ช่วงปีนึงมานี้ ไต้หวันเริ่มกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนไทย เพราะที่นี่มีความเจริญ มีเทคโนโลยี มีระเบียบสังคมดี๊ดี เที่ยวง่ายเหมือนญี่ปุ่น อาหารอร่อย ผู้คนเป็นมิตร แถมมีที่เที่ยวหลากหลายทั่วทั้งเกาะ
ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงไปเที่ยวไต้หวันกันมาแล้วล่ะ ดังนั้นบทความนี้ผมจะไม่ลงรายละเอียดเรื่องการเดินทางในไต้หวันกันแล้วนะครับ
รวมรีวิวเที่ยวไต้หวัน :
- ตะลุย ไถหนาน (Tainan) กิน-เที่ยว-นอน กับ 14 ที่เที่ยวชิคๆ ฮิปๆ แล้วคุณจะหลงรัก!!
- พาเที่ยว 3 เมืองเฟี้ยว! แห่งไต้หวัน (เกาสง, ผิงตง, ไถหนาน) พร้อมเทคนิคจองที่พักให้ได้ดีลดีๆ!!
- ตะลุย เกาสง (Kaohsiung) กิน-เที่ยว-นอน แบบที่ทัวร์ไม่(ค่อย) พาไป
- 10 พิกัดใหม่ไต้หวันที่คุณ (อาจ) ยังไม่ค้นพบ!! Undiscovered Taiwan
- กินรัวๆ ให้ทั่วไต้หวัน : รวม 12 ร้านอร่อย “ไทเป” (Taipei) ที่ทัวร์ (ไม่ค่อยจะ) พาไป!!
- 8 พิกัด (ใหม่) นอนดี กินอร่อยใน ไทเป !
- ตะลุยตลาดปลา Taipei Fish Market
- มาดู 10 เหตุผลที่เราหลง(รัก) ไต้หวัน
- 9+2 พิกัดเที่ยวไถจง (Taichung, Travel Guide) เมืองแห่งผู้คน ต้นไม้ อาร์ต และคุณภาพชีวิต!!
- รวมพิกัดสุดอร่อย เมืองไถจง, ไต้หวัน (Taichung Ultimate Food Guide, Taiwan) ที่ทัวร์ไม่พาคุณไป
- เที่ยวไต้หวัน ห้ามพลาด Sun Moon Lake (ทะเลสาบสุริยันจันทรา)
- รีวิวจัดเต็ม China Airlines กรุงเทพ – เกาสง (ไต้หวัน) บุกเยี่ยมห้องนักบิน สำรวจ VIP Lounge
แต่วันนี้จะมาพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับตัวตนของไต้หวัน ผ่าน 3 เมืองโบราณอันโด่งดัง ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง 3 เมืองที่พูดถึงนั่นคือ Jiufen (จิ่วเฟิ่น) Shifen (ฉือเฟิ่น) และ Lukang (ลู่กัง) ตามมาเลยครับ ผมจะพาไปเที่ยวแบบไม่ซ้ำใคร
จิ่วเฟิ่น (Jiufen) – จากเหมืองทองโบราณกลางหุบเขาสู่เมืองท่องเที่ยวอันมีมนต์เสน่ห์
ในอดีตจิ่วเฟิ่นเป็นชุมชนคนทำเหมืองทองของไต้หวัน เมืองตั้งอยู่ในหุบเขาทางตะวันออกเฉียงเหนือของไทเป มีภูมิประเทศสลับซับซ้อน มีสถาปัตยกรรมสไตล์จีนโบราณอันมีเอกลักษณ์
ในสมัยที่เหมืองทองยังไม่ปิด ที่นี่รุ่งเรืองมาก มีชุมชนใหญ่ มีโรงเรียน ผู้คนมากมายมุ่งมาที่นี่เพื่อทำมาหากิน…
ต่อมาเมื่อไม่มีการทำเหมืองทองแล้ว ผู้คนก็ค่อยๆ ย้ายออกไป ชุนชนแห่งนี้เริ่มถูกทิ้งร้าง จนหลายปีต่อมาทางรัฐบาลก็เข้ามาพัฒนาเมืองนี้ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว
จิ่วเฟิ่นฟื้นคืนชีวิตอีกครั้ง กลายเป็นสวรรค์สำหรับคนชอบกิน ชอบท่องเที่ยว ด้วยทัศนียภาพอันสวยงามมีเอกลักษณ์ มีอาหารและขนมอร่อยมากมาย จิ่วเฟิ่นจึงไม่เคยร้างผู้คนอีกเลยนับแต่นั้นมา
จิ่วเฟิ่นนี่แปลกนะครับ แม้จะเป็นเมืองบนเนินเขา (ถ้าจะเดินเที่ยวให้ทั่วนี่ต้องพกยาไปนวดขาด้วย) แต่กลับเป็นเมืองโบราณที่มีชีวิตชีวามาก อาหารอร่อย ผู้คนอารมณ์ดี วิวสวย เป็นเมืองโบราณที่ประดับด้วยโคมไฟจีนสีแดงอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ของขุนเขา มีเสน่ห์มากมายเหลือเกิน เมืองนี้สวยทั้งกลางวัน – กลางคืนเชียวล่ะ
ตามตรอกซอกซอยของจิ่วเฟิ่นจะมีจุดถ่ายรูปโบราณเก๋ๆ เยอะแยะเลย แต่ละมุมดูสวยวินเทจมาก ดังนั้นแนะนำสาวๆ ใส่ชุดกี่เพ้ามาถ่ายรูปที่จิ่วเฟิ่น รับรองสวยแน่นอน ซึ่งที่นี่ก็มี บริการเช่าชุดกี่เพ้าสไตล์ดั้งเดิมในจิ่วเฟิ่น ไม่ต้องเตรียมมาด้วย ใครลองได้มาเที่ยวจิ่วเฟิ่นก็จะหวนระลึกถึงที่นี่เสมอ
สนใจซื้อ บริการเช่าชุดกี่เพ้าสไตล์ดั้งเดิมในจิ่วเฟิ่น คลิกที่นี่
ร้านน้ำชา Skyline Teahouse ในจิ่วเฟิ่น ร้านจะอยู่ด้านข้าง ทำให้เห็นวิวนี้สวยมากกกกกกกกให้คะแนน 10/10 เลยครับ ในโปรแกรมจะได้รับชาอู่หลง 1 กา, ผลไม้อบแห้ง (ฝรั่งอบแห้ง, ถั่วต่างๆ (bamboo charcoal peanuts), ชา plum และได้รับส่วนลด 10% สำหรับสินค้าต่างๆ ในร้าน เช่น Skyline Teahouse tea cup set, boxed tea plum package, handmade tea cup
สนใจซื้อบริการจาก ร้านน้ำชา Skyline Teahouse ในจิ่วเฟิ่น คลิกที่นี่
อีกร้านน้ำชาที่แนะนำ คือ Jioufen Teahouse|Artist Teahouse ในจิ่วเฟิ่น จะเดินผ่านโรงน้ำชา A Mei ลงบันไดเลี้ยวซ้าย ที่นี่จะเป็นโรงน้ำชาสวยที่เพิ่งเปิดใหม่ไม่นาน ถึงแล้วแนะนำรีบจับจองมุมระเบียง จิบน้ำชาและขนมพร้อมชมวิวภูเขาสวยๆ รับรองต้องประทับใจแน่ๆ
สนใจซื้อบริการจาก ร้านน้ำชา Teahouse|Artist Teahouse ในจิ่วเฟิ่น คลิกที่นี่
ด้วยเสน่ห์อันล้นเหลือนี่เอง จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ “ฮะยะโอะ มิยะซะกิ (Hayao Miyazaki) และสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli)” ใช้ธีมของเมืองนี้เป็นฉากหลังในการ์ตูนเรื่อง Spirited Away อันโด่งดังนั่นเอง
จะมา Check in ที่นี่ได้ยังไง?
- จาก Taipei Main Station ให้นั่งรถไฟ TRA มายังสถานี Ruifung Station (ใช้เวลาประมาณ 50 นาที)
- ออกจากสถานี Ruifang เดินข้ามถนนแล้วเลี้ยวไปทางซ้ายจะเจอป้ายรถเมล์อยู่ ให้นั่งรถบัสสาย 1062, 788, 827 หรือ 856 ก็ได้ครับ (ถ้ากลัวหลง สอบถามคนขับรถบัสได้เลย)
- หากกระเป๋าเยอะ ไม่อยากนั่งรถบัส ก็ใช้บริการ Taxi ได้ครับ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 180-300 NT แล้วแต่ระยะใกล้ไกล แล้วแต่ช่วงเทศกาลด้วยครับ
กรณีที่ไม่อยากเดินทางด้วยรถสาธารณะหลายต่อ
ด้วยการเที่ยวเมืองเก่าอาจจะต้องนั่งรถไฟ ต่อรถแท็กซี่ หรือรถบัส เน้นการเดินเยอะๆ บางคนอาจจะไม่สะดวก หรืออาจจะมีเด็กน้อยหรือผู้สูงวัยไปด้วย ขอแนะนำบริการทัวร์พาเที่ยวครึ่งวันแบบเป็นส่วนตัวคนไม่เยอะ ทัวร์ถนนสายเก่าและชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือในจิ่วเฟิ่น ออกเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Zhongxiao Xinsheng ทางออก 2 ในโปรแกรมจะพาสัมผัสบรรยากาศย้อนยุคของ Jiufen Old Street, หินนันยา และปีนขึ้นไปที่แหลม Bitou ไปชมวิวธรรมชาติแบบเต็มตาของน้ำทะเลและท้องฟ้า
สนใจซื้อ ทัวร์ถนนสายเก่าและชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือในจิ่วเฟิ่น ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
ฉือเฟิ่น (Shifen) – จากหมู่บ้านปลายทางรถไฟสู่หมู่บ้านโคมลอยและน้ำตกสุดอลังการ
หมู่บ้านฉือเฟิ่นเป็นหมู่บ้านเล็กๆ อยู่ในอำเภอผิงสี เป็นหมู่บ้านโบราณที่มีทางรถไฟพาดผ่านกลางหมู่บ้าน เนื่องจากในอดีตเคยเป็นปลายทางของรถไฟที่ใช้ขนถ่านหิน เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป
อุตสาหกรรมเหมืองถ่านหินกลายเป็นแค่เรื่องเล่าในพิพิธภัณฑ์ ทางการไต้หวันก็ได้เข้ามาพัฒนาหมู่บ้านโดยร่วมกับชุมชน ที่นี่มีทั้งน้ำตกขนาดใหญ่ มีของกินอร่อย มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งหมดนั้นเพียงพอที่จะทำให้ฉือเฟิ่นกลายเป็นสถานที่เที่ยวที่เราไม่ควรพลาด!!
ฉือเฟิ่นเป็นหมู่บ้านโบราณที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กลางหมู่บ้านมีทางรถไฟพาดผ่าน มีอาหารท้องถิ่นรถชาติดี มีน้ำตก Shifen ที่ยิ่งใหญ่อลังการสวยงามมาก
ใครที่แวะมาเที่ยวที่หมู่บ้านนี้นอกจากจะได้เที่ยวน้ำตกแล้ว ยังได้เพลิดเพลินกับการปล่อยโคมลอย (คล้ายโคมยี่เป็ง) และทานของอร่อยๆ ได้ตลอดสองข้างทางครับ
โคมลอยของไต้หวัน มีชื่อว่า “โคมขงหมิง” ถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยขงเบ้ง ที่ปรึกษาด้านการทหารคนสำคัญในประวัติศาสตร์ยุคสามก๊ก เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารของกองทัพตั้งแต่เมื่อครั้งอดีต
ปัจจุบันจะมีเทศกาลโคมไฟผิงสี หรือ PingXi Sky Lantern Festival จัดขึ้นทุกปีในวันหยวนเซียว คือวันที่ 15 ของเดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติ ซึ่งเป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวงครั้งแรกในรอบปีหลังผ่านพ้นตรุษจีน คล้ายกับเป็นวันส่งท้ายเทศกาลตรุษจีนนั่นเองครับ
แม้ช่วงที่ไปจะมีมรสุมเข้า ฝนตกตลอดเวลาเลยครับ แต่บรรดานักท่องเที่ยว (และตัวผม) ก็ไม่ได้กลัวฝนแต่อย่างใด ยังคงตากฝนปล่อยโคม และตากฝนเที่ยวน้ำตกกันอย่างสนุกสนาน
หากเดินจากหมู่บ้านออกไปสัก 1 กม. เราจะไปถึงยังน้ำตก Shifen ครับ ซึ่งเป็นน้ำตกใหญ่ที่สวยและอลังการมาก ต้องชื่นชมทางการไต้หวันที่มาพัฒนาเส้นทางให้ท่องเที่ยวได้สะดวกมาก บริเวณน้ำตกจะมีอาคารทำการ ที่มีห้องน้ำสะอาดไว้บริการ มีอาหาร + เครื่องดื่มจำหน่าย มีที่จอดรถไว้รองรับ ที่สำคัญบริเวณน้ำตกได้มีการปรับภูมิทัศน์ให้สะดวกต่อการเยี่ยมชมได้อย่างปลอดภัยเลยครับ
เสร็จจากเดินชมน้ำตก ท้องก็เริ่มหิวซะแล้ว งั้นเราไปดูกันครับว่ามีอะไรให้ได้ไปชิมกันบ้าง อย่างแรกก็นี่เลยครับ
ข้าวโพดปิ้ง 55555 ดูไปคล้ายบ้านเราครับ แต่ของเค้ามีให้เลือกด้วยว่าจะคลุงผงเครื่องเทศหรือไม่ ซึ่งรสชาติใช้ได้นะครับ เดินเพลินๆ แทะเพลินๆ
หมูปิ้ง เนื้อปิ้ง ไก่ปิ้ง อันนี้จะเป็นการนำหมู ไก่ เนื้อ มาหมักด้วยซอสพิเศษครับ เมื่อปิ้งเสร็จก็จะมาจุ่มซอสอีกทีนึง เมนูนี้ผมไม่ได้ซื้อชิม (เนื่องจากอิ่มมาก) แต่เห็นคนต่อแถวซื้อกันเยอะเลย
ถ้ากระหายน้ำ ผมแนะนำร้านนี้ครับ เป็นร้านน้ำปั่นที่ใช้แต่เนื้อผลไม้เพียวๆ ไม่เติมน้ำ ไม่ใส่น้ำตาล มีทั้งน้ำแตงโม น้ำแครอท น้ำส้ม น้ำสตรอว์เบอร์รี่ ที่สำคัญพ่อค้าหล่อแซ่บน่าลิ้มลอง เอ๊ย!! น่าอุดหนุนๆ
ถัดไปเป็นร้านอาหารจีนสไตล์ฉือเฟิ่นครับ สารภาพเลยว่าอ่านเมนูไม่ออก คนขายพูดอังกฤษไม่ได้ ผมเลยสั่งว่าขอเมนูเด็ด “นัมเบอร์วัน” ของร้าน คนขายพอเข้าใจ เลยจัดเมนูนี้มาให้ครับ
จุดเด่นจะเป็นก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ ในน้ำซุบข้นเหนียว รสชาติดี หอมกระเทียมเจียว เสิร์ฟมาพร้อมถั่วต้ม ฟองเต้าหู้ยัดไส้ รสชาติดีมากเลยครับ
แล้วก็มาถึงเมนูเด็ดของฉือเฟิ่นครับ คนต่อแถวยาวมากกกกกก…กกก นั่นคือ ไก่ยัดไส้ทอด รสชาติอร่อยมากๆๆ เค้าจะเอาเนื้อไก่มาหมักรวมกับเครื่องเทศ ข้าวเหนียว เสร็จแล้วยัดกลับเข้าไปในน่องไก่แล้วเอาไปทอด โรยด้วยงาขาว รสชาติจัดจ้าน ชอบมากครับ
ต้องต่อแถวนะครับ ไม่งั้นไม่ขายให้ ที่สำคัญ… ขายดี จนขายหมดเร็วมาก ใครจะไปชิมต้องรีบไปนะ ร้านนี้อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟเลย สังเกตร้านที่คนเยอะๆ ครับ
ก่อนกลับผมแวะเดินเที่ยวเล่นในตัวหมู่บ้าน แล้วก็เอาบรรยากาศยามพลบค่ำมาฝากด้วยครับ ที่หมู่บ้านมีมุมยอดนิยมคือมุมถ่ายภาพบริเวณสะพานแขวนนะครับ มุมสวย ถ่ายแล้วเห็นวิวภูเขาด้านหลังด้วย
จะมา Check in ที่นี่ได้ยังไง?
จากสถานี Ruifang ให้นั่งรถไฟสาย Pingxi ไปลงยังสถานี Shifen ได้เลยครับ หมู่บ้านนี้อยู่ที่ปลายทางสถานีครับ
กรณีคนที่ไม่อยากเดินทางด้วยรถสาธารณะหลายต่อ
ด้วยการเที่ยวเมืองเก่าอาจจะต้องนั่งรถไฟ ต่อรถแท็กซี่ หรือรถบัส เน้นการเดินเยอะๆ บางคนอาจจะไม่สะดวก หรืออาจจะมีเด็กน้อยหรือผู้สูงวัยไปด้วย ขอแนะนำบริการทัวร์แบบ 1 วันซึ่งมีรถรับส่งพร้อมไกด์นำเที่ยว และได้รับข้อมูลประวัติศาสตร์ และเรื่องราวความเป็นมาของแต่ละสถานที่
1.ทัวร์อุทยานเย่หลิว, จิ่วเฟิ่น, ซือเฟิ่น และน้ำตกทองคำแบบเต็มวัน (เดินทางจากไทเป)
ในโปรแกรมนี้จะรวมไกด์และบริการรับส่งจากไทเปทั้งขาไป-กลับ ซึ่งจะพานั่งรถบัสไปเที่ยวถามสถานที่แบบครบๆ เช่น เย่หลิว, จิ่วเฟิ่น, ซือเฟิ่น, ทะเลหยินหยาง, ซากปรักหักพัง 13 ชั้น, น้ำตกทองคำ และฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวันอย่างจุใจ! จึงทำให้การเดินทางง่ายและสะดวกสบายขึ้น
สนใจซื้อ ทัวร์อุทยานเย่หลิว, จิ่วเฟิ่น, ซือเฟิ่น และน้ำตกทองคำแบบเต็มวัน (เดินทางจากไทเป) คลิกที่นี่
2. ทัวร์เย่หลิว, จิ่วเฟิ่น และผิงซีหนึ่งวัน (เดินทางจากไทเป)
ในโปรแกรมนี้จะรวมไกด์และบริการรับส่งจากไทเปทั้งขาไป-กลับ ไกด์นำเที่ยวจะนัดพบที่สถานี MRT Zhongxiao Xinsheng ทางออก 2 จากนั้นจะพานั่งรถบัสไปเที่ยวถามสถานที่แบบครบๆ เช่น อุทยานธรณีเย่หลิว, สัมผัสเสน่ห์แห่งความทรงจำของหมู่บ้านจิ่วเฟิ่นที่งดงาม และพาไปผิงซีเพื่อจุดโคมสวยๆ แห่งเดียวของไต้หวัน แล้วปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้า
สนใจซื้อ ทัวร์เย่หลิว, จิ่วเฟิ่น และผิงซีหนึ่งวัน (เดินทางจากไทเป) คลิกที่นี่
ลู่กัง (Lukang) – เมืองโบราณ 260 ปี เมืองวัฒนธรรมที่มีมนต์ขลัง
เหตุผลเดียวที่ทำให้ผมอยากมาเที่ยวเมืองลู่กัง ก็เพราะไปเห็นภาพในหนังสือท่องเที่ยวครับ ในภาพนั้นพบว่าเมืองนี้เก๊าเก่า 5555 เก่าสุดๆ ครับ เหมือนดูหนังจีนโบราณ เหมือนดูเมืองจีนในหนังย้อนยุค และที่สำคัญคือเมืองนี้มีวัดที่ชื่อว่า Lukang Longshan Temple ครับ
ลู่กังคือเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในไต้หวัน ในอดีตเคยเป็นเมืองท่าที่ไว้ติดต่อค้าขายกับจีนตั้งแต่ยุคราชวงศ์หมิง ที่นี่เป็นเมืองเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์จากทางรัฐบาลให้คงไว้ซึ่งมนต์ขลังจากยุคอดีต
การมาเที่ยวที่นี่เราจะพบกับร้านค้า บ้านเรือน ที่ปลูกสร้างให้อยู่คู่กับตัวเมืองเก่าได้อย่างลงตัว แม้วันที่ผมไปเที่ยวจะมีฝนตกตลอดเวลา แต่ผมก็ยังคงพบเห็นนักท่องเที่ยวจากหลายชาติ เดินทางมาเที่ยวที่ลู่กังอยู่พอสมควรเลยครับ
อีกหนึ่งความเพลิดเพลินในการมาเที่ยวเมืองลู่กัง (ท่านกลางฝนตก) คือ การเดินไปเรื่อยๆ ครับ 55555 ผมเดินเล่นในเมืองไปเรื่อยๆ โดยมีเป้าหมายเป็นวัดสำคัญที่เก่าแก่ที่สุดในไต้หวัน ซึ่งก็คือวัด Lukang Longshan Temple
ระหว่างทางเราจะเจอร้านรวงเก่าๆ ร้านของกินท่าทางน่าอร่อย รวมถึงร้านขายงานแกะสลักโบราณ การค่อยๆ เดิน ค่อยๆ มองดูรูปแบบการใช้ชีวิต ถือเป็นความชิลล์อย่างนึงที่ควรมาลองทำดูนะ
ร้านนี้คือร้านขนมโบราณชื่อดังในเมือง มีป้ายประกาศยกย่องเต็มกระจกไปหมด แต่ที่สำคัญคือ ร้านนี้ดังเรื่องขนมไหว้พระจันทร์ครับ
ร้านนี้ผมหยุดดูอยู่นาน เพราะเห็นพี่เจ้าของร้านบรรจงทาสีที่รูปไม้แกะสลักของเทพเจ้าจีนอยู่ งานเนี๊ยบ งานละเอียด จนเคลิ้มไปว่ายืนอยู่แถวเยาวราชทีเดียว
ถัดมาอีกนิดจะเจอร้านขายซาลาเปาครับ เห็นแล้วไม่รอช้า ต้องรีบซื้อมาชิมทันที
หน้าร้านจะมีซึ้งไม้สไตล์จีนๆ อยู่หลายเตา พอเปิดออกมาก็ได้กลิ่นหอมของซาลาเปาโชยมาเตะจมูก ผมนี่จัดมาชิมซะหลายลูกเลย ซาลาเปาที่นี่ให้ไส้เยอะมากครับ แป้งหนาแต่ยังไม่นุ่มมากเท่าไหร่ รสชาติของไส้ซาลาเปาเข้มข้นมาก
ด้วยความที่บ้านส่วนใหญ่อยู่กันเป็นตึกแถว ดังนั้นชาวบ้านเลยนิยมเลี้ยงต้นไม้จิ่วในกระถางแทนครับ เราจะเห็นชั้นวางต้นไม้จิ๋วอยู่ตามหน้าบ้านแทบทุกแห่งในเมืองลู่กัง
หลังจากเดินเที่ยวเมืองไม่นาน เราก็มาถึงที่หมายแล้วครับ มาทำความรู้จักวัดแห่งนี้กัน
Lukang Longshan Temple (Chinese: 鹿港龍山寺; pinyin: Lùgǎng Lóngshān Sì) เป็นหนึ่งในวัดที่ผมว่าสวยที่สุดในไต้หวันแล้วครับ จากข้อมูลได้ทราบว่าเป็นวัดพุทธแห่งแรกในไต้หวัน
สร้างไว้ตั้งแต่ยุคราชวงศ์หมิง (คศ. 1786 ปัจจุบันก็ 260 ปีพอดี) วัดแห่งนี้ถือเป็นสมบัติล้ำค่าทางประวัติศาสตร์แห่งเกาะไต้หวันเลยทีเดียว
วัดเก่าแก่อายุ 260 ปี ผ่านกาลเวลา ผ่านแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ผ่านการบูรณะใหญ่มาถึง 5 ครั้ง แต่ยังคงความอลังการ สวยงาม และสมบูรณ์ไว้ได้อย่างดี แม้วันที่ไปจะฝนตกตลอดเวลา
แต่นั่นกลับทำให้ผมได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่ที่วัดแห่งนี้ บนพื้นที่กว่า 5,289 ตร.ม. ผมเดินเที่ยวได้ไม่รู้เบื่อ ได้สัมผัสความสงบ ความศรัทธา และละอองฝนชุ่มฉ่ำ (55555) ฝนตกหนักต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง ผมเองก็เดินถ่ายภาพจนหนำใจเลยแหล่ะ
จะมา Check in ที่นี่ได้ยังไง?
จาก Taichung ไปรอรถบัสที่ Taichung Train Station – Rear Exit
จุดรอบัส : ป้ายรถเมล์ชื่อว่า Behind Taichung Railway Station
ขึ้นรถบัส : สาย 9018 หน้าร้านแซนวิช SUBWAY
รถจะมาจอดใกล้ๆ กับ Family Mart จากนั้นเราก็เดินเที่ยวเมือง Lukang ได้สบายเลย
พิกัด GPS : 24.0516517,120.4364028
กรณีที่ไม่อยากเดินทางด้วยรถสาธารณะเอง
ขอแนะนำ ทัวร์เมืองเก่าลู่กั่งครึ่งวัน เมืองลู่กัง (Lukang) เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในไต้หวันฟีลเหมือนเกียวโตของญี่ปุ่น ในโปรแกรมไกด์จะพาไปชมถนนเก่าแก่, ชมสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมที่มีประตูโค้งและกำแพงอิฐสีแดง, พาไปชิมของท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง, เรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ประเพณี และขนบธรรมเนียมที่พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน Lukang, เยี่ยมชมหมู่บ้านศิลปะเพื่อชมงานฝีมือท้องถิ่น, ชมวัดหลงซานที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ของ Lukang, ชมหมู่บ้านศิลปิน Lukang ต่างๆ
สนใจซื้อ ทัวร์เมืองเก่าลู่กั่ง ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่
แนะนำเมืองน่าเที่ยวใกล้ลู่กัง (Lukang)
1. “ไถจง (Taichung)”
จุดเด่นของเมืองไถจง คือเรื่องของสภาพอากาศและภูมิประเทศที่ไม่ค่อยได้รับอิทธิพลจากมรสุมเหมือนภาคเหนือของเกาะ อากาศดี เงียบสงบ มีพื้นที่สีเขียวเยอะ เหมาะสมกับการทำการเกษตร จนคนญี่ปุ่นสมัยนั้นเรียกเมืองนี้ว่าเป็น “เกียวโตแห่งฟอร์โมซา (Kyoto of Formosa)” เลยทีเดียว ปัจจุบันแม้กระทั่งชาวไต้หวันเอง ก็ยังโหวตให้ “ไถจง (Taichung) เป็นเมืองที่เหมาะที่สุดในการใช้ชีวิต”
อ่านรีวิว :
- 9+2 พิกัดเที่ยวไถจง (Taichung, Travel Guide) เมืองแห่งผู้คน ต้นไม้ อาร์ต และคุณภาพชีวิต!!
- รวมพิกัดสุดอร่อย เมืองไถจง, ไต้หวัน (Taichung Ultimate Food Guide, Taiwan) ที่ทัวร์ไม่พาคุณไป
2. “หนานโถว (Nantou)“
เมืองขึ้นชื่อแห่งสายหมอก วิวธรรมชาติสวย ไร่ชางามๆ และทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake) ทะเลสาบน้ำจืดที่สวยที่สุดและใหญ่ที่สุดของไต้หวัน
อ่านรีวิว : เที่ยวไต้หวัน ห้ามพลาด Sun Moon Lake (ทะเลสาบสุริยันจันทรา)
การไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศที่มีวัฒนธรรมแตกต่างจากบ้านเรานั้น การไปเรียนรู้ธรรมเนียม มารยาท และประวัติศาสตร์ของเค้า ถือเป็นสิ่งที่ควรทำครับ เราจะได้เรียนรู้ความต่างของวัฒนธรรม เราจะสามารถเที่ยวประเทศเค้าได้อย่างเข้าใจ และที่สำคัญ เราจะเที่ยวประเทศนั้นๆ ได้สนุกเพิ่มขึ้นด้วยครับ
ขอบคุณสำหรับภาพสวย ๆ รีวิวดี ๆ ครับน้าต้อน
ด้วยความยินดีครับน้าป้อม ^_^