกู

วิธีแปลงค่าเงินเกาหลีเป็นเงินบาท ถ้าเอาง่ายๆ เอาเงิน won คูณด้วย 0.03 ก็จะเป็นเงินบาทแล้วค่ะ ตัวอย่าง เช่น 10,000 won คิดเป็นเงินไทย ก็เท่ากับ 10,000 x 0.03 ก็จะเท่ากับ 300 บาท ค่ะ ถ้าเอาแบบเป๊ะๆ  ก็ (x 0.0283) = 283 บาท (คำนวณตามเรทแลกเงิน ณ. 19 มค.2562)

4. อยากเล่น Social ต้องหา Sim Card

ทริปนี้เราซื้ออินเตอร์เน็ตซิมจากเมืองไทยไปจ้า สัญญาณอินเตอร์เน็ต 4G ที่แดกูแรงเร็วฉิวเลยทีเดียว เสถียรแม้บน Cable Car สูงหรือจุดชมวิว !!  ดู VDO เล่นเน็ตเร็วปรี๊ดๆๆ ไม่อืดจ้า

5. เที่ยวแดกูช่วงไหนดีหล่ะ?

แดกู เป็นเมืองที่อยู่ทางใต้ของประเทศเกาหลีใต้ เป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยขุนเขาและธรรมชาติอันสวยงาม เป็นมหานครใหญ่อันดับ 3 ของเกาหลีใต้ มีประชากรกว่า 2.5 ล้านคน เป็นศูนย์กลางสินค้าสิ่งทอและเป็นศูนย์การค้าพืชสมุนไพรนานาชนิด

เมืองแดกู ได้ชื่อว่ามีอากาศที่แตกต่างกันอย่างมากในแต่ละฤดู

แบ่งอากาศเป็น 4 ฤดูกาลดังนี้

  • ฤดูใบไม้ผลิ : 1 มีค. –  31 พค (ช่วงดอกซากุระบานอลังการ ยิ่งทำให้เมืองสวยยิ่งขึ้น)
  • ฤดูร้อน : 1 มิย. –  31 สค. (ช่วงเดือนที่ร้อนที่สุดจะมีอุณหภูมิประมาณ 25℃ ถึง 29℃)
  • ฤดูใบไม้ร่วง : 1 กย. –  30 พย. (ช่วงใบไม้แดงสวยๆ ทั้งหุบเขา)
  • ฤดูหนาว : 1 ธค. –  28 กพ. (ช่วงเดือนที่หนาวที่สุดของปีประมาณ -7℃ ถึง 14℃)

เฉลี่ยอุณหภูมิ สภาพอากาศ วันที่มีแสงแดด เมฆ ปริมาณน้ำฝน และหิมะเป็นรายเดือนในแดกูตั้งแต่ปี 2015 – 2019

6. การเดินทาง…เอาไงดีหล่ะ?

เรื่องการคมนาคมขนส่งก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้เราเที่ยวไปยังที่ต่างๆ ได้ เรามาดูกันค่ะ ว่าถ้าจากเมืองอื่นจะมาเที่ยวแดกู (Daegu) ต้องทำยังไง แล้วการเดินทางท่องเที่ยวในแดกู​ (Daegu) มีบริการขนส่งอะไรบ้าง เริ่มจาก…

การเดินทางระหว่างเมืองสู่แดกู (Daegu)

  • Domestic Flight :  จาก Incheon และ Jeju ใช้ระยะเวลาในการบิน 1 ชั่วโมงมาที่ Daegu
  • Airport Limousine : จาก Incheon – Dongdaegu ใช้ระยะเวลาประมาณ 3.50 ชั่วโมง
  • KTX/ SRT Train : รถไฟความเร็วสูงจาก Seoul และ Suseo มาลงที่สถานี Dongdaegu ใช้เวลาประมาณ 1.45  ชั่วโมง, จาก Busan ใช้เวลาประมาณ 45 นาที, จาก Pohang ใช้เวลา 35 นาที
  • Express Bus :  มาลงที่สถานี Dongdaegu  ถ้ามาจาก Seoul  ใช้เวลา 3.40 ชั่วโมง,  จาก Gwangju  ใช้เวลา 3.30 ชั่วโมง, จาก Busan ใช้เวลา 1.10 ชั่วโมง และจาก Daejeon ใช้เวลา 2 ชั่วโมง

การเดินทางจากสนามบินเข้าเมือง

ทริปนี้ปูเป้ตั้งใจมาช่วง Korea Grand Sale ช้อปปิ้งเสื้อผ้า สินค้ากันหนาว เครื่องสำอาง ของใช้ลดราคามากถึง 50-70% เลยขนกระเป๋ามาหลายใบ ดังนั้นเราจึงนั่ง Taxi เข้าเมืองเป็นวิธีที่เร็ว สะดวกสบาย ไม่ต้องถือของพะรุงพะรัง

  • ราคาแท็กซี่เริ่มต้นที่ 3,300 ₩ จากสนามบินไปที่พัก Aega Hanok Guesthouse (애가 한옥 게스트하우스) ใช้ระยะเวลาประมาณ 20 นาที  ค่าแท็กซี่ 12,000 ₩ (ไม่เกิน 340 บาท)
  • ยิ่งมีสัมภาระเยอะ มากันหลายคน พอหารเฉลี่ยออกมาแล้วถูกมาก… โอ๊ว!!!  งั้นมาวันแรกเราต้องประหยัดแรงกันก่อนจ้า

การเดินทางในเมือง

รถแท็กซี่ : ราคาเริ่มต้นที่ 3,300 ₩  ซึ่งสามารถเรียกได้ทั่วไปจะเรียกที่ไหนก็ได้ รถคันหนึ่งจำกัดผู้โดยสาร 5 คนรวมคนขับแล้ว คนขี้เมื่อยแบบปูเป้ชอบวิธีนี้ที่สุดค่ะ

รถไฟใต้ดิน : รวมมี 2 สาย, Monorail 1 สาย รวม 89 สถานี Metro Lines รถไฟฟ้าใต้ดินรวมมี 3 สายคือ

  • Line 1 เส้นสีแดง  :   Seolhwa-Myeonggok – Ansim
  • Line 2 เส้นสีเขียว :   Munyang – Yeungnam Univ.
  • Line 3 (Monorail) เส้นสีเหลือง : KNU Medical Center – Yongji

รถเมล์ :  ถือว่าได้เป็นการชมเมืองเรื่อยๆ ได้บรรยากาศไปอีกแบบหนึ่งค่ะ ซึ่งหลายสถานที่ก็สามารถเข้าถึงได้ด้วยรถเมล์เช่นกัน

การเดินทางจากแดกู (Daegu) ไปเที่ยวเมืองอื่นๆ 

กรณีที่เราจะเดินทางจากแดกู (Daegu) ไปเที่ยวเมืองยอดฮิตอื่นๆ เช่น โซล (Seoul) หรือปูซาน (ฺBusan) ก็มีหลายวิธีทั้งรถบัส, เครื่องบิน และรถไฟได้เลยตามความสะดวกค่ะ ซึ่งกรณีเดินทางโดย “รถไฟ” ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่อยากจะแนะนำ โดยเราจะสามารถเลือกตามระยะเวลา และระดับของความเร็ว โดยแบ่งรถไฟเป็น 3 ประเภทดังนี้

  1. Mugunghwa (แบบธรรมดา)  : ใช้ระยะเวลาการเดินทาง 4 ชั่วโมง
  2. ITX Saemaul (แบบด่วน)  : ใช้ระยะเวลาการเดินทาง 3.24 ชั่วโมง
  3. Korea Express Train หรือ KTX (แบบด่วนพิเศษ) : ใช้ระยะเวลาการเดินทาง 1.40 ชั่วโมง วิธีนี้จะสามารถเที่ยวแดกูแบบเช้าไป-เย็นกลับได้เลยค่ะ (ขอแนะนำวิธีนี้นะคะ)

รถไฟความเร็วสูงแบบด่วนพิเศษ Korea Express Train หรือ KTX  มีรถไฟ 4 สายย่อย คือ สาย Gyeongbu, สาย Honam, สาย Gyeongjeon เเละ สาย Jeolla ซึ่งจะมีสถานีหลักๆ ของสายเหล่านี้อยู่ในโซล ได้เเก่สถานี Seoul , สถานี Yongsan เเละ สถานี Yoeungdongpo โดยรถไฟวิ่งด้วยความเร็วสูงถึง 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง คล้ายกับรถไฟชิงกันเซ็ง (Shinkansen) ของญี่ปุ่น เราจะสามารถเที่ยวตั้งเเต่เหนือยันใต้ของเกาหลีได้เลยค่ะ

ถ้าซื้อรถไฟรายเที่ยวตั๋วอาจจะเต็มในวันหยุด ไม่มีที่นั่ง และราคาค่าตั๋วรถไฟจะสูงกว่า  สำหรับคนชอบแพลนล่วงหน้า เราสองคนแนะนำให้ซื้อ บัตรโดยสารรถไฟ Korea Rail Pass (KR Pass) (2, 3, 4 หรือ 5 วัน) : ตั๋วรถไฟ 2,3,4,5 วัน จะเป็นแบบ consecutive หรือ flexible จากไทยมาล่วงหน้าจะสะดวก เพราะราคาถูกกว่าซื้อหน้า Website ของ KR Pass

วิธีนี้จะประหยัดเงินมากกว่าซื้อเป็นรายเที่ยว, เหมาะสำหรับคนเดินทางไป-กลับหลายเมือง, ยืดหยุ่นเวลาการใช้รถไฟได้ไม่จำกัดเที่ยวมากกว่า 80 เส้นทาง และ 600 สถานี เช่น กรณีอยากไปเที่ยวปูซานก่อนมาขึ้นเครื่องบินกลับที่แดกู (Daegu) ปูเป้แนะนำซื้อแบบ 2 day flexible (สำหรับใช้วันที่เดินทางแดกู-ปูซาน และวันกลับจากปูซาน-แดกู) คือ เราจะสามารถเลือกเดินทางได้ 2 วัน ไม่จำกัดเที่ยว (โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเดินทางภายใน 10 วันหลังจากเริ่มใช้งานวันแรก) หลังจากชำระเงินแล้วเราจะได้ Voucher ที่ส่งมาให้ทาง Email โดยเราสามารถปริ้นท์เอกสารไปจองที่นั่ง และแลกรับตั๋วหน้างานที่สถานีได้เลย หรือจะใช้จองที่นั่ง หรือเช็ครอบเวลารถไฟ และจองออนไลน์ผ่านหน้าของ Korea Rail Pass  ได้เลย  

สนใจซื้อ บัตรโดยสารรถไฟ Korea Rail Pass (KR Pass) (2, 3, 4 หรือ 5 วัน) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่

อ้างอิงข้อมูลจาก : Wikimedia Commons

7. เที่ยวแดกู…ค่าครองชีพแพงไหม?

เรื่องค่าครองชีพนี่สำคัญนะ คนทำงานอย่างเราไม่ได้พิมพ์แบงค์เอง จะเที่ยวก็ต้องรู้ไว้ก่อนว่าค่าใช้จ่ายเท่าไหร่บ้าง

ค่าครองชีพที่นี่ถูกกว่า Seoul ตั้งเกือบครึ่งนึงแน่ะ … เที่ยวเกาหลี ในเวอร์ชั่นสบายกระเป๋า เช่น

  • Seomun Market ข้าวของราคาก็น่ารัก เช่น ก๋วยเตี๋ยวฉีกราคาชามละ  3,500 ₩
  • Food street ช่วงกลางคืน ขนมแพนเค้กไข่ชิ้นละ 1,000 ₩
  • ไส้วัวย่างผัดกับเห็ดและซอส ราคา 6,900 ₩ ซึ่งเราว่าราคาก็กลางๆ รับได้จ่า
  • สตอร์เบอร์รี่ลูกยักษ์จัมโบ้เป็นถาดมี 20 กว่าลูก ราคา 10,000 ₩ (ตกแค่ 283 บาท)
  • น้ำเปล่าขวดขนาด 1.5 ลิตร ราคา 1,320 ₩
  • ค่าตัดผมผู้ชายย่านดงซองโน ออกแบบทรงและตัดโดย Hair Stylist ราคา 18,000 ₩ (5xx) เค้าว่าถูกกว่า Seoul เกือบครึ่งแน่ะ!!
  • กาแฟในร้านคาเฟ่เก๋ๆ ก็อยู่ราวๆ แก้วละ 5,000 ₩ (140 กว่าบาท)

ข้อมูลเพิ่มเติม :  ราคาค่าครองชีพใน Daegu

8. มารู้จักผู้คนและวัฒนธรรมของเมืองแดกู ​(Daegu) กันสักหน่อย

ประเทศเกาหลีใต้มีทั้งหมด 8 จังหวัด แต่ละจังหวัดมีวัฒนธรรมของตัวเอง คุณอาจจะเคยสัมผัสเกาหลีแบบ Seoul Style แต่อยากบอกว่า Daegu Style ถูกจริตคนไทยแน่นอน

  • ผู้คนน่ารัก ไร้เดียงสาของคนเกาหลี ที่มีความเขินกล้อง ชอบพูดคุย ยิ้มแย้ม เป็นมิตร ไม่แพ้ชาวปากคลองตลาด
  • เราอาจเห็นคุณลุงกับแฟชั่นและทรงผมย้อนยุคเดินตามท้องถนนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว …ก็อย่าแปลกใจนะ !!!
  • ร้านเสื้อผ้า ขายของจิปาถะ ของที่ระลึกตกแต่งเก๋ๆ น่ารักเยอะมาก ร้านส่วนใหญ่เป็นธุรกิจในท้องถิ่นมากกว่าร้านแฟรนไชส์
  • คาเฟ่เบเกอรี่ มีความมินิมอล ช่างจัด ช่างสุนทรี และอร่อยมาก เชน ร้าน Cafe Plbg และ Billy Work
  • อาหารอร่อยถูกปากคนไทย ไม่ต้องพกมาม่ามาแน่นอนจ้า สำหรับ 10 เมนูที่น่าลองก็ตามนี้เลยจ้า

9. พักในแดกู (Daegu) เลือกย่านไหนดี? 

ปูเป้แนะนำให้พักย่าน Downtown ใจกลางเมืองค่ะ จะใกล้กับรถไฟใต้ดินสถานี Jungangno, Daegu Station และ Banwoldang หรือย่าน Dongseongno, Deagu City Center, Lotte Young Plaza ข้อดี คือ เดินทางสะดวกมาก บริเวณนี้จะตั้งอยู่กลางเมืองล้อมรอบไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายของ ห้างสรรพสินค้า ส่วนใหญ่ร้านค้าที่นี่จะเปิดสาย ปิดดึก ช่วงเย็นๆ หรือยามค่ำคืนก็ออกมาเดินเล่นได้

Daegu City Area

สำหรับทริปแดกูรวม 5 วัน 4 คืนนี้ ปูเป้เลือกที่พักไว้ 2 แบบ คือ แบบบ้านโบราณสไตล์ฮันอก และ แบบ Airbnb ซึ่งก็ประทับใจมากทั้ง 2 ที่ เนื่องจากที่ตั้งดี เดินทางสะดวกไม่ไกลจากย่านช้อป Dongseongno ค่ะ

1. Aega Hanok Guesthouse (애가 한옥 게스트하우스)

บ้านพักสไตล์ฮันอก (Hanok) ถือว่าเป็นบ้านทรงคุณค่ามรดกทางวัฒนธรรมแห่งเกาหลี บ้านพักราคา 80,000 WON/คืน (ห้องน้ำจะอยู่ด้านนอก) ตกคืนละประมาณ 2,500 บาท

เป็นบ้านไม้มีพื้นที่ตรงกลางบ้าน ได้การันตี 5 ดาวจาก TripAdvisor คุ้มค่า และมีคุณภาพดี

ห้องนอนจะมีฟูกปูให้รองนอนที่พื้น ซึ่งพื้นไม้จะมีปุ่มให้เลือกระดับความร้อนของฮีทเตอร์ นอนอุ่นสบาย

รายละเอียดการเข้าพัก

  • ทางที่พักจะมีบริการ Free WiFi มีผ้าเช็ดตัว สบู่ แชมพู ไดร์เป่าผม ห้องนั่งเล่นส่วนกลางพร้อมทีวี
  • ห้องครัวจะมีอุปกรณ์ทำครัวให้พร้อม เช่น ถ้วย ชาม มีด ช้อนส้อม ตู้เย็น เครื่องทำน้ำดื่ม เตาไฟฟ้า เครื่องไมโครเวฟ เครื่องปิ้งขนมปัง กาต้มน้ำร้อนไฟฟ้า
  • อาหารเช้าจะเป็นแบบให้เราทำเอง โดยจะมีวัตถุดิบในห้องครัว เช่น ขนมปัง-แยม ไข่ไก่ นม กาแฟ บะหมี่สำเร็จรูปแบบกระป๋อง ขนมขบเคี้ยว ไอศกรีม
  • คุณลุงเจ้าของบ้านและลูกชายน่ารัก ดูแลดี ให้ความช่วยเหลือบริการเราดีมาก

คุณลุงเจ้าของบ้านให้ความช่วยเหลือบริการเราดีมาก

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่ : 19-4 Buknae-dong, Jung-gu, Daegu, South Korea
โทรศัพท์ : +82 53-781-5215
Website : https://goo.gl/oTiGqu
พิกัด : https://goo.gl/maps/X6mTPtZbzi

2. AirBNB : 동성로 복층 LA DOLCE VITA in downtown ย่าน Jung-gu

ห้องแบบ Modern style duplex studio เจ้าของชื่อ Kurt ซึ่งได้คะแนนดีจาก Airbnb ว่าเป็น Superhost ตกคืนละประมาณ 2,500 บาท  ห้องพักสะอาดพักได้ 4 คน มี 2 เตียงนอนขนาด Queen size ซึ่งแบ่งเป็นชั้นบนและชั้นล่าง มี 1 ห้องน้ำ ห้องตกแต่งน่ารักให้ความรู้สึกอบอุ่น เก๋ๆ มีเนื้อที่เยอะ วิวจากห้องพักดีมากๆ เงียบสงบ

ห้องแบบ Modern style duplex studio

อุปกรณ์เครื่องนอนดี สะอาด เตียงไม่หยวบ หมอนไม่นิ่มเกินไป กลิ่นหอม นอนหลับสนิทตลอดคืน

รายละเอียดการเข้าพัก

  • Check-in เวลา 16:00 ทางเจ้าของจะเตรียม Key Card ไว้ใน Mail Box ตามเบอร์ที่ระบุไว้
  • Check-out วาง Key Card ไว้ในห้องพักได้เลย
  • ที่พักเป็นตึกสูงเหมือนคอนโดตั้งอยู่ใจกลางเมือง กดลิฟท์ขึ้นได้เลย ไม่ต้องแบกกระเป๋าขึ้นบันไดนะจ้า
  • เดินทางสะดวก ไม่ไกลจาก Deagu City Center และย่านช้อปปิ้งดงซองโน
  • หาของทานง่ายมาก บริเวณชั้นล่างของตึกจะมีซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร ร้านกาแฟ A Twosome place ร้านตัดผม เดินไปนิดหน่อยก็มีร้านกาแฟ Starbucks
  • มีอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ให้ครบ ทั้งโทรทัศน์ Free Wifi ไดร์เป่าผม ระบบควบคุมไฟและน้ำร้อน ฮีตเตอร์ที่พื้นปรับให้ห้องอุ่นขึ้น เครื่องปรับอากาศ

อุปกรณ์เครื่องใช้ในห้องน้ำ เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น, ผ้าขนหนู, แชมพู, คอนดิชั่นเนอร์, สบู่, แปรง-ยาสีฟัน, ฟองน้ำขัดตัว

อุปกรณ์ทำครัวก็มีไมโครเวฟ อ่างซิงค์ ตู้เย็น กาต้มน้ำไฟฟ้า จานชาม ช้อนส้อม มีด กระทะ หม้อ เตาไฟฟ้า และเครื่องปรุง เช่น เกลือ พริกไทย น้ำมัน

ข้อมูลเพิ่มเติม :  https://goo.gl/Xj8F2m