“เจ่าอาน” ครับโผม..มมม (早安 / Zǎo ān / เจ่าอาน = อรุณสวัสดิ์) ผ่านคืนแรกที่ไทเปไปอย่างอิ่มเอม ดังนั้นการเดินทางวันที่สองของพวกเรายังคงเติมเปี่ยมไปด้วยพลังงานแน่นอน วันนี้เราตื่นกันตั้งแต่เช้าฝุดๆ เพื่อจะขึ้นรถไฟความเร็วสูง (HSR) เที่ยวแรกไปยัง Taichung จากนั้นจึงค่อยต่อรถบัสไปยังหนานเถา (Nantou) ใช่แล้ววันนี้เราสองคนจะไปเที่ยวทะเลสาบสุริยันจันทรากัน ตามพวกเรามาเล้ย !!!

ข้อมูลเบื้องต้นของทะเลสาบสุริยันจันทรา เป็นดังนี้ครับ ทะเลสาบสุริยันจันทรา (จีน: 日月潭; พินอิน: Rìyuètán; เวด-ไจลส์: Jih⁴-yüeh⁴-t’an²; Pe̍h-ōe-jī: Ji̍t-goa̍t-thâm; ซจึน ถอุน (Zintun) ภาษาของชาวเซา (Thao) คล้าย ทะเลสาบแคนดิเดียส) เป็นแหล่งน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไต้หวัน เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากในไต้หวัน ทะเลสาบสุริยันจันทราตั้งอยู่ที่เขตหนานเถา เมืองหยูชี (Yuchi, Nantou) บริเวณโดยรอบของทะเลสาบเป็นบ้านเรือนของชาวเซา หนึ่งในชนเผ่าพื้นเมืองในไต้หวัน ทะเลสาบสุริยันจันทราล้อมรอบไปด้วยเกาะเล็ก ๆ ที่เรียกว่า ลาลู (Lalu) ภูมิประเทศด้านฝั่งตะวันออกของทะเลสาบมีรูปทรงคล้ายกับพระอาทิตย์ ส่วนทางด้านตะวันตกมีลักษณะคล้ายจันทร์เสี้ยว จึงเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบสุริยันจันทรา ทัศนียภาพของพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกเป็นที่ดึงดูดทุกคนที่ได้มาเยือนสถานที่แห่งนี้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมของทะเลสาบได้ที่นี่ครับ : http://www.sunmoonlake.gov.tw/English/

รวมรีวิวเที่ยวไต้หวัน :

• ตะลุย ไถหนาน (Tainan) กิน-เที่ยว-นอน กับ 14 ที่เที่ยวชิคๆ ฮิปๆ แล้วคุณจะหลงรัก!!
• รวม 24 ร้านอร่อย เมือง “ไถหนาน (Tainan)” ที่ทัวร์ (ไม่ค่อยจะ) พาไป!!
• พาเที่ยว 3 เมืองเฟี้ยว! แห่งไต้หวัน (เกาสง, ผิงตง, ไถหนาน) พร้อมเทคนิคจองที่พักให้ได้ดีลดีๆ!!
• ตะลุย เกาสง (Kaohsiung) กิน-เที่ยว-นอน แบบที่ทัวร์ไม่(ค่อย) พาไป
• 10 พิกัดใหม่ไต้หวันที่คุณ (อาจ) ยังไม่ค้นพบ!! Undiscovered Taiwan
• มาดู 10 เหตุผลที่เราหลง(รัก) ไต้หวัน
• กินรัวๆ ให้ทั่วไต้หวัน : รวม 12 ร้านอร่อย “ไทเป” (Taipei) ที่ทัวร์ (ไม่ค่อยจะ) พาไป!!
• 8 พิกัด (ใหม่) นอนดี กินอร่อยใน ไทเป !
• ตะลุยตลาดปลา Taipei Fish Market
• 9+2 พิกัดเที่ยวไถจง (Taichung, Travel Guide) เมืองแห่งผู้คน ต้นไม้ อาร์ต และคุณภาพชีวิต!!
• รวมพิกัดสุดอร่อย เมืองไถจง, ไต้หวัน (Taichung Ultimate Food Guide, Taiwan) ที่ทัวร์ไม่พาคุณไป
• เที่ยวไต้หวันสไตล์โบราณ กับ 3 เมืองเก่าที่น่าไปลอง (จิ่วเฟิ่น ฉือเฟิ่น ลู่กัง)
• รีวิวจัดเต็ม China Airlines กรุงเทพ – เกาสง (ไต้หวัน) บุกเยี่ยมห้องนักบิน สำรวจ VIP Lounge

มาเตรียมพร้อมก่อนหนีงานไปเที่ยวไต้หวัน

การเดินทางจากสนามบินเถาหยวน (TPE) เข้าไทเป (Taipei)

การเดินทางไป-กลับจากสนามบินนานาชาติเถาหยวน (Taoyuan International Airport : TPE) เข้าเมืองไทเป (Taipei) มีด้วยกันหลายวิธีทั้งรถบัสสาธารณะ, MRT และรถแท็กซี่ วิธีเราสองคนชอบที่สุด คือใช้ คือใช้ บริการรถรับส่งส่วนตัวที่สนามบินพร้อมคนขับ ทั้งขาไปและขากลับ หลังจากรับกระเป๋าออกมาแล้วจะมีคนขับรถถือป้ายชื่อรอรับที่สนามบินแล้วพาไปส่งโรงแรมที่พักต่อเดียวถึงเลย ไม่ต้องขนกระเป๋าขึ้นลงบันได หรือรถไฟฟ้าให้วุ่นวาย กรณีที่มากัน 2-3 คน, มีเด็ก-ผู้สูงอายุมาด้วย, มาไฟล์ทดึกก็ไม่ต้องกังวล คุ้มกว่า ประหยัดแรงขาไว้เดินเที่ยวอีกหลายวันดีกว่าจ้า 5555

ส่วนขากลับพวกเราสองคนก็ใช้ บริการรถรับส่งส่วนตัวพร้อมคนขับมารับที่โรงแรมไปส่งที่สนามบิน ต่อเดียวถึงสนามบินเลย แม้จะมีกระเป๋างอกหลายใบก็ไม่ต้องกังวล เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เดินทางสะดวกสบาย ปลอดภัย ไม่ต้องแบกของเยอะ กะเวลาถึงสนามบินได้ดีไม่ต้องกลัวตกเครื่อง หรือโดนโก่งราคาด้วยจ้า

จะเที่ยวไต้หวัน มี 4G ซิมการ์ด แล้วหรือยัง?

ยุคนี้ถ้าเที่ยวต่างประเทศแบบไม่มีอินเตอร์เน็ต หลายคนคงขาดใจ ดังนั้นเราแนะนำให้ซื้อ Internet SIM มาจากเมืองไทย หรือไม่ก็เปิดใช้บริการ Data Roaming มาให้เรียบร้อย แต่ถ้าจะให้สะดวกกว่านั้น เราแนะนำให้มาซื้อ 4G ซิมการ์ดแบบ Unlimited ที่ไต้หวันเลยครับ

ข้อดีคือคุณจะได้ SIM Card ของไต้หวันแบบ Unlimited Data ความเร็วระดับ 4G พร้อมมีเบอร์ไต้หวันเอาไว้ติดต่อที่พักหรือสถานที่ต่างๆ ในท้องถิ่นเผื่อกรณีฉุกเฉินได้อีกด้วย

4G ซิมการ์ด สำหรับใช้ในไต้หวัน (รับที่สนามบินเถาหยวน) โดย Far EasTone Telecom
อายุการใช้งาน : 3-15 วัน พร้อมเงินในซิมการ์ด 50 ดอลลาร์ไต้หวันสำหรับการโทรในและต่างประเทศ
ขั้นตอนการรับ : ยื่นใบจองที่ counter แล้วเจ้าหน้าที่จะจัดการเปลี่ยนซิมการ์ดให้ สัญญาณดี เร็ว ทะลุทะลวง ง่ายและสะดวกมากๆ!!

บัตร EasyCard ใบเดียวจบ ช่วยให้เที่ยวไต้หวันสะดวกขึ้น

มาถึงสนามบินนานาชาติไต้หวันเถาหยวนปุ๊ป!! แนะนำให้ซื้อ บัตร EasyCard (รับที่สนามบินเถาหยวน : TPE) ติดกระเป๋าไว้เลย บัตรใบนี้ใช้สะดวกมากๆ ที่ไต้หวัน ไม่ต้องกังวลเรื่องการพกเงินสด หรือมีเหรียญเยอะๆ ให้หนักกระเป๋าด้วย บัตร EasyCard สามารถใช้นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินที่ไทเป (Taipei) และเกาสง (Khaosiung), รถไฟ, รถเมล์, รถจักรยาน Youbike, รถแท็กซี่, ซื้อของร้านสะดวกซื้อ, กาแฟที่ร้านสตาร์บัคส์, ขึ้นกระเช้าเมาคงและอื่น ๆ อีกมากมาย

การเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR)

05:30 น. คือเวลาที่พวกเราต้องรีบตื่นขึ้นมาอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ยัยหมวยปูเป้แฟนผมได้เก็บกระเป๋าให้พร้อมเดินทางไว้ตั้งแต่เมื่อคืนตามประสาผู้หญิงเตรียมตัว ดังนั้นเช้านี้เราจึงใช้เวลาเพียงไม่นานก็พร้อมออกเดินทางจากไทเป (Taipei) ไปไถจง (Taichung)

อ้อ.. !! เนื่องจากเราวางแผนจะไปนอนที่ทะเลสาบสุริยันจันทรากันแค่ 1 คืน เสร็จจากนั้นเราจะไปจิ่วเฟิ่นกันต่อ ดังนั้นเราจึงจัดแบ่งกระเป๋าเดินทาง โดยจะฝากใบใหญ่ไว้ที่โรงแรม แล้วก็จะสะพายกระเป๋าใบเล็กไปเที่ยวทะเลสาบสุริยันจันทราแทน การวางแผนเส้นทางล่วงหน้าจะช่วยให้เราบริหารจัดการสัมภาระได้ครับ จะได้ไม่ต้องลำบากแบกกระเป๋าไปนู่นมานี่จนหมดแรงซะก่อน

06:20 น. เราทั้งคู่พร้อมกระเป๋ากล้องและกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็ก ก็มาเช็คอินที่ Taipei Main Station เพื่อเตรียมขึ้น รถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) จาก THSR Taipei Station ไปลงที่ THSR Taichung Station ใช้เวลาประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง การเดินทางเที่ยวไต้หวันในแต่ละเมืองจะสะดวกสบายขึ้นด้วย รถไฟความเร็วสูง ((Taiwan High Speed Rail : THSR) รถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) วิ่งอยู่ที่ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง ค่อนข้างสะดวกมาก และช่วยย่นเวลาการเดินทาง

แต่ด้วยความที่เรามาถึงเช้าเกินไป ร้านรวงต่างๆ จึงยังไม่เปิด แต่ไม่เป็นไรเพราะอาหารกล่องที่ 7-11 ของที่นี่เริ่ดมากครัส การมาเที่ยวไต้หวันนี่ไม่ต้องกลัวอด จะแวะไปกินร้านไหนก็อร่อยทั้งนั้น (นี่พูดจริงๆ นะ)

สิ่งที่น่าสนใจระหว่างที่กำลังรอเวลารถออกนั้น คือการที่ทางสถานีจะไม่เปิดให้ผู้โดยสารลงไปที่ชานชาลาจนกว่าจะใกล้เวลาที่รถไฟจะเทียบท่า ทั้งนี้เพื่อช่วยลดการใช้ไฟฟ้าบันไดเลื่อน และช่วยลดความหนาแน่นของผู้โดยสารบริเวณชานชาลานั่นเองครับ ผมกับยัยหมวยขอกดไลค์ให้เล้ย!!!

06:30 น. รถ THSR ก็มาเทียบชานชาลา ก็ได้เวลาขึ้นไปนั่งเอนหลังสบายๆ แล้วครับ ถ้าจำกันได้ เมื่อวานนี้เราได้ทำการจองที่นั่งรถไฟไว้แล้ว ดังนั้นตู้รถไฟคันที่เรานั่งจึงเป็นตู้จองครับ ไม่ต้องแย่งที่นั่งกันให้เสียเวลา เพราะเราจะต้องใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง กว่าจะไปถึงสถานี Taichung คนไต้หวันให้ความสำคัญเรื่องเวลาคล้ายกับคนญี่ปุ่นนะครับ ดังนั้นตารางเวลารถไฟจะเป๊ะมากครับ

เอาล่ะ จากนี้ก็ได้เวลาหม่ำแล้ว ทานเสร็จจะได้ไปงีบเอาแรง 5555

ผ่านไป 1 ชั่วโมง พวกเราก็มาถึงสถานี Taichung กันแล้ว (สุดท้ายก็ไม่ได้หลับอยู่ดี เพราะตื่นเต้นกับวิวสองข้างทาง) ก้าวแรกที่ออกมาถึงสถานี Taichung นั้น ขอบอกเลยว่าสถานีสวยงามอลังการมาก สถาปนิกออกแบบได้ Strong ไม่ใช่เล่นๆ เลยทีเดียว!!!

จากสถานีนี้เราต้องขึ้นรถบัสอีก 1 ต่อ เพื่อไปยังทะเลสาบสุริยันจันทรา ให้เราเดินลงบันไดเลื่อน (หรือจะลงลิฟท์ก็ได้) ลงมาที่ชั้น 1 เดินไป exit no.5 เราจะเจอเคาท์เตอร์ขายตั๋วรถบัสอยู่ตรงข้ามกับ 7-11 ตามภาพเลยครับ เราสามารถเลือกซื้อ Sun Moon Lake Pass แบบเหมาได้นะครับ อาทิ ตั๋วรถบัสไป–กลับ ตั๋วเรือเฟอร์รี่ ตั๋ว Ropeway ตั๋วนั่งรถบัสเที่ยวรอบทะเลสาบ ฯลฯ

รายละเอียดเพิ่มเติมของ Sun Moon Lake PASS

• http://www.ntbus.com.tw/en-p-1.html
• http://www.ntbus.com.tw/en-package.html

การเลือกซื้อ Sun Moon Lake Pass นั้นต้องดูสภาพอากาศดีๆ ก่อนนะครับ ว่าฝนตกไหม Ropeway ปิดหรือเปล่า เพราะถ้าซื้อตั๋วเหมาไปแล้วเจอสภาพอากาศไม่เป็นใจ อาจไม่คุ้มได้ ดังนั้นแนะนำให้หาข้อมูลสักนิดครับ แต่ถ้าขี้เกียจไปลุ้น ผมแนะนำให้ไปซื้อเอาที่ทะเลสาบครับ เสียแพงกว่านิดหน่อย แต่เราเลือกได้ว่าจะใช้บริการอะไรบ้าง

บัตรเข้าชมทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake) แบบคอมโบในหนานโถว ในโปรแกรมนี้เราจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามของทะเลสาบสุริยันจันทราที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากมุมสูงโดยการขึ้นกระเช้าลอยฟ้า ด้านบนเราจะเห็นว่าทะเลสาบล้อมรอบด้วยภูเขาและแม่น้ำ, สามารถโดยสารเรือไม่จำกัดจำนวนครั้ง และการปั่นจักรยานรอบทะเลสาบสุริยันจันทราที่ CNN ยกย่องให้เป็นเส้นทางจักรยานที่สวยที่สุด 10 อันดับแรกของโลก การซื้อบัตรออนไงน์ล่วงหน้าจะช่วยให้ไม่เสียเวลาไปซื้อที่นั้น เพราะคิวค่อนข้างยาวมากสำหรับช่วงเทศกาล และวันเสาร์-อาทิตย์

หลังจากขึ้นรถบัสเรียบร้อย ตอนนี้ก็ได้เวลาเล่นเกมซ่อนตาดำครับ 5555 (ใช่แล้ว มันต้องนอนเอาแรงจริงๆ สักที) รถบัสใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็มาถึง Sun Moon Lake แล้วครับ แค่ได้เห็นสีน้ำเงินสดใสของทะเลสาบเราสองคนก็ตาลุกวาวทันที รถบัสพาเรามาลงที่ป้ายรถหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของ Sun Moon Lake ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นศูนย์กลางของที่นี่ไปกลายๆ ครับ มีร้านกาแฟ ร้านขนม ร้านของที่ระลึก ที่จำหน่ายตั๋วต่างๆ รวมถึงร้านเช่าจักรยาน – มอเตอร์ไซต์ อยู่ละแวกนี้หมดเลย

แนะนำกิจกรรมในทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake)

บัตรโดยสารเรือแบบ Hop-On Hop-Off ที่ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake) แบบเต็มวัน
กรณีต้องการข้ามเรือไปสถานที่เที่ยวต่างๆ ก็สามารถนั่งเรือโดยสารแบบไม่จำกัดจำนวนครั้งได้ที่ท่าเรือ Shuishe, ท่าเรือ Itashao และท่าเรือ Xuan Guang

บัตรเข้าชมหมู่บ้านวัฒนธรรมอะบอริจินฟอร์โมซาน (Formosan Aboriginal Culture Village) ในหนานโถว
ในโปรแกรมนี้เราจะได้สำรวจหมู่บ้านวัฒนธรรมอะบอริจินฟอร์โมซา และได้ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าชมวิวทะเลสาบสุริยันจันทรา เพื่อไปเรียนรู้เกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมของไต้หวัน, European Garden สวนสวยแบบตะวันตกที่กว้างขวางที่สุดในไต้หวันพร้อมหอนาฬิกาโกธิคเป็นมุมที่สวยเหมาะแก่การถ่ายรูป, พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดที่จัดแสดงบ้านแบบดั้งเดิมของชนเผ่าอะบอริจินหลัก 9 เผ่า, สวนสนุกเครื่องเล่นกลางแจ้ง เช่น Spanish Armada, Sun Moon Lake Ropeway, Wild Raft Ride, Gold Mine Adventure และ Maya Adventure และยังสามารถชมการแสดงต่างๆ ของชนพื้นเมืองด้วย

การเช่าจักรยานสำหรับปั่นที่ทะเลสาบสุริยันจันทรา
เป็นวิธีการเดินทางที่ดีที่สุดในการสำรวจเส้นทางปั่นที่ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 10 จักรยานรอบ ๆ น้ำทะเลสีฟ้าครามและภูเขาที่สวยงามของทะเลสาบสุริยันจันทราได้อย่างรวดเร็วและเพลิดเพลินสุดๆ

กิจกรรมเล่นพาราไกลดิ้งที่ทะเลสาบสุริยันจันทราในหนานโถว
ในโปรแกรมนี้เราจะได้เพลิดเพลิน ตื่นเต้นกับการบินบนท้องฟ้าเหนือทิวทัศน์ธรรมชาติประมาณ 15 นาที จะเห็นมุมสูงสวยๆ ของทะเลสาบ น้ำ และภูเขา โดยมีครูฝึกมืออาชีพคอยดูแลตลอดเที่ยวบินซึ่งจะมีการบันทึกวิดีโอ/ภาพถ่ายให้เป็นความทรงจำที่น่าประทับใจ

เมื่อลงรถแล้วเราก็มุ่งหน้าที่ยังที่พักของเราครับ เป็นโรงแรมเก๋ๆ อยู่ที่ท่าเรือ Shuishe ชื่อโรงแรม Laurel Villa B&B ที่พักสบายๆ บริการดีครับ เจ้าของโรงแรมพูดภาษาอังกฤษได้ดีเชียวล่ะ

หลังจากแจ้งเช็คอินและฝากกระเป๋าแล้ว เจ้าของโรงแรมก็เรียกเรามานั่งอบรมข้อมูลการท่องเที่ยวทะเลสาบ (รู้สึกเหมือนได้กลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง) ซึ่งก็อย่างที่รู้ครับ คนในท้องถิ่นนี่ข้อมูลแน่นมาก พอได้ฟังข้อมูลจนอิ่มก็ได้เวลาเที่ยวสิครับจะรออะไร เป้าหมายแรกของเราคือ… การไปลองชิม Starbucks ของไต้หวันสักหน่อย ว่ามันจะต่างจากที่เมืองไทยยังไงบ้างงงงง 55555 สุดท้ายพบว่า… รสชาติก็เหมือนๆ กันแหล่ะ แต่ราคาน่ะถูกกว่าครับผม เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10-15% นะ

วิวทะเลสาบจากระเบียงร้าน Starbucks นี่สวยมากเลยครับ มองเห็นท่าเรือที่พลุกพล่านไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวจีน (ขอบอกว่าเยอะมาก คนไต้หวันเองยังแนะนำเส้นทางให้เที่ยวแบบเลี่ยงทัวร์จีนเลย คิดดู 55555) หลังอิ่มกาแฟแล้วเราทั้งคู่เลือกนั่งรถบัสท่องเที่ยวทะเลสาบครับ โดยเป้าหมายแรกอยู่ที่ Ci En Pagoda ซึ่งเจ้าของโรงแรมแนะนำให้ไปเที่ยวที่นี่ก่อนเที่ยงครับ ไม่เช่นนั้นแสงจะไม่สวย

จุดขึ้นรถบัสเที่ยวทะเลสาบก็อยู่ที่ Visiting Center นั่นล่ะครับ แต่ด้วยความชักช้าของเรา ที่มาไม่ทันรถรอบสุดท้ายที่จะไป Ci En Pagoda รถเราจึงไปสุดสายอยู่ที่ป้าย Ita Thao ซึ่งถ้าจะรอรถคันถัดไป ก็คงต้องรออีก 2 ชั่วโมง สุดท้ายเราเลยตัดสินใจหาร้านเช่ามอเตอร์ไซต์เลยครับ ร้านจักรยานแถวนั้นก็ใจดี๊ดี พอเราถามปุ๊บ เค้าก็บอกไม่มีปั๊บ (เพราะเค้าให้เช่าแต่จักรยาน) แต่เดี๋ยวก่อน!!! เค้ารีบคว้าจักรยานของเค้า ขี่พาเราไปที่ร้านเช่ามอเตอร์ไซต์ทันที!! พอพาไปถึงร้านปุ๊บคุณพี่ใจดีก็รีบกลับปั๊บ ไม่รอให้เราขอบคุณสักคำ ยังไงถ้าพี่ได้มาอ่าน ผมขอขอบคุณพี่มากๆ เลยนะครับ

สุดท้ายผมก็ได้ขี่มอเตอร์ไซต์สมใจอยาก ส่วนยัยหมวยก็ต้องจำใจเป็นพริตตี้ซ้อนท้ายรถผมไปโดยปริยาย 55555 บรรยากาศของการแว๊นซ์ไปตามเส้นทางรอบทะเลสาบด้วยรถสกูตเตอร์พลังเต่าเนี่ยฟินมากครับ สายลม แสงแดด สองเรา ผมชอบจริงๆ

ก่อนจะขึ้นไปที่ Ci En Pagoda เราแวะถ่ายภาพที่ระเบียงชมวิวบริเวณศาลาหน้าวัด Xuanzang Temple ครับ ทางวัดได้ทำระเบียงชมวิวเอาไว้อย่างดีเลย พอถ่ายรูปเสร็จเราก็แว๊นซ์ต่อไปยัง Ci En Pagoda แต่ที่เจดีย์แห่งนี้รถขึ้นไม่ถึงนะครับ เราต้องจดรถเอาไว้ตรงลานจอดบริเวณวัด แล้วก็เดินผ่านเส้นทางพิสูจน์ศรัทธา Tsen Pagoda Hiking Trail ทางเดินขึ้นเขาความยาว 700 เมตรเพื่อไปสู่​​เจดีย์ ณ จุดนี้บอกเลยครับว่า… เหนื่อยโฮกๆ

แต่ปลายทางของความศรัทธา ย่อมมีรางวัลรออยู่ วิวที่ Ci En Pagoda นั้นสวยอย่างที่ร่ำลือครับ โดยเจดีย์แห่งนี้เป็นเจดีย์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยอดีตประธานาธิบดีเจียงไคเชกเพื่อเป็นที่รำลึกมารดาของท่าน เจดีย์ตั้งตระหง่านอยู่บนภูเขา Shabalan ที่มีความสูง 954 เมตร ขนาดตัวเจดีย์มีความสูง 46 เมตร ด้านบนของเจดีย์จะสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,000 เมตร   จากชั้นบนของเจดีย์นี้จะสามารถเห็นความงามจากมุมสูงของทะเลสาบสุริยันจันทราโดยรอบแบบภาพพาโนราม่าเลยทีเดียวครับ ขยันๆ เดินนิดครับ แล้วจะพบว่าทั้งคุ้มทั้งเหนื่อย 5555

ถ่ายภาพจนหนำใจแล้ว เราก็แว๊นซ์กลับมาทางเดิม จุดหมายปลายทางอยู่ที่วัดกวนอู หรือวัด Wen Wu ซึ่งเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่นับถือของชาวไต้หวันแห่งหนึ่งเลยครับ ที่สำคัญคือ วิวทะเลสาบสุริยันจันทรา ที่มองลอดผ่านซุ้มประตูวัดนั้น สวยมากด้วย

แต่น่าเสียดายที่ฝนฟ้าไม่เป็นใจ เพราะเราดันเจอฝนกระหน่ำลงมาจนต้องล้มเลิกแผนการไปในที่สุด เที่ยวไต้หวันช่วงเดือน ก.ค. – ส.ค. นี่ต้องทำใจนะครับ เพราะเป็นช่วงมรสุมโหมกระหน่ำเลยแหล่ะ เราสองคนจำใจนั่งรถบัสกลับมายัง Visiting Center ระหว่างทางกลับก็ได้แต่มองภาพวัดกวนอูผ่านหน้าต่างรถด้วยใจอาวร ฮือๆ

ช่วงเย็นหลังฝนซา ฟ้าก็เริ่มใส ผมกับยัยหมวยก็เลยตัดสินใจเดินไปหามุมถ่ายภาพแสงยามเย็นบริเวณทะเลสาบกันสักนิด จนเดินไปเจอท่าเรือยอร์ชแห่งนึงครับ วิวสวยเลยล่ะ ​ณ ตอนนั้นฝนก็ทำท่าจะตกอีกรอบแล้ว ดังนั้นผมเลยรีบหามุม รีบถ่ายภาพ แล้วก็เดินฝ่าฝนกลับที่พักกันเช่นเดิม

เห็นฝนตกชุกแบบนี้ แต่เชื่อไหมครับว่าเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทะเลสาบแห่งนี้เคยแห้งขอดจนเห็นพื้นดินแตกระแหงมาแล้ว

ทุกชีวิตในเมืองนี้ต่างต้องอาศัยทะเลสาบแห่งนี้เพื่อหล่อเลี้ยงธุรกิจครับ ทั้งรีสอร์ท ร้านอาหาร ร้านเช่ามอเตอร์ไซต์ ฯลฯแต่เหมือนฟ้าฝนเห็นใจ พระพิรุณประทานฝนลงมาจนเต็มทะเลสาบไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมนี้เอง การที่เราทั้งคู่มาที่นี่แล้วได้เจอน้ำเต็มทะเลสาบแบบนี้ ถือเป็นความโชคดีของเราทั้งคู่จริงๆ ครับ

หลังกลับมาจากถ่ายภาพ ฝนก็เริ่มซาลง เราเลยไปหาที่นั่งชิลล์แถวๆ ท่าเรือ Shuishe Pier ซึ่งจะมีลานกิจกรรมอยู่ บรรยากาศดีแบบนี้ ก็เลยจัดเบียร์ไต้หวันมาลองสักหน่อย ระหว่างนั้นยัยหมวยปูเป้ก็ชวนสาวเชียร์เบียร์คุยอย่างสนุกสนาน… ผ่านแอ๊พฯ “google translate” คุยไปหัวเราะไป คิกคัก น่ารักดีแฮะ บางครั้งคนแปลกหน้าที่เราได้พบเจอะระหว่างการเดินทาง ก็สร้างความสุขและความทรงจำดีๆ ให้เราได้นะครับ

คืนนั้นเรารีบเข้านอนเพื่อเตรียมตัวตื่นเช้าไปตามนัดหมาย ที่เจ้าของรีสอร์ทบอกว่าจะพาไปพบกับ Unseen โอ๊ว… แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว มันคืออะไร เดี๋ยวตอนตี 4 เจอกัน (พี่แกว่างั้นนะ)

ตี 4 ตรง พวกเราก็มารวมตัวอยู่ที่ lobby โรงแรม พร้อมเพื่อนร่วมก๊วน Morning Walk อีก 6-7 คน (ตอนหลังก็พบว่ามีคนไทยอีก 3 คนในก๊วนนี้) หลังจากรวมตัวกันพร้อมเพรียงแล้ว เจ้าของรีสอร์ทก็พาเรานั่งรถขึ้นไปยังจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ไร่ชาอีกฝากของทะเลสาบสุริยันจันทราทันที !!

ณ จุดนี้ถือเป็นเกียรติจริงๆ ที่ทางเจ้าของโรงแรมได้พาพวกเราไปชมพระอาทิตย์ขึ้น ณ ที่แห่งนี้ เนื่องจากไม่ได้เป็นพื้นที่สาธารณะ การจะได้มาที่นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีจริงๆ ครับ ภาพอาจจะไม่คมมากนะครับ เนื่องจากโดนห้ามใช้ขาตั้งกล้องในการถ่ายภาพครับ

เสร็จจากการชมไร่ชาแล้ว ทางเจ้าของรีสอร์ทก็พาพวกเรานั่งรถชมบรรยากาศรอบๆ ทะเลสาบยามเช้า พร้อมกับพาเดินเที่ยวไปบนเส้นทางชมวิวทะเลสาบ ที่ผมอยากบอกทุกคนว่า “มันควรค่าแก่การมาเยือนเป็นที่สุดครับ”

กิจกรรมพายแพดเดิลบอร์ดที่ทะเลสาบสุริยันจันทรา ช่วงเช้าอากาศดีๆ สำหรับสายกิจกรรมชอบความตื่นเต้น สนุกสนาน ขอแนะนำการเล่น SUP เราจะได้ชมความงามรอบทะเลสาบ ซึ่งจะมีผู้สอนมืออาชีพ พร้อมอุปกรณ์และรวมประกันแล้ว

จากทะเลสาบสุริยันจันทรา หลายคนก็มุ่งหน้าไปเมืองไถจง (Taichung) แล้วไปเที่ยวฟาร์มแกะชิงจิ้ง (Cingjing) สวิสเซอร์แลนด์ของไต้หวัน หรือไปดูพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมหมอกสวยๆ ที่เหอหวนซาน (Hehuanshan) สำหรับคนที่ไม่อยากเดินทางเอง ขอแนะนำ ทัวร์ชมดาวและพระอาทิตย์ขึ้น พร้อมบริการรถรับส่งร่วมระหว่างไถจงและชิงจิ้ง ซึ่งในโปรแกรมนี้จะพาไปสำรวจท้องฟ้าที่ Hehuanshan Dark Sky Park ถ่ายภาพกับดวงดาว และทางช้างเผือกบนภูเขา Hehuan พร้อมไกด์มืออาชีพ และไปชมทะเลหมอกอลังๆ ช่วงพระอาทิตย์ขึ้น โดยจะออกเดินทางจากสถานีรถไฟความเร็วสูงไทจง

ครั้งหน้าถ้ามาที่นี่อีก ผมบอกเลยว่าผมจะจัดเต็ม หากใครจะมากับผม เดี๋ยวผมจะพาตะลุยแน่น๊อนนนนนนน !!!!

หลังจากเสร็จจาก Morning Trip แล้ว เราก็กลับมาทานอาหารเช้าที่โรงแรม จากนั้นก็เช็คเอาท์เพื่อเตรียมเดินทางกลับเข้าไทเปครับ จุดหมายปลายทางของพวกเราในบ่ายวันนี้ก็คือ “จิ่วเฟิ่น เมืองโบราณแห่งขุนเขาอันเลื่องชื่อนั่นเอง”
อ่านรีวิว : เที่ยวไต้หวันสไตล์โบราณ กับ 3 เมืองเก่าที่น่าไปลอง (จิ่วเฟิ่น ฉือเฟิ่น ลู่กัง)

แนะนำเมืองน่าเที่ยวใกล้หนานโถว (Nantou)

ไหนๆ มาเที่ยวเมืองหนานโถวแล้ว เราสามารถไปเที่ยวเมืองอื่นๆ ต่อได้เลย ขอแนะนำ

1. ลู่กัง (Lukang) เมืองโบราณ 260 ปี เมืองวัฒนธรรมที่มีมนต์ขลัง เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในไต้หวันฟีลเหมือนเกียวโตของญี่ปุ่น
อ่านรีวิว : เที่ยวไต้หวันสไตล์โบราณ กับ 3 เมืองเก่าที่น่าไปลอง (จิ่วเฟิ่น ฉือเฟิ่น ลู่กัง)

กรณีไม่อยากเดินทางเอง ขอแนะนำ ทัวร์เมืองเก่าลู่กั่งครึ่งวัน ในโปรแกรมไกด์จะพาไปชมถนนเก่าแก่, ชมสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมที่มีประตูโค้งและกำแพงอิฐสีแดง, พาไปชิมของท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง, เรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ประเพณี และขนบธรรมเนียมที่พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน Lukang, เยี่ยมชมหมู่บ้านศิลปะเพื่อชมงานฝีมือท้องถิ่น, ชมวัดหลงซานที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ของ Lukang, ชมหมู่บ้านศิลปิน Lukang ต่างๆ

2. “ไถจง (Taichung)” จุดเด่นของเมืองไถจง คือเรื่องของสภาพอากาศและภูมิประเทศที่ไม่ค่อยได้รับอิทธิพลจากมรสุมเหมือนภาคเหนือของเกาะ อากาศดี เงียบสงบ มีพื้นที่สีเขียวเยอะ เหมาะสมกับการทำการเกษตร จนคนญี่ปุ่นสมัยนั้นเรียกเมืองนี้ว่าเป็น “เกียวโตแห่งฟอร์โมซา (Kyoto of Formosa)” เลยทีเดียว ปัจจุบันแม้กระทั่งชาวไต้หวันเอง ก็ยังโหวตให้ “ไถจง (Taichung) เป็นเมืองที่เหมาะที่สุดในการใช้ชีวิต”

อ่านรีวิว :

• 9+2 พิกัดเที่ยวไถจง (Taichung, Travel Guide) เมืองแห่งผู้คน ต้นไม้ อาร์ต และคุณภาพชีวิต!!
• รวมพิกัดสุดอร่อย เมืองไถจง, ไต้หวัน (Taichung Ultimate Food Guide, Taiwan) ที่ทัวร์ไม่พาคุณไป